Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การดูแลสุขภาพจิตและจิตเวช ในวัยเด็กและวัยรุ่น - Coggle Diagram
การดูแลสุขภาพจิตและจิตเวช
ในวัยเด็กและวัยรุ่น
กลุ่มโรคความผิดปกติของพัฒนาการความบกพร่องทางสติปัญญา
โรค LD (Learning disorder)
ข้อวินิจฉัยการพยาบาล
เสี่ยงต่ออันตรายได้รับบาดเจ็บจากพฤติกรรมที่ก้าวร้าว
กระตุ้นให้เด็กได้พูดคุยกับเพื่อนๆ และร่วมกิจกรรมต่างๆ
ฝึกให้เด็กรู้จักทักทายกับบุคคลอื่น
พุดกับเด็กด้วยน้ำเสียงที่นุ่มนวล เพื่อเกิดความไว้ใจ
คอยประสานสายตาเด้กเรียนชื่อเด้กอย่างถุกต้อง
มีความบกพร่องของปฏิสัมพันธ์ทางสังคม
เนื่องจากมีความผิดปกติของสมอง/ไม่มีความไว้วางใจ/ขาดการดูแล
จัดหาของที่เด็กคุ้นเคยให้ เพื่อให้เด็กรู้สึกมั่นใจ
สร้างสัมพันธภาพกับเด็ก ให้เด็กเกิดความไว้ใจ
ช่วยเหลือเด็กในการปฎิสัมพันธ์กับผู้อื่น
อาการแสดง
ไม่เข้าใจและปฎิบัติตามคำแนะนำหรือคำสั่งสอน
แสดงพฤติกรรมต่อต้านหรือมีอารมณ์ก้าวร้าวที่ โรงเรียน
ขาดทักษะทางสังคม เข้าใจความคิดได้ยาก
ไม่เข้าใจแผนเวลา
อาการของเด็ก ld
ความบกพร่องด้านการเขียน (Dysgraphia)
ความบกพร่องด้านการคํานวน (Dyscalculia)
ความบกพร่องด้านการฟัง
ความบกพร่องด้านการเคลื่อนไหว (Dyspraxia)
ความบกพร่องด้านการใช้ภาษา (Dyslexia)
ความบกพร่องด้านการมองเห็น
โรคออทิสติก (Autistic disorder)
การพยาบาลผู้ป่วยภาวะไม่อยูนิ่ง
เฝ้าระวังการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมอย่างใกล้ชิด
ให้ความรู้กับญาติและผู้ปกครองในเรื่องพฤติกรรมการบกพร่องความสามรถเด็ก
จัดสิ่งแวดล้อมให้ดุปลอดภัย เช่น แสง สี เสียง
ส่งเสริมกีฬาที่เหมาะสมและปลอดภัยเบี่ยงเบนความสนใจ
การประเมินความเสี่ยงการเกิดอันตรายต่อผู้อื่นและทรัพย์สิน
ข้อวินิจฉัยทางพยาบาล
1.เสียงต่อการเกิดอันตรายการบาดเจ็บเนื่องจากมีพฤติกรรมที่อยู่ไม่นิ่ง
3.กระตุ้นให้เด็กเข้ารว่มกิจกรรมกลุ่มเพื่อน
เพื่อฝกให้เด็กรู้จักการอยู่ร่วมกับ เพื่อนคนอื่นๆ
5.จัดสิ่งแวดล้อมให้ปลอดภัยโดยการเก็บวัสดุอุปกรณ์ที่อาจเป็นอันตรายแก่เด็ก
2.ฝึกกิจวัตรประจําวันได้แก่การแต่งกาย การแปรงฟัน
การรับประทานอาหาร
สร้างสัมพันธภาพเพื่อการบําบัด
4.ดูแลให้เด็กได้รับสารอาหารที่เพียงพอ
อาการแสดง
โบกมือไปมา ทุบตี หรือกลอกตาไปมา
ไม่สามารถทำกิจกรรมที่มีลำดับขั้นตอนหลายอย่างได้
หัวเสียง่าย
ชอบอาหารเป็นบางอย่าง
แสดงความสนใจสิ่งใดสิ่งหนึ่งเพียงอย่างเดียว เช่น เล่นของเล่นแค่ส่วนใดส่วนหนึ่งของของเล่นนั้นหรือเอาแต่พูดเฉพาะเรื่องที่ตัวเองชอบ
ทักษะ
ทักษะด้านการสื่อสาร
