Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
G2P0101 GA 7 wks 3 days by date Previous Preterm and Previous c/s -…
G2P0101 GA 7 wks 3 days by date
Previous Preterm and Previous c/s
หญิงกัมพูชา อายุ24ปี ประกอบอาชีพค้าขาย เชื้อชาติกัมพูชา สัญชาติกัมพูชา ศาสนาพุทธ สิทธ์การรักษาชำระเงินเอง น้ำหนักก่อนการตั้งครรภ์ 55 kg. ส่วนสูง 155 cm BMI 22.89 kg/m2(อยู่ในเกณฑ์ปกติ)
การแพ้ยา:ปฏิเสธ การแพ้อาหาร:ปฏิเสธ การใช้สารเสพติด:ปฏิเสธ
ประวัติการเจ็บป่วย:ไม่มี ประวัติครอบครัว:น้องชายสามีเป็นคู่แฝด
ประวัติการผ่าตัด:ผ่าตัดคลอดบุตร(2558)
22 กุมภาพันธุ์ 2565
-น้ำหนักปัจจุบัน 57.7 kg
-BP 111/63
-PR 88 bpm.
LMP 1 มกราคม 2565 x 2วัน
EDC 8 ตุลาคม 2565 by date
ประวัติการตั้งครรภ์
-ครรภ์แรก 9 มกราคม 2565
อายุครรภ์ 36wks(preterm) คลอดแบบc/s(breech presentation) เพศชาย น้ำหนัก1,610 กรัม สถานที่คลอด รพ.ศรีราชา ไม่ภาวะแทรกซ้อนขณะตั้งครรภ์ ทารกอยู่ในตู้อบ20วัน
-ครรภ์ปัจจุบัน G2P0101 GA 7wks 3 days
ประวัติการได้รับวัคซีน
วัคซีนบาดทะยัก
ครบ 3 เข็ม 2558
การประเมินสุขภาพหญิงตั้งครรภ์
แบบแผนที่6
การรับรู้ทางประสาทสัมผัสปกติ ระดับการรู้สึกตัวดี การใช้ภาษาพูดปกติ การติดต่อสื่อสารปกติ
แบบแผนที่7
รับรู้ตนเอง ถึงการเปลี่ยนแปลงของตนเองขณะตั้งครรภ์
แบบแผนที่5
ก่อนการตั้งครรภ์นอนหลับ6-8ชั่วโมงต่อวัน ไม่นอนกลางวัน ขณะตั้งครรภ์นอนหลับมากขึ้น หลับสนิท ไม่มีสะดุ้งตื่นกลางคืน ไม่มีการนอนกรน
แบบแผนที่8
อาศัยอยู่กับครอบครัว จำนวนสมาชิก6คนได้แก่ พ่อแม่และน้องสาวของหญิงตั้งครรภ์ ลูกชาย สามี สัมพันธภาพในครอบครัวรักกันดี มีการช่วยเหลือซึ่งกันและกัน สามรถปรับตัวในบทบาทของมารดาได้
แบบแผนที่4
ทำกิจวัตรประจำวันเองได้ทั้งหมด ก่อนการตั้งครรภ์ออกกำลังกาย1-2ครั้งต่อสัปดาห์ ขณะตั้งครรภ์ไม่ได้ออกกำลังกาย
แบบแผนที่9
ไม่มีปัญหาด้านเพศสัมพันธ์ และไม่มีโรคทางเพศสัมพันธ์ ไม่มีการคุมกำเนิด
แบบแผนที่3
การขับถ่ายปัสสาวะก่อนการตั้งครรภ์ วันละ4-5ครั้ง สีเหลืองใสไม่มีตะกอน ขณะตั้งครรภ์ปัสสาวะบ่อยขึ้น สีใสไม่มีตะกอน ไม่มีอาการแสบขัด และถ่ายอุจจาระวันละ1ครั้ง มีอาการท้องอืดบางครั้ง ไม่มีปัญหาในการกลั้นปัสสาวะและอุจจาระ
แบบแผนที่10
ไม่มีความเครียด แต่ขณะตั้งครรภ์หงุดหงิดง่ายขึ้น
แบบแผนที่ 2
รับประทานอาหารวันละ3มื้อ ชอบรับประทานอาหารรสหวาน ชอบรับประทานผักและผลไม้ ชอบรับประทานของหวานและน้ำหวาน ไม่มีอาการคลื่นไส้อาเจียนขณะรับประทานอาหาร ไม่ได้รับประทานอาหารเสริม น้ำหนักก่อนการตั้งครรภ์55kg ส่วนสูง155cm BMI 22.89 kg/m2 น้ำหนักปัจจุบัน57.7 kg.
