Please enable JavaScript.

Coggle requires JavaScript to display documents.

ระบบสืบพันธ์ุ (Reproductive System), ภาวะหนังหุ้มปลายองคชาตตบี (Phimosis),…

- - - - สร้างเชื้ออสุจิ(sperm)
      - สร้างฮอร์โมนเพศชาย
    - - 1.อวัยวะสืบพันธ์ุภายนอกของเพศชาย
        
        1.1ถุงอัณฑะ(Scrotum)
        
        มีกล้ามเนื้อเรียบเรียกว่าDartosmuscleและCremastermascle
        
        ช่วยปรับอุณหภูมิของอัณฑะให้ต่ำกว่าอุณหภูมิของร่างกาย 3-5 องศาเซลเซียส
        
        ไม่มีไขมันใต้ผิวหนังและยื่นลงมาจากหน้าท้อง
        
        การทดสอบการหดตัวของถุงอัณฑะ(Cremastericreflex)
        
        1.2 องคชาต (Penis)
        
        ประกอบด้วยเนื้อเยื่อท่ีแข็งตัว ได้(Erectiletissue)3อัน คอื
        
        Corpuscavernosumหรือcorporacavernosum2อัน อยู่ทางด้านบน
        
        Corpus spongiosum 1 อัน อยู่ทางด้านล่าง มี urethra ผ่านกลาง
        
        Pearly Penile Papules (Tyson Glands)
      - 2.อวัยวะสืบพันธ์ุภายในของเพศชาย
        
        2.2ท่อพักอสุจิ(Epididymis)
        
        วางตัวติดกับด้านหลังของอัณฑะ
        
        มีหน้าที่สำคัญคือเก็บspermไว้จนกว่าจะโตเต็มท่ีเพื่อพร้อมที่จะหลั่งออก
        
        2.3 ท่อนำอสุจิ (Vas deferens or Ductus deferens)
        
        เป็นท่อที่ต่อจากหางของepididymisและมีส่วนที่พองออกเป็นกระเปราะเรียกว่า Ampulla of vas deferens ซึ่งเป็นที่เก็บอสุจิก่อนปล่อยออกสู่ภายนอก
        
        เป็นที่เก็บอสุจิก่อนปล่อยออกสู่ภายนอก(อสุจิสามารถมีชีวิตอยู่ได้4เดือน)
        
        2.1 อัณฑะ (Testis)
        
        ขอบด้านหน้ากลมขอบหลังจะติด
        กับหลอดเก็บอสุจิ (Epididymis)
        
        ภายในมีท่อสร้างอสุจิ
        (Seminiferous tubule)
        
        มีลักษณะรูปไข่
        
        2.4ถุงพักอสุจิ(SeminalVesicle)
        
        อยู่ด้านหลังกระเพาะปัสสาวะ
        
        ทำหน้าท่ีสร้างน้ำกาม(Semen)เพื่อ
        เป็นอาหารมาเลี้ยงsperm
        
        2.5 ท่อฉีดอสุจิ (Ejaculatory Duct)
        
        เปิดเข้าสู่ Prostatic urethra ตรงบริเวณต่อมลูกหมาก
        
        ทำหน้าที่บีบตัวเพื่อขับน้ำอสุจิ (Semen)
        
        2.6ต่อมลูกหมาก
        (ProstateGland)
        
        อยู่ด้านล่างกระเพาะปัสสาวะ และหลัง pubic symphysis
        
        มีหน้าที่สร้าง Prostate fluid ที่มีฤทธ์ิเป็น ด่างอ่อนๆ
        
        2.7 ต่อมน้ำเมือก (Bulbo-urethral Gland หรือ Cowper’s gland)
        
