Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
ระบบสืบพันธ์ุ (Reproductive System) - Coggle Diagram
ระบบสืบพันธ์ุ
(Reproductive System)
อวัยวะสืบพันธุ์เพศชาย(Male genital organ)
อวัยวะสืบพันธุ์ภายนอกของเพศชาย
(external genital organs)
ถุงอัณฑะ (Scrotum)
ไม่มีไขมันใต้ผิวหนัง และยื่นลงมาจากหน้าท้อง
มีกล้ามเนื้อเรียบ เรียกว่า Dartos muscle และ Cremaster mascle
ช่วยปรับอุณหภูมิของอัณฑะ ให้ต่ำกว่าอุณหภูมิของร่างกาย 3-5 องศาเซลเซียส
ภายในมีอัณฑะ (testis) และบางส่วนของ spermatic cords
องคชาต (Penis)
ประกอบด้วยเนื้อเยื่อที่แข็งตัวได้ (Erectile tissue)3 อัน
Corpus cavernosum หรือ corpora cavernosum 2 อันอยู่ทางด้านบน
Corpus spongiosum 1 อัน อยู่ทางด้านล่าง มี urethra ผ่านกลาง
อวัยวะสืบพันธุ์ภายในของเพศชาย
(Internal genital organs)
อัณฑะ (Testis)
มีลักษณะรูปไข่
ขอบด้านหน้ากลม ขอบหลังจะติด
กับหลอดเก็บอสุจิ(Epididymis)
ผนังหุ้ม 2 ชั้นคือ
• Tunica vaginalis
• Tunica albuginea
ภายในมีท่ออสุจิ
(Seminiferous tubule)
ท่อพักอสุจิ(Epididymis)
วางตัวติดกับด้านหลังของอัณฑะ
มีหน้าที่สำคัญ คือ เก็บ sperm ไว้จนกว่าจะโตเต็มที่ เพื่อพร้อมที่จะหลั่งออก
ท่อนำอสุจิ(Vas deferens or Ductusdeferens)
เป็นท่อที่ต่อจากหางของ epididymis และมีส่วนที่พองออกเป็นกระเปราะเรียกว่าAmpulla of vas deferens ซึ่งเป็นที่เก็บอสุจิก่อนปล่อยออกสู่ภายนอก
เป็นที่เก็บอสุจิก่อนปล่อยออกสู่ภายนอก(อสุจิสามารถมีชีวิตอยู่ได้4 เดือน)
ถุงพักอสุจิ(Seminal Vesicle)
อยู่ด้านหลังกระเพาะปัสสาวะ
ทำหน้าที่สร้างน้ำกาม (Semen) เพื่อ
เป็นอาหารมาเลี้ยง sperm
ท่อฉีดอสุจิ(Ejaculatory Duct)
เปิดเข้าสู่ Prostatic urethra ตรงบริเวณต่อมลูกหมาก
ทำหน้าที่บีบตัว เพื่อขับน้ำอสุจิ(Semen)
ต่อมลูกหมาก(Prostate Gland)
อยู่ด้านล่างกระเพาะปัสสาวะ และหลังpubic symphysis
มีหน้าที่สร้าง Prostate fluid ที่มีฤทธิ์เป็น
ด่างอ่อนๆ
ต่อมน้ำเมือก (Bulbo-urethral Gland หรือ Cowper’s gland)
มีรูปร่างเท่าเม็ดถั่ว
มีหน้าที่หลั่งสารเมือก เพื่อช่วยหล่อลื่นขณะร่วมเพศ และจะช่วยลดความเป็นกรดของน้ำปัสสาวะที่ค้างอยู่ในท่อปัสสาวะ
ตัวอสุจิ(Spermatozoa)
ส่วนหัว (Head) มีลักษณะกลมรี มีสารพันธุกรรมและAcrosomeบรรจุเอนไซม์ที่ช่วยในการเจาะเข้าสู่ไข่(Ovum)
ส่วนกลาง (Body) เป็นส่วนคอมี Mitochondiaจำนวนมาก
ส่วนหาง (Tail) เป็น Flagellum
ระบบสืบพันธุ์เพศหญิง(Female reproductive system )
