Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
หน่วยที่7 ระบบนิเวศและความหลากหลายทางชีวภาพ - Coggle Diagram
หน่วยที่7 ระบบนิเวศและความหลากหลายทางชีวภาพ
วัฎจักรของสาร
วัฎจักรคาร์บอนเป็นองค์ประกอบสำคัญอย่างหนึ่งของสารที่พบในสิ่งมีชีวิตทุกชนิด คาร์บอนไดออกไซด์ในบรรยากาศถูกพืชนำมาเปลี่ยนแปลงเป็นสารอินทรีย์ที่มีคาร์บอน เป็นองค์ประกอบในพืชโดยกระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสง
วัฎจักรไนโตรเจนเป็นธาตุสำคัญเพราะเป็นองค์ประกอบของโปรตีนในสิ่งมีชีวิต
วัฎจักรฟอสฟอรัสเป็นธาตุสำคัญ 1ใน 3 ชนิด สำหรับการเจริญเติบโตของพืช
วัฎจักรน้ำเป็น การเปลี่ยนแปลงสถานะของน้ำระหว่างของเหลว ของแข็งและแก๊ส ในวัฏจักรน้ำจะมีการเปลี่ยนแปลงสถานะจากสถานะหนึ่งไปยังอีกสถานะหนึ่งอย่างต่อเนื่องไม่มีสิ้นสุด
โครงสร้างของระบบนิเวศ
2.แหล่งที่อยู่
บริเวณที่มีสิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่ เช่น บริเวณทุ่งหญ้า ในหนองน้ำ เป็นต้น
3.สิ่แวดล้อม
เป็นองค์ประกอบที่ไม่มีชีวิต ซึ่งมีความสัมพันธ์และเกี่ยวข้องกับระบบนิเวศ เช่น แสง อุณหภูมิ น้ำ ดิน แร่ธาตุ อากาศ เป็นต้น
1.กลุ่มสิ่งมีชีวิต
1.1ผู้ผลิต หมายถึง สิ่งมีชีวิตที่สามารถสร้างอาหารได้เอง โดยการนำพลังงานแสงมาเปลี่ยนสารอนินทรีย์ให้เป็นสารอินทรีย์
1.2ผู้บริโภค หมายถึง สิ่งมีชีวิตที่ไม่สามารถสร้างอาหารได้เอง ต้องบริโภคผู้ผลิตหรือผู้บริโภคด้วยกัน จำแนกเป็น 4 พวก คือ ผู้บริโภคพืช ผู้บริโภคสัตว์ ผู้บริโภคทั้งพืชและสัตว์ ผู้บริโภคซากอินทรีย์
1.3ผู้ย่อยสลายอินทรียสาร หมายถึง สิ่งมีชีวิตที่แปรสภาพอาหารจากสารประกอบอินทรีย์ให้เป็นสารประกอบอนินทรีย์โดยจุลินทรีย์ประเภทต่างๆที่ไม่สามารถสร้างอาหารได้เอง
ความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งมีชีวิตในระบบนิเวศ
1.ภาวะพึ่งพา (+,+) หมายถึง การอยู่ร่วมกันของสิ่งมีชีวิต 2 ชนิด โดยต่างก็ได้รับประโยชน์ซึ่งกันและกัน หากแยกกันอยู่จะไม่สามารถดำรงชีวิตต่อไปได้ เช่น ไลเคนส์ โพรโทซัวในลำไส้ปลวก
2.ภาวะได้ประโยชน์ร่วมกัน (+ ,+) หมายถึง การอยู่ร่วมกันของสิ่งมีชีวิต 2 ชนิด โดยก็ได้รับประโยชน์ซึ่งกันและกัน แม้แยกกันอยู่ก็สามารถดำรงชีวิตได้ตามปกติ เช่น แมลงกับดอกไม้ มดดำกับเพลี้ย