        มีรูปปร่างกลมเท่าเม็ดถั่ว
        
        มีหน้าท่ีหลั่งสารเมือกเพื่อช่วยหล่อลื่น
        ขณะร่วมเพศ และจะช่วยลดความเป็นกรดของน้ำปัสสาวะที่ค้างอยู่ในท่อปัสสาวะ
    - - ส่ วนกลาง (Body) เป็นส่วนคอมี Mitochondia จำนวนมาก
      - ส่วนหาง (Tail) เป็น Flagellum
      - ส่วนหัว (Head) มีลักษณะกลมรี มีสารพันธุกรรมและAcrosome บรรจุเอนไซม์ที่ช่วยในการเจาะเข้าสู่ไข่ (Ovum)
  - - - 1.4 คลิตอริส (Clitoris)
        
        ภายในประกอบด้วยเนื้อเยื่อที่แข็งตัวได้(Erectiletissue)
        
        เทียบได้กับอวัยวะเพศชายคือ Penis
      - 1.5 Vestibule
        
        เป็นบริเวณตั้งแต่clitorisจนถึงfourchette
        
        และอยู่นอกhymenมีช่องสำคัญๆมาเปิดคือ
        vagina urethral orifice และ bartholin duct
      - 1.3แคมเล็ก (Labiaminora)
        
        ด้านล่างจะมารวมกันเป็นFourchette
        
        ทำหน้าที่ล้อมรอบและปกปิดรูเปิดของ
        ท่อปัสสาวะและช่องคลอด
      - 1.6 Bartholin gland
        
        เป็นต่อมท่ีสำคัญที่หน้าที่ขับเมือกสีเหลืองข้นๆออกมาช่วยหล่อลื่นช่องคลอดระหว่างร่วมเพศ
      - 1.2แคมใหญ่(Labiamajora)
        
        มีลักษณะเป็นกลีบเนื้อนูน
        
        เทียบเท่ากับ Scrotumของเพศชาย
      - 1.7 Skene’s glands หรือ paraurethral gland
        
        เป็นช่องเปิดเล็กๆ2ช่องเทียบเท่ากับต่อมลูกหมากในเพศชาย
      - 1.1 เนินหัวเหน่า (Mons pubis)
        
        มีหน้าที่ป้องกันนการกระแทกของกระดูกหัวหน่าว(Pubicbone)ในขณะร่วมเพศ และสร้างกลิ่นทางเพศ(Pheromone)จากต่อมสร้างกลิ่นที่อยู่ในผิวหนังของหัวหน่าว
      - 1.8 เยื่อพรหมจารี (Hymen)
        
        เป็นเยื่อท่ียืดหดได้ปิดปากช่องคลอดเกือบหมดเว้นช่องเล็กๆไว้ตรงกลางเพื่อให้ประจำเดือนผ่าน
    - - 2.3ปากมดลกู (Cervix)
        
        •Internal os เปิดเข้าสู่โพรงมดลูก
        
        •External os ยื่นเข้าไปในช่องคลอด
      - 2.4 ท่อรังไข่หรือปีกมดลูก (Uterine หรือ Fallopian tube)
        
        ทำหน้าที่เก็บเซลล์ไข่ที่หลุดออกจากรังไข่เป็นบริเวณที่เกิดการปฏิสนธิ และนาเซลล์ไข่ที่ผสมติด แล้วเดินทางเข้าสู่โพรงมดลูก
        
        แบ่งออกเป็น4ส่วนคือ
        
        Interstitial portion (Cornu)
        
        Isthmus
        
        Ampulla
        
        Infundibulum
      - 2.2มดลูก (Uterus)
        
        • อยู่ใน Pelvic cavity ด้านหน้าเป็น urinary bladder ด้านหลังเป็น rectum
        
        มดลูก แบ่งออกเป็น4ส่วน
        
        ยอดมดลูก (Fundus)
        
        ตัวมดลูก (Bodyหรือcorpus)
        
        Isthmus
        
        ปากมดลูก (Cervix )
        
        เอ็น (Ligament)ที่ยึดมดลูก (Uterus)
        
        Broad ligament
        
        Round ligament
        
        Uterosacral ligament
        
        Transverse cervical ligament หรือ (Cardinal ligament)
      - 2.5 รังไข่ (Ovary)
        
        หน้าท่ีของรังไข่
        
        สร้างไข่ (Ovum)
        
