Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
หญิงตั้งครรภ์ อายุ 37 ปี G2P1-0-0-1 GA 16 wks. - Coggle Diagram
หญิงตั้งครรภ์ อายุ 37 ปี
G2P1-0-0-1 GA 16 wks.
ข้อมูลส่วนบุคคล
ประวัติการตั้งครรภ์
G1 : ปี2551 คลอดบุตรปกติ เพศหญิง,น้ำหนัก 2800 gm,ไม่มีภาวะแทรกระหว่าง/ขณะ/หลังตั้งครรภ์,ปัจจุบันบุตรแข็งแรงดี
ประวัติการผ่าตัด
ปี2559 เคยได้รับการผ่าตัดไทรอยด์
ประวัติครอบครัว/การเจ็บป่วยของคนในครอบครัว
สามี : เป็นคู่ฝาแฝด
แม่สามี : เป็นโรคความดันโลหิตสูง
แม่ของผู้ป่วย : เป็นโรคเบาหวาน
ประวัติการเจ็บป่วย
ปี2556 โรคไทรอยด์
หญิงตั้งครรภ์ชาวไทย อายุ 37 ปี
รู้สึกเวียนหัว มีคลื่นไส้ช่วงบ่าย เต้านมคัด จึงซื้อที่ตรวจครรภ์มาตรวจผลขึ้น 2 ขีด
G2P1-0-0-1 GA 16 wks.By date
LMP : 13/11/64
EDC : 20/8/65 by date
น้ำหนักก่อนการตั้งครรภ์ 58 kg ส่วนสูง 160 cm.
BMI 22.65 kg/m^2 น้ำหนักปัจจุบัน 58.5 kg.
สัญญาณชีพ
BT 36c,PR 90 bpm,RR 18 bpm,BP 135/84 mmHg
:
ประวัติการแพ้ยา : ปฎิเสธ
ประวันิการแพ้อาหาร : ปฎิเสธ
ประวัติการได้รับวัคซีนบาดทะยัก
ตอนคลอดบุตรปี 2551ได้รับ dT Toxoid ได้รับครบ 3 เข็ม
ปัญหาที่พบ
แม่สามีเป็นโรคความดันโลหิตสูง
แม่ของผู้ป่วยเป็นโรคเบาหวาน
ผู้ป่วยอายุ 37 ปี(Elderly pregnancy)
ปี2551 ผู้ป่วยเป็นโรคไทรอยด์
ปี 2559 ผู้ป่วยได้รับการผ่าตัดไทรอยด์
สามีมีคู่ฝาแฝด
มารดามีอาการคลื่นไส้ เวียนศรีษะ
เปรียบเทียบข้อมูลตามทฤษฎีและข้อมูลของผู้ป่วย
การวินิจฉัยการตั้งครรภ์
ทฤษฎี
Presumptive sign
มีอาการคลื่นไส้/อาเจียน พบได้ใน GA 4-14 wks. พบมากในสัปดาห์ที่ 8-12 wks. เรียกว่าอาการแพ้ท้อง morning sickness/Nuasea gravidarum เนื่องจาก Estrogen เพิ่มมากขึ้น
ถ่ายปัสสาวะบ่อย(Urinary frequency) แต่ไม่มีอาการปวดแสบหรือมีไข้ เนื่องจากมดลูกโตไปกดเบียดกระเพาะปัสสาวะ
อาการเหนื่อยล้า(fatigue)เป็นอาการที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนและร่างกายที่เปลี่ยนแปลงไปมากเป็นในไตรมาสแรก
ความรู้สึกเด็กดิ้นครั้งแรก (Quickening) ความรู้สึกว่ามีเสียงเคลื่อนไหวภายในครรภ์แรก 18-20 สัปดาห์ ครรภ์หลัง 16-18 สัปดาห์ เนื่องจากมดลูกที่โตขึ้นพ้นอุ้มเชิงกรานผนังมดลูกชิดผนังหน้าท้อง
การเปลี่ยนแปลงของเต้านม
อาการระยะแรก
-เจ็บคัดตึง,คัน,รู้สึกแปลบเหมือนถูกของมีคมเล็กๆทิ่มแทงภายในเต้านม,หัวนมจะไวต่อการกระตุ้น,ลานนมจะมีสีเข้มขึ้นขยาย,มีต่อมไขมัน(Mongtgomary's glands)โตขึ้น
การเปลี่ยนแปลงของสีผิวและรอยแตกของผิวหนัง
-linea nigra
-บางรายมีฝ้า(choasma gravirum)เนื่องจาก Estrogrn สร้างเม็ดสีเมลานินเพิ่มมากขึ้น
-striae gravidarum
Vagina mucosa มีสีคล้ำขึ้นจนเกือบม่วง(Chadwick's sign) พบได้มากในอายุครรภ์ 6-10 wks.
