Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การประเมินภาวะสุขภาพเเละการพยาบาล เเม่หลังคลอด - Coggle Diagram
การประเมินภาวะสุขภาพเเละการพยาบาล
เเม่หลังคลอด
การตรวจร่างกาย
การตรวจร่างกายตามระบบ
โดยยึดหลัก head to toe
ผม: ผมดำ ยาว สะอาด ไม่มีรังเเค
ใบหน้า:มีฝ้าบริเวณใบหน้า
ไม่มีบวม สีหน้าสดชื่น ไม่มีรอยช้ำ
Conjunctiva:สีแดงดี ไม่มีซีด
จมูก:ไม่มีสิ่งคัดหลั่ง ไม่มีบวม
ปาก:ชุ่มชื้น ไม่แห้ง ไม่มีฟันผุ ไม่มีเหงือกบวม
คอ:ไม่มีต่อมไทรอยด์โต คลำไม่พบก้อน
เต้านม:คัดตึงเต้านมเล็กน้อย คลำไม่พบก้อน หัวนมไม่สั้น ไม่บอดหรือบุ๋ม คะเเนน1+
เเขน:ไม่บวม ไม่มีรอยแผล หรือกระดูกผิดรูป
ปลายนิ้วสีเเดงดี
ขา:ไม่มีบวมกดบุ๋ม
การประเมินระยอดมดลูก
Day1(28/02/65)คลำระดับยอดมดลูกได้ 5นิ้ว
Day2(01/0365)คลำระดับยอดมดลูกได้ 3.5นิ้ว
การประเมินแผลฝีเย็บ
น้ำคาวปลาสีแดงดี 150 cc เปลี่ยน pad 3 รอบ
แผลไม่บวม ไม่แดง ไม่เขียวช้ำ ไม่มีเลือดซึม
แผลชิดสนิทดี tearระดับ first degree tear
แนะนำการปฏิบัติตัวเมื่อกลับบ้าน
การคุมกำเหนืด
แบบกิน
ต้องกินทุกวันสม่ำเสมอเมื่อหยุดกินแล้วสามารถมีลูกได้
จะแนะนำให้กินยาคุมชนิดแบบ hormone เดี่ยวที่มี progesterone ขนาดน้อย เพราะยาจะไม่ผ่านทางน้ำนมจะไม่มีผลต่อน้ำนม อาจจะคุมร่วมถุงยาง
แบบฉีด
มีแบบ 1 เดือน กับ3 เดือน จะไม่มีผลต่อน้ำนม สามารถฉีดได้เมื่อมาตรวจ 6Wks หลังคลอด
แบบฝัง
จะมีแบบคุม 3 ปีถึง 5ปี
ไม่มีผลต่อน้ำนมคุมนานถึง 3ปี
สามารถฝังได้ตอนหลัง 6 Wks หลังคลอด ถ้าต้องการมีบุตรให้เอาออกได้
คำแนะนำ
หากเลือกเป็ยากินควรคุมแบบตามเวลาให้ครบกำหนดเเละเเบบฉีดต้องไปตามนัด
อาหาร
แนะนำให้ทานอาหารมชที่บำรุงน้ำนม เช่น หัวปลี มะละกอ ตำลึง ขิง ใบแมงลัก หรือเมนูแกงเลียง
ให้ทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ ในระยะแรกให้ทานอาหารอ่อนๆ ย่อยง่าย
ให้ทานผัก ผลไม้ ที่มีกากใยสูง เพื่อป้องกันการท้องผูก
แนำนำให้ดื่มน้ำวันละ 8 แก้ว
หรืออย่างน้อยวันละ 1.5 ลิตร
เลี่ยงอาหารที่มีรสจัด อาหารหมัดชกดอง ชา กาแฟ แอลกอฮอล์ และพวกยาขับเลือด เพราะมารดาต้องให้นมแก่ลูก
การดูแลตนเอง
การทำความสะอาด
ไม่เเนะนำให้แช่น้ำ
ให้ล้างมือเมื่อขับปัสสาวะทุกครั้ง
เปลี่ยน pad เมื่อชุ่มหรือทุกๆ4ชั่วโมง
ทำความสะอาดอวัยวะสืบพันธ์จากหน้าไปหลัง
