Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
ระบบสืบพันธุ์ (Reproductive System) - Coggle Diagram
ระบบสืบพันธุ์ (Reproductive System)
อวัยวะสืบพันธู์เพศหญิง
อวัยวะสืบพันธุ์ภายใน
Vagina(ช่องคลอด)
เป็นช่องทางผ่านของตัวอสุจิเพื่อเข้าไปปฏิสนธิกับไข่บริเวณปีกมดลูกหรือท่อนำไข่รวมไปถึงทางออกของทารกในขณะคลอด
Cervix(ปากมดลูก)
เป็นส่วนที่อยู่ปลายสุดของมดลูกตอนที่ต่อกับคลอดทั้งปากมดลูกเเละช่องคลอดทำหน้าที่เป็นทางผ่านของน้ำอสุจิเข้าสู้โพรงมดลูกเป็นทางผ่านของเลือดประจำเดือนเเละเป็นทางที่ทารกคลอดออกมา
Uterus(มดลูก)
มีขนาดใหญ่ที่สุด มีความเเข็งเเรง มีเส้นเลือดมาเลี้ยงจำนวนมากเเละสามารถเปลี่ยนเเปลงได้ตลอดทุกรอบเดือนจากอิทธิพลของฮอลร์โมนเพศเอสโตรเจนเเละโปรเจสเตอร์โรน
๊Uterine tube(ท่อนำไข่)
เป็นทางเชื่่อมต่อระหว่างรังไข่ทั้งสองข้างกับ มดลูก
ทำหน้าที่ เป็นทางผ่านของไข่ที่ออกจากรังไข่สู่มดลูก ท่อนำไข่เป็นบริเวณที่อสุจิจะเข้าปฏิสนธิกับไข่
Ovary(รังไข่)
มีรูปร่างเเบน มี 2 ข้างอยู่บริเวณ ปีกมดลูกซ้าย-ขวา ทั้งสองข้าง
มีหน้าที่ในการสร้างเซลล์สืบพันธุ์เเละฮอลร์โมนเพศ มดลูกทั้งสองข้าง มีหน้าที่สร้างฮอลร์โมนเพศเเละเซลล์สืบพันธ์ุ
อวัยวะสืบพันธุ์ภายใน
Mons pubis (หัวเหน่า)
เป็นส่วนที่ใหญ่กว่าส่วนอื่นๆ ตั้งอยู่หน้ากระดูกหัวเหน่าใต้บริเวรหน้าท้องน้อยมีลักษณะเป็นรูปสามเหลี่ยม โดยฐานอยู่บนเเละยอดอยู่ข้างล่าง ในเด็กหญิงเมื่อเข้าสู่วัยสาว จะมีขนขึ้นบริเวณนี้
Labia majora (เเคมใหญ่)
เป็นส่วนของผิวหนังที่มีก้อนไขมัน ลักษณะนูนเเยกเป็น 2 กลีบลงไปบบรรจบกันทางด้านหลังที่บริเวณฝีเย็บ ปิดช่องคลอดเเละอวัยวะภายใน
Labia minora (เเคมเล็ก)
เป็นกลีบเล็กๆ ที่อ่อนนุ่ม ไม่มีขนปกคลุม อยู่ด้านในของเเคมใหญ่
มีหน้าที่ ปกป้องกันการติดเชื้อจากภายนอกเข้าสู่ช่องคลอด
Clitoris
มีลักษณะเป็นตุ้มขนาดเล็ก มีปลายประสาทมาสิ้นสุดมาก จึงรับความรู้สึกต่างๆ ได้เร็ว ความไวต่อการสัมผัส เเละทำให้เกิดความรู้สึกทางเพศ
Urethrsl opening
เป็นท่อปัสสาวะ
รอบเดือน (menstrual cycle)
