เงินเฟ้อ
ความหมายของเงินเฟ้อ
ภาวะที่ระดับราคาสินค้าโดยทั่วๆ ไปเพิ่มสูงเรื่อยๆ อย่างต่อเนื่องหากสินค้ามีระดับราคาสินค้าสูง ณ เวลาใดเวลาหนึ่งก็ยังไม่ถือว่าเกิดเงินเฟ้อ จำเป็นต้องสูงขึ้นเรื่อยๆ โดยอาจมีสินค้าบางชนิดราคาสูงขึ้น ขณะที่ราคาสินค้าบางชนิดคงที่หรือลดต่ำลง แต่เมื่อรวมราคาสินค้าทั้งหมดโดยเฉลี่ยแล้วสูงขึ้น
เครื่องมือที่ใช้วัดการเปลี่ยนแปลงของราคา คือ “ดัชนีราคา (Price Index)”
ดัชนีราคา คือ เครื่องวัดราคาเฉลี่ยของสินค้าและบริการจำนวนหนึ่งหรือตะกร้าหนึ่งของปีใดปีหนึ่งเปรียบเทียบกับราคาเฉลี่ยของสินค้าและบริการจำนวนหรือตะกร้าเดียวกันในปีที่อ้างอิง หรือที่เรียกว่า ปีฐาน (base year)
สาเหตุของการเกิดเงินเฟ้อ
สาเหตุที่ทำให้เกิดเงินเฟ้อที่สำคัญมี 2 ประการ
สาเหตุที่เกิดจากแรงดึงของอุปสงค์ ได้แก่ การที่อุปสงค์มวลรวมสำหรับสินค้าและบริการมีมากกว่าอุปทานมวลรวมของสินค้าและบริการ เงินเฟ้อที่มีสาเหตุมาจากด้านอุปสงค์สำหรับสินค้าบางครั้งเรียกว่า “เงินเฟ้อที่เกิดจากแรงดึงของอุปสงค์”
สาเหตุที่เกิดจากแรงผลักดันทางด้านอุทาน ได้แก่ การที่อุปทานมวลรวมสำหรับสินค้าและบริการลดลง เนื่องจากแรงงานเรียกร้องเอาค่าแรงสูงขึ้น ทำให้ต้นทุนการผลิตเพิ่มขึ้น เมื่อต้นทุนการผลิตเพิ่มขึ้น ผู้ผลิตจะลดปริมาณการผลิตลง หรือผู้ผลิตต้องการกำไรสูงขึ้น จึงบวกกำไรเข้าไว้เป็นส่วนหนึ่งของต้นทุนการผลิต ซึ่งทำให้ต้นทุนการผลิตเพิ่มสูงขึ้น และผู้ผลิตจะลดปริมาณการผลิตลง เงินเฟ้อที่มีสาเหตุจากด้านอุปทานบางครั้งเรียกว่า “เงินเฟ้อจากแรงดันของต้นทุน”
ผลกระทบของเงินเฟ้อ
เมื่อเกิดภาวะเงินเฟ้อ จะมีผลกระทบต่อหน่วยเศรษฐกิจในลักษณะต่างๆ กัน และผลกระทบจะมีมากน้องเพียงใด ขึ้นอยู่กับการคาดคะเนเกี่ยวกับเงินเฟ้อที่จะเกิดขึ้น ถ้าหน่วยเศรษฐกิจคาดคะเนเงินเฟ้อได้ถูกต้อง ผลกระทบของเงินเฟ้ออาจจะไม่ก่อให้เกิดปัหารุนแรงนัก
- การกระจายรายได้เหลื่อมล้ำ
- อัตราดอกเบี้ยที่เป็นตัวเงินสูงขึ้น
- อำนาจซื้อของเงินลดลง
- ผลที่มีต่อการคลังของรัฐบาล
- ผลที่มีต่อดุลการชำระเงินของประเทศ
- ผลที่มีต่อเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ
การแก้ไขปัญหาเงินเฟ้อ
- การควบคุมโดยตรง
- การใช้อัตราดอกเบี้ยเงินฝากและเงินกู้ของสถาบันการเงิน
- การใช้มาตรการของนโยบายการเงิน