แบบแผนที่11
หญิงตั้งครรภ์ไม่มีความเชื่อที่ขัดต่อการรักษาของแพทย์
แบบแผนที่ 1
หญิงกัมพูชา ตั้งครรภ์ที่สอง รับรู้ว่าตนเองมีการตั้งครรภ์ มีการดูแลตนเองได้ดี ก่อนการตั้งครรภ์สุขภาพแข็งแรงดี ปฏิเสธการแพ้ยาและอาหาร ไม่สูบบุหรี่และไม่ดื่มสุรา
การวินิจฉัยการตั้งครรภ์
Presumtive signs:
-หญิงตั้งครรภ์บอกว่าประจำเดือนขาด
-มีอาการปัสสาวะบ่อยขึ้น
-เต้านมขยายใหญ่ขึ้น
Probable signs:
-ตรวจพบฮอร์โมน hCG โดยการตรวจ UPT(urine pregnancy test) ผลpositive
ผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการ
-ABOGroup :B
-RH Group :positive
-Indirect antiglobulin Test / Ab :Negative
Urinalysis
Color :LT.Yellow
Transp :clear
Blood :Negative
Ketone(UA) :Negative
Glucose(UA) :Negative
Albumin (UA) :Negative
pH(UA) :7.0
Specific gravity(UA) :1.003
Bile(UA) :Negative
Urobilinogen (UA) :Normal
Leukocyte :Negative
Nitrite :Negative
Ascorbic acid :1+
R.B.C(UA) :Not found
W.B.C(UA) :Not found
Epithelial cell :0-1
Cast :Not found
Mucous :Not found
Bacteria :Not found
Amorphous :Not found
Crystal :Not found
Yeast :Not found
T.vaginalis :Not found
Complete Blood Count(CBC)
Hemoglobin (Hb) :12.9
Hematocrit (Automate) :39.9
MCV :82.3
RBC :4.86
MCH :26.6
MCHC :32.4
RDW :14.0
WBC :6.01
NRBC :0
Corrected WBC :6.01
Neutrophil :57.9
Lymphocyte :32.9
Monocyte :8.0
Eosinophil :1.0
Basophil :0.2
Platelet Count :234
MPV :10.2
การคลอดก่อนกำหนด(Preterm Labour)
การคลอดที่มีอายุครรภ์ตั้งแต่ 20สัปดาห์ขึ้นไป จนถึงก่อนอายุครรภ์37สัปดาห์
การตรวจคัดกรอง
1.การพิจารณาประวัติคลอดก่อนกำหนด หรือเคยมีประวัติการแท้งบุตรในไตรมาส2 กรณีมีประวัติคลอดก่อนกำหนดในครรภ์ก่อนหน้าแพทย์มักจะแนะนำให็ฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนชนิดฉีดเข้ากล้ามเนื้อ สัป
ปัจจัยเสี่ยง
-เคยมีประวัติคลอดก่อนกำหนด
-อายุของหญิงตั้งครรภ์น้อยกว่า18ปี หรือมากกว่า30ปี
-มีภาวะแทรกซ้อนทางร่างกายเช่น การติดเชื้อ
-เศรษฐานะทางสังคมไม่ดี การสูบบุหรี่ การใช้สารเสพติด การทำงานหนักหรือมีภาวะเครียด