ให้มาตรวจตามนัด 6 สัปดาห์หลังคลอด
การพักผ่อน
เเนะนำมารดาให้พักผ่อนให้เพียงพอวันละ 8-10ชั่วโมง
เต้านม
หากมีอาคัดตึงเต้านมแนะนำให้ประคบอุ่น เเละนวดเต้านม และให้ทารกดูดบ่อยๆ ทัก 2-3 ชม ให้ทารกดูดให้หมดเต้า สลับซ้ายขวา
ควรงดการมีเพศสัมพันธ์ในระยะหลังคลอดอย่างน้อย 6สัปดาห์ เพราะปากมดลูกยังปิดไม่สนิทอาจเสี่ยงต่อการติดเชื้อ
อาการผิดปกติที่ต้องมาพบแพทย์
1.มีไข้
2.น้ำคาวปลาสีแดงไม่จางลง เเละมีกลิ่นเหม็น
3.มีเลือดสดๆออกทางช่องคลอด
4.หลังคลอด 2wksยังคลำพบก่อนหรือมดลูกอยู่
5.เต้านมอักเสบ คัดตึงมาก
6.ปัสสาวะบ่อย แสบขัด
7.ปวดบริเวณอุ้งเชิงกราน
8.แผลฝีเย็บ บวมแดง มีหนอง
การดูแลบุตร
การเลี้ยงบุตรด้วยนมแม่
เลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างน้อย6เดือนและต่อเนื่องถึง2ปีร่วมกับอาหารเสริม
หลัก 4 ด
ดูดบ่อยๆ:ทุก 2-3ชั่วโมง
ดูดไว: ระยะตื่นตัว 1.30นาที่ถึง1ชั่วโมงหลังคลอด
ดูดถูกวิธี:จัดท่าเหมาะสม พุงชิดพุง คางชิดอก อ้าปากกว้างมิดลาน
ดูดเกลี้ยงเต้า: ดูดเกลี้ยงเต้าทั้ง2ข้าง
ให้คำแนะนำเพิ่มเติมด้านทักษะ
เทคนิคการบีบน้ำนม
1.นวดและคลึงหัวนมเพื่อกระตุ้นการหลั่งน้ำนม
2.วางนิ้วมือห่างจากหัวนม 3-4 ซม
3.กำเข้าหาหน้าอก
4.บีบเข้าหากัน
5.น้ำนมจะไหลออกจากท่อน้ำนม
ท่าอุ้มเข้าเต้าที่เหมาะสม
ท่านอนขวางบนตัก (cradle hold)
ท่าอุ้มลูกฟุตบอล (cluth hold หรือ football hold)
จากการประเมินเเละสอบถามมารดา
1.มารดายังไม่เข้าใจในเรื่องการให้นมที่ถูกต้องว่าควรให้จนถึงทารกอายุเท่าไหร่
2.มารดาสามารถให้นมลูกได้เเต่ยังมีคัดตึงเต้า เเละยังอุ้มลูกได้ท่าไม่ถูกวิธีในการให้นม
3.มารดาครรภ์ที่3ไม่ได้ทำหมัน
4.เมื่อสอบถามมารดาเรื่องการกลับบ้านจะดูเเลตนเองและบุตรอย่างไรมารดาสามารถบอกได้ เเต่ยังไม่ครอบคลุม
การประเมินมารดาหลังคลอด
ตามหลัก 13B
1.Background
ข้อมส่วนตัว
หญิงตั้งครรภ์ชาวไทย อายุ 36 ปี G3P2002 GA37+6wks by date ศาสนา พุทธ อาศัยอยู่บ้านเช่า7ชั้นผู้ป่วยอยู่ชั้นที่6มีลิฟท์ ไม่มีปัญหาด้านเศรษฐกิจ ประกอบอาชีพ เปิดร้านเสริมสวย
ไม่มีประวัติการทำแท้ง
น้ำหนักก่อนตั้งครรภ์ 54 กิโลกรัม ส่วนสูง 151 เซนติเมตร BMI 23.68
น้ำหนักปัจจุบัน 61.8 กิโลกรัม น้ำหนักที่ขึ้นตลอดการตั้งครรภ์ 7.8กิโลกรัม
อาการสำคัญ
เจ็บครรภ์ มีมูกเลือด 2ชั่วโมงก่อนมาโรงพยาบาล
ประวัติการเจ็บป่วยในครอบครัว
ปฏิเสธ
ประวัติการตั้งครรภ์
G1 ปี 2546 คลอดครบกำหนด วิธีการคลอด NL เพศชาย น้ำหนักแรกคลอด 2500 กรัม แข็งเเรงดี ไม่มีภาวะแทรกซ้อน
G2 ปี2562 คลอดครบกำหนด วิธีคลอดแบบ NL เพศชาย น้ำหนักเเรกคลอด 3300กรัม แข็งแรงดี ไม่มีภาวะแทรกซ้อน
G3 วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2565 เวลา 03.03นาที อายุครรภ์ 37+6wks by date น้ำหนักเเรกเกิด 2300 กรัม ฝากครรภ์ที่โรงพยาบาลตำรวจ 7ครั้ง
Apgar score 9,10,10
ประวัติการเจ็บป่วยปัจจุบัน
หญิงตั้งครรภ์ G3P2-0-0-2 GA 37+6wks by date (28/02/65) ฝากครรภ์ที่โรงพยาบาลตำรวจ 7 ครั้ง ได้รับวัคซีนป้องกันบาดทะยัก ครบ3เข็ม เมื่อปี 2562
ประวัติการเจ็บป่วยในอดีต/การผ่าตัด
ปฏิเสธ
2.Body condition
Day1
มารดาหลังคลอดรู้สึกตัวดี ทานอาหารได้ นอนหลับได้ สามารถขับถ่ายได้ตามปกติ ไม่มีแสบขัด น้ำนมเริ่มไหล ระดับการไหลของน้ำนม 1+คะเเนน pain score 2 คะเเนน บริเวณ ฝีเย็บ เเละ มดลูก
Day2
มารดาหลังคลอดรู้สึกตัวดี ทานอาหารได้ นอนหลับได้ สามารถขับถ่ายได้ตามปกติ ไม่มีแสบขัด น้ำนมเริ่มไหล ระดับการไหลของน้ำนม 2+คะเเนน pain score 1 คะเเนน บริเวณ เต้านม
3.Body temperature & Blood pressure
Day1
BT:36.3c
BP 126/81
PR 94 bpm
RR 18 bpm
O2sat99%
pain score 2
Day2
BT36.2
BP:123/65
RR 18bpm
PR 90
O2sat 99%
pain score1
4.Breast & Lactation
Day 1: หัวนมปกติ ไม่แตก หัวนมไม่สั้น บอด แบน และ บุ๋ม น้ำนมไหลซึม ระดับ1 ลูกดูดนมจากเต้าได้น้อย
5.Belly & Fundus
มีอาการปวดมดลูกดล็กน้อย pain score 2คะเเนน มดลูกหดรัดตัวดี ระดับยอดมดลูก5นิ้ว
6.Bladder
ไม่มี full bladder มารดาปัสสาวะ 5 ครั้ง ไม่มีอาการแสบขัด ปัสสาวะสีเหลืองใส ไม่มีตะกอน
7.Bleeding & Lochia
Day1
น้ำคาวปลามีสีแดงสด Lochia rubra ประมาณ150มิลลิลิตรเปลี่ยน pad 3แผ่น
น้ำคาวปลามีสีแดงสด Lochia rubra ประมาณ30 มิลลิลิตร เปลี่ยนpad2แผ่น
8.Bottom
ฝีเย็บ(perineum)
ประเมินตามหลักREEDA
1.Redness ความแดงของแผล = แผลแดงดี
2.Edema=แผลไม่บวม
3.Ecchymosis=ไม่มีเลือดคั่ง หรือมีก้อนเลือดใต้แผล
4.Discharge=ไม่มีเลือดไหลออกจากแผล
5.Approximation of edges=ไม่มีแผลปริแยก
6.Pain Score=2คะแนน
อวัยวะสืบพันธุ์ภายนอก
ไม่มีบวม ไม่มีการคั่งของก้อนเลือด ไม่มีเส้นเลือดดำขดพอง
บริเวรทวารหนัก
ไม่มีริดสีดวง ไม่มีบวม ไม่มีปวด
9.Bowel movement
Day1
ไม่ถ่ายอุจจาระ
Day2
ไม่ถ่ายอุจจาระ
10.Blues
มารดาสามารถปรับตัวกับทารกได้ดี มีความสนใจารก ไม่มีความเครียด
11.Baby
ทารกเพศชาย คลอดวันที่28 กุมภาพันธ์ 2565 เวลา 03.03นาที น้ำหนักแรกเกิด 2300 กรัม Apgar score ได้ 9,10,10คะเเนน No Problem at birth
ทารกไม่มี Caput succedaneum ไม่มี Cephalhematoma ไม่มีปากแหว่งเพดานโหว่ แขนขาขยับได้ตามปกติ ทารกมีAnus และมีอวัยวะสืบพันธ์ กระดูกสันหลังไม่มีคดงอ
12.Bonding & Attachment
มารดาหลังคอดมีปฏิสัมพันธ์กับทารกดี มีการสัมผัส อุ้ม พูด ประสานสายตา
13.Belief model
การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่
มารดาหลังคลอดมีความตั้งใจจะเลี้ยงดูบุตรเอง และจะเลี้ยงด้วยนมแม่
การคุมกำเนิด
มารดาไม่มีการทำหมัน มารดาจะใช้วิธีการคุมกำเนิดโดยใช้ ถุงยางอนามัย
การอยู่ไฟ
มารดาบอกว่าจะอยู่ไฟ เนื่องจากมีส่วนช่วยในการให้มดลูกเข้าอู่
ข้อวินิจฉัยทางการพยาบาล
มารดาเสี่ยงต่อภาวะตกเลือดหลังคลอด
ข้อมสนับสนุน
1.เสียเลือด 200 ml หลังคลอด
2.เปลี่ยนผ้าอนามัย 3รอบ ประมาณ150ml
วัตถุประสงค์
เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดภาวะตกเลือดหลังคลอด
เกณฑ์การประเมิน
1.ปริมาณเลือดไม่มากกว่า 50ml/hr
2.. •VIS อยู่ในเกณฑ์ปกติ
T = 36.5 - 37.4 องศาเซลเซียส
PR =60-100 bpm.
RR = 16-22 bpm.
BP = 90-120/60-80 mmHg. •
3.มดลูกหดรัดตัวดี
เลือดออกทางช่องคลอดไม่เกิน 500 ml.ใน 24 ชม.
แผลฝีเย็บไม่มีเลือดออก ไม่มี hematoma - ไม่มีอาการตัวเย็น
กิจกรรมการพยาบาล
1.ตรวจสัญญาณชีพทุก 15นาที 4ครั้ง ทุก30นาที 2ครั้ง และทุก 1 ชั่วโมง สังเกตระดับความรู้สึกตัว เเละอาการผิดปกติถ้าปกติให้ประเมินสัญญาณชีพทุก 4 ชั่วโมง
ถ้าพบความผิดปกติ เช่น ชีพจรเบา เร็ว ความดันโลหิตเพิ่มขึ้นในระยะเเรกและเริ่มลดต่ำลงในระยะหลัง ซีด ตัวเย็น ให้รายงานแพทย์ทราบ
2.ตรวจสภาพกระเพาะปัสสาวะ กระตุ้นให้มารดาปัสสาวะ เพื่อให้กระเพาะปัสสาวะว่างไม่ไปขัดขวางการหดรัดตัวของมดลูก
3.ตรวจคลึงมดลูกด้วยท่าที่นุ่มนวล เพื่อกระตุ้นให้กล้ามเนื้อมดลูดหดตัวเป็นระยะๆเส้นเลือดส่วนปลายปิดลดการเสียเลือด
4.สังเกตและบันทึกลักษณะ ปริมาณของเลือดที่ออกทางช่องคลอด
5.ประเมินฝีเย็บตามหลักREEDA
การประเมินผล
1.V/s(28/02/65)
bt:36.3c,BP 126/81,PR 94 bpm,RR 18 bpm
2.แผลฝีเย็บปกติ ไม่มีบวมแดง ไม่มี Discharge ซึม ไม่มีbleed ซึม ขอบแผลชิดติดกันดี
3.น้ำคาวปลาสีแดงปกติ
4.มารดาสามารถทำความสะอาดบริเวณอวัยวะสือบพันธุ์ได้อย่างถูกต้อง
มารดามีภาวะไม่สุขสบายหลังคลอด เนื่องจากมีอาการปวดแผล
ข้อมูลสนับสนุน
OD:pain score 2 คะเเนน
SD:มารดาบอกว่ามีปวดมดลูก และปวดแผลฝีเย็บ
วัตถุประสงค์ทางการพยาบาบ
เพื่อลดอาการปวดแผลของผู้ป่วย
เกณฑ์การประเมิน
1.คะแนนpain scoreของผู้ป่วยลดลง
2.ผู้ป่วยสามารถนอนหลับพักผ่อนได้
3.ผู้ป่วยไม่บ่นปวดแผล
กิจกรรมการพยาบาล
1. ประเมินอาการปวด โดยสอบถามเกี่ยวกับ อาการปวดมดลูกและสังเกตลักษณะของแผลฝีเย็บว่าบวมแดงหรือไม่
อธิบายให้มารดาหลังคลอดเข้าใจว่า อาการปวดของหญิงหลังคลอดทุกราย เนื่องจากการหดรัดตัวของมดลูกตามธรรมชาติ เพื่อให้มดลูกเข้าสู่อุ้งเชิงกราน
จัดท่าให้สุขสบาย สอนท่าให้นมบุตร โดยนั่งท่าฟุตบอล (Football hold)
4.ให้รับประทานยาบรรเทาปวด Paracetamal (500 mg) ทานครั้งละ 1 เม็ด ทุก6 ชั่วโมง เวลาปวดหรือมีไข้ ตามแผนการรักษาของแพทย์ เพื่อลดอาการเจ็บปวดและสุขสบายขึ้น ควรสังเกตอาการอย่างใกล้ชิดภายหลังจากการให้ยา
แนะนำมารดาในเรื่องการเคลื่อนไหว การเปลี่ยนอิริยาบถให้เปลี่ยนอย่างช้าๆ
และให้การพยาผู้ป่วยด้วยความนุ่มนวล
6.จัดสิ่งแวดล้อมให้สะอาดและสงบเพื่อให้มารดาได้พักผ่อนได้อย่างเพียงพอ
การประเมินผล
อาการปวดแผลลดลง pain score คะเเนน
มารดามีภาวะคัดตึงเต้านม
ข้อมูสนับสนุน
มารดาหลังคลอดบอกว่า “เต้านมคัดตึง
วัตถุประสงค์
อาการเต้านมคัดตึงลดลง
เกณฑ์การประเมิน
อาการเต้านมคัดตึงลดลง เต้านมไม่บวมแดง ร้อน น้ำนมไหลสะดวก
กิจกรรมการพยาบาล
1.อธิบายถึงสาเหตุที่ทำให้เต้านมคัดตึง คือ การให้ลูกดูดนมไม่ถูกวิธี ลูกอมหัวนมไม่ลึกถึงลานนม
2.ดูแลให้ยาแก้ปวดParacetamal (500 mg) ทานครั้งละ 1 เม็ด เม็ดทางปาก เวลาปวด ห่างกันทุก 4-6 ชั่วโมง
3.ดูแลใช้ผ้าขนหนูชุบน้ำอุ่นจัดประคบเต้านม 3- 5 นาที พร้อมกับนวดเต้านม
4.ดูแลบีบน้ำนมออกจากเต้าด้วยมือ จนกระทั่งลานนมนิ่ม ลูกสามารถคาบลานนมได้ติด
5.สอนและฝึกมารดาหลังคลอดนวดเต้านมและบีบน้ำนมออกจนเกลี้ยงเต้าด้วยตนเอง
6.ฝึกมารดาหลังคลอดประคบเต้านมและบีบน้ำนมด้วยตนเอง
7.แนะนำมารดาให้ลูกดูดนมบ่อยขึ้น อย่างน้อยทุก 1-2 ชั่วโมงให้เวลาลูกดูดอย่างน้อย 15-20 นาที
8.ดูแลหลังลูกดูดนมเสร็จแล้วใช้ผ้าชุบน้ำเย็นมาประคบเต้านม เพื่อบรรเทาอาการปวด
9.ติดตามและฝึกมารดาหลังคลอดให้ทำด้วยตนเอง จะทำให้มารดาหลังคลอดเกิดความมั่นใจในการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่และประสบผลสำเร็จ
การประเมินผล
มารดามีอาการคัดตึงเต้านมลดลง เต้านมไม่บวม อาการปวดลดลง
เสี่ยงต่อการติดเชื้อในระยะหลังคลอดเนื่องจากมีแผลในโพรงมดลูก แผลฝีเย็บ บวมช้ำ
ข้อมูลสนับสนุน
-มารดาคลอดแบบNormal labor เเผลฝีเย็บ tare ระดับ2
วัตถุประสงค์
เพื่อไม่มีการติดเชื้อในร่างกาย
เกณฑ์การประเมิน
1.ฝีเย็บปกติ ไม่มีบวม แดง ช้ำ ขอบแผลชิดติดดี
2.น้ำคาวปลาปกติ ไม่มีกลิ่นเหม็น สีไม่ขุ่น
3.Vital signs ปกติ โดยเฉพาะอุณหภูมิ ต้องไม่มีไข้
4.มารดาสามารถทำความสะอาดแผลฝีเย็บได้ถูกต้องและรู้วิธีการดูแล
กิจกรรการพยาบาล
ประเมินลักษณะของแผลฝีเย็บและน้ำคาวปลา ถ้าพบอาการผิดปกติ เช่น แผลฝีเย็บบวม แดง น้ำคาวปลามีกลิ่นเหม็น ควรรายงานแพทย์เพื่อให้การรักษา
ดูแลและแนะนำการทำความสะอาดอวัยวะสืบพันธุ์ ทุกครั้งหลังถ่ายปัสสาวะและอุจจาระ โดยการเช็ดทำความสะอาดจากด้านหน้าไปด้านหลังไม่เช็ดย้อนไปมา เพราะจะทำให้นำเชื้อจากทวารหนักเข้าสู่ช่องคลอดและแผลฝีเย็บทำให้เกิดการติดเชื้อได้
แนะนำให้เปลี่ยนผ้าอนามัยทุกครั้งที่น้ำคาวปลาเปียกชุ่ม หรือทุก 3 ชั่วโมง อย่าปล่อยให้น้ำคาวปลาหมักหมมจะเป็นแหล่งเพาะเชื้อ ก่อให้เกิดการติดเชื้อได้
จัดหาและแนะนำให้รับประทานอาหารที่มีโปรตีนสูง เช่น เนื้อสัตว์ ไข่ นม ถั่ว ผักและผลไม้เพราะอาหารที่มีโปรตีนและวิตามินซีจะช่วยในการซ่อมแซมเนื้อเยื่อช่วยให้แผลหายเร็วขึ้น
ตรวจวัดระดับยอดมดลูกทุกวันในช่วงเวลาเดียวกัน เพื่อประเมินการติดเชื้อในโพรงมดลูกและก่อนตรวจให้มารดาหลังคลอดถ่ายปัสสาวะก่อนทุกครั้ง
ตรวจและบันทึกสัญญาณชีพทุก 4 ชั่วโมง โดยเฉพาะอุณหภูมิร่างกาย ถ้ามีไข้จะบ่งบอกถึงมีอาการติดเชื้อ
ส่งเสริมให้ปัสสาวะไหลสะดวกตลอดเวลา กระตุ้นให้ดื่มน้ำบ่อยๆ
8.ภายหลังการทำความสะอาดแล้วควรซับให้แห้ง ไม่ควรใช้แป้ง ครีม หรือขี้ผึ้งทา
9. แนะนำให้ผู้ป่วยไปอาบน้ำและทำความสะอาดอวัยวะสืบพันธุ์ที่ห้องน้ำ
การประเมินผล
1.แผลฝีเย็บแดงดี ไม่มีบวม ไม่มีช้ำ ไม่มีก้อนเลือด ขอบแผลชิดติดกันดี
2.น้ำคาวปลาสีแดง ไม่มีกลิ่นเหม็น
3.Vital signs (01/03/65)
BP:123/65
BT:36.2
PR:90
RR:18
O2sat 99%
4.มารดาสามารถทำความสะอาดฝีเย็บได้อย่างถูกต้อง
มารดาเสี่ยงต่อภาวะท้องผูกเนื่อจากลำไส้ จากลำไส้ยังทำงานได้ไม่ดี
ข้อมูลสนับสนุน
1.มารดาไม่อุจจาระ 2วันหลังคลอด (28/02/65-01/03/65)
วัตถุงประสงค์
มารดาไม่เกิดอาการท้องผูก
เกณฑ์การประเมินผล
1.มารดามีอาการเเสดงถึงการทำงานของลำไส้ เช่น การเรอ การผายลม
2.มารดาไม่เกิดอาการท้องอืด
กิจกรรการพยบาล
1.ดูแลให้มารดาดื่มน้ำวันละ2000-3000ลิตรต่อวัน
2.กระตุ้นให้มามีการเคลื่อนไหวหลังผ่าตัด โดยเริ่มจากการพลิกตะเเครงตัวทุก2-3ชั่วโมง หลังจากนั้นให้เริ่มลุกเดินรอบๆเตียงเเละเดินไปสถานที่ใกล้ๆได้ด้วยตนเอง เช่น ห้องน้ำเพื่อลำไส้ตะได้มีการเคลื่อนไหวตัวได้ดีไม่เกิดการท้องผูก
3.จัดสภาพแวดล้อมรอบเตียงมารดาให้สัอาดและอากาศถ่ายเทอยู่เสมอเพื่อให้มารดารู้สึกสบายในการเคลื่อนไหวเเละเพิ่มบรรยากาศในการรับประทานอาหารมากขึ้น
ประเมินผล
1.มารดาบอกว่ามีผายลมอยู่บ้าง
2.มารดายังไม่ขับถ่าย (01/03/65)
มารดาเสี่ยงพลัดตกหกล้มหลังคลอดเนื่องจากการเคลื่อนไหวยังไม่ดี
ข้อมูลสนับสนุน
1.มารดาอยู่ในช่วงหลังคลอด 24 ชั่วโมง
วัตถุประสงค์
เพื่อให้มารดาไม่เกิดการพลัดตกหกล้ม
เกณฑ์การประเมิน
1.มารดาไม่มีการอาการวิงเวียนศรีษะ หน้ามืด
2.มารดาสามารถเดินไปเข้าห้องน้ำได้ตามปกติ
กิจกรรมการพยาบาล
1.การลงจากเตียงคร้ังแรกภายหลังคลอด ไม่ควรลงจากเตียงก่อน 8 ชั่วโมงหลังคลอด
3.ให้เปลี่ยนอิริยบทช้าๆและนั่งห้อยยขาบนเตียงนาน 10 นาที ถ้าไม่มีอาการหน้ามืด เวียนศีรษะ ให้พยุงเดินทำกิจวัตรประจำวันได้ตามปกติ แต่กรณีหน้ามืดให้พยาบาลดูแลอย่างใกล้ชิด
4.แนะนำมารดาให้ใช้อุปกรณ์ที่สามารช่วยเหลือได้ เช่น ราวกั้นเตียง เพื่อกั้นการพลัดตกจากเตียง ใช้สำหรับจับได้ สัญญาณเรียกในห้องน้ำ
5.จัดสภาพแวดล้อมให้ของใช้จำเป็นอยู่ใกล้ตัวมารดา เช่น โทรศัพท์ ชามรูปไต เเก้วน้ำ
2.ให้ปัสสาวะบนเตียงโดยใช้หม้อนอนรองเมื่อต้องการปัสสาวะถ้าปัสสาวะเองไม่ได้ ใหแจ้งพยาบาลทันทีแต่ถ้าปัสสาวะเองไดแล้ว คร้ังถัดไปให้ลุกเจ้าห้องน้ำ
การประเมินผล
1.มารดา ไม่มีการวิงเวียน หน้ามืด
2.มารดาสามารถทำกิจวัตรประจำวันทุกอย่างได้ด้วยตนเอง เช่นไปเข้าห้องน้ำ