Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
กฎหมายสิ่งแวมล้อม, กฏหมายและนโยบายที่เกี่ยวข้อง, หน่วยการเรียนรู้ที่ 7 -…
กฎหมายสิ่งแวมล้อม
- พระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพ
สิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ ศ 2535
พระราชบัญญัติฉบับนี้มีผลใช้บังคับเมื่อวันที่ 3 มิถุนายน พ ศ 2535 โดยยกเลิกฉบับเก่าซึ่งมีใช้ มาตั้งแต่ พ ศ 2522 และใช้หลักว่าบุคคลที่ก่อให้เกิดภาวะมลพิษต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายเพื่อการขจัด มลพิษนั้น โครงสร้างของกฎหมายแบ่งเป็น 7 หมวดคือ
-
1.4 การควบคุมมลพิษ
ให้จัดตั้งคณะกรรมการควบคุมมลพิษ โดยมีปลัดกระทรวง วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและสิ่งแวดล้อมเป็นประธาน เพื่อเสนอแผนปฏิบัติการป้องกันหรือแก้ไขอันตราย จากมลพิษ รวมทั้งให้คำแนะนำในเรื่องมาตรฐานควบคุมมลพิษจากแหล่งกำเนิด ประกาศเขตควบคุมมลพิษ มลพิษทางอากาศและเสียง มลพิษทางน้ำ มลพิษอื่น ๆ และของเสียอันตราย การตรวจสอบและควบคุม ค่าบริการและค่าปรับ ทั้งยังกำหนดให้เจ้าพนักงานควบคุมมลพิษมีหน้าที่ควบคุมตรวจสอบสั่งปรับปรุง และให้คำแนะนำต่อเจ้าพนักงานท้องถิ่นในการปฏิบัติการจดทะเบียนผู้รับจ้างเป็นผู้ควบคุมหรือรับจ้าง ให้บริการ บำบัดน้ำเสียหรือกาจัดของเสียต่อเจ้าพนักงานท้องถิ่นด้วย
1.5 มาตรการส่งเสริม
ต่อเจ้าของหรือผู้ครอบครองแหล่งกำเนิดมลพิษทางด้านอากรขาเข้า ของเครื่องจักรอุปกรณ์การ
ขอผู้เชี่ยวชาญจากต่างประเทศเข้ามาปฏิบัติหน้าที่ โดยยื่นขอต่อ คณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ
1.2 กองทุนสิ่งแวดล้อม
จัดตั้งกองทุนสิ่งแวดล้อมขึ้นในกระทรวงการคลัง โดยให้กรมบัญชีกลาง เป็นผู้รับผิดชอบบริหารกองทุนตามคำแนะนำของคณะกรรมการกองทุน ที่จัดตั้งขึ้นใหม่ เพื่อกำหนด เงื่อนไขในการให้รัฐและเอกชนกู้ยืม หรือเป็นเงินช่วยเหลือในกิจการที่เกี่ยวกับ
การส่งเสริม และรักษา คุณภาพสิ่งแวดล้อมตามกฎหมาย
1.7 บทกำหนดโทษ
ผู้ที่ฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย อาจถูกจำคุกตั้งแต่ 1 เดือน ถึง 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 5,000 ถึง 500,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ แล้วแต่มาตรการที่ฝ่าฝืน การที่ฝ่าฝืน
-
-
- พระราชบัญญัติการสาธารณสุข พ ศ 2535
พระราชบัญญัติฉบับนี้ยกเลิก พระราชบัญญัติการสาธารณสุขฉบับที่มีใช้มาแต่ พ ศ 2527 และ พระราชบัญญัติควบคุมการใช้อุจจาระและปุ๋ยที่มีใช้มาแต่ พ ศ 2497 โดยให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวง สาธารณสุขรักษาการตามพระราชบัญญัตินี้และให้เจ้าพนักงานสาธารณสุขในการกำกับดูแลการทำงาน ของเจ้าพนักงานของเจ้าพนักงานท้องถิ่นในการจัดการปฏิบัติตามกฎหมาย
ในกฎหมายได้ให้คำจำกัดความของ ของเสียไว้ 2 ชนิด คือ “สิ่งปฏิกูล” หมายความว่า “อุจจาระ หรือปัสสาวะและหมายความรวมถึงสิ่งอื่นใดซึ่งเป็นสิ่งโสโครกหรือมีกลิ่นเหม็น “มูลฝอย” หมายความว่า “เศษกระดาษ เศษผ้า เศษอาหาร เศษสินค้า ถุงพลาสติก ภาชนะใส่อาหาร มูลสัตว์หรือซากสัตว์ รวมตลอดถึงสิ่งอื่นใดที่เก็บจากถนน ตลาด ที่สัตว์เลี้ยง หรือที่อื่นกฎหมายแบ่งออก เป็น 16 หมวด ดังนี้
-
-
3.15 บทกำหนดโทษ
ผู้ฝ่าฝืนอาจถูกปรับตั้งแต่ 500 ถึง 10,000 บาท หรือถูกจำคุกตั้งแต่1 ถึง 6 เดือน หรือทั้งจำทั้งปรับ
-
-
3.5 เหตุรำคาญ