การรักษา
1.การใช้ยาโปรเจสเตอโรน (progesterone)เพื่อช่วยลดอัตราการคลอดก่อนกำหนดโปรเจสเตอโรนเป็นฮอร์โมนที่มีฤทธิ์ยับยั้งการบีบรัดตัวของมดลูกและมีความจำเป็นสำหรับการตั้งครูรภ์และช่วยลดอัตราการคลอดก่อุนกำหนด สามารถใช้ได้หลายรูปแบบ ได้แก่ การฉีดเข้ากล้าม เนื้อเหน็บทางช่องคลอดหรือแบบรับประทน อาการข้างเคียงที่อาจพบ เช่น ปวดศีรีษะ คลื่นไส้อาเจียน
2.การเย็บผูกปากมดลูก (cervical cerclage) เป็นหัตถการที่ใช้ในการรักษาภาวะปากมดลูกหลวมโดยการเย็บผูกปากมดลูก ซึ่งเป็นหัตถการที่เพิ่มความแข็งแรงให้กับปากมดลูก
การแนะนำ
แนะนำโภชนาการอาหารให้คูณแม่มีน้ำหนักตามเกณฑ์โดยคุณแม่มี bmi ก่อนตั้งครรภ์ 22.89 kg/m2 อยู่ในเกณฑ์ปกติคุณแม่ต้องมีน้ำหนักที่เพิ่มขึ้นตลอดการตั้งครรภ์ 11.5-16 kg
การฝากครรภ์ มีความสำคัญเพื่อให้คุณแม่และบุตรในครรภ์ แพทย์จะให้คำแนะนำเรื่องการปฏิบัติตัวต่างๆขณะตั้งครรภ์ช่วยวินิจฉัยโรคบางอย่างระหว่างอาจเกิดจากภาวะแท้งคุกคาม หรือจากการฝังตัวอ่อนผิดที่ตั้งครรภ์ป้องกันและลดกาวแทรกช้อนของโรคโดยในระยะแรกแพทย์จะนัดตรวจทุก 4 สัปดาห์จนถึงไตรมาสที่ 2 จึงจะนัดถี่ขึ้นเป็น 2 และ 1 สัปดาห์ตามลำดับ
การฉีดวัคซีนในหญิงตั้งครรภ์ที่ไม่เคยฉีดวัคชินป้องกันบาดทะยักมาก่อนจะฉีดวัคซีนบาดทะยัก 2 เข็มห่างกันอย่างน้อย 1เดือนในไตรมาสที่ 1-2 ส่วนวัคชีนอื่นๆไม่นิยมฉีดในขณะตั้งครรภ์ยกเว้นมีความจำเป็นควรให้เพทย์เป็นผู้พิจารณา
เพศสัมพันธ์ขณะตั้งครรภ์ไม่มีข้อห้ามในการมีเพศสัมพันธ์แต่อย่างใดยกเว้นในรายที่มีความเสี่ยงสูง เช่นเคยมีประวัติการแท้งบุตรมาแล้วหลายครั้งหรือมีเลือดออกขณะตั้งครรภ์ ควรงดการมีเพศสัมพันธ์ในไตรมาสแรกในรายที่มีประวัติเคยคลอดบุตรก่อนกำหนดควรงดเมื่อตั้งครรภ์ในไตรมาสสุดท้าย
การออกกำลังกาย วันละไม่เกิน 30 นาทีไม่หักโหมหรือใช้แรงมากในการออกกำลังกาย
การดูแลฟัน ฟันผุควรได้รับการอุดฟันและได้รับการรักษามีการอักเสบเรื้อรังอาจจะกระจายไปยังอวัยวะอื่นได้ในระหว่างการตั้งครรภ์ โดยเชื้อจะกระจายทางกระแสโลหิต