ในภาวะปกติ หญิงวัยเจริญพันธุ์ การตกไข่เกิดขึ้นวัยที่เเน่นอน การร่วมเพศอาจเกิดขึ้นในเวลาใดๆ ก็ได้ของรอบเดือน เเต่การปฏิสนธิจะเกิดขึ้นได้เฉพาะหลังการไข่ตกเท่านั้น ทันทีที่ตั้งครรภ์การไข่ตกจะหยุด รอบเดือนครั้งเเรกเกิดขึ้นในวัยรุ่น อายุประมาณ 13 ปี เลือดที่ออกมาครั้งเเรกเรียก menache
เเบ่งออกเป็น 4 ระยะ
Manstrual phase
เป็นระยะที่มีเลือดระดุออก (วันที่ 0-5)
Folicular phase
(วันที่ 6 ถึง 13) เป็นระยะพัฒนาถุงไข่ หลังเอสทราไดออลเพิ่มขึ้น เยื่อบุมดลูกเพิ่มจำนวนเซลล์ เพื่อตอบสนองเอสโทรเจนที่สูงขึ้น
Ovulatory phase
เป็นระยะการไข่ตก เป็นสิ่งที่เกิดครั้งเดียวเเต่ละรอบเดือนของผู้หกญิง การตกไข่ถูกกระตุ้นเเละควบคุมโดยการทำงานของฮองร์โมน ไข่จะตกประมาณวันที่ 12-16 ก่อนจะถึงรอบเดือนต่อไป
Luteal phasee
อย่างน้อย14 วัน ระยะนี้มีการผลิต โพรเจสเทอโรน เยื่อเยื่อบุมดลูดหลั่งโปรตีนจำนวนมาก เตรียมการฝังตัวของเอ็มบริโอ
วัยหมดประจำเดือน menopause
ความสามารถในการมีบุตรสูงสุดของสตรี จะอยู่ที่อายุ 20 ปี เเละจะเริ่มลดลงหลังอายุ 30 ปีเเละเมื่ออายุประมาณ 50 ปีความปกติของรอบเดือนจะมีน้อย ซึงอาจจะไม่มีการตกไข่เกิดขึ้นเลยเนื่องจากระดับฮอร์โมนเอสโทรเจนไม่เพียงพอที่จะทำให้เกิด LH surge เรียกภาวะนี้ว่า วัยหมดประจำเดือน
อาการของสตรีวัยหมดประจำเดือน
เต้านมฝ่อเเละเหี่ยว เเละมีอาการเหี่ยวของรังไข่ ปีกมดลูก มดลูก ช่องคลอด
มีเกลือเเร่ของกระดูกลดลง กระดูกผุได้ง่าย อาจมีอาการปวดศรีษะขนร่วง
ปวดตามกล้ามเนื้อ ช่องคลอดเเห้ง นอนไม่หลับ ซึมเศร้า น้ำหนักเพิ่ม อารมณ์ เเกว่ง
ระยะการคลอด (Stage of labour)
ระยะที่ 1 ของการคลอด (First stage of labour)
เป็นระยะที่กินเวลายาวนานที่สด เมื่อเทียบกะบระยะอื่นๆทั้งหมดเเละเป็นระยะอื่นๆทั้งหมดเเละเป็นช่วงเวลาสำคัญที่ต้องดูเเลอย่างใกล้ชิดเพื่อทำการประเมินว่าสตรีตั้งครรภ์ราย ดังกล่าว จะสามารถคลอดช่องคลอดได้หรือไม่
ระยะที่ 2 ของการคลอด (Second stage of lebour)
เป็นช่วงที่ปากมดลูกเปิดหหมดเเล้ว (Fully dlilation) เเละทารกพร้อมจะพร้อมที่จะคลอด
ระยะที่ 3 ของการคลอด (Third stage of labour)
เป็นช่วงเวลาของการเกิดรกลอกตัวเเละการคลอดรก
ระยะที่ 4 ของการคลอด (Fourth stage of labour)
ภายหลังจากการคลอดรกเเล้ว เป็นช่วงเวลาของการตรวจสอบรกว่าคลอดออกมาครบถ้วนสมบรูณ์ดี ไม่มีส่วนใดตกค้างในโพรงมดลูดเเละตรวจสอบเเผลฝีเย็บรวมการฉีดขาดของช่องทางคลอด เเละทำการเย็บซ่อมเเซม