ประจำเดือนมาสม่ำเสมอ,ขาดประจำเดือนของเดือนนานมากกว่า 10 วันขึ้นไป,สุขภาพดี,ไม่มีภาวะเครียดหรือวิตกกังวล
Probable sign
หน้าท้องโตขึ้นจากการโตขึ้นของทารก
มดลูกจะพ้นเชิงกรานเมื่อ GA > 12 wks.
การหดรัดตัวที่เกิดขึ้นไม่สม่ำเสมอ,ไม่เจ็บป่วย สามารเกิดขึ้นได้ตลอดระยะการตั้งครรภ์ รู้สึกชัดเจนเมื่อ GA>28 wks.
Goodlell's sign คลำพบปากมดลูกนุ่มคลายริมฝีปาก ตรวจพบเมื่อ GA 8 wks.
Hegar's sign เป็นคสามนุ่มของ isthmus ตรวจโดยทำการ Bimanual examination พบเมื่อGA 6-8 wks.
McDonald's sign ตรวจพบว่ามดลูกมีความยืดหยุ่นมาก สามารถหัก พับ งอกับปากมดลูกได้ง่าย ตรวจพบได้เมื่ออายุครรภ์7-8 สัปดาห์
Ladin's sign พบบริเวณตรงกลางของมดลูกด้านหน้าตำแหน่งที่เป็นจุดต่อระหว่างมดลูกปากมดลูกจะมีความอ่อนนุ่ม พบเมื่ออายุครรภ์ 6 สัปดาห์
การขยับคลอนทารก(ballottment)
external ballottement ตรวจพบได้เมื่อGAประมาณ 24 wks.
internal ballottement ตรวจพบได้เมื่อGAประมาณ 20 wks.
คลำขอบเขตตัวทารกได้(palpation of fetal outline)คลำหน้าท้องได้ขอบเขตของลำตัวทารกเมื่อGA 22-24 wks.
ตรวจพบ hCG ในปัสสาวะหรือในเลือด พบได้ประมาณวันที่ 6-12 หลังจากไข่ตก
Positive sign
ได้ยินเสียงหัวใจทารก(FHS)
ได้ยินเป็นเสียงคู่ประมาณ 110-160 bps
เห็นการเคลื่อนไหวทางผนังหน้าท้องได้ชัดเจนและคลำส่วนต่างๆของทารกได้เมื่อGA 20 wks.
เห็นทารกผ่านการทำ Ultrasound สมารถวินิจฏัยได้ตัเงแต่ GA 5-6 wks. เห็นการทำงานของหัวใจเมื่อ GA 6-7 wks.
เห็นรูปร่าง กระดูกทารกในครรภ์ผ่านการใช้รังสี X-ray เมื่อ GA 16 wks.