พลังงานในช่วงที่อยู่ในระหว่างูการตั้งครรภ์ความต้องการพลังงานจะเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะในไตรมาสที่ 2ต้องการพลังงานเพิ่มขึ้นประมาณ 340กิโลแคลอรี่ต่อวันจากปกติ และ เพิ่มขึ้นปุระมาณ 450กิโลแคลอรี่ต่อวัน ในไตรมาสที่ 3จะขึ้นอยู่กับน้ำหนักตัวก่อนการตั้งครรภ์ว่าแรกเริ่มนั้นมีน้ำหนักตามเกณฑ์หรือไม่สำหรับหญิงตั้งครรภ์ที่น้ำหนักตัวน้อยกว่าเกณฑ์มาตรฐานให้คิดพลังงานอยู่ที่ 35 kcal/kg/day
อาหารที่ควรหลีกเลี่ยง ช่วงตั้งครรภ์-แอลกอฮอล์เนื่องจากจะมีผลต่อระบบประสาทูและสติปัญญาของเด็กในระยะยาว โดยเฉพาะการตั้งครรภ์ในช่วงแรก-คาเฟอีน ไม่ควรดื่มเกิน 200 มิลลิกรัมต่อวัน(ประมาณกาแฟ 12 ออนซ์ 1 แก้ว)เนื่องจากในช่วงตั้งครรภ์สารคาเฟอินจะอยู่ร่างกายนานกว่าคนปกติ-เครื่องดื่มชูกำลัง ควรหลีกเลี่ยงเนื่องจากเครื่องดื่มประเภทนี้บางชนิดจะมีส่วนผสมของน้ำตาลและคาเฟอีนอยู่ในปริมาณค่อนข้างสูง นถูกจากนี้อาจพบว่ามีการเติมสารสกัดเช่นโสม ที่ไม่แนะนกสำหรับหญิงตั้งครรภ์-เครื่องดื่มหวาน (เติมน้ำตาล) ควรลดปริมาณการดื่มลงเช่น น้ำอัดลม น้ำผลไม้สำเร็จรูปเครื่องดื่มเกลือแร่หลังออกกำลังกาย
โปรตีน โปรตีนเป็นสารอาหารหลักอีกชนิดหนึ่งที่มีความสำคัญมากเพราะจะเป็นสารอาหารที่ช่วยส่งเสริมการเจริญเติบโตของทารกในครรภ์ให้มีการพัฒนาอวัยวะต่างๆได้อย่างสมบูรณ์ สิ่งที่ควรคำนึงถึงสำหรับสารอาหารประเภทนี้คือปริมาณและชนิดของโปรตีนปริมาณโปรตีนที่เพียงพอและเหมาะสมกับการเจริญเติบโตของทารกในครรภ์คือให้คิดคำนวณเพิ่มจากปริมาณปกติประมาณ 25กรัมต่อวันแนะนำให้เลือกรับประทานโปรตีนที่หลากหลายคุณภาพดี เช่น ปลา ไก่ หมู ไข่ เต้าหู้ หรือ ถั่ว สลับกันไป(เว้นแต่ในกรณีที่แพ้ ไข่ ถั่วหรืออาหารบางชนิด และทานอาหารที่เป็นแหล่งโปรตีนชนิดอื่นทดแทน)ก็ควรหลีกเลี่ยงการทานอาหารประเภทนั้นไป
วิตามินและแร่ธาตุ
กรดโฟลิก (Folic acid)เป็นสารอาหารที่สำคัญตั้งแต่เริ่มวางแผ่นตั้งครรภ์และในช่วงไตรมาสแรกที่จะช่วยป้องกันภาวะผิดปกติของระบบประสาทตั้งแต่กำเนิดในทารก (Neural tube defects) ปริมาณที่ควรได้รับคือ400 มิลลิกรัมต่อวัน,600มิลลิกรัมต่อวันสำหรับหญิงตั้งครรภ์โดยแนะนำให้ทานอาหารที่เป็นแหล่งของโฟลิก ได้แก่ธัญพืช ผักใบเขียวเข้ม เช่น ผักโขม คะน้า กวางตุ้งบล็อกโคลี่ รวมถึงผลไม้ตระกูลส้ม เบอร์รี่ และถั่ว เป็นต้นหรืออาหารเสริมในรูปแบบของอาหารเสริมเม็ดตามแพทย์สั่งแต่ที่จริงแล้ววิตามินชนิดนี้แนะนำให้เสริมเป็นพิเศษก่อนการตั้งครรภ์เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมสำหรับการพัฒนาการทางระบบประสาทและสมองของทารก
