Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
ระบบขับถ่ายปัสสาวะ(Urinary system) Part I - Coggle Diagram
ระบบขับถ่ายปัสสาวะ(Urinary system)
Part I
ระบบขับถ่ายปัสสาวะ
ประกอบด้วยอวัยวะต่างๆ ดังนี้
•ไต (Kidneys)
•หลอดไต หรือท่อไต (Ureters)
•กระเพาะปัสสาวะ (Urinary bladder)
•หลอดปัสสาวะ หรือท่อปัสสาวะ(Urethra)
หน้าที่สำคัญของระบบขับถ่ายปัสสาวะ คือ
1.) รักษาสมดุลของน้ำสารพวกเกลือแร่ต่างๆ
2.) เลือกสารขับถ่ายต่างๆ ที่เป็นพิษออกไป
3.) ควบคุมสมดุลกรด-ด่างในร่างกาย
4.) สร้างฮอร์โมน renin, erythropoetin และ calcitriol
ไต (Kidney) มีอยู่2ข้าง
มีรูปร่างคล้ายเม็ดถั่ว
วางตัวอยู่ด้านหลังของเยื่อบุช่องท้อง(Retroperitoneum)
เหนือเอวเล็กน้อย
อยู่ระหว่างกระดูกสันหลังระดับT12 - L3 (ไตซ้ายอย่สูงกว่าไตขวาเล็กน้อย)
ลักษณะภายนอกของไต
โครงสร้างของไต
Cortex
Medulla
โครงสร้างที่ห่อหุ้มไต
ผิวนอกของไตถูกควบคุมเนื้อเยื่อ3ชั้นคือ
Renal capsule
Perinephric (Perirenal) fat
Renal fascia
Renal Cortex
• มีสีน้ำตาลแดง
• มีส่วนแทรกเข้าไปในpyramid เรียก renal column
• ประกอบด้วย Renal
corpouscles (Glomerulusและ Bowman's Capsule)
• พบท่อหน่วยไตส่วนต้น
(renal tubule)
Renal medulla
พบ renal pyramid 6-12 อัน
ยอดแหลมของ pyramid เรียก renal papillaเป็นท่อเปิดของpapillary duct
ประกอบด้วยส่วน henle’s loop
Parenchyma of kidney
เนื้อไตทางส่วน cortex และmedulla เรียกว่า parenchyma of kidney
Parenchyma of kidney
ประกอบด้วย uriniferous tubule
Uriniferous tubule
-ประกอบด้วย 2 พวก คือ1. Nephrons
Collecting tubules
Nephrons
Cortical nephron มี renal
corpuscle อยู่ที่ cortex, Henle’sloop ยื่นมาถึง medulla พบ
ประมาณ 85%
Juxtamedullary nephron มี renal
corpuscle อยู่ที่ corticomedullary
junction, Henle’s loop ยื่นมาถึง
medulla พบประมาณ 15%
ส่วนประกอบของ Nephrons
ทำหน้าที่ในการสร้างน้ำปัสสาวะและส่งผ่านเข้ากรวยไต
ประกอบด้วย 2 ส่วน คือ
Renal corpuscles
1.1 Bowman’s capsule
1.2 Glomerulus)
Renal tubules
2.1 Proximal tubule
2.2 Henle’s loop
2.3 Distal tubule
Renal corpuscle
เป็นส่วนที่เกี่ยวข้องกับการกรอง(Filtering unit) อยู่ในเนือ้ ไตส่วน cortexประกอบด้วย
1.1 Bowman’s capsule ทำหน้าที่รองรับglomerulus และของเสียที่กรองได้
1.2 Glomerulus กลุ่มของเส้นเลือดฝอย(capillaries)
Renal corpuscle
-Vascular pole เป็นทางเข้าออกของหลอดเลือด Afferent และ Efferent arteriole
จาก glomerulus
-Urinary pole เป็ นทางติดต่อกับ proximal convoluted tubule
1.1 Bowman’s capsule
Bowman’s capsule ประกอบด้วยผนัง 2 ชั้น คือ
Parietal layer จะต่อเนื่องไปกับ proximal tublue
Visceral layer มีเซลล์พิเศษชื่อ podocyte
1.2 Glomerulus
ประกอบด้วย
1.2.1 Glomerular capillary
1.2.2 Podocytes
1.2.3 Mesangial cells
1.2.1 Glomerular capillary
ประกอบด้วย endothelial cellsบุอยู่ภายในผนังของหลอดเลือดฝอยที่มีรูขนาด 10-100 นาโนเมตร
1.2.2 Podocytes
Podocytes คือ modified epithelial cells ของ visceral layer
พบ filtration slit กว้าง 20-40 นาโนเมตร และมีเนื้อเยื่อกั้น เรียก slit diaphragm
1.2.3. Mesangial cells
Mesangial cells พบอยู่ระหว่าง capillary ดังนั้นจึงเปรียบเสมือนแกนของ glomerulusโดยเชื่อมเส้นเลอื ดแดงฝอยให้รวมเป็นกลุ่ม
Renal tubules