ข้อมูลผู้ป่วย
Presumptive sign
รู้สึกเวียนหัว มีคลื่นไส้ช่วงบ่าย เต้านมคัด จึงซื้อที่ตรวจครรภ์มาตรวจผลขึ้น 2 ขีด
Probable sign
ผลUPT : Posistive
การประเมินภาวะสุขภาพ
ทฤษฎี
การซักประวัติ
ประวัติทางสูติศาสตร์รและนรีเวชวิทยา ได้แก่ ประวัติประจำเดือน,ประวัติการคุมกำเนิด,ประวัติการมีบุตรยากและการรักษาก่อนการตั้งครรภ์,ประวัติการตั้งครรภ์ และการคลอดในอดีต
ประวัติเจ็บการเจ็บป่วยในอดีต/การผ่าตัด
ประวัติการเจ็บป่วยในปัจจุบัน
ประวัติความเจ็บป่วยของบุคคลในครอบครัว ได้แก่โรคพันธุกรรมของบุคคลในครอบครัว,โรคทางอายุรกรรมและโรคติดต่อของสมาชิกครอบครัว
การตรวจร่างกาย
การตรวจร่างกายทั่วไป
ชั่งน้ำหนักและวัดส่วนสูง เพื่อนำมาประเมินค่า BMI
ค่า BMI
BMI < 18.5 underweight
BMI 18.5-24.9 normal
BMI 25-29.9 overweight
BMI >30 obesity
BMI อยู่ในช่วง underweight มีความเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนขณะตั้งครรภ์
-คลอดก่อนกำหนด
-ทารกเจริญเติบโตช้า
-น้ำหนักตัวทารกแรกคลอดน้อย
BMI อยู่ในช่วง overweight/obesity มีความเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนขณะตั้งครรภ์
-ความดันโลหิตสูงขณะตั้งครรภ์เพิ่มขึ้นถึงสองเท่า
-ความเสี่ยงในการเกิดภาวะเบาหวานขณะตั้งครรภ์ อาจทำให้เกิดภาวะทารกตัวโต,คอลอดยาก
น้ำหนักที่ควรเพิ่มขึ้นระหว่างตั้งครรภ์
Underweight TWG 12.5-18 kg. 0.4-0.5 kg/week
Normal weight TWG 11.5-16 kg. 0.3-0.5 kg/week
Overweight TWG 7-11.5 kg. 0.2-0.3 kg/week
Obesity TWG 5-9 kg. 0.1-0.2 kg/week
สัญญาณชีพ
ควรวัดสัญญาณชีพทุกครั้งที่มาฝากครรภ์
-ความดันโลหิตสูงในขณะตั้งครรภ์เป็นปัญหาที่พบได้บ่อย อาจนำไปสู่ภาวะครรภ์เป็นพิษ
การตรวจร่างกายตามระบบ
-สภาพทั่วไป
-ผิวหนัง อาจมีอาการบวมเล็กน้อยที่หน้าเท้าและหน้าแข้ง,linea nigra,striae gravidarum,cholasma
-จมูก มีการบวมของเยื่อบุภายในจมูก,รู้สึกคัดจมูกและมีเลือดออกเมื่อสั่งน้ำมูกแรง
-ช่องปาก มีเหงือกบวมเล็กน้อย,มีเลือดออกตามไรฟัน
-คอ ต่อมน้ำเหลืองไม่โตไม่เจ็บ ต่อมไทรอยด์ไม่โตกดไม่เจ็บ
-เต้านม หัวนมมีสีคล้ำ ไวต่อการกระตุ้น หัวนมไม่สั้น ไม่บอด ไม่บุ๋ม
การตรวจครรภ์
1.Fundal's grip
2.Umbilical's grip
3.Palwik's grip
4.Bilateral inguanal grip
ผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการ
การตรวจเลือด
Complete Blood Count เช่น
Hct>33 mg%
Hb>11 %
MCV>80 fL
หมู่เลือด
ABO groub
Rh factor
Serology test : HIV
,HBsAg,VDRL