อ่านออกแต่ไม่เข้าใจความหมายคำ
ขาดความรู้ทิศทาง ไม่สามารถแปลสัญลักษณ์และเรียนรู้ภาษาได้
ไม่เข้าใจการสื่อสารด้วยภาษาท่าทาง เช่นชี้นิ้ว โบกมือ
ทักษะด้านการเข้าสังคม
ไม่เล่นหรือแบ่งปันของเล่นกับเด็กอื่น
ไม่เข้าใจอารมณ์ความรู้สึกของผู้ที่คุยด้วย
ไม่สังสรรค์หรือแสดงความคิดเห็นใดๆ เพื่อแลกเปลี่ยนพูดคุยกับผู้อื่น
ขาดการสร้างสัมพันธภาพกับผู้คนรอบข้าง
กลุ่มโรคความผิดปกติของสมาธิและพฤติกรรม
โรคพฤติกรรมเกเร
ก้าวร้าว (Conduct disorder)
อาการและอาการแสดง
มักจะระเบิดอารมณ์ออกมาโดยควบคุมตนเองไม่ได้
มีความอดทนน้อยต่อความคับข้องใจอารมณ์หงุดหงิดง่าย
มีความรู้สึกเห็นอกเห็นใจ
เข้าใจความรู้สึกของผู้อื่นเพียงเล็กน้อยไม่รู้สึกสํานึกผิด
จะแสดงอาการก้าวร้าวต่อบุคคลอื่นบ่อยครั้ง
หนีโรงเรียน สําส่อนทางเพศ อันธพาลวางเพลิงใช้ยาเสพติด และมักทําผิดกฎหมาย
ลักษณะเกเร ล่วงละเมิดสิทธิของผู้อื่น หรือฝ่าฝืนกฎเกณฑ์ของสังคมเด็ก
ข้อวินิจฉัยการพยาบาล
เสี่ยงต่อการใช้ความรุนแรงด้านการใช้กำลัง การใช้อารมณ์และความรุนแรงทางเพศเนื่องจากพัฒนาการของระบบประสาทบกพร่อง หรือทำงานไม่ปกติ
การพยาบาล
แนะนำการสร้างทักษะการควบคุมอารมณ์โกรธและการผ่อนคลายความเครียด และให้ลองฝึกปฎิบัติ
ใช้เทคนิคต่างๆ ในการควบคุมพฤติกรรมเด็ก เช่น การเพิกเฉย การตัดสิทธิต่างๆ ซึ่งไม่ใช้การตี
จัดให้พยาบาลคนเดียวดุแลเด็ก/วัยรุ่น เพื่อสร้างความไว้ใจ
พูดคุยทำความเข้าใจให้เด็ก วัยรุ่น เข้าใจถึงการกระทำที่ไม่เหมาะสมของตนเองที่ส่งผลร้ายต่อผู้อื่น ส่งเสริมศีลธรรมและความยุติธรรม
สร้างสัมพันธภาพเพื่อบำบัดกับเด็ก/วัยรุ่น/ บิดามารดา และครู เพื่อเกิดความร่วมมือในการแก้ไขปัญหา
โรคดื้อต่อต้าน (Oppositional disorder)
เป็นความผิดปกติในการแสดงพฤติกรรมไม่เหมาะสมของเด็กต่อผู้ปกครอง โดยมักจะพบโรคนี้ในเด็กชายมากกว่าเด็กหญิง ในช่วงอายุ 6-8 ปี สาเหตุอาจเกิดจากพันธุกรรม ระบบประสาท หรือสิ่งแวดล้อม
อาการและอาการแสดง
โกรธง่าย อารมณ์รุนแรง
พูดจาหยาบคาย ไม่ยอมรับฟัง
ตั้งใจก่อกวน หาเรื่องทะเลาะวิวาท
แนวทางการแก้ไขพฤติกรรมโรคดื้อต่อต้าน
การปรับพ่อแม่ควรปรับพฤติกรรมให้เป็นตัวอย่างที่ดีให้แก่ลูกเห็น
หลีกเลี่ยงการใช้อำนาจ และความรุนแรงกับลูก
สร้างความสัมพันธ์ที่ดี ผู้ปกครองต้องทำความเข้าใจในตัวลูก รวมถึงต้องทำความเข้าใจที่ลูกเป็นโดยต้องใช้เวลาและความรักแก่ลูกอาจร่วมกันทำกิจกรรมบางอย่างเพื่อใช้เวลาอยู่กับครอบครัว
การฝึกวินัยโดยเฉพาะเรื่องการกินและการนอนเป็นเวลา กฏระเบียบต่างๆ ในครอบครัวอย่างสมเหตุสมผล เช่น ทำการบ้าน
ความผิดปกติทางบุคลิกภาพ