เหตุอันก่อให้เกิดความเดือดร้อนแก่ผู้อาศัยในบริเวณใกล้เคียงหรือผู้ที่ต้อง ประสบกับเหตุนั้น เช่น การกระทำใด ๆ อันเป็นเหตุที่ทำให้เกิดกลิ่นแสง
รังสีความร้อน สิ่งมีพิษ ความสั่นสะเทือน ฝุ่นละออง เขา เถ้า หรือกรณีอื่นใด
จนเป็นเหตุให้เสื่อมหรืออาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพ ซึ่งเจ้าพนักงานท้องถิ่น มีอำนาจออกคำสั่งเพื่อระงับ กำจัดและควบคุมเหตุรำคาญได้
-
3.4 สุขลักษณะของอาคาร
เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นมีอำนาจสั่งให้แก้ไขอาคารที่มีสภาพชำรุดทรุดโทรมหรือมีสภาพรกรุงรังไม่ถูกสุขลักษณะ หรือมีคนอยู่มากเกินไปจนอาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพ
3.2 คณะกรรมการสาธารณสุข
ให้ตั้งคณะกรรมการสาธารณสุข โดยมีปลัดกระทรวง สาธารณสุขเป็นประธานกรรมการและกรรมการอีก 17 คน ประกอบด้วยอธิบดีกรมอนามัยและการมอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องรวมทั้งผู้ทรงคุณวุฒิจากภาคเอกชนเพื่อให้มีหน้าที่เสนอคำแนะนำต่อรัฐมนตรี
-
3.1 บททั่วไป
ให้รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขมีอำนาจจากการออกกฎกระทรวงกำหนด หลักเกณฑ์มาตรฐานสภาวะความเป็นอยู่ที่เหมาะสมกับการดำรงชีพของประชาชนและมีวิธีดำเนินการ เพื่อตรวจสอบควบคุมและแก้ไข
-
-
-
-
-
- พระราชบัญญัติโรงงาน พ ศ 2535
พระราชบัญญัติฉบับนี้ แบ่งโรงงานเป็น 3 ประเภทใหญ่ เพื่อสะดวกในการควบคุมและกำกับดูแลให้รัฐมนตรีกระทรวงอุตสาหกรรมรักษาการตาม พระราชบัญญัตินี้ “โรงงาน” ตาม พระราชบัญญัตินี้ หมายความว่า “อาคารสถานที่ หรือยานพาหนะที่ใช้เครื่องจักร มีกำลังรวมตั้งแต่ห้าแรงม้าหรือกำลัง เทียบเท่าตั้งแต่ห้าแรงม้าขึ้นไป หรือใช้คนตั้งแต่เจ็ดคนขึ้นไปโดยใช้เครื่องจักรหรือไม่ก็ตาม สำหรับทำ ผลิต ประกอบ บรรจุ ซ่อมบำรุง ทดสอบ ปรับปรุง แปรสภาพเก็บรักษา หรือทําลายสิ่งใด ๆ ทั้งนี้ตามชนิดของ โรงงานที่กำหนดในกฎกระทรวง โครงสร้างของกฎหมายแบ่งเป็น 3 หมวด ได้แก่
-
-
2.3 บทกำหนดโทษ
ผู้ฝ่าฝืนอาจถูกปรับตั้งแต่ 5,000 ถึง 200,000 บาท หรือจำคุกตั้งแต่ 6 เดือน ถึง 2 ปี หรือ ทั้งจำทั้งปรับโทษหนักที่สุด ได้แก่ เมื่อผู้ประกอบกิจการโรงงานฝ่าฝืนคำสั่งให้หยุดประกอบกิจการโรงงาน ซึ่งต้องระวางโทษจําคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และให้ปรับอีกวันละ 5,000 บาท จนกว่าจะหยุดประกอบกิจการ หากสถาปนิกหรือวิศวกรยังฝ่าฝืนทำงานในโรงงานที่มีค่าสั่ง ปิดแล้วก็จะต้องระวางโทษเช่นเดียวกับผู้ประกอบกิจการ
นอกจากนี้ยังมีกฎกระทรวงอุตสาหกรรมที่ออกตามความในพระราชบัญญัติโรงงาน พ ศ 2535 อีกหลายฉบับที่สำคัญ คือ
-
ฉบับที่ 3 กำหนดประเภทของโรงงานที่ต้องทำรายงานต่อทางการตามที่กำหนด ได้แก่โรงงานที่ใช้หม้อต้มน้ำ โรงงานที่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอย่างรุนแรง
ฉบับที่ 2 กำหนดที่ตั้งและลักษณะโรงงาน ทำเลที่ตั้งห่างจากที่สาธารณะ เช่น ห้ามตั้ง โรงงานทุกประเภทในบริเวณบ้านจัดสรรเพื่อการพักอาศัย อาคารชุดพักอาศัยและบ้านแถวเพื่อการอาศัย เป็นต้น
กฎหมายสิ่งแวดล้อม (Environmental Law) หมายถึง กฎหมายประเภทหนึ่ง โดยตราขึ้นเพื่อ การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมเป็นหลัก เนื้อหาจะครอบคลุมการป้องกัน และเยียวยาความเสื่อมโทรมแห่งสุขภาพ ทั้งของมนุษย์และอมนุษย์ และจะเกี่ยวกับกฎหมายจารีตประเพณี สนธิสัญญา ข้อตกลง พันธกรณี กฎระเบียบ และนโยบาย
-
-