Screening Thalaseemia Test (DICP) : negative
ตรวจปัสสาวะ
หา albumin,glucose,ketone
การคัดกรองภาวะเสี่ยงของสตรีในระยะตั้งครรภ์
ปัจจัยเสี่ยง Elderly pregnancy อายุ >35ปี
ผลต่อการตั้งครรภ์
ความเสี่ยงในการแท้งบุตร สาเหตุเกิดจากคุณภาพไข่ที่ลดลง และการเปลี่ยนแปลงของมดลูกและฮอร์โมนในร่างกาย
การตั้งครรภ์นอกมดลูก (Ectopic pregnancy)
สาเหตุเชื่อว่าเกิดจากความผิดปกติของโครโมโซมที่ทำให้เกิดรกผิดปกติ หรือการทำงานของท่อนำไข่ที่เสื่อมลง ทำให้ไข่ที่ถูกผสมไม่สามารถเคลื่อนตัวไปฝังตัวในตำแหน่งที่เหมาะสมได้ นอกจากนั้น อาจเกิดจากการได้รับความเสี่ยงของการเกิดพยาธิสภาพในท่อนำไข่สะสม ได้แก่ การมีคู่นอนหลายคน และการติดเชื้อในอุ้งเชิงกราน
การตั้งครรภ์แฝด (Multiple gestation)
พบมากในแม่ที่ใช้เทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ (Assisted reproductive technology; ART)
ผลต่อทารกในครรภ์
ความผิดปกติของจำนวนโครโมโซม (Chromosome abnormality)
ความผิดปกติที่พบบ่อยที่สุดคือ autosomal trisomy สาเหตุเกิดจากการที่เซลล์ไข่แบ่งตัวค้างอยู่ในระยะ metaphase I ขณะอยู่ในครรภ์ ซึ่งในระยะดังกล่าว โครโมโซมจะถูกเรียงอยู่ตรงกลางเซลล์ และเมื่อมีการตกไข่ จะเกิดการแบ่งตัวต่อ โดยมีการแยกขาของโครโมโซมออกจากกัน ซึ่งอายุที่เพิ่มขึ้น เพิ่มความเสี่ยงของการเกิดการแบ่งตัวของเซลล์ที่ผิดปกติ แบบที่เรียกว่า non-disjunction
ความผิดปกติของยีน (Gene abnormalities)
บางการศึกษากล่าวถึงผลของสตรีตั้งครรภ์อายุมากต่อความผิดปกติของยีน และการเกิด epigenetic events
ความผิดปกติแต่กำเนิด (Congenital anomalies)
ความชุกของการเกิดความผิดปกติแต่กำเนิดของทารกในครรภ์เพิ่มขึ้นตามอายุสตรีตั้งครรภ์ที่เพิ่มขึ้น อาจเกิดจากจำนวนโครโมโซมผิดปกติแบบ aneuploidy
ผลต่อมารดาในการตั้งครรภ์
ภาวะแทรกซ้อนที่สำคัญที่สามารถเกิดขึ้นในขณะตั้งครรภ์ คือ ความดันโลหิตสูงขณะตั้งครรภ์,เบาหวานขณะตั้งครรภ์ (Gestational DM)
ความผิดปกติของรก
ภาวะรกลอกตัวก่อนกำหนด (Placental abruption)
ภาวะรกเกาะต่ำ (Placenta previa)
Perinatal morbidity
การคลอดก่อนกำหนด และทารกน้ำหนักน้อยเพิ่มขึ้น
Perinatal mortality
-Fetal death
ทารกเสียชีวิตในครรภ์
-Neonatal death
ทารกเสียชีวิตตั้งแต่แรกคลอด
Maternal mortality
สตรีตั้งครรภ์อายุมากมีความเสี่ยงของการเสียชีวิตจากการตั้งครรภ์สูงขึ้น
ประวัติสุขภาพ
ประวัติครอบครัว
เบาหวาน/ความดันโลหิต
Risk to GDM,PIH
ครรภ์แฝด
Tisk to twins
บุตรปัญญาอ่อน/พิการแต่กำเนิด