อวัยวะสืบพันธุ์ภายนอกของเพศหญิง
เนินหัวเหน่า (Mons pubis)
หน้าที่ป้องกันการกระแทกของกระดูกหัวหน่าว(Pubic bone)ในขณะร่วมเพศ และสร้างกลิ่นทางเพศ(Pheromone)จากต่อมสร้างกลิ่นที่อยู่ในผิวหนังของหัวหน่าว
แคมใหญ่ (Labia majora)
มีลักษณะเป็นกลีบเนื้อนูน
เทียบเท่ากับ Scrotum ของเพศชาย
แคมเล็ก (Labia minora)
ด้านบนจรดเป็นหนังหุ้ม Clitoris เรียกว่า frenulum
ด้านล่างจะมารวมกันเป็น Fourchette
หน้าที่ล้อมรอบและปกปิดรูเปิดของท่อปัสสาวะและช่องคลอด
คลิตอริส (Clitoris)
เป็นก้อนเนื้อเล็กๆตั้งอยู่ตอนบนของแคมเล็ก
(Labia minora)และใต้ต่อ monspubis
ภายในประกอบด้วยเนื้อเยื่อที่แข็งตัวได้
(Erectile tissue)
เทียบได้กับอวัยวะเพศชาย คือ Penis
Vestibule
เป็นบริเวณตั้งแต่ clitoris จนถึง fourchette
และอยู่นอกhymen มีช่องส าคัญๆมาเปิดคือ
vagina urethral orifice และbartholin duct
Bartholin gland :
เป็นต่อมที่สำคัญ ทีหน้าที่ขับเมือกสีเหลืองข้นๆออกมา ช่วยหล่อลื่นช่องคลอดระหว่างร่วมเพศ
Skene’s glands หรือ paraurethral gland
เป็นช่องเปิดเล็กๆ 2 ช่อง เทียบเท่ากับต่อมลูกหมากในเพศชาย
เยื่อพรหมจารี (Hymen)
เป็นเยื่อที่ยืดหดได้ปิดปากช่องคลอดเกือบหมดเว้นช่องเล็กๆไว้ตรงกลาง เพื่อให้ประจำเดือนผ่าน
ฝีเย็บ (Perineum)
หน้าที่พยุงอวัยวะภายในอุ้งเชิงกราน
ประกอบด้วย perineal body กล้ามเนื้อ levator ani, External anal sphincter,
Superficial transverse perinesl
อวัยวะสืบพันธุ์ภายในของเพศหญิง
ช่องคลอด (Vagina)
มีหน้าที่เป็นทางผ่านของเชื้ออสุจิเข้าภายใน และเป็นทางผ่านของเด็กขณะคลอด
เยื่อบุภายในช่องคลอดสามารถสลายตัวเกิดระดูขาวปกติในช่องคลอด
มดลูก(Uterus)
อยู่ใน Pelvic cavity ด้านหน้าเป็น urinary bladder ด้านหลังเป็น rectum
มดลูกแบ่งออกเป็น 4 ส่วน
ยอดมดลูก(Fundus)
ตัวมดลูก(Body หรือ corpus)
Isthmus
ปากมดลูก(Cervix )
เอ็น (Ligament) ที่ยึดมดลูก(Uterus)
Broad ligament
Round ligament
Uterosacral ligament
Transverse cervical ligament หรือ (Cardinal ligament)
ปากมดลูก(Cervix)
Internal os เปิดเข้าสู่โพรงมดลก
External os ยื่นเข้าไปในช่องคลอด
ท่อรังไข่หรือปีกมดลูก(Uterine หรือ Fallopian tube)
แบ่งออกเป็น 4 ส่วน คือ
Interstitial portion (Cornu)
Isthmus
Ampulla
Infundibulum
รังไข่ (Ovary)
ทำหน้าที่สร้างเซลล์ไข่ (Oogenesis)และสร้างฮอร์โมนเพศหญิง
สร้างเดือนละ 1 ใบจากเซลล์ไข่ตั้งต้นโอโอโกเนีย (Oogonia)