ประกอบด้วย2.1 Proximal convoluted tubule
2 Loop of Henle
2.1 หลอดไตส่วนต้น (Proximal convoluted tubule : PCT)
• เป็นหลอดไตส่วนแรกที่ต่อออกจากparietal layer of bowman’s capsule
เป็นท่อขดไปมา
ทำหน้าที่ ดูดซึมน้ำออกจากน้ำเลือดที่กรองผ่านจากโกลเมอรูลัส เเละสารอื่น
สามารถดูดกลับ กรดอะมิโนน้ำตาลกลูโกส
สามารถขับสารบางอย่างจากหลอดไตเช่น ครีเอทีนไอโอดีนเพื่อเข้าสู่งน้ำกรอง
2.2 ห่วงหลอดไต (Loop of Henle: ท่อขาลง, ท่อขาขึ้น)
1 ท่อยูขาลง(descending limb)
2ท่อยูขาลง (ascending limb)
หน้าที สามารถดูดซึมโซเดียมอิออน
โพแทสเซี่ยมและคลอไรด์ อิออนกลับ
โดยทั่วไปของเหลวที่อยู่ในส่วนนี้จะเป็น
ของเหลวที่มีความเข้มข้นมากที่สุดในหลอดไต
ท่อตัวยูขาลง(descending
limb of loop of henle)หลอดไตส่วนนี้สามารถดูดกลับน้ำได้ เเต่ไม่ดูดกลับสาร
2.3 หลอดไตส่วนปลาย (Distal convoluted tubule : DCT) • เป็ นท่อน้ำปัสสาวะไหลไปยังท่อไตรวม(Collecting tubule) และส่งออกไปยัง
Calyx ของไต
ทำหน้าท่ี่ สามารถดูดกลืนกลับน้ำได้ประมาณ 10 เปอร์เซ็นต์เเละมีการดูดซึมโซเดียมอิออนและคลอไรด์อิออนได้บ้างรวมทั้งสามารถหลั่งหรือขับสารต่าง ๆกลับเข้าสู่ท่ิไตได้ เช่น แอมโมเนียมอิออนไฮโดรเจนอิออนและโพแตสเซี่ยมอิออน
หลอดไตรวม (Collecting duct)
เป็นท่อมีขนาดใหญ่ มีส่วนปลายของหลอดไต ส่วนปลาย (distal convolutedtubules) หลายๆ ท่อมาเปิดเข้า
หน้าที่ ทำให้น้ำปัสสาวะเข้มข้น ภายใต้ความควบคุมของAntidiuretic hormone (ADH)
โครงสร้าง Juxtaglomerular apparatus (JGA)
เป็นโครงสร้างที่ทำหน้าที่สร้างฮอร์โมนรีนินโดยมีความเกี่ยวข้องกับ
1 ควบคุมเลือดที่เข้ามาที่ไต (renal blood flow, RBF)
2 ควบคุมอัตราการกรอง(glomerular fitration rate, GFR)
ส่วนประกอบของ juxtaglomerular apparatus
Macula densa
Juxtaglomerular cell
Glomerular mesangial cells
เส้นเลือดที่มาไต (Blood supply)
เป็ น renal artery ทั้งข้างซ้ายและขวาที่แตกแขนงมาจาก abdominal aorta
เส้นประสาทที่มาไต (Nerve supply)
Renal sympathetic plexus.
Sympathetic fibers from
T10-L2 (hypogastric plexus)
Parasympathetic fibers
from S2-4 (pelvic
splanchnic nerve)
หลอดไต (Ureters)
• เป็นท่อต่อจาก renal pelvis
• ทอดตัวลงมาตามกล้ามเนื้อ psoas major
• ยาวประมาณ 10-12 นิ้ว
• เปิดกระเพาะปัสสาวะทางด้านข้าง
• ทำหน้าที่นำปัสสาวะจากกรวยไตไปเก็บในกระเพาะปัสสาวะ
กระเพาะปัสสาวะ (Urinary bladder)
• เป็นอวัยวะที่อยู่บริเวณช่องท้องท้องน้อย (Pelvic cavity) หลัง
รอยต่อของกระดูกหัวหน่าว
(Symphysis pubis)
• ทำหน้าที่กักเก็บน้ำปัสสาวะ
ท่อปัสสาวะ (Urethra)
ท่อปัสสาวะชาย (Male urethra)
• มีความยาว 18-20 cm.
• เริ่มจากรูเปิดภายใน (internal orifice) ที่คอของกระเพาะปัสสาวะไปจนถึงรูเปิดภายนอก
(external orifice) หรือที่ปลายองคชาต(penis)
• เป็นทางผ่านของน้ำปัสสาวะเเละน้ำอสุจิ
ท่อปัสสาวะชาย (Male Urethra)
แบ่งออกเป็ น 3 ส่วน คือ
Prostatic urethra
Membranous urethra
Penile urethra
ท่อปัสสาวะเพศหญิง (Female urethra)
➢ ยาว 4 ซม ตั้งอยู่หลังsymphysis pubis และติดกับผนังด้านหน้าของช่องคลอด (vagina)
เส้นประสาทที่มาเลี้ยง ureter, urinary bladderและ internal urethral sphincter
Parasympathetic fibers ทำให้กล้ามเนื้อเรียบของ ureter แล urinary bladder หดตัว และกล้ามเนื้อ internal urethral sphincter คลายตัว- Sympathetic fibers ให้ผลตรงข้ามกับ
Parasympathetic fibers