Please enable JavaScript.

Coggle requires JavaScript to display documents.

Previous c/s - Coggle Diagram

- - - - วัตถุประสงค์การพยาบาล เพื่อให้มารดาปลอดภัยจากภาวะแทรกซ้อนหลังได้รับยาระงับความรู้สึกเข้าช่องไขสันหลัง (Spinal block)
        
        เกณฑ์การประเมิน
        1.ไม่มีความดันโลหิตต่ำ สัญญาณชีพอยู่ในเกณฑ์ปกติ คือ ความดันโลหิตไม่ต่ำกว่า 90/60 mmHg ชีพจรไม่เกิน130ครั้ง/นาที อัตราการหายใจ 16-24 ครั้ง/นาที
        2.ไม่มีอาการคลื่นไส้อาเจียน ไม่ปวดศีรษะ
        3.ผิวไม่ซีด เล็บมือเท้าไม่เขียว
        
        กิจกรรมการพยาบาล
        1.ประเมินระดับความรู้สีกตัวโดยเรียก ชื่อนามสกุล การรู้จักเวลา สถานที่ เพื่อประเมินระดับความรู้สึกตัวของมารดา
        2.จัดท่าให้นอนราบหนุนหมอน เพื่อป้องกันการปวดศีรษะและเกิดอาการคลื่นไส้
        3.วัดและประเมินสัญญาณชีพทุก 15 นาที 4 ครั้ง ทุก 30 นาที 2 ครั้งและทุก1ชั่วโมงจนกว่าสัญญาณชีพจะคงที่ เพื่อประเมินการทำงานของระบบหายใจ
        4.สังเกตและบันทึกอาการของการขาดออกซิเจน เช่น กระสับกระส่าย เล็บมือเท้าเขียว หายใจลำบาก
        5.ดูแลให้มารดาได้รับสารน้ำตามแผนการรักษาเพื่อรักษาสมดุลของน้ำและเกลือแร่ในร่างกายและป้องกันความดันโลหิตต่ำ
        
        การประเมินผล
        1.สัญาณชีพ
        11.00 น. BP104/55 mmHg PR58ครั้ง/นาที RR20ครั้ง/นาที T35.3องศาเซลเซียส
        11.15 น. BP106/58mmHg PR56ครั้ง/นาที RR20ครั้ง/นาที
        11.30 น. BP104/64mmHg PR56ครั้ง/นาที RR18ครั้ง/นาที
        11.45 น. BP102/56mmHg PR70ครั้ง/นาที RR20ครั้ง/นาที
        2.ไม่มีอาการคลื่นไส้อาเจียน ไม่ปวดศีรษะ
        3.ผิวไม่ซีด เล็บมือเท้า ไม่เขียว
  - - - เกณฑ์การประเมินผล
        1.มารดาปวดแผลลดลง paint score น้อยกว่าเท่ากับ 3
        2.สีหน้าสุขสบาย นอนหลับพักผ่อนได้
        
        กิจกรรมการพยาบาล
        1.ประเมินความเจ็บปวดของอาการปวดแผลผ่าตัดด้วยการสอบถาม สังเกตสีหน้าและใช้การประเมินpain scoreเพื่อนำไปการวางแผนการพยาบาลและเลือกวิธีบรรเทาอาการปวด
        2.ให้คำแนะนำมารดาในการปฏิบัติตัว ดังนี้
        
        นอนในท่าที่สบาย เพื่อบรรเทาอาการปวดเมื่อมารดารู้สึกตัวดีจัดให้ให้นอนท่าศีรษะสูง ชันเข่าเพื่อให้กล้ามเนื้อหน้าท้องหย่อนตัว ลดการดึงรั้งของแผล
        
        ใช้มือหรือหมอนประคองแผลผ่าตัดขณะไอ หรือ มีการเคลื่อนไหว เพื่อลดการกระทบกระเทือนแผลผ่าตัด
        3.ให้การพยาบาลหลายๆอย่างในครั้งเดียว และ ให้การพยาบาลด้วยความนุ่มนวลเพื่อลดการกระทบกระเทือนแผลผ่าตัด
        4.พูดคุยให้กำลังใจมารดาเพื่อให้มารดารู้สึกผ่อนคลายช่วยให้ลดความเจ็บปวด
        