การหลั่งน้ำนม (lacetation)
จะมีเซลล์หลั่งน้ำนม (alveolar) จัดเรียงตัวเป็นกลุ่มคล้ายพวงองุ่นจะหลังน้ำนมเข้าสู่ภายในกลีบเเล็กเเละจะเปิดเข้าสู่ท่อระหว่างกลีบเเละท่อน้ำนม
บริเวณใกล้หัวนมจะพองออก(ampulla) เป็นที่เก็บน้ำนมไว้จะหลั่งออกมาเมื่อมีการกระตุ้น เเละต่ออยู่กับ lactoferons duct เเต่ละท่อจะระบายน้ำนมออกมาจากต่อมน้ำนมหนึ่งกลีบออกสู่ภายนอก
อวัยวะสืบพันธุ์เพศชาย
ลักษณะของเชื้ออสุจิ
1.ส่วนหัว(Head)
บรรจุสารพันธ์ุกรรม มีนิวเคลียสโดยด้านหน้าส่วนของอะโครโซม(Acrosome)
2.ส่วนกลาง(Middle)
มีลักษณะเป็นเเท่ง มีไมโทคอนเดรียผลิตพลังงานไว้สำหวับการเคลื่อนที่ของอสุจิ
3.ส่วนหาง(Tail)
มีไมโทคอนทูบูล ทำหน้าที่โบกพัดได้เพื่อว่ายไปหาเซลล์ไข่
อวัยวะสืบพันธุ์ภายนอก
Penis(อันทะ)
เป็นอวัยวะสำหลัถบร่วมเพศ มีลักษณะรูปร่างทรงกระบอก
ทำหน้าที่นำพาตัวอสุจิผ่านเข้าปากมดลูกเพศหญิงขณะร่วมเพศ
Scrotum(ถุงอัณฑะ)
เป็นส่วนของผิวหนังที่ไม่มีไขมันใต้ผิวหลังเป็นกล้ามเนื้อที่ช่วยปรับอุณหภูมฺของอัณฑะให้ต่ำกว่าอุณภูมิของอุณหภูมิของร่างกาย ประมาณ 3-5 องศาเซลเซียส
อวัยวะสืบพันธุ์ภายใน
Testis(ลูกอัณฑะ)
เป็นอวัยวะที่สำคัญที่สุดในระบบสืบพันธุ์เพศชาย
ทำหน้าที่สร้างอสุจิ เเละฮอร์โมนเพศชาย อัณฑะ ทำหหน้าที่สร้างฮอร์เพศชาย คือ Testosterone โดยมีท่อนำอสุจิออกสู่ภายนอกคือ (Epididymis)
Epididymis(หลอดเก็บอสุจิ)
มีลักษณะเป็นหลอดหรือท่อเล็กๆที่ขดไปมาอยู่ในลูกอัณฑะ
มีหน้าที่สำคัญคือเป็นที่พักชั่วคราวของเชื่ออสุจิที่เจริญเต็มที่ซึ่งผลิตจากอัณฑะก่อนที่จะส่งผ่านไปยังท่ออสุจิ(Vas defarens)
Vas deferens(ท่อนำอสุจิ)
ท่อนำอสุจินี้จะผ่านเข้าสู่ช่องท้องเเลัวมารวมกับถุงเก็บน้ำอสุจิ(Seminal vesicle)ผ่านต่อมลูกหมากออกไปต่อกับท่อปัสสาวะสำหลับนำตัวอสุจิออกไปสู่ภายนอก
Seminal vasicle (ถุงเก็ยน้ำอสุจิ)
มีอยู่ 2 ถุงทำหน้าที่เก็บอสุจิเเละสร้างน้ำกาม มีลักษณะเป็นเมือกขาวขุ่นเเละข้นน้ำกามที่สร้างขึ้นนี้จะทำให้ตัวอสุจิเคลื่อนที่ได้
Prostate glands(ต่อมลูกหมาก)
อยู่ข้างกระเพาะปัสสาวะเเละอยู่ล้อมรอบท่อกระเพาะปัสสาวะ
หน้าที่หลักของต่อมลูกหมากคือผลิตน้ำอสุจิที่นำพาตัวอสุจิออกจากร่างกาย