Anxiety
ประวัติการเจ็บป่วย
โรคความดันโลหิตสูง
ผลกระทบต่อสุขภาพของมารดา : Increased vasopasm
ผลกระทบต่อสุขภาพของทารก : DFU,preterm labor,LBW
Hypothyroid
ผลกระทบต่อสุขภาพของมารดา : low BMI
ผลกระทบต่อสุขภาพของทารก : Abortion,พัฒนาการทางสมองช้ากว่าปกติ
Hyperthyroid
ผลกระทบต่อสุขภาพของมารดา : PPH,Preeclampsia,thyroid storm
ผลกระทบต่อสุขภาพของทารก : preterm,thyroidtoxicosis
ประวัติการตั้งครรภ์ในอดีต
C/S
ผลกระทบต่อสุขภาพของมารดา : Repeated cesarean section
ผลกระทบต่อสุขภาพของทารก : respiratory distress
Large baby
ผลกระทบต่อสุขภาพของมารดา : Risk to GDM
ผลกระทบต่อสุขภาพของทารก : ภาวะเสี่ยงตามภาวะแทรกซ้อนและการตรวจพบ GDM
Twins
ผลกระทบต่อสุขภาพของมารดา : Twin pregnancy
ผลกระทบต่อสุขภาพของทารก : Risk to fetal loss
ประวัติการตั้งครรภ์ปัจจุบัน
Syphilis
ผลกระทบต่อสุขภาพของมารดา : Abortion
ผลกระทบต่อสุขภาพของทารก : Congenital syphilis
Anteparture rupturesd of membranes
ผลกระทบต่อสุขภาพของมารดา : anemia
ผลกระทบต่อสุขภาพของทารก : anemia,fetal distress
การได้รับวัคซีนบาดทะยัก
ได้รับ 3 เข็ม
เข็มแรกห่างจากเข็ม 2 ประมาณ 1 เดือน
เข็มสองห่างจากเข็ม 3 ประมาณ 6 เดือน
ข้อมูลผู้ป่วย
การซักประวัติ
ประวัติการเจ็บป่วยในอดีต
ปี2556 เป็นโรคไทรอยด์
การผ่าตัด : ปี2559 ได้รับการผ่าตัดไทรอยด์
ประวัติการของคนในครอบครัว/การเจ็บป่วยของคนในครอบครัว
ด้านผู้ป่วย
แม่เป็นโรคเบาหวาน
ด้านสามี
แม่เป็นโรคความดันโลหิตสูง
สามีเป็นฝาแฝดคู่
ประวัติการตั้งครรภ์
ปี2551 คลอดบุตรปกติ เพศหญิง,น้ำหนัก 2800 gm,ไม่มีภาวะแทรกระหว่าง/ขณะ/หลังตั้งครรภ์,ปัจจุบันบุตรแข็งแรงดี
ประวัติการได้รับวัคซีนบาดทะยัก
ตอนคลอดบุตรปี 2551ได้รับ dT Toxoid ได้รับครบ 3 เข็ม
การตรวจร่างกาย/การตรวจครรภ์
การตรวจร่างกายตามระบบ
คอ : เคยได้รับการผ่าตัดต่อมไทรอยด์
น้ำหนักก่อนการตั้งครรภ์ 58 kg. ส่วนสูง 160 cm. BMI 22.65 kg/m^2 น้ำหนักปัจจุบัน 58.5 kg.
การคัดกรองภาวะเสี่ยงของมารดา
Elderly pregnancy อายุ >35ปี
คัดกรองเบาหวานขณะตั้งครรภ์ (Gestational DM)
ตรวจ BS 50% หากพบความผิดปกติให้ตรวจ OGTT ในการยืนยันอีกรอบ
ผลตรวจ BS 135 mg/dL ปกติ
คัดกรองความดันโลหิต
ตรวจวัดสัญญาณชีพทุกครั้งที่มาฝากครรภ์
สัญญาณชีพ
BT 36c,PR 90 bpm,RR 18 bpm,BP 135/84 mmHg
คัดกรองโรค Down syndrome
Invasive methods ได้แก่ เจาะน้ำคร่ำหรือเจาะชิ้นเนื้อรก สามารถทำได้เมื่อGA 16-18 wks.
