Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
จิตวิทยาการศึกษากับการศึกษาพิเศษและการเรียนรวม, 633050050-4 กณิศนันต์…
จิตวิทยาการศึกษากับการศึกษาพิเศษและการเรียนรวม
ความหมาย
: ศาสตร์ที่ศึกษาวิจัยเกี่ยวกับการการเรียนรู้และพัฒนาการของผู้เรียนกลุ่มพิเศษ และการจัดการเรียนการสอนแบบรวม ของผู้เรียนกลุ่มพิเศษ และทั่วไป
ความสำคัญ
: พระราชบัญญัติการจัดการสำหรับคนพิการ พ.ศ.2551 ได้ กล่าวถึงสิทธิและหน้าที่ทางการศึกษาของผู้พิการไว้ว่า ผู้พิการมีสิทธิได้รับการศึกษา การบริการทางการศึกษา โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ตั้งแต่แรกเกิดหรือพบความพิการจนตลอดชีวิต
การพัฒนาด้านต่างๆ
ความสำคัญต่อครอบครัว
ความสำคัญต่อครู
ความสำคัญต่อตัวเด็ก สองกลุ่มคือ เด็กปกติ และ เด็กที่มีความต้องการพิเศษ
ความสำคัญต่อสังคม
รูปแบบการจัดการศึกษาพิเศษ
การจัดการศึกษาโดยศูนย์การศึกษาพิเศษ
: ทำหน้าที่บริหารจัดการการศึกษาเพื่อคนพิการ ทำหน้าที่ช่วยเหลือระยะแรกเริ่มแก่เด็กพิการ และครอบครัว และเตรียมความพร้อมแก่คนพิการ
การจัดการศึกษาแบบเรียนรวม
: เป็นการจัดการเรียนให้เด็กที่มีความต้องการพิเศษเข้าไปในระบบการศึกษาทั่วไป เป็นการจัดการศึกษาที่ให้เด็กพิเศษมีขีดจำกัดน้อยที่สุด
แนวคิดหลักซึ่งนำมาใช้เป็นแนวทาง
ความหลากหลาย
การยอมรับความแตกต่าง
โอกาสเท่าเทียม (Equal Opportunity)
เคารพสิทธิซึ่งกันและกัน
สิ่งแวดล้อมที่มีความจำกัดน้อยที่สุด
หลักการ
: เด็กเลือกโรงเรียน มิใช่ โรงเรียนเลือกเด็ก
แนวคิดและปรัชญา:
การจัดการเรียนแบบรมจะต้องร่วมมือกันระหว่าง ภาครัฐ เอกชน ผู้ปกครองและชุมชน และการเรียนรวมรวมเกิดจากปรัชญา การศึกษาเพื่อทุกคน เพราะเด็กทุกคนมีความแตกต่างกันทั้งในด้าน ร่างกายสติปัญญา อารมณ์ สังคม
ทฤษฎี
: องค์การสหประชาชาติประกาศไว้เมื่อ ค.ศ.1995 ให้ทุกประเทศจัดการเรียนรวมตามหลักการแบ่งสัดส่วนตามธรรมชาติ บุคลากรทุกฝ่ายที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเด็กมาทำงานร่วมกัน ได้แก่ พ่อ แม่ ผู้ปกครอง ของเด็กปกติและเด็กพิเศษ ผู้บริหาร ครูประจำชั้น ครูพิเศษ และบุคลากรในชุมชนอื่นๆ
กรมการศึกษานอกโรงเรียน
จัดกลุ่มการเรียน และส่งครูอาสาเข้าไปสอน เน้นการเรียนรู้ตามหลักสูตรระดับต่างๆ ภาครัฐร่วมกับภาคเอกชน เช่น ศูนย์การศึกษาพิเศษเขตการศึกษา โรงเรียนศึกษาพิเศษเฉพาะความพิการ โรงเรียนร่วมหรือองค์กรอื่นที่่เกี่ยวข้อง
การจัดการศึกษาโดยครอบครัว
: การจัดการศึกษาศูนย์การเรียนสำหรับกลุ่มคนพิการโดยจัดในลักษณะ ศูนย์การเรียน ครอบครัว หรือ Home School
การจัดการศึกษาโดยชุมชน
: จัดกิจกรรมส่งเสริมการศึกษาและการเรียนรู้ รวมทั้งการสร้างโอกาส และพิทักปกป้องสิทธิต่างๆ ของคนพิการในความดูแล ชุมชน องค์กรเอกชน ได้แก่ กลุ่มบุคคล ชมรม สมาคม มูลนิธิ
แบบโรงเรียนเฉพาะความพิการ
: จะมีการออกแบบสถานที่ การเรียนการสอน จำเพาะต่อความพิการ ประเภทใดประเภทหนึ่งหรือหลายประเภท
ประเภทของความต้องการจำเป็นพิเศษทางการศึกษา
บกพร่องทางการเรียนรู้
(L.D.)