ธาตุเหล็ก (Iron)แร่ธาตุชนิดนี้จะช่วยป้องกันภาวะโลหิตจางทั้งในคุณแม่และเด็กทารกในครรภ์ โดยเฉพาะในช่วง 2 ไตรมาสแรกถ้าขาดธาตุเหล็ก จะเสี่ยงต่อการคลอดก่อนกำหนดทารกน้ำหนักตัวน้อยโดยธาตุเหล็กเป็นส่วนประกอบสำคัญของเม็ดเลือดแดงซึ่งทำหน้าที่ลำเลียงขนส่งออกชิเจนไปยังอวัยวะต่างๆ
ทั่วร่างกายรวมถึงอวัยวะสำคัญที่มีการพัฒนาอย่างมากในช่วงไตรมาสแรก คือ สมองและอาจส่งผลต่อสติปัญญาของเด็กในระยะยาวปริมาณที่ควรได้รับต่อวัน คือ 30มิลลิกรัมต่อวันแหล่งอาหารธาตุเหล็กสูง ได้แก่เนื้อสัตว์ทุกชนิด (เน้นทานหลาหลาย; หมูไก่ ปลา)ไข่แดง ผักใบเขียว เป็นต้น
แคลเชียม (Calcium)เนื่องจากจะทำให้คุณแม่จะเสี่ยงต่อภาวะกระดูกพรุน(Osteoporosis) ได้ง่ายมากขึ้นดังนั้นการทานแคลเชียมจากอาหาร หรือวิตามินเสริมสำหรับบางคนให้เพียงพอโดยแคลเชียมนี้ทารกจะนำไปใช้ในการสร้างูกระดูก ฟันจะช่วยลดผลภาวะกระดูกพรุนในมารดาได้รวมถึงมีผลต่อการทำงานของหัวใจระบบประสาทและกล้ามเนื้อโดยแหล่งอาหารที่มีแคลเชียมสูงนอกจากนมและผลิตภัณฑ์จากนม(โยเกิร์ตชีส)ที่เราทราบกันดีอยู่แล้ว ปลาตัวเล็กตัวน้อยปลาที่ทานได้ทั้งกระดูก เช่น ปลาซาร์ดีนกระป๋องรวมทั้งแหล่งแคลเชียมจากพืช เช่น ผักใบเขียวเข้ม เต้าหู้นมถั่วเหลืองชนิดเสริมแคลเชิยม ถั่วเปลือกแข็ง (วอลนัทอัลมอนด์ ) งา เป็นต้นโดยอย่างน้อยคุณแม่ควรได้รับแคลเชียมประมาณ 800มิลลิกรัมต่อวัน
ภาวะแทรกซ้อน
แม่
ระยะคลอด
ระยะหลังคลอด
ต้องพักรักษาตัวในโรงพยาบาลเป็นเวลานานเมื่อได้รับการรักษาด้วยยายับยั้งการหดรัดตัวของมดลูกจะมีอาการข้างเคียง ทำให้เกิดอาการใจสั่น มือสั่น คลื่นไส้อาเจียน ปวดศีรษะ กระวนกระวาย แน่นหน้าอกหายใจไม่สุดและอาจรุนแรงมากจนเกิดภาวะน้ำคั่งในปอด สตรีตั้งครรภ์ที่มีภาวะเจ็บครรภ์คลอดก่อนกำหนดมักจะมี อารมณ์ไม่มั่นคง การรับรู้ลดลง หงุดหงิดง่าย เกิดความรู้สึกไม่แน่นอน มีความเครียดและวิตกกังวล บางรายมีภาวะซึมเศร้า รู้สึกโดดเดี่ยวและเบื่อหน่าย รู้สึกขัดแย้งในบทบาทของตนเองที่ต้องพึ่งพาบุคคลอื่น รู้สึกด้อยคุณค่าในตนเอง