        2.สร้างฮอร์โมน2ชนิดคือ EstrogenและProgesterone
        
        ทำหน้าท่ีสร้างเซลล์ไข่ (Oogenesis) และสร้างฮอร์โมนเพศหญิง
        
        รังไข่ช้ันนอก (cortex)
        
        Primodial follicle
        
        รังไข่ช้ันใน (medulla)
        
        เส้นเลือดและเส้นประสาท
      - 2.1 ช่องคลอด (Vagina)
        
        • มีหน้าที่เป็นทางผ่านของเชื้ออสุจิเข้าภายในและเป็นทางผ่านของเด็ก ขณะคลอด
        
        • เยื้อบุภายในช่องคลอดสามารถสลายตัวเกิดกระดูขาวปกติในช่องคลอด
      - เอ็น (ligament)ที่ยึด ovaryกบั uterus
        
        Ovarian ligament
        
        Suspensory ligament of ovary
        
        Mesovarium
      - เต้านม (Mammary gland หรือ Breasts)
- - - - โครโมโซมมนุษย์มีทั้งหมด 23 คู่
      - คู่ที่ 1-22 เป็ น Autosomal chromosomes และ คู่ที่ 23 เป็น Sex chromosomes
    - - XY chromosome
        
        มีการแสดงออกของ SRY gena
        
        กระตุ้น Primordial gonad
        
        Testes
        
        Sertoli cells
        
        หลั่งฮอร์โมนMIS
        
        1 more item...
        
        Leydig cells
        
        หลั่งฮอร์โมน Testosterone
        
        1 more item...
    - - XX chromosome
        
        ไม่มีการแสดงออกของ SRY gene
        
        ไม่มีการผลิตTDF
        
        กระตุ้น Primordial gonad
        
        Ovaries
        
        ไม่มีฮอร์โมนMIS
        
        1 more item...
        
        ไม่มีฮอร์โมน Testosterone
        
        1 more item...
  - - - Spermatogenesis/Gametogenesis
      - Steroidogenesis→Testosterone
    - - อัณฑะ(Testes)
        
        สร้างอสุจิ(Sperm)
        
        ผลิต Testosterone
        
        Sertoli cells มีกระบวนการ Spermatogenesis สร้างอสุจิ (Sperm)
        
        Leydig cells มีกระบวนการ Steroidogenesis ผลิตฮอร์โมน Testosterone
    - - Spermatogonium
        
        1°Spermatocyte
        
        2° Spermatocyte
        
        Spermatids
        
        Sperm
    - - Sperm
        
        Spermatozoon
        
        Spermatozoa (plural)
      - Semen
        
        2-5ml/time
        
        200 - 300 million sperm
        
        Seminal fluid
        
        Slightly alkaline
        
        pH7.0-7.5
  - - - Oogenesis and Ovarian cycle
      - Estrogen, Progesterone
    - - รังไข่ (Ovaries)
        
        สร้างไข่ (Ovum)
        
        ผลิต Estrogen, Progesterone
        
        Follicle ผลิตฮอร์โมน Estrogen
        
        Corpus luteum ผลิตฮอร์โมน Progesterone
    - - Uterus, Fallopian tube, Vagina, Mammary glands
    - - อยู่ในท้องแม่ (Pre-natal)
        
        หลังคลอด (Post birth)
        
        1°Oocyte
        
        หลังมีประจำเดือน(Post1°menstruation)
        
        2°Oocyte
        
        หลังปฏิสนธิ (Post fertilization)
        
        1 more item...
    - - Human chorionic gonadotropin (hCG) ฮอร์โมนของการตั้งครรภ์ที่ใช้เป็นตัวบ่งชี้ว่าตั้งครรภ์หรือไม่ผลิตขึ้นจากเซลล์รกของทารกซึ่ง สามารถตรวจพบได้ในเลือดและปัสสาวะ
    - - Dilation phase
        
        Expulsion phase
        
        Placental phase
    - - Oxytocin
        
        หลั่งน้ำนม
      - Prolactin
        
        ผลิตน้ำนม