        การประเมินผล
        1.pain score 2
        2.มารดานอนหลับพักผ่อนได้
  - - - วัตถุประสงค์
        เพื่อป้องกันภาวะตกเลือดในระยะหลังผ่าตัดคลอดทางหน้าท้อง
        
        เกณฑ์การประเมินผล
        1.น้ำคาวปลาควรออกไม่เกิน 50 ml./hr
        2.ภายใน24ชม.ไม่มีเลือดออกมากกว่า 1000 ml.
        3.ไม่มีอาการแสดงของภาวะช็อคจากการเสียเลือด ได้แก่ หน้ามืด ใจสั่น เหงื่ออก ตัวเย็น ซีด ชีพจรเบาเร็ว ความดันโลหิตต่ำ
        4.ไม่มีactive bleedบริเวณแผลผ่าตัด
        
        กิจกรรมการพยาบาล
        1.บันทึกสัญญาณชีพทุก 15 นาที 4 ครั้งจนมีอาการปกติ บันทึกทุก 30 นาที 2 ครั้ง หลังจากนั้นบันทึก ทุก 4 ชั่วโมง เพื่อสังเกตอาการเปลี่ยนแปลงที่ผิดปกติและให้การช่วยเหลือได้ทันที
        2.ดูแลให้ได้รับสารน้ํา Acetar 1000 ml + Oxytocin 20 unit IV / 5% DN/2 1000 ml IV x 3 ตามแผนการรักษา เพื่อกระตุ้น ให้มดลูกหดรัดตัวและป้องกันภาวะ dehydrate
        3.ดูแลสายfoeley’s catheter ไม่ให้หักพับงอและบันทึกปริมาณปัสสาวะที่ออกโดยให้ปริมาณที่ออกมากกว่า30ml/hrเพื่อป้องกันไม่ให้กระเพาะปัสสาวะเต็มเพราะไปขัดขวางการหดรัดตัวของมดลูก
        4.สังเกตลักษณะและจํานวนน้ำคาวปลาและเลือดที่ออกทางช่องคลอด โดยสังเกตจากความชุ่มของผ้าอนามัย ให้เปลี่ยนผ้าอนามัยทุก 2-4 ชั่วโมงหรือเมื่อผ้าอนามัยเปียกชุ่ม
        5.สังเกตระดับความรู้สึกตัวและอาการผิดปกติ เช่น หน้ามืด ใจสั่น เหงื่อออก ตัวเย็น ซีด เพื่อประเมินการตอบสนองของร่างกายต่อปริมาณเลือดที่ลดลงในระบบไหลเวียนเลือด
        
        ดูแลให้มารดาพักอย่างเพียงพอ จัดการลําดับขั้นตอนการพยาบาลอย่างเหมาะสม เพื่อไม่ให้เกิดการรบกวนมารดาในระหว่างที่มารดาพักผ่อน
        
        การประเมินผล
        1.น้ำคาวปลาเป็น rubra ปริมาณ 30 ml. (เวลา13.30น.)
        2.Blood loss = 400 ml.
        3.มารดาไม่มีอาการหน้ามืด ใจสั่น เหงื่ออก ตัวเย็น ซีด ชีพจรเบาเร็ว ความดันโลหิตต่ำ
        11.00น. PR=58bpm BP=104/55mmHg
        11.15น. PR=56bpm BP=106/58mmHg
        11.30น. PR=56bpm BP=104/64mmHg
        11.45น. PR70bpm BP=102/56mmHg
        4.บริเวณแผลผ่าตัดไม่มีเลือดซึม
  - - - วัตถุประสงค์การพยาบาล
        1.มารดาสามารถเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ได้
        
        เกณฑ์การประเมินผล
        1.มีทักษะในการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ได้ ได้แก่ สามารถอุ้มลูกดูดนมได้ถูกวิธี บีบน้ำนมออกจากเต้าได้
        2.ไม่มีภาวะแทรกซ้อน เช่น หัวนมแตก เต้านมคัด
        3.LATCH score > 8
        