Non-invasive methods ได้แก่ การเจาะเลือดมารดาเพื่อตรวจหาระดับฮอร์โมน หรือการตรวจหาเซลล์จากทารก (Cell-free fetal DNA) ร่วมกับการอัลตราซาวด์ดูอวัยวะสำคัญในร่างกายของทารกอย่างละเอียด สามารถทำได้เมื่อ GA 20 wks.up
ผลตรวจทางห้องปฎิบัติการ
Serology Test : VDLR,HIV,HBsAg all negative
CBC
Hb : 12.1 mg%
Hct : 37.1%
MCV : 82.1 fL
Screening test for thalassemia(DICP) : negative
UA
ketone : negative
glucose : negative
albumin : negative
ABO group : o
RH : positive
Indirect anti globulin Test : negative
TSH 3.0 mlU/L. ปกติ
T3 157 ng/dL ปกติ
T4 10.9 µg/dL ปกติ
Hypothyroid
ผลต่อมารดา : การแท้ง,ทารกเสียชีวิตในครรภ์,การคลอดก่อนกำหนด
ผลต่อทารกในครรภ์ : น้ำหนักตัวน้อย,Fetal distressและมีผลต่อการพัฒนาทางระบบประสาทและสมอง ส่งผลต่อ IQ
Hyperthyroid
ผลต่อมารดาและทารกในครรภ์ : มีผลต่อmetabolism ชีพจรเต้นเร็ว หายใจเร็ว ทำให้เกิดurine contractionบ่อยและมากขึ้นอาจทำให้คลอดก่อนกำหนดหรือแท้งบุตรได้
คำแนะนำการดูแลตนเองของมารดา
Down syndrome
ตรวจหาความผิดปกติ
Invasive methods ได้แก่ การเจาะน้ำคร่ำหรือการเจาะชิ้นเนื้อรก ซึ่งเป็นการวินิจฉัย
Non-invasive methods ได้แก่การเจาะเลือดมารดาเพื่อตรวจหาระดับฮอร์โมน หรือการตรวจหาเซลล์จากทารก (Cell-free fetal DNA) ร่วมกับการอัลตราซาวด์ดูอวัยวะสำคัญในร่างกายของทารกอย่างละเอียด ซึ่งวิธีนี้เป็นการตรวจคัดกรอง หากพบความผิดปกติ จำเป็นต้องได้รับการตรวจวินิจฉัยต่อไป
ปัจจัยเสี่ยง
มารดาเป็น Elderly pregnancy
ความดันโลหิตสูง
วัดสัญญาณชีพทุกครั้งที่มาฝากครภ์หรือมาพบติดตามอาการตามที่แพทย์นัด
ปัจจัยเสี่ยง
แม่ของสามีเป็นโรคความดันโลหิต
เบาหวานขณะตั้งครรภ์
ตรวจ BS 50 gm
BS > 140 mg/dl นัดตรวจ OGTT สัปดาห์หน้า
ถ้าผลออกมาว่าผิดปกติ 2 ค่าขึ้นไป > > เป็นเบาหวานขณะตั้งครรภ์
คำแนะนำเรื่องการควบคุมอาหารและการออกกำลังกาย
หลักในการควบคุมอาหาร
-รับประทานอาหารหลัก 3 มื้อ และอาหารว่าง 3 มื้อและทานอาหารให้ครบ 5หมู่เน้นรับประทานอาหารประเภทโปรตีนเนื้อสัตว์ต่างๆเน้นทานโปรตีนที่ย่อยง่ายเช่นเนื้อปลา,ไข่,เต้าหู้หรือถั่วต่างๆ
-แนะนำให้ทานผักและผลไม้ เพราะวิตามินต่าง ๆ ในผักและผลไม้จะช่วยเพิ่มความสมดุลภายในร่างกายแม่ และเสริมสร้างพัฒนาการและการเจริญเติบโตของทารก
-หลีกเลี่ยงการรับประทานขนม,ของหวาน,น้ำอัดลมชนิดต่างๆ
-ลดอาหารประเภทไขมันของทอดชนิดต่างๆ