(Personality disorder)
ภาวะที่บุคคลมีแบบแผนของมุมมอง ความคิด และพฤติกรรม ที่มีลักษณะของการปรับตัวที่ไม่เหมาะสม
ไม่ยืดหยุ่น เกิดความบกพร่องในด้านต่างๆ
เกณฑ์การวินิจฉัยโรค DSM-5
D. ลักษณะจะคงที่เป็นเวลายาวนานเริ่ม ตั้งแต่วัยรุ่น วัยหนุ่มสาว
C. เกิดปัญหาอย่างมากด้านอาชีพ การทำงาน กิจกรรมทางสังคม
B. ลักษณะดังกล่าวค่อนข้างเป็นอยู่ตลอด ไม่ยืดหยุ่นตามสถานการณ์
A. บุคคลมีลักษณะการดำเนินชีวิตแตกต่างจากชีวิตบุคคลอื่นที่อยู่ร่วมวัฒนธรรมเดียวกัน อย่างน้อย 2 ข้อขึ้นไป
A2 Affective (การตอบสนอง ความรุนแรง ความเหมาะสม)
A3 Interpersonal relationship
A1 Cognition (การมองตนเอง ผู้อื่น สถานการณ์)
Impulse control
การพยาบาล
การส้รางความสัมพันธเ์พื่อให้ผู้ป่วยไวว้างใจ
การนําแผนไปปฏิบัติอาจต้องดัดแปลงให้เหมาะสม เนื่องจากอาการมักดีขึ้นเร็ว และพูดรู้เรื่อง จึงมักมีคําถามตามมา เนื่องจากธรรมชาติของผู้ป่วยกลุ่มนี้มักยากต่อการตระหนักถึงเปลี่ยนแปลงตนเอง
ควรเปลี่ยนคนดูแล ระวังผู้ป่วยที่มีพฤติกรรมรุนแรง
ควรจํากัดผู้ให้การดูแล ไม่ควรเปลี่ยนคนบ่อย
โรคสมาธิสั้น (ADHD)
โรคสมาธิสั้นนั้น เกิดจากปัจจัยหลัก คือ ปัจจัยทางชีวภาพ ได้แก่ ปัจจัยทางด้านพันธุกรรม โรคนี้สามารถถ่ายทอดภายในครอบครัวได้ถึงร้อยละ 75 ด้านระบบประสาท พบว่าการทำงานของสมองส่วนหน้าที่ผิดปกติ เกี่ยวกับการคิด การวางแผน และการควบคุมตัวเอง นอกจากนี้ยังพบว่า แม่สูบบุหรี่ ดื่มสุราระหว่างตั้งครรภ์ คลอดก่อนกำหนด เป็นปัจจัยเสี่ยที่ทำให้เด็กสมธิสั้น
การพยาบาล
4.การสร้างสัมพันธภาพเพื่อบำบัดให้วางใจในตัวพยาบาลและมีทักษะในการสร้างสัมพันธภาพกับผู้อื่น
5.การให้คำแนะนำสำหรับครูเพื่อให้เกิดความเข้าใจและช่วยเหลือเด็กทั้งในด้านการเรียนและการปรับตัว
3.การใช้พฤติกรรมบำบัด เพื่อให้เกิดการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมโดยทางบ้านและโรงเรียนควรมีบรรยากาศที่เข้าใจเป็นกำลังใจให้เด็ก ชื่นชม เมื่อเด็กมีพฤติกรรมที่ดีหากเด็กทำผิดโดยไม่ตั้งใจสมควรใช้คำพูดปลอบใจ มีท่าทีเห็นใจแนะนำวิธีแก้ไข ไม่ประจาน และไม่ลงโทษด้วยความรุนแรง หากมีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมควรปราม ตักเตือนอย่างสม่ำเสมอเปิดโอกาสให้แก้ไขด้วยตนเอง
2.การจัดสภาพแวดล้อมให้ปลอดภัยและช่วยให้เด็กเกิดการเรียนรู้เนื่องจากเด็กสมาธิสั้นมักเกิดความพกพร่องในการควบคุมพฤติกรรมตนเอง
1.ให้ความรู้ครอบครัวและส่งเสริมให้ครอบครัวมีส่วนร่วมในการวางแผนการดุแล
6.การให้ความรู้เรื่องการใช้ยาเกี่ยวกับวิธีการใช้การออกฤทธิ์ผลข้างเคียง
