Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
บทพูดเปิดประเด็นเกร็น, ความสัมพันแบบ ตะขอ (ถามอัลว่า ตะขอมันมีหน้าที่ใว้ทำ…
-
ความสัมพันแบบ ตะขอ (ถามอัลว่า ตะขอมันมีหน้าที่ใว้ทำอะไรละ) ตะขอน่ะมันมีใว้เพื่อยึดติดแค่ชั่วคราวแล้วปลดออกใด้ตลอดเวลา
เกร็นพุดถึงเรื่องความรักของคนทั่วไป เหมือนความสัมพันแบบ ตะขอ ค้างอยู่เพียงชั่วคราว แล้วก็เอา ตะขอที่มีป้ายชื่อของ ผช กับ ผญ ที่พุูดถงอยู่มาเกี่ยวกันและหมุนๆเล่น แล้วก็ทำมันหลุด
-
เมื่อหัวใจอันหนามเหน็บของฉันมอบความอบอุ่นให้ผู้อื่น จะเป็นฉันเองที่ต้องหนาวเหน็บ ไม่อาจจะใด้รับความอบอุ่นกลับคืนมา(เพราะเราเข้าใจคนอื่นเพียงคนเดียว แต่คนอื่นไม่เข้าใจเรา)
เมื่อเรามอบความอบอุ่นให้ผู้อื่น มีเพียงเราที่กลับหนาวเหน็บ ทำไมจึงเป็นเช่นนั้น (อิจฉาเธอจังเลยนะที่มีคนที่สามารถเข้าใจหัวใจของเธอใด้)
มองท้องฟ้ายามเย็นแล้วบอกว่า หากทุกวันไม่ใช่กลางวันและกลางคืน เป็นแบบนี้ตลอดไป ผู้คนจะเปลี่ยนไปเช่นไรน่ะ จะมีความสุขขึ้น หรือเศร้าหมองยิ่งขึ้นกันละ
ฉันคิดว่าความทุกข์ก็เป็นสิ่งจำเป็น หากไม่ก้าวถอยหลัง 2 ก้าว ก็เดินหน้า 5ก้าวไม่ใด้หรอก ความสุขที่ปราศจากหนทางที่ยากลำบาก ไม่อาจจะเรียกว่าความสุขใด้ พวกที่อยากใด้แต่ความสุขน่ะมีชะตากรรมที่จะเจอแต่ความทุกข์
-
-
-
คนเราต้องมีที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ หาก0เสียมันไปก็จะล่วงหล่น จาน่า หากเธอต้องล่วงหล่นละก็ฉันจะจับมือเธอเอาใว้เอง
-
-
-
-
-
-
-
แปลกนะ มนุษย์เราไม่เคยอยากจะมองเห็นสิ่งที่มองไม่เห็น แต่กลับใช้งานสิ่งที่มองไม่เห็นใด้อย่างเชี่ยวชาญ ผู้มัด ยึดติด ให้คุณค่า มีความสุขจากสิ่งที่เป็นนามธรรมจับต้องไม่ใด้และไม่รู้จัก คนบางคนทำเพื่ออีกฝ่ายเพียงเพื่อคำพูดไม่กี่คำ และคิดว่านั้นคือสิ่งที่มีค่ากับตนเองมากที่สุด ไม่เคยแม้แต่จะมองถึงตัวตนและการกระทำของอีกฝ่าย ทั้งๆที่มันสามารถจับต้องใด้มากกว่าคำพูดแท้ๆ
-
ชอบตรงที่ เธอดูอ่อนแอ ถ้าไม่มีฉันอู่ด้วยก็คงไม่ใหวละมั้ง อยากปกป้อง เกร็นบอกว่า ความรู้สึกที่บริสุทธ เกร็นบอกว่า ทำไมนายไม่คิดละว่า นั้นก็เป็นสัญชาติยาน สัตว์มากมายมีมัน มันอาจจะเป็นสีดำก็ใด้ละนะ สัญชาติยานที่ดีและไม่ดีนะ
-
รู้ใหมว่า ทำไมคนเราจึงต้องสารภาพรักกับคนอื่น เพราะไม่อาจจะสร้างการผจญภัยที่มีแค่พวกเราขึ้นใด้ยังไงละ หากมีการผจญภัยที่มีเพียงแค่พวกเรา เป็นของพวกเรา การสารภาพรักกัน ก็มิจำเป็น
-
-
-
ถ้าเธอตัดสินใจไปแล้วก็เปลี่ยนแปลงอะไรไม่ใด้แล้วนะ อ่า ฉันเคยถามตัวเองมาตลอดว่า หากชีวิตคือการผจยภัย การผจยภัยของตัวฉันนั้นมันคืออะไร และควรจะไปยังที่แห่งใด ตอนนี้ฉันรู้แล้วและตัดสินใจแล้วละ ว่าการผจญภัยของฉัน มันจะมีหน้าตาเปนอย่างไน แม้จะยังไม่รู้ว่าปลายทางมีอะไรรออยู่ แต่ต่อจากนี้ไป ชีวิตของเธอกับฉันจะกลายเป็นการผจยภัยเดียวกัน และคงเป็นการผจยภัยที่แสนยาวนาน
-
เหมือนหุ่นยนเลยนะฉันเนี่ย สลัดความอยากรู้อยากเห็นทิ้งไปไม่ใด้เลย นายเป็นหุ้นยนต์ชีวะภาพตัวแรกของโลกเลยนะเกร็น เรเกรดบอก
หุ้นยนก็มีหัวใจงั้นหรอ เอไอ ต่างจากมนุษย์ตรงใหน ความลังเลยังไงละ มนุษย์นั้นลังเลเอาแน่เอานอนไม่ใด้ พริ้วใหวไปตามอารม เพียงนอนตื่นมาก็เปลี่ยนการตัดสินใจ แต่สิ่งที่ออกมาจากหัวใจน่ะ มีเพียงแค่ตัวเราที่รู้ว่า สิ่งนั้นจะเป็นสิ่งที่แน่นอนสำหรับแต่ แต่คนอื่นไม่คิดว่าสิ่งนั้นมันแน่นอน ต่างจาก ai ที่คนอื่นเข้าใจว่า สิ่งที่ ai ทำนั้น จะทำอย่างแน่นอนอยู่แล้ว
-
-
ถามเด็กว่าพีนอกคีโอ้กลายเป้นคนอย่างมีความสุขแล้วนิ เด็กบอก ไม่ใช่มนุดทกคนที่มีความสุข พีนอคคีโอ้ต้องเป็นเชฟ
ผู้เสพทุกข์ ผู้ที่ยินดีกับความเศร้าของผู้อื่น (หากตนเองทุกข์ก็สามารถมองเป็นคนอื่นใด้และมีความสุขที่ตัวเองทุกข์) จนคนอื่นดูเหมือนเกร็นเป็นคนเลว (เกร็นบอกคุณค่าต่างหาก)
-
-
-
หากมี ความสุข เพียงอย่างเดียว รึ ความทุกข์ เพียงอย่างเดียว ก็ไม่อาจมีคุณค่าใด้ เรื่องราวที่ทรงคุณค่า จักรต้องผ่านอุปสรรค์เพื่อหัวเราะใด้อย่างมีความสุข
ถึงสกปรก อาบน้ำแล้วมันก็หาย ถึงสะอาดไปลุยมันก็สกปรก มันไม่มีคนที่สกปรกหรือคนที่สะอาดหรอกอย่างแท้จริงหรอก ความสกปกหรือสะอาดมันก็เพียงแค่ชั่วเวลานึง
-
หากมีแอ๊ปเปิลที่อร่อยที่สุดในโลกอยู่กับตัว(หากทำมันหายไปในกองแอปเปิล)ฉันจะไม่กินมัน เช่นนั้นแล้วแอ๊ปเปิลใดก็ตามจะสามารถเป็นแอบเปิลที่อร่อยที่สุดในโลกใด้
เพราะเข้าใจมากกว่าผู้อื่น จึงโดดเดี่ยวและไร้ผู้อื่นเข้าใจ เกร็นมองเห็นตนเองตอนไม่มีใครเข้าใจในตัวลิฟาจึงขอลงทุนในตัวเธอ (ตอนหลังที่ลิฟาให้เกร็นหนีแล้วใจกลับใส่เกร็น เกร็นบอกว่านี่สินะความรู้สึกตอนคืนทุน)
-
ความดีหรือความชั่ว พิษหรือยารักษา ไม่คิดว่ามันเป็นสิ่งที่มนุษย์สร้างมาอย่างลวกๆให้ตัวเองเข้าใจง่ายๆหรือ
-
-
-
-
-
หากรักใครซักคนก็อยากที่จะบอกรักและแต่งงานกับเค้าไม่ใช่หรอ เกร็นบอก ตรงกันข้ามเลยล่ะ หากรักก็ยิ่งไม่อยากบอกรัก และไม่อยากแต่งงาน แต่อยากผจญภัยไปด้วยกันมากขึ้น เพราะความรักคือการผจญภัยไงละ
-
ฉันสงสัยว่าบางทีการไม่มีเพื่อนของเธอมันส่งผลให้เธอสนใจเรื่องความรักหรือเปล่า เพราะไม่อาจเติมเต็มตนเองด้วยเพื่อนใด้ จึงพยายามเติมเต็มตัวเองด้วยความรัก
-
-
คนที่เข้าใจถึงความรักน่ะจะรู้ว่า ความรักที่แท้จริงน่ะไม่ใด้ยืนอยู่บนความตลอดไป หากแต่ยืนอยู่บนความชั่วคราว และเป็นความชั่วคราวที่ไม่อาจจะลืมใด้ ตลอดไป
รักที่แท้จริงนั้น ผู้มัดยิ่งกว่าสิ่งใดแต่ก็อิสระ เงียบงั้น แต่รู้สึกใด้ ชั่วคราวแต่มีค่ามากกว่าตลอดไป พักพิงโอบอุ่นแม้จะห่างไกล ผ่านไปเพียงใดก็ไม่ปรากฏรอยยิ้มที่แปรเปลี่ยน
-
ลิฟาบอกว่าการเกษตรคือการสู้รบกับธรรมชาติ เกร็นบอกว่าในโลกของเกร็นนั้น เมื่อมนุษย์สามารถเอาสามารถชนะธรรมชาติลงใด้ สิ่งที่พวกเราจะทำต่อก็คือการลุมข่มขืนธรรมชาติ
-
มันก็เหมือนกับตอนที่เราเอาตีนไปลูบหัวหมาด้วยความรัก แต่แท้จริงแล้วเราแค่อยากจะเช็ดฝุ่นที่ติดมากับตีน
เกร็นบอกว่าความต้องการของมนุษย์นั้นมี 3 เลเวล ต่ำสุดคือความต้องการหยาบ กิน ขี้ปี้นอน วัตถุนิยม มีความสุขอยู่กับรูปธรรม จึงมีความสุข เลเวล 2 มีความสุขกับนามธรรม
คนทั่วไปน่ะ เกิดมาใด้รับความสุขแรกเป็นรูปธรรมใช่ใหมล่ะ อ้อมกอดอุ่นๆของพ่อแม่ อาหารอร่อยๆ หรือใด้ทำสิ่งที่พ่อแม่ไม่ยอมให้ทำซักที แต่ฉันน่ะ ความสุขแรกนั้นมาจากนามธรรม เป็นความสุขที่ใด้รู้ว่าสิ่งที่อยู่ยืนมันมีความหมาย มันช่างซับซ้อนและมันกำลังเล่นสนุกกับความคิดของฉัน จินตนาการยังไงละ นั่นคือความสุขของฉัน ฉันสามารถไปที่ใหนก็ใด้ อดีต ปัจจุบัน หรืออนาคต ตราบเท่าที่จินตนาการจะไปถึง ความสุขแรกของฉัน คือเศษส่วนนึงของจินตนาการฉันมันกลายเป็นเรื่องจริง หากมองดูท้องฟ้าและจินตนาการว่าวันนึงมนุษย์สามารถโบยบินใด้แบบนก คงไม่มีใครเชื่อ แต่เธอยังคงเชื่อ และในที่สุดมันก็เป็นจริง มนุษย์สามารถบินใด้แบบนก มันคงเป็นวันที่คนที่ยังมีความเชื่ออยู่ มีความสุขที่สุด
ยิ่งเรารู้มากเท่าไรเราก็ยิ่งไม่รู้มากเท่านั้น ยิ่งเรารู้ว่าตัวเราไม่รู้มากเท่าไร เรายิ่งมีความสุขขึ้นมากเท่านั้น ลิฟาบอกให้ยกตัวอย่างให้หน่อยเธอไม่เข้าใจ เกร็นเลยบอกว่า ฉันอยากรู้ว่าดวงตาเธอตอนจ้องมองพระจันมันสวยแค่ใหน ฉันอยากรู้ว่ารอยยิ้มของเธอตอนที่มีความสุขที่สุดในชีวิตมันเป็นยังไง
ลิฟา ระหว่าง "คนที่รักเราและคอยช่วยเหลือเรา กับคนที่สามารถเติมเต็มเราใด้และเข้าใจว่าเราหนาวเหน็บเพียงใด เธอจะเลือกใคร
เกร็นพูดถึงกราฟ The Dunning-Kruger Effect เกร็นบอกว่า คนเราแย้มแรกที่เกิดมา พวกเราไม่เคยตระหนักว่าพวกเราไม่รู้มากเพียงใด พวกเราจึงหมกมุ่นและมีความสุขอยู่กับรูปธรรม และเมื่อเรารู้ว่าตัวเราไม่รู้มากเพียงใด พวกเราจึงค่อยๆจมลงสู่ความว่างเปล่า (หุ่บแหวของ DK) และเมื่อพวกเขาค้นหาจนเจอว่าภายในความว่างเปล่านั้นมันไม่ใด้ว่างเปล่า พวกเขาก็จะขึ้นมาจากหุบเหวนั้น และกลายเป็นผู้ตื่นรู้ ชีวิตของฉันเกิดมาที่ภายใต้หุบเหวนั้น ไร้ความรู้สึก ไร้ซึ่งความต้องการใดๆ
ลิฟาบอกว่า ค่ะไม่ใช่ทุกคนที่ต้องการความรักและการช่วยเหลือ แต่ทุกคนต้องการสิ่งที่มาเติมเต็มความหนาวเหน็บของตัวเอง
ตอนที่หนาวเหน็บที่สุดในชีวิตก็คือตอนที่รู้ว่าไม่มีใครเลยที่เข้าใจเราใด้มากกว่าความเข้าใจในแบบที่เราคิด
-
หากเกร็นโดนจับเอาไปล้างสมองแบบ เรื่อง phantom เกร็นจะยังมีบุคลิกฮาๆเหมือนเดิม แล้วจู่พูดอะไรที่วับซ้อนเหมือนรู้จักอีกฝ่าย แล้วก็ถามอีกฝ่ายว่า นี่ ทำไมฉันถึงหัวเราะ เธอรู้ใหม เธอต้องรู้สิเพราะเธอเป็นคนลบความทรงจำฉันไป (แล้วตัวร้ายก็พูดๆอะไรเท่ๆออกมาลึกซึ้งๆ) เกร็นบอกว่า คนเราชอบมอบวิธีคิดดีๆหรือคุณค่าที่มากสุดของตนเองให้คนอื่นไปโดยไม่รู้ตัว รู้ใหมว่าทำไม เพราะนั้นคือสิ่งยึดเหนียวจิตใจของพวกเขา และก็เป็นสิ่งที่พวกเขาไม่อาจใขว้คว้ามาใด้ไงละ และทำไมเธอถึงบอกฉัน เธอไม่ใด้ต้องการสอนฉัน หรือต้องการเติมน้ำของฉันให้เต็มถัง เธอแค่อยากจะจุดไฟ ไฟแห่งความหวังของเธอ ในตัวคนอื่น