เด็กที่มีความบกพร่องอย่างใดอย่างหนึ่ง หรือหลายอย่างในกระบวนการพื้นฐานทางจิตวิทยาที่เกี่ยวข้องกับความเข้าใจหรือภาษา
บกพร่องทางภาษาและการพูด
คนที่บกพร่องในเรื่องของการออกเสียง เช่น เสียงผิดปกติ อัตราความเร็วและจังหวะพูดผิดปกติ
บกพร่องทางร่างกายและสุขภาพ
บุคคลที่มีความบกพร่องทาง
ร่างกาย
ได้แก่ บุคคลผิดปกติ แขน ขา ลำตัว
บุคคลที่มีความบกพร่องทาง
สุขภาพ
ได้แก่ อาการเจ็บป่วยเรื้อรัง หรือ โรคประจำตัว
มีปัญหาทางพฤติกรรมหรืออารมณ์
เด็กที่มีพฤติกรรมเบี่ยงเบนไปจากปกติอย่างมาก และพฤติกรรมนั้นเป็นไปอย่างต่อเนื่องและไม่เป็นที่ยอมรับของสังคม
บกพร่องทางสติปัญญา
เกิดขึ้่นก่อนอายุ 18ปี
ระดับที่ 1 ขั้นเล็กน้อย IQ 50-60
ระดับที่ 2 ขั้นปานกลาง IQ 35-49
ระดับที่ 3 ขั้นรุนแรง IQ 20-34
ระดับที่ 4 ขั้นรุนแรงมาก IQ น้อยกว่า 20
เด็กออทิสติก
เด็กที่มีความผิดปกติทางพัฒนาการด้านสังคม ภาษาและสื่อความหมาย พฤติกรรม อารมณ์ และจินตนาการ
บกพร่องทางการได้ยิน
คนหูหนวก
: บุคคลที่สูญเสียการได้ยินมาก 90 เดซิเบลขึ้นไป
คนหูตึง
: บุคคลที่มีการได้ยินที่จะได้ยินน้อยกว่า 90 เดซิเบลลงมาถึง 26 เดซิเบล
เด็กพิการซ้อน
เด็กที่มีความบกพร่องของอวัยวะตั้งแต่สองอย่างขึ้นไป ในบุคคลเดียวกัน
บกพร่องทางการมองเห็น
คนตาบอด
: บุคคลสูญเสียการมองเห็น อยู่ในระดับ(6/60) หรือ (20/200)
คนเห็นเลือนลาง
: บุคคลที่สูญเสียการมองเห็น อยู่ในระดับ (6/18) หรือ (20/70)
กระบวนการสอนเด็กที่มีความต้องการจำเป็นพิเศษ
เริ่มจากสังเกตพฤติกรรมทั่วไป และทำการประเมินความสามารถพื้นฐานของเด็กเพื่อจัดการวางแผนการจัดการศึกษาเฉพาะบุคคล (IEP : Individual Education Program) โดยเน้นการใช้ เทคนิคการสอนทางการศึกษาที่เหมาะสมกับปัญหา ความต้องการของเด็กเป็นรายบุคคล
633050050-4 กณิศนันต์ เขมวาส
เลขที่ 1