การวินิจฉัยการพยาบาล (Nursing Diagnosis)
1) การเจริญเติบโ้ตและพัฒนาการล่าช้าเนื่องจากความบกพร่องทางสติปัญญาและการรับรู้
2) บกพร่องในการดูแลตนเองและทักษะในการดํารงชีวิตประจำวันเนื่องจากความบกพร่องทางสติปัญญาและการรับรู้
3.บกพร่องในการพูดสื่อสารเนื่องจากพัฒนาการล่าช้า
5.บกพร่องในการเผชิญปัญหาเนื่องจากขาดความสามารถในการเรียนรู้
อาการ
พูดมาก พูดไม่หยุด
นั่งนิ่งอยู่กับที่นานๆไม่ได้
ว่องไว รวดเร็ว ตื่นตัวอยู่ตลอดเวลา
ไม่ชอบการรอคอย
ลุกออกจากที่นั่งบ่อยๆ
ลุกลี้ลุกลน กระสับกระส่าย
ไม่สามารถทํากิจกรรมได้ตามลำพัง
อาการแสดง
จัดลําดับความสําคัญไม่เป็น เรียงลําดับสิ่งที่ควรทําไม่ได้
บริหารจัดการเวลาได้ไม่ดี
มักลืมอุปกรณ์เครื่องใช้หรือสิ่งของจําเป็น
มองข้ามเรื่องสําคัญ ไม่ใส่ใจรายละเอียด
วอกแวกง่ายเมื่อมีสิ่งเร้ามากระตุ้นหรือมีความคิดอื่นมากระตุ้น
ไม่ตั้งใจฟัง ไม่สนใจในขณะที่มีคนพูดด้วย
มีปัญหากับการทํางานตามกฏระเบียบหรือกรอบคำสั่ง
รวบรัด ชอบทำอะไรง่ายๆ
การดูแล การพยาบาล
3.การสร้างสัมพันธภาพเพื่อการบำบัดเป็นรายบุคคลเพื่อให้ไว้วางใจในตัวพยาบาล
4.การให้คำแนะนำสำหรับครูเพื่อให้เกิดความเข้าใจและช่วยเหลือเด็กในการเรียนและปรับตัวในโรงเรียน
2.จัดสภาพแวดล้อมให้ปลอดภัยและช่วยให้เด็กเกิดการเรียนรู้เนื่องจากเด็กมีสมาธิสั้นมักมีความบกพร่องในการควบคุมพฤติกรรมตนเอง
1.ให้ความรู้แก่ครอบครัวและส่งเสริมให้ครอบครัวมีส่วนร่วมในการวางแผนดูแลเด็ก
กลุ่มโรคอารมณ์แปรปรวนในเด็ก
(Mood disorder in children)
สาเหตุที่ทำให้เด็กควบคุมความโกรธไม่ได้ ส่วนใหญ่มาจากการที่เด็กถูกทารุณซึ่งสาเหตุมาจาก 4 กลุ่มใหญ่ ได้แก่
2.สาเหตุจากตัวเด็ก ได้แก่ พื้นฐานอารมณ์เป็นเด็กเลี้ยงยาก ซนมาก จิตวิทยาและพัฒนาการไม่สมวัย
3.สาเหตุจากสภาพแวดล้อม เศรษฐกิจและวิกฤติ ได้แก่ ความยากจน สภาพแวดล้อมเต็มไปด้วยความรุนแรงในชีวิตประจำวัน อุปสรรคทางสังคมและเศรษฐกิจนำมาซึ่งการใช้กำลังครอบครัว ผลกระทบจากความตึงเครียดและวิกฤติภายในครอบครัว ครอบครัวอยู่ในระบบชุมชนที่มีการช่วยเหลือทางสังคมต่ำ
1.สาเหตุจากภายในครอบครัว ได้แก่ ผู้ปกครองขาดความอดทนต่อการแสดงออกของเด็ก ชีวิตคู่ไม่ราบรื่น มีปัญหาทางสังคมเศรษฐกิจขาดความรู้ความเข้าใจพฤติกรรมเด็ก มีปัญหาจิตเวชหวาดระแวง ซึมเศร้า มีความกดดันและความเครียดเกี่ยวกับลูกที่ต้องดุแลตลอดเวลาและขาดการพักผ่อน ตั้งความหวังกับเด็กสูงเกินไปไม่ต้องการเลี้ยงดูเด็ก
4.สาเหตุจากการจัดการศึกษาที่ไม่เหมาะสมในวัยก่อนเรียน ส่งผลให้เกิดความกดดันทางอารมณ์ เช่น การเร่งรัดให้เด็กเรียนมากเกินไปไม่สมวัย