-น้ำหนักควรขึ้นสัปดาห์ละ 0.3-0.5 kg/wks. ขึ้นไม่เกิน 2 kg เดือนและ
น้ำหนักที่ควรขึ้นตลอดการตั้งครรภ์ควรขึ้นประมาณ11.5-16kg
การออกกำลังกายสามารถออกกำลังกายได้แบบเบาๆได้ เช่น การเล่นโยคะ
ผิดปกติ 1 ค่า ตรวจซ้ำเมื่อ GA 24-28 wks
BS < 140 mg/dl ตรวจซ้ำ เมื่อ GA 24-28 wks
ผลตรวจ BS 135 mg/dL
ปัจจัยเสี่ยง
มารดาเป็น Elderly pregnancy
แม่ของมารดาเป็นโรคเบาหวาน
มารดาชอบรับประทานขนม/ของหวานก่อนการตั้งครรภ์
Thyroid
Hypothyroid
ผลต่อมารดา : การแท้ง,ทารกเสียชีวิตในครรภ์,การคลอดก่อนกำหนด
ผลต่อทารกในครรภ์ : น้ำหนักตัวน้อย,Fetal distressและมีผลต่อการพัฒนาทางระบบประสาทและสมอง ส่งผลต่อ IQ
Hyperthyroid
ผลต่อมารดาและทารกในครรภ์ : มีผลต่อmetabolism ชีพจรเต้นเร็ว หายใจเร็ว ทำให้เกิดurine contractionบ่อยและมากขึ้นอาจทำให้คลอดก่อนกำหนดหรือแท้งบุตรได้
แนะนำให้มารดามาพบแพทย์ตามนัดเพื่อติดตามผล Thyroid function test
TSH 3.0 mlU/L. ปกติ
T3 157 ng/dL ปกติ
T4 10.9 µg/dL ปกติ
การเฝ้าระวังในไตรมาสที่2 หากมีอาการผิดปกติ เช่น เลือดออกผิดปกติจากช่องคลอด,มีน้ำเดิน หรือท้องแข็งสม่ำเสมอทุก 10 นาที ให้รีบมาพบแพทย์ทันทีเพราะอาจบ่งบอกถึงภาวะคลอดก่อนกำหนด
ปัจจัยเสี่ยง
มารดาเป็นโรคไทรอยด์ตอนปี 2556 และ
ได้รับการผ่าตัดตอนปี 2559
อาการคลื่นไส้และเวียนศรีษะ
อาจเกิดการตั้งครรภ์แฝด
ตรวจเลือดหรือปัสสาวะ หาระดับฮอร์โมน hCG
ค่าhCG จะมีค่าสูงกว่าปกติมากกว่าหญิงตั้งครรภ์ปกติถึง 3 เท่า จะอยู่ที่ประมาณ 200 mIU ซึ่งการที่มีhCGเป็นจำนวนมากทำให้ยังพบอาการแพ้ท้องในไตรมาสที่2ได้
ปัจจัยเสี่ยง
สามี มีฝาแฝดคู่
อิทธิพลจากฮอร์โมน progesterone ที่มีผลต่อการขยายตัวของกล้ามเนื้อในส่วนต่างๆ รวมถึงการขยายตัวของกล้ามเนื้อที่กระเพาะอาหาร ซึ่งส่งผลให้มารดาเกิดอาการท้องอืด แน่นท้อง อยากอาเจียน
คำแนะนำในการปฎิบัติตัวรับมือกับอาการแพ้ท้อง
แนะนำให้คุณแม่แบ่งย่อยมื้ออาหาร ทานครั้งละน้อยๆแต่หลายมื้อ รับประทานอาหารที่ย่อยง่าย เช่น ขนมปังกรอบ แครกเกอร์ หลีกเลี่ยงอาหารที่มีไขมันมาก อาหารที่มีกลิ่นแรง
ให้ดื่มน้ำอุ่นๆ ทันทีที่ตื่นนอนประมาณครึ่งแก้ว เพื่อไม่ให้ท้องว่าง ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดอาการคลื่นไส้ไอาเจียน แล้วให้คุณแม่นอนต่ออีกประมาณ 15 นาทีก่อนที่จะลุกขึ้นปฏิบัติกิจวัตรประจำวัน
พักผ่อนอย่างเพียงพอ พยายามหลีกเลี่ยงความเครียด
แนะนำให้สามี/ญาติ ให้ความรักและดูแลเอาใจใส่คอยดูแลช่วยเหลืออย่างใกล้ชิด หลีกเลี่ยงความเครียด หรือวิตกกังวลมากเกินไป