        กิจกรรมการพยาบาล
        1.พูดคุยให้คำแนะนำให้ความรู้ถึงประโยชน์ของนมแม่ที่มีต่อลูกและแม่ แนะนำให้เลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างเดียวนาน6เดือนเพราะน้ำนมแม่มีประโยชน์ มีคุณค่าทางสารอาหารสูง และมีภูมิคุ้มกันสูง
        2.ให้คำแนะนำสอนและฝึกปฏิบัติการให้นมลูกในท่าที่ถูกต้องและสอนวิธีการให้นมอย่างถูกวิธีดังนี้ - อุ้มในท่า football hold ลูกจะอยู่ในท่ากึ่งนอนตะแคง กึ่งนอนหงาย มารดาใช้มือจับที่ต้นคอ และท้ายทอยของลูกแล้วกอดตัวลูกกระชับกับสีข้างของมารดาโดยให้ขาลูกชี้ไปทางด้านหลังของมารดาลูกจะดูดนมจากเต้านมข้างเดียวกับมือที่จับลูก - อุ้มในท่าSide-lying โดยลูกนอนตะแคงเข้าหากัน มารดานอนศีรษะสูงหลังและสะโพกตรง ให้ปากลูกอยู่ตรงกับหัวนมมารดามือที่อยู่ด้านล่างให้ประคองหลังลูกไว้ มือที่อยู่ด้านบนประคองเต้านม ในจังหวะที่เริ่มเอาหัวนมเข้าปากลูก เมื่อลูกดูดได้ดีแล้วค่อยๆขยับมือออกได้และควรม้วนผ้าขนหนูมารองไว้ด้านหลังของลูก - ใช้มือจับเต้านม โดยใช้นิ้วหัวแม่มืออยู่ด้านบน และนิ้วอื่นๆ รองรับเต้านม ปากทารกอยู่บริเวณลานหัวนม เพื่อให้มารดามีความมั่นใจในการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่
        3.สอนและจัดท่านอนที่ถูกต้องหลังการให้นม โดยให้มารดาจับลูกเรอทุกครั้งหลังการให้นม
        
        การประเมินผล
        1.มารดาไม่มีทักษะการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่
        2.ไม่มีภาวะแทรกซ้อน เช่น หัวนมแตก เต้านมคัด
        3.LASTCH score 6
  - - - วัตถุประสงค์
        เพื่อป้องกันอุบัติเหตุจากการพลัดตกหกล้ม
        
        เกณฑ์การประเมินผล
        มารดาไม่เกิดอุบัติเหตุจากการพลัดตกหกล้ม
        
        กิจกรรมการพยาบาล
        1.ประเมินระดับความรู้สึกตัวของผู้คลอด อาการอ่อนเพลีย
        2.ดูแลให้ผู้คลอดนอนพักบนเตียง 8 - 10 ชั่วโมง
        3.ช่วยเหลือมารดาหลังคลอดทำกิจกรรมที่มารดาหลัง
        คลอดไม่สามารถทำได้ หรือช่วยอำนวยความสะดวก
        4.จัดวางสิ่งของให้เป็นระเบียบเรียบร้อย มีแสงสว่างเพียงพอ และจัดของให้มารดาสามารถหยิบใช้งานได้สะดวก
        5.ยกไม้กั้นเตียงขึ้นทั้ง 2 ข้างทุกครั้งหลังให้การพยาบาล เพื่อป้องกันมารดาพลัดตกเตียง
        6.ให้ความช่วยเหลือขณะขึ้น-ลงเตียงและขณะทำกิจกรรมเพื่อป้องกันอุบัติเหตุ
        7.ปรับเตียงให้ต่ำสุดเพื่อป้องกันการตกเตียง
        8.นำกริ่งมาไว้ใกล้ตัวเพื่อให้สะดวกกับการให้ความช่วยเหลือมารดา
        
        การประเมินผล
        มารดาไม่เกิดอุบัติเหตุพลัดตกหกล้ม