Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
แนวคิด หลักการการพยาบาลผู้ป่วยภาวะฉุกเฉิน และสาธารณภัย - Coggle Diagram
แนวคิด หลักการการพยาบาลผู้ป่วยภาวะฉุกเฉิน และสาธารณภัย
แนวคิด หลักการพยาบาลผู้ป่วยภาวะฉุกเฉิน
การเจ็บป่วยวิกฤต
“Crisis”นํามาใช7กับผู7ปYวยที่อยู;ในสภาวะที่มีสถานการณUคับขัน เปgนจุดวิกฤตของการเปgนโรค ทําให7มีอาการดีขึ้น
“Critical”จะนํามาใช้ในผู้ป่วยอาการเพียบหนัก มีอาการรุนแรง หรือขั้นฉุกเฉิน มีอันตราย
การเจ็บป่วยฉุกเฉินคือ การเจ็บป่วยที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน จําเป็นต้องดําเนินการช่วยเหลือ และการดูแลรักษาทันที
อุบัติเหตุ (Accident)คือ อุบัติการณ์ซึ่งเกิดขึ้น โดยไม่คาดหมายมาก่อน ทําให้เกิดการบาดเจ็บตายและการสูญเสียทรัพย์สินโดยที่เราไม่ต้องการ
ผู้ป่วยภาวะฉุกเฉิน
2.หยุดหายใจ หายใจช้ากว่า 10 ครั้งต่อนาที หรือเร็วกว่า30ครั้งต่อนาที
3.คลําชีพจรไม่ได้ หรือชีพจรช้ากว่า 40หรือเร็วกว่า30 ครั้ง/นาที
1.ไม่รู้สึกตัว ชัก เป็นอัมพาต
4.ความดันโลหิตSystolicต่ํากว่า80มม.ปรอท หรือ Diastolic สูงกว่า 130มม.ปรอท
5.ตกเลือดเลือดออกมากซีดมาก
ผู้ป่วยวิกฤตมีลักษณะดังนี้
ผู้ป่วยที่สามารถรักษาได้
ผู้ป่วยที่มีอัตราตายสูง
3.ผู้ป่วยที่มีแนวโน้มที่จะมีอาการรุนแรง
ผู้ป่วยที่อัตราตายสูง แม้จะได้รับการรักษา
หลักการพยาบาลผู้ป่วยภาวะฉุกเฉิน
หลักทั่วไปในการพยาบาลผู้ป่วยภาวะฉุกเฉิน
2.การป้องกันและบรรเทาไม่ให้เกิดอาการรุนแรงถึงขั้นวิกฤต
3.การบันทึกเหตุการณ์อาการและการช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ
1.เพื่อช่วยชีวิต เช่น ผู้ป่วยที่มีภาวะหยุดหายใจ หรือหัวใจหยุดเต้นกะทันหัน
4.การส่งต่อรักษา หลังจากให้การช่วยเหลือเบื้องต้นแก่ผู้ป่วยแล้ว
การพยาบาลสาธารