Please enable JavaScript.

Coggle requires JavaScript to display documents.

Dx. Term pregnancy with induction of labour with GDMA2, 1.Background,…

- - - - มารดาได้รับการวินิจฉัยเป็น Gestational diabetes mellitus class 2 (GDMA2)
  - - - ประวัติบุคคลในครอบครัวเป็นโรคเบาหวาน
        
        ไม่มีคนในครอบครัวเป็นเบาหวาน
      - ประวัติมีความดันโลหิตสูงก่อนหรือในขณะตั้งครรภ์
        
        มีความดันโลหิตสูง GA24+6wks BP 160/94 , repeat 133/83, UPCR 0.19
      - เคยตรวจพบเบาหวานขณะตั้งครรภ์ในครรภ์ก่อน
      - มีน้ำหนักมากกว่า 90 กิโลกรัม หรือน้ำหนักมากกว่าเกณฑ์มาตรฐาน
      - พบน้ำตาลในปัสสาวะ เมื่อมาฝากครรภ์ 2 ครั้งหรือมากกว่า
      - เคยคลอดบุตรน้ำหนักมากกว่า 4,000 กรัม มีการแท้งบ่อยครั้ง ทารกเสียชีวิตในครรภ์
      - ประวัติมีการติดเชื้ออักเสบในช่องคลอดบ่อยๆ
    - - ตรวจปัสสาวะ (Urine testing) หาน้ำตาลกลูโคสในปัสสาวะ ควรตรวจ 2 ครั้งขึ้นไป
      - ตรวจหาระดับน้ำตาลกลูโคสในเลือด
        
        ค่าปกติ GCT = 0-140 mg%
        
        (วันที่ 3/12/64) GCT 155 mg%
      - ตรวจหาฮีโมโกลบิน เอ วัน ซี (HbA1c)
      - ทดสอบความทนต่อกลูโคส (Glucose tolerance test : GTT)
        
        ค่าปกติ OGTT = 90-180-155-140
        
        OGTTครั้งที่1 (17/12/64) 90-193-155-104
        OGTT ครั้งที่2 (14/1/65) 95-208-187-129
      - ทดสอบหาปริมาณน้ำตาลในเลือดหลังอาหาร 2 ชั่วโมง (Two-hours post prandial blood sugar)
  - - - การควบคุมอาหาร ให้ได้รับแคลอรี่วันละ 30-35 กิโลแคลอรี่ต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัมจากคาร์โบไฮเดรตร้อยละ 50 โปรตีนร้อยละ 20 และไขมันร้อยละ 30
        
        การควบคุมน้ำหนักตัวโดยการออกกำลังกาย ควรออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
        ครั้งละ 20-30 นาที สัปดาห์ละ 3 วัน
        
        การใช้ยาเพื่อควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด จะใช้เมื่อการควบคุมด้วยอาหาร และการออกกำลังกายไม่ได้ผล
    - - ตรวจคลื่นเสียงความถี่สูง ตั้งแต่ไตรมาสที่สอง
        
        ตรวจจำนวนเอสตรีออล (Estriol) ในปัสสาวะ 24 ชั่วโมง
        
        ประเมินสภาพทารกในครรภ์โดยการทำ Non stress testมักเริ่มทำเมื่ออายุ ครรภ์ 32 สัปดาห์ โดยตรวจสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง
        
        การนัดตรวจครรภ์ ตั้งแต่ตั้งครรภ์ถึง 28 สัปดาห์นัดตรวจทุก 4 สัปดาห์ อายุครรภ์ 29-31 สัปดาห์นัดตรวจทุก 2 สัปดาห์ อายุครรภ์ 32 สัปดาห์ขึ้นไปนัดตรวจทุกสัปดาห์
  - - - ภาวะความดันโลหิตสูง
        
        เนื่องจากความผิดปกติของหลอดเลือดจากภาวะเบาหวาน
        
        มารดามีภาวะ Gestational hypertension (GHT) ขณะตั้งครรภ์ 24+6 wk
        
        ความดันโลหิตมากกว่าหรือเท่ากับ 140/90 mmHg เมื่ออายุครรภ์เกิน 20 สัปดาห์ขึ้นไป
        
        มารดาได้รับยา Methyldopa 2x2 PO PC
        
        ครั้งที่ 1 UPCR=0.19
        
        ครั้งที่ 2 UPCR=0.22
      - ครรภ์แฝดน้ำ
      - การติดเชื้อ
      - ภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ
      - ภาวะน้ำตาลในเลือดสูง
      - การแท้ง
      - คลอดก่อนกำหนด
      - การคลอดยากและอันตรายต่อช่องทางคลอด
      - การตกเลือดหลังคลอด
      - ผลกระทบด้านจิตใจ มีความวิตกกังวล
      - อัตราการเสียชีวิตของมารดาเพิ่มขึ้นเล็กน้อย
    - - การแท้งบุตร
      - ความพิการแต่กำเนิด
      - ทารกตัวโต
      - ทารกตัวเล็กกว่าอายุครรภ์
      - ทารกเสียชีวิตในครรภ์
    - - อัตราการเสียชีวิตแรกเกิด
      - Respiratory distress Syndrome (RDS)
      - น้ำตาลในเลือดต่ำ
      - แคลเซียมและแมกนีเซียมในเลือดต่ำ
      - บิลิรูบินสูงในเลือด
        
        ทารกมีภาวะตัวเหลือง ค่าบิลิรูบิน = 13 mg% ได้รับการส่องไฟ
      - เลือดข้น (Polycythemia)
      - Cardiomyopathy
      - ความพิการแต่กำเนิด
      - ความผิดปกติของระบบประสาท
- - - - Day 1
        -มีไข้ 37.8 องศาเซลเซียส
        -pain score 5 คะแนน
- - - - Belly & fundus
        
        Bladder
        
        Bleeding & lochia
        
        Bottom
        
        Bowel movement
        
        Blues
        
        5 more items...
        
        Day 0 ยังไม่มีอุจจาระ
        
        Day 2 อุจจาระ 1 ครั้ง
        
        Day 1 อุจจาระ 1 ครั้ง
        
        Day 3 อุจจาระ 1 ครั้ง
        
        Day 0 มีแผลผ่าตัด bikini line ปิด top gauze มีเลือดซึมด้านข้างเล็กน้อย
        
        Day 1 , Day 2 และ Day 3 มีแผลผ่าตัด bikini line ปิด top gauze ไม่มีเลือดซึม
        
        Day 1 น้ำคาวปลาสีแดง lochia rubra 50 ml on pad
        
        Day 0 น้ำคาวปลาสีแดง lochia rubra 10 ml on pad
        
        Day 2 น้ำคาวปลาสีแดง lochia rubra 50 ml on pad
        
        น้ำคาวปลาสีแดง ในวันที่ 1-3 วันหลังคลอดและเริ่มจางลง ซึ่งตรงตามทฤษฏี
        
        Day 3 น้ำคาวปลาสีแดงจางลง lochia rubra 10 ml on pad
        
        Day 1 off retain foley’s catheter เวลา 10.00 น. ปัสสาวะเวลา 13.00 น.
        
        มารดาสามารถปัสสาวะภายใน 4-6 ชั่วโมงหลัง off retain foley’s catheter ซึ่งตรงตามทฤษฏี
        
        Day 0 retain foley’s catheter ต่อ urine bag 1100ml ปัสสาวะสีเหลืองเข้ม ไม่มีตะกอน
        
        Day 2 ลุกปัสสาวะได้เอง ปัสสาวะสีเหลืองเข้ม ไม่มีตะกอน
        
        Day 3 ลุกปัสสาวะได้เอง ปัสสาวะสีเหลืองเข้ม ไม่มีตะกอน
        
        Day 0 , Day 1 , Day2 และ Day 3 มดลูกหดรัดตัวดี วัดระดับยอดมดลูกไม่ได้เนื่องจากผ่าตัดคลอด
      - Day 1 เต้านมทั้งสองข้างสมมาตร ไม่คัดตึง คลำไม่พบก้อนที่เต้านม ลานนมนิ่ม หัวนมปกติยาว 1 cm น้ำนมไหล 1+ LATCH 9 คะแนน
      - Day 0 เต้านมทั้งสองข้างสมมาตร ไม่คัดตึง คลำไม่พบก้อนที่เต้านม ลานนมนิ่ม หัวนมปกติยาว 1 cm น้ำนมยังไม่ไหล
      - Day 2 เต้านมทั้งสองข้างสมมาตร ไม่คัดตึง คลำไม่พบก้อนที่เต้านม ลานนมนิ่ม หัวนมปกติยาว 1 cm น้ำนมไหล 3+ LATCH 10คะแนน
      - Day 3 เต้านมทั้งสองข้างสมมาตร ไม่คัดตึง คลำไม่พบก้อนที่เต้านม ลานนมนิ่ม หัวนมปกติยาว 1 cm น้ำนมไหล 3+ LATCH 10คะแนน
    - - มารดามีภาวะ Reaction Fever ซึ่งตรงตามทฤษฏี
- - - - อาการสำคัญ : มาตามนัด induction
        
        Low transverse Cesarean section with TR due to GDMA2 เนื่องจาก Failed induction
      - มารดารับประทานยาคุมกำเนิดมาต่อเนื่อง เมื่อเป็นโควิดจึงหยุดทาน หลังจากนั้นพบว่ามีเลือดออกทางช่องคลอดคิดว่าเป็นประจำเดือน เดือนต่อมาสงสัยว่าตนเองท้อง ถ้าสิ้นเดือนประจำเดือนไม่มาจะซื้อที่ตรวจครรภ์ เพราะมารดารู้สึกว่าหน้าท้องขยายใหญ่ขึ้น และเมื่อตรวจพบว่าตั้งครรภ์ จึงมาฝากครรภ์ครั้งแรกที่รพ.ตร. ขณะตั้งครรภ์มารดารับประทานอาหารเพิ่มมากขึ้น ควบคุมอาหาร หลีกเลี่ยงอาหารหวาน ปัสสาวะบ่อยครั้ง และดื่มน้ำมา
- - - - H=Health
        
        O=Out-patient referral
        
        D=Diet
        
        การเลือกรับประทานอาหารอย่างเหมาะสม
        
        อาหารที่ควรรับประทาน
        อาหารควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ไม่หวานเกินไป ไม่มีรสจัดเกินไป
        
        อาหารที่ควรหลีกเลี่ยง
        -อาหารที่มีรสจัดและกลิ่นฉุน เช่น ยำรสจัด หัวหอม เพราะอาจทำให้ระคายเคืองกระเพาะอาหารได้ง่าย
        -อาหารหมักดอง กาแฟ ชา น้ำอัดลม แอลกอฮออล์ เพราะสามารถผ่านทางน้ำนมได้
        -หากแม่ดื่ม เครื่องดื่มที่มีกาเฟอีน ควรเลี่ยงการให้นม/ปั๊มนม ในสองชั่วโมงหลังดื่ม เพราะลูกอาจได้รับกาเฟอีนจากการดื่มน้ำนมแม่
        -ถ้าจะรับประทานยาควรปรึกษาแพทย์ก่อน เพราะยาบางชนิดอาจจะส่งผ่านไปทางน้ำนมแม่ได้ ยาที่สารมารถรับประทานได้ความปลอดภัยสูงไม่ผ่านทางน้ำนม เช่น ลดไข้บรรเทาปวดพาราเซตามอล และยาสามัญประจำบ้าน
        
        1 more item...
        
        มารดาและทารกควรมาพบแพทย์ตามนัด ในวันที่ 29 มีนาคม 2565 ติดตามดูแผลผ่าตัด และวันที่ 10 พฤษภาคม 2565 เพื่อติดตามอาการหลังคลอดและประเมินภาวะผิดปกติ หากมีอาการผิดปกติ จะได้รักษาให้ทันท่วงที
        
        อาการหลังคลอดที่ควรมาพบแพทย์ทันที
        -น้ำคาวปลาไหลนานเกิน 14 วัน น้ำคาวปลามีกลิ่นเหม็นผิดปกติ
        -มีไข้สูงเกิน 38 องศาเกิน 24 ชั่วโมงโดยเฉพาะหลังคลอดวันแรก
        -ปวดบวมบริเวณขาและน่อง อาจเกิดจากมีหลอดเลือดอุดตันบริเวณนั้น
        -อาการบวมแดงของแผลผ่าตัด เป็นหนอง มีน้ำเหลืองไหลซึม
        -ปัสสาวะแล้วแสบหรือรู้สึกขัด ปัสสาวะบ่อยแต่ปริมาณน้อยลง และสีเข้มจัด
        