อารมณ์ของเด็กจะปรากกฏขึ้นเมื่อไม่สามารถทำสิ่งใดได้หรือถูกขัดขวางไม่ให้ทำจะทำในสิ่งที่อยากทำซึ่งการแสดงออกถึงความโกรธแตกต่างไปตามอายุและช่วงวัยของเด็ก
เด็กอาจไม่สามารถควบคุมความโกรธและแสดงพฤติกรรมรุนแรงได้ตั้งแต่อายุ 1 ขวบเป็นต้นไป ซึ่งพ่อแม่ผู้ปกครองสามารถสังเกตอาการโกรธ
ร้องไห้เป็นเวลานาน
ดื้อมากไม่ฟังใคร ฉุดกระชาก ชักดิ้นชักงอ โมโหร้าย
ตบหน้าพ่อแม่หรือทำร้ายคนเลี้ยงดู เช่น พี่เลี้ยง
ทุบตีหรือทำร้ายเพื่อนที่โรงเรียนและผู้อื่น
การจัดการความโกรธ
เข้าใจความโกรธของเด็ก
สำหรับพฤติกรรมโกรธที่รุนแรงมากควรปรึกษาจิตแพทย์ ในกรณีที่เด็กมีการทำร้ายตนเอง ผู้อื่น และข้าวของ ควรต้องรีบหยุดเด็กในตอนนั้นและพาไปปรึกษาจิตแพทย์เด็กและวัยรุ่นทันที
ปล่อยเด็กให้อยู่กับตัวเองแล้วค่อยอธิบายภายหลัง
แลกเปลี่ยนความเห็นเรื่องความรุนแรงในสังคม
พ่อแม่ผู้ปกครองเป็นแบบอย่างที่ดีให้เด็ก
โรคจิตเภท Schizophenia เป็นโรคที่มีความผิดปกติของบุคลิกภาพมีความผิดปกติด้านการรับรู้ที่มีลักษณะเฉพาะเป็นแบบจำเพาะและอารมณ์เป็นแบบไม่เหมาะสม หรือ Blunted สติสัมปชัญญะและเชาวน์ปัญญามักดีอยู่แม้ว่าจะมีการสูญเสียการรับรู้
รักษาโรคจิตเภท
พบจิตแพทย์เข้ากระบวนการบำบัดโดยใช้ยาและการบำบัดตามความเหมาะสมอาจนอนโรงพยาบาลหรือไม่แล้วแต่อาการผู้ป่วย
การรักษาด้วยยา
การรักษาด้วยไฟฟ้า (ECT)
นิเวศน์บำบัด milieu therapy
บำบัดรักษาอย่างต่อเนื่องจนกว่าแพทย์จะเปลี่ยนแปลงการรักษา
ครอบครัวมีส่วนร่วมในการบำบัดรักษา
อาการโรคจิตเภท
3.การเปลี่ยนแปลงด้านความคิด การับรู้ Cognitive Change สมาธิแย่ลงมีปัญหาความจำ คิดเป็นเหตุเป็นผลไม่ได้หรือความสามรถในการบริหารจัดการ executive function เสียการตัดสินใจเสียและเรียนรู้สิ่งใหม่ไม่ได้
4.การเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์-ความรู้สึกทุกข์ทรมานไม่สบายใจ dysphoria มีภาวะซึมเศร้า depression
2.อาการด้านลบ Negative Symptom คือ อาการผิดปกติขาดความบกพร่องไปจากคนปกติ
5.ฆ่าตัวตาย พบว่า ผู้ป่วยโรคจิตเภทร้อยละ 50 พยายามฆ่าตัวตาย
1.อาการด้านบวก positive symptom คือ อาการผิดปกติที่เพิ่มขึ้นมากกว่า
ปัจจัยด้านสังคม
มักพบผู้ป่วยในสังคมมีเศรฐานะต่ำหรือสภาพทางสังคมกดดันทำให้ผู้ป่วยเป็นผู้ป่วยเพิ่มขึ้นได้
ปัจจัยด้านชีวภาพ
ประสาทกายวิภาค Ventricle โตกว่าปกติ ปริมาณและน้ำหนักของสมองน้อยกว่าปกติ
ครอบครัวของผู้ป่วยที่มีอาการกำเริบบ่อยๆ พบว่ามีการใช้อารมณ์ต่อสู้กัน ไม่เป็นมิตร
สารชีวเคมีสมอง เกิดจาก Dopamine Hypothesis
พันธุกรรม