Ejaculatory duct (ท่อฉีดอสุจิ)
เป็นท่อที่เกิดจาการรวมตัวกันเป็นท่อเดียวของท่อนำอสุจิ 2 ท่อ ซึ่งมาจากอัณฑะทั้งข้าง
หน้าที่ขับน้ำอสุจิส่งต่อไปยังอวัยวะนำส่งอสุจิภายนอก
Cowper's glands (ต่อมขับเมือก)
เป็นกระเปาะเล็กๆ
มีหน้าที่หลังสารไปหล่อลื่นท่อปัสสาวะในขณะที่เกิดการกระตุ้นทางเพศ
การปฏิสนธิ (fertilization)
การปฏิสนธิในธรรมชาติ
เกิดขึ้นเมื่อมีเพศสัมพันธุ์ในช่วงไข่ตก ขณะหลั่งน้ำอสุจิจะถูกฉีดเข้าไปในช่องคลอดของผู้หญิง เเละเเหวกว่ายอยู่ในโพรงมดลูก ว่ายไปจนถึงส่วนปลายของปีกมดลูกซึ่งเป็นบริเวณที่พบกับไข่เพื่อจะเจาะผ่านชั้นต่างๆของเซลล์ใข่เข้าไปในภายใน โดยมีอสุจิเพียงตัวเดียวเท่านั้นที่สามารถเข้าไปผสมเซลล์ไข่ได้
การเกิดการตั้งครรภ์
คือการฝังตัวของไข่ที่ปฏิสนธิเเล้วในมดลูกจนกระทั่งถึงครอลระยะของการตั้งครรภ์ส่วนใหญ่จะกินเวลาประมาณ 280 วันหรือ 40 สัปดาห์ นับตั้งเเต่วันเเรกของประจำเดือนครั้งสุดท้ายเเต่อาจจะเเตกต่างกันบ้างในหญิงเเต่ละคน
การคุมกำเนิด
ยาคุมชนิดเม็ด
ยาคุมเเบบฝัง
ยาฝังคุมกำเนิดชนิดหลอดไม่สลายตัว
ยาฝังคุมกำเนิดชนิดหลอดสลายตัว
ห่วงอนามัย
ห่วงอนามัยธรรมดา (in IUDS)
ห่วงอนามัยที่มีสารทองเเดง (copper IUDS)
ห่วงอนามัยที่มีฮอลร์โมน (hormone releasing IUDS)
ยาคุมกำเนิดเเบบฉุกเฉิน
ถุงยางอนามัย
การทำหมันหญิง
การทำหมันหญิงหลังคลอด
การทำหมันหญิงในช่วงเวลาที่ไม่ตั้งครรภ์ (การทำหมันเห้ง)
การทำหมันโดยกล้อง laparoscope
การทำหมันชาย
ความหมาย
โครงสร้างของระบบสืบพันธุ์ของทั้งสองเพศประกอบด้วยอวัยวะสืบพันธุ์ภายในเเละอวัยวะสืบพันธ์ุภายนอกโดยมีสมองส่วนที่มาควบคุมการทำงานของระบบสืบพันธุ์ได้เเก่ ไฮโปทาลามัส (Hypothalamus) เเละต่อมใต้สมองส่วนหน้า (Anteriorpituitarygrand)
ฮอร์โมนที่เกี่ยวข้อง
ฮอร์โมนเพศหญิง ได้เเก้
ฮอร์โมนเอสโตรเจน (Estrogan)
โพรเจสเทอโรน (Progesterone)
ฮอร์โมนเพศชาย ได้เเก่
ฮอร์โมนเเอนโดรเจน (Androgan)
ฮอร์โมนเทสเทอโรน(Testosterone
มนุษย์ มีจำนวนโครโมโซม 46 เเท่ง จัดเป็นคู่จะได้ 23 คู่ ซึ่งจะมี 22 คู่ที่เหมือนกันในเพศชายเเละเพศหญิงเราจะเรียกคู่โคโมโซม เหล่านี้ว่าโคโมโซมร่างกาย(autosome) ซึ่งจะมีบทบาทในการกำหนดลักษณะทางพันธุ์กรรมต่างๆในร่างกาย