ระยะก่อนคลอด
การถูกรบกวนการพักผ่อนจากการเจ็บครรภ์เนื่องจากมีอาการเจ็บจากการหดรัดตัวของมดลูก
ลูก
ระยะคลอด
ระยะหลังลอด
ผลกระทบในระยะหลังคลอด เช่น ปอดบวม ตัวเหลือง โลหิตจาง โรคหัวใจ เลือดออกในสมอง กลุ่มอาการหายใจลำบาก(RDS) จอประสาทตาเสียหาย(ROP) ลำไส้เกิดเนื้อตาย(NEC)
ระยะก่อนคลอด
การคลอดก่อนกำหนดก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพของทารก จากการที่ทารกมีน้ำหนักน้อยกว่ามาตรฐาน อวัยวะต่าง ๆ ในร่างกายเจริญไม่สมบูรณ์และไม่พร้อมที่จะทำงาน
Previous c/s
ครรภ์ก่อนหน้าได้รับการผ่าตัดคลอดทางหน้าท้อง
เนื่องจาก breech presentation
การคัดกรอง
-ซักประวัติถึงวิธีการคลอดของครรภ์ก่อนหน้า
ปัจจัยเสี่ยง
-เนื่องจากครรภ์ก่อนหน้าได้รับการผ่าตัดคลอดทางหน้าท้อง จึงส่งผลให้การคลอดในครั้งนี้ก็ได้รับการคลอดบุตรแบบ cesarean section
ผลกระทบ
ด้านมารดา
เนื่องจากมีการเกิดแผลที่ผนังมดลูกซึ่งเป็นบริเวณที่มีความอ่อนแอ หากมีการเจ็บครรภ์อาจเกิดการปริแตกของมดลูกในการตั้งครรภ์ครั้งต่อไป
ด้านทารก
เนื่องจากครรภ์ที่แล้วมารดาได้มีการคลอดบุตรแบบการผ่าตัดทางหน้าท้อง ส่งผลให้การคลอดในครั้งนี้ก็เป็นการผ่าตัดทางหน้าท้องเช่นกัน ดังนั้นผลกระทบต่อทารกคือเนื่องจากไม่ได้คลอดแบบNL จึงทำให้ทารกอาจเกิดภาวะTTNB
การให้คะแนะนำ
ให้มารดาสังเกตอาการเจ็บครรภ์คลอด เนื่องจากprevious cesarean section อาจทำให้เกิดการแตกของมดลูกได้ จึงต้องรีบมาพบแพทย์
การฝากครรภ์คุณภาพ
การฝากครรภ์คุณภาพหมายถึงการฝากครรภ์ครั้ง แรกก่อน12สัปดาห์และการฝากครรภ์ครบ 5ครั้งตลอดระยะการตั้งครรภ์เพื่อให้มารดาและทารกได้รับการบริการทางสุขภาพที่ครบถ้วนและดีที่สุด เนื่องจากในช่วง12สัปดาห์แรกของการตั้งครรภ์เป็นช่วงเวลาที่สำคัญที่สุด อวัยวะของทารก เริ่มสร้างตั้ง แต่สัปดาห์ท่ี 3 เมื่อ ครบ 8 สัปดาห์ ทารกในครรภ์จะมีอวัยวะครบร้อยละ ๙๐ และสมอง เติบโตถึงร้อยละละ๕๐การฝากครรภ์เร็วและมีคุณภาพช่วยค้นหาภาวะเสี่ยงและลดภาวะแทรกซ้อนทั้งในมารดาและทารก
การนัดฝากครรภ์ อายุครรภ์
ครั้งที่1 ก่อน12สัปดาห์
ครั้งท่ี2 13-น้อยกว่า20สัปดาห์
ครั้งที่3 20-น้อยกว่า26สัปดาห์
ครั้งที่4 น้อยกว่า32สัปดาห์
ครั้งที่5 32-40สัปดาห์