        เข้าใจภาวะสุขภาพของมารดา และการป้องกันภาวะแทรกซ้อนต่างๆได้ตามคำแนะนำและเข้าใจในการติดตามรักษาอย่างต่อเนื่องเมื่อกลับไปอยู่บ้านได้อย่างถูกต้อง
        
        -มารดาควรนอนหลับพักผ่อน ในเวลากลางคืนประมาณ 6 - 8 ชั่วโมง ส่วนตอนกลางวันควรนอนพักผ่อนประมาณ 1 - 2 ชั่วโมง
        -มารดาควรอาบน้ำ วันละ 2 ครั้ง สระผมได้ตามปกติ และไม่ควรแช่ในอ่างป้องกันเชื้อโรคเข้าสู่ทางช่องคลอด
        -ระยะหลังคลอดไม่ควรมีเพศสัมพันธ์ในช่วง 6 สัปดาห์ เนื่องจากหลังคลอดแผลภายใน โพรงมดลูกยังไม่หายดี
        -อาการผิดปกติที่ควรมาโรงพยาบาล ควรมีการสังเกตถึงอาการผิดปกติที่อาจเกิดขึ้น
        --การตรวจร่างกายภายหลังคลอด ปกติจะนัดตรวจเมื่อครบ 6 สัปดาห์หลังคลอด
      - รู้ปัญหาการรักษาและมีทักษะที่จำเป็นในการปฏิบัติตามแผนการรักษา สามารถเฝ้าระวังสังเกตอาการได้
        
        อาการหลังคลอดที่ควรมาพบแพทย์ทันที
        -มีเลือดออกมาทางช่องคลอดจนชุ่มผ้าอนามัย 1 ผืนภายใน 1 ชั่วโมง ควรรีบไปโรงพยาบาล และใช้น้ำแข็งวางบนหน้าท้องหรือมดลูกเพื่อให้เลือดออกน้อยลง
        -น้ำคาวปลามีสีแดงสดนานเกิน 4 วัน มีกลิ่นเหม็นผิดปกติ
        -มีก้อนเลือดขนาดใหญ่ออกทางช่องคลอด
        -ปวดท้องน้อย ในระยะ 1 สัปดาห์หลังคลอด
        -อาการบวมแดงของแผลผ่าตัด เป็นหนอง มีน้ำเหลืองไหลซึม
        -ปัสสาวะแล้วแสบหรือรู้สึกขัด ปัสสาวะบ่อยแต่ปริมาณน้อยลง และสีเข้มจัด
        -มีอาการซึมเศร้าเกิน 2-3 วัน และมีอารมณ์โกรธร่วมด้วย
        
        หลังคลอดควรได้รับการพักผ่อนเต็มที่ อย่างน้อย 4-6 สัปดาห์ เพื่อให้ระบบต่างๆของร่างกายเข้าสู่ภาวะปกติ ในช่วงฟื้นฟูนี้ควรได้รับอาหารคร 5 หมู่เพื่อเสริมสร้างร่างกายให้มีความพร้อมในการดูแลลูก และเพื่อเพิ่มปริมาณน้ำนม
    - - จัดสภาพแวดล้อมภายในบ้านให้เหมาะสม ในกรณีที่คุณแม่มีความจำเป็นต้องขึ้นบันได สามารถค่อยๆเดินขึ้นลงบันไดโดยใช้ความระมัดระวัง หรือให้คุณพ่อช่วยประคองไว้ จัดห้องนอนให้เรียบร้อย จัดของเครื่องใช้ให้อยู่ตำแหน่งที่หยิบได้ง่ายเป็นระเบียบเรียบร้อย เพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุได้ง่าย การที่บ้านไม่มีฝุ่น จะช่วยให้ไม่เกิดภูมิแพ้อากาศ ควรเปิดหน้าต่างบ้าน เพื่อให้อากาศถ่ายเทได้สะดวก ช่วยลดแบคทีเรียที่สะสมอยู่ลดจำนวนลง