การที่คนเราชอบสอนคนอื่นด้วยวิธีคิดหรือมุมมองดีๆของตัวเองเนี่ย มันดูซึ้งใช่ใหมล่ะ แต่รู้ใหมว่าจริงๆแล้วพวกเขาไม่ใด้อยากจะสอนพวกเราจริงๆหรอก พวกเขาไม่ใด้ต้องการเติมน้ำให้เต็มถัง หากแต่พวกเขาต้องการจุดไฟ จุดไฟของอุดมคติที่ตนเองไม่อาจไขว้คว้ามาใด้หรือเคยไปถึงให้เกินขึ้นภายในตัวของเรา ไฟแห่งความหวังที่มีสีสันเดียวกันไม่ว่าจากใครก็คือไฟอันเดียวกัน เธออยากจะจุดไฟของฉันให้ลุกโชนขึ้นมาเป็นสีของเธอหรือยังไง
คนเราอยากเติมเต็มตัวเองด้วยกันทั้งนั้น และความอยากเติมเต็มตัวเองมันเบ่งบานออกมาทางคำพูดและการกระทำตลอดจนลักษณะนิสัย เคยมีคนพูดว่า หากเราเดินไปข้างหน้าใด้ เราก็ทิ้งอะไรใว้ข้างหลังเสมอ
-
-
-
-
หากการตายของนายมันทำให้เรื่องราวนี้มีคุณค่ามากขึ้น ฉันจะเป็นคนฆ่านายเอง (บทที่แกล้งทำร้ายคนอื่นเพื่อให้คนอื่นมองเห็นปรัญชา)
-
เรื่องที่น่าเศ้ราที่สุดก้อคือ จิตใจของมนุษย์นั้นไม่อาจเข้าใจใด้ง่ายๆ แต่หากแต่มีคนที่เข้าใจมัน คนๆนั้นจะไม่อาจอยู่ร่วมกับใครใด้และต้องโดดเดี่ยว อาจจะพูดใด้ว่ามนุษย์สามารถอยู่ร่วมกันอย่างผิวเผินใด้ด้วยความไม่เข้าใจกัน
เฟียถามเกร็นว่าทำไมมนุษย์เราจึงขัดแย้งกัน เกร็นบอกว่าเพราะความจริงของแต่ละคนนั้นรับรู้ใด้ไม่เหมือนกัน เรามีดวงตาที่เหมือนกันแต่มองใด้ไม่เหมือนกัน มีสมองแต่ มีหัวใจแต่ เพราะมองใด้ไม่เหมือนกัน หลายสิ่งจึงมีคุนค่าแตกต่างกัน มีคุนค่าแตกต่างกัน น้ำหนักจึงแตกต่างกัน ความต้องการจึงแตกต่างกัน ความปราถนาจจึงแตกต่างกัน ทั้งหมดทั้งมวลล้วนขึ้นอยู่กับชาติกำเนิดและสภาพแวดล้อมที่เติบโตมา เพราะสิ่งที่มีค่ากับคนเรานั้นคือสิ่งที่เราไม่มี
-
-
-
-
สิ่งที่ฉันเกลียดคือพวกที่ไม่รู้จักความต้องการของตนเอง ส่วนสิ่งที่ชอบ ฉันชอบคนที่รู้ว่าฉันจะพูดอะไรโดยที่ไม่ต้องพูดอะไร
-
เจ้าบ้า สัญญาน่ะไม่ใด้มีใว้ใช้เพื่อตัวเอง แต่มีใว้ใช้เพื่อผู้อื่น เกร็นพูดกับคนที่ ใช้สัญญาเพื่อให้ตัวเองใด้ครอบครองฝ่ายตรงข้ามเพราะฝ่ายตรงข้ามให้น้ำหนักกับสัญญามาก
-
-
-
-
ไม่มีความจริงหรือความไม่จริงใดที่แท้จริง หากแต่ความจริงและความไม่จริงทุกอย่างนั้นล้วนยืนอยู่บนมุมมองนึง เพียงชั่วเวลานึง
-
-
-
อีกคนรำคาญในความสงสัยของเกร็นแล้วบอกว่า พวกที่อยากฉลาดชอบทำตัวเหมือนคนโง่จังเลยนะ ฉันจะบอกให้ไม่ว่าอย่างใหนมันก็เหมือนกัน ฉันจะเป่าหัวมันเอง
อีกคนสวนกลับคนที่ 2 บอกว่า ถ้ากลับไปกอดแม่ใด้ 1 ที เอ็งอยากกอดแม่แบบใหนกันวะ แม่เอ็วที่กลายเป็นมอน หรือมอนที่กลายเป็นแม่เอ็ง หรือว่าจะ เป่าสมองแม่ตัวเองทิ้ง กัน
-
เราจะรู้ใด้อย่างไรว่าคนที่ลูบหัวสุนัขอย่างโอนอ่อนโยน เขาไม่ใด้ทำไปเพียงเพราะว่าอยากจะใช้ขนของมันเช็ดมือที่แปดเปือนของตน
-
-
-
-
-
เธอไม่จำเป็นจะต้องเชื่อในสิ่งที่ฉันพูดทั้งหมด ฉันไม่ใด้ต้องการพูดให้เธอเชื่อ หากแต่ให้เธอคำนึงถึงและใช้มันเป็นเชื้อเพลิงและวัตถุดิบ ของ "ชีวิตที่ดี"
-
จงมองโลกด้วยแววตาที่ปราศจากความเกลียดชังในทุกสิ่ง แล้วเราจะพบว่าหัวใจของเรานั้นซุกซ่อนความงดงามเอาใว้เพียงใด
ความงดงามนั้นคือคุณค่า ความงดงามนั้นคือความหลงใหล รางวัลของความหลงไหลคือความสุขที่เรียบง่ายอันเงียบเชียบ
-
-
-
-
-
เด็กหญิงเอแกล้งเด็กชายบี เด็กชายบี โมโหมากโกรธมากเอาคืนเด็กหญิงเอแรงมาก เกร็นเลยบอกว่า เด็กชายบี เป็นคนอ่อนแอมาก
-
-
ลิฟาถามเกร็นว่า คนเราสามารถเกลียดคนๆนึงและก็ชอบคนๆนึงในเวลาเดียวกันได้ใหมค่ะ เกร็นบอกว่าได้ เกร็นบอกว่า มนุษย์ปกติจะมองตนเองเป็นที่ตั้ง เมื่อมองว่าคนๆนึงดีแล้วก็จะไม่สนข้อเสีย หรือเมื่อมองว่าคนๆนึงเลวแล้วแม้ว่าเค้าจะมีข้อดีเท่าไรเราก็เปล่าประโยชน์ แต่ก็มีคนอีกประเภทนึงที่มองกว้างกว่านั้นจนไม่รู้ว่าตนเองควรรู้สึกยังไง ข้อดีก็มีเยอะข้อเสียก็มีแยะ
-
-
-
เรามีดวงตาเหมือนกันแต่มองไม่เหมือนกัน
เรามีหัวใจเหมือนกันแต่ไม่อาจรู้สึกได้เหมือนกัน
เรามีขาเหมือนกันแต่ไม่ได้เดินทางเส้นเดียวกัน
เรามีมือเหมือนกันแต่ไม่ได้ทำในสิ่งเดียวกัน
-
หากรักใครซักคนก็อยากที่จะบอกรักเขาไม่ใช่หรอ ลิฟาถามเกร็น เกร็นตอบ
ตรงกันข้ามเลยล่ะ หากรักก็ยิงไม่อาจจะบอกรัก อยากเงียบงันมากกว่าเอือนเอ่ยสิ่งใด อยากจะผจญภัยไปด้วยกันให้มากขึ้น เพราะความรักคือการผจญภัยยังไงละ
-
-
-
-
-