ถ้าอาการแพ้ท้องไม่ดีขึ้น ควรมาพบแพทย์
Elderly pregnancy
แนะนำการตรวจคัดกรองภาวะความเสี่ยงต่างๆที่อาจเกิดขึ้นในขณะตั้งครรภ์
Down syndrome ในทารก
เบาหวานขณะตั้งครรภ์
ความดันโลหิตสูงขณะตั้งครรภ์
แนะนำการได้รับวัคซีนป้องกันโรคติดต่อต่างๆ เช่น หัด ,หัดเยอรมัน
11 แบบแผน
แบบแผนที่ 1 หญิงไทยตั้งครรภ์คนที่2 อายุ 37 ปี มีการรับรู้ว่าตนเองกำลังตั้งครรภ์
แบบแผนที่ 2
ก่อนการตั้งครรภ์ : รับประทานอาหารวันละ 3 มื้อเช้ากลางวันเย็น บางวันรับประทานอาหารไม่ตรงเวลา ดื่มน้ำประมาณวันละ 7-8 แก้ว มีรับประทานของหวานบ้างในบางมื้อ
ขณะตั้งครรภ์ : รับประทานอาหารหลัก 3 มื้อ มีทานอาหารว่างหลังจากมื้อหลักบ้าง รับประทานผลไม้และผักมากขึ้น ทานของหวานลดน้อยลง ทานน้ำวันละประมาณ 1.5 ลิตร
แบบแผนที่ 3 อุจจาระเป็นประจำ ไม่มีอาการท้องผูกปัสสาวะบ่อยขึ้นวันละประมาณ8-9 ครั้ง ลักษณะเป็นสีใสไม่แสบขัด
แบบแผนที่ 4
หลังตั้งครรภ์ : ทำงานบ้านตามปกติ แต่ไม่ได้ออกกำลังกายหรือยกของหนัก
แบบแผนที่ 5
นอนหลับสนิทดี นอนพักผ่อนวันละประมาณ 7- 8 ชั่วโมง
แบบแผนที่ 6
ระดับความรู้สึกตัวปกติ รับรู้วัน เวลา สถานที่ ถามตอบรู้เรื่องสามารถจดจำเรื่องราวเกี่ยวกับบุตรของตนเอง และได้รับรู้ว่าตนเองตั้งครรภ์
แบบแผนที่ 8
อาศัยอยู่กับสามีและบุตรสาวอีกหนึ่งคนที่บ้านพักของตนเอง
แบบแผนที่ 7
รับรู้ตนเองว่ากำลังตั้งครรภ์ ยอมรับเรื่องการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น ปรับเปลี่ยนตนเองในเรื่องการรับประทานอาหารและทำกิจกรรมเพื่อเสริมพัฒนาการของทารกในครรภ์
แบบแผนที่ 9
ก่อนการตั้งครรภ์ : ประจำเดือนมาปกติทุกเดือนไม่ได้คุมกำเนิด,ไม่ได้มีโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์
แบบแผนที่ 10
ก่อนการตั้งครรภ์ : สามารถปรับตัวกับความเครียดได้ดีโดยการพักผ่อนหรือทำอะไรคลายเครียด เช่น การไปเที่ยวขณะตั้งครรภ์ : สามารถปรับตัวได้อย่างดีเนื่องจากเป็นครรภ์ที่2
แบบแผนที่ 11
เชื่อและปฎิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ในการดูครรภ์
กระตุ้นพัฒนาการของทารกในครรภ์
การนับลูกดิ้น : แนะนำให้มารดานับลูกดิ้นหลังจากรับประทานอาหารในแต่ละมื้อ ลูกจะต้องดิ้นอย่างน้อย3ครั้งใน 1 ชั่วโมงหากไม่ครบให้นับเพิ่มไปอีก 1 ชั่วโมง โดยในวันหนึ่งจะดิ้นไม่ต่ำกว่า 10 ครั้งหากพบว่าทารกดิ้นน้อยหรือไม่ได้เลยให้มาพบแพทย์ทันที
แนะนำให้มารดานั่งเก้าอี้โยกเพื่อเป็นการส่งเสริมการทรงตัวของทารกในครรภ์