3.ภาวะแบบอิงอาศัยหรือภาวะแบบเกื้อกูล (+ , 0) หมายถึง การอยู่ร่วมกันของสิ่งมีชีวิต 2 ชนิด โดยฝ่ายหนึ่งได้ประโยชน์ อีกฝ่ายหนึ่งไม่ได้และไม่เสียประโยชน์ เช่น ปลาฉลามกับเหาฉลาม กล้วยไม้ที่อยู่บนต้นมะม่วง
4.ภาวะแบบปรสิต (+ , -) หมายถึง การอยู่ร่วมกันของสิ่งมีชีวิต 2 ชนิด โดยฝ่ายหนึ่งได้ประโยชน์ เรียกว่า ปรสิต (parasite) อีกฝ่ายหนึ่งเสียประโยชน์เรียกว่าผู้ถูกอาศัย (host) เช่น พยาธิในร่างกายสัตว์ เห็บบนร่างกายสัตว์
5ภาวะแบบล่าเหยื่อ (+ , -) หมายถึง การอยู่ร่วมกันของสิ่งมีชีวิตโดยฝ่ายหนึ่งจับอีกฝ่ายหนึ่งเป็นอาหาร เรียกว่า ผู้ล่า (predator) ส่วนฝ่ายที่ถูกจับเป็นอาหารหรือถูกล่า เรียกว่า เหยื่อ (prey). เช่น เสือกับกวาง
6.ภาวะแบบแข่งขัน (- ,-) หมายถึง การอยู่ร่วมกันของสิ่งมีชีวิตที่มีการแย่งปัจจัยในการดำรงชีพเหมือนกันจึงทำให้เสียประโยชน์ทั้งสองฝ่าย เช่น เสือ , สิงโต , สุนัขป่าแย่งชิงกันครอบครองที่อยู่อาศัยหรืออาหารพืชหลายชนิดที่เจริญอยู่ในบริเวณเดียวกัน เป็นต้น
7.ความสัมพันธ์แบบเป็นกลางต่อกัน (0 , 0) เป็นการอยู่ร่วมกันของสิ่งมีชีวิตที่เป็นอิสระต่อกันจึงไม่มีฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดได้หรือเสียประโยชน์ เช่น นกกับกระต่ายในทุ่งหญ้า
ประชากรในระบบนิเวศ
ขนาด หมายถึง จำนวนของประชากรในแต่ละพื้นที่
โครงสร้าง หมายถึง องค์ประกอบของประชากร ซึ่งแบ่งตามอายุ และเพศ
ความหนาแน่น หมายถึง จํานวนประชากรที่นับต่อหนึ่งหน่วยพื้นที่ เช่น จำนวนต้นไม้ 150 ต้นต่อไร่
การเพิ่มจำนวน หมายถึง การเปลี่ยนแปลงขนาดของประชากรที่เป็นผลรวมสุทธิระหว่างอัตราการเกิด การตาย
ประชากร หมายถึง สิ่งมีชีวิตชนิดเดียวกันที่อยู่ร่วมกัน ในพื้นที่ใดพื้นที่หนึ่ง และเป็นส่วนหนึ่งของชุมชน คุณลักษณะของประชากร ประกอบด้วย
ประชากร หมายถึง สิ่งมีชีวิตชนิดเดียวกันที่อยู่ร่วมกัน ในพื้นที่ใดพื้นที่หนึ่ง และเป็นส่วนหนึ่งของชุมชน คุณลักษณะของประชากร ประกอบด้วย
ประเภทของระบบนิเวศ
ระบบนิเวศบนบก (Terrestrial Ecosystems) เป็นระบบนิเวศที่ปรากฏอยู่บนพื้นดินซึ่งแตกต่างกันไปโดยใช้ลักษณะเด่นของพืชเป็นหลักแบ่ง ซึ่งขึ้นกับปัจจัยสำคัญ 2 ประการ คือ อุณหภูมิและปริมาณน้ำฝน ทำให้พืชพรรณต่างๆ แตกต่างกัน
ระบบนิเวศทางน้ำ (Aquatic Ecosystems) เป็นระบบนิเวศในแหล่งน้ำต่าง ๆ ของโลก ซึ่งโครงสร้างหลัก
คือ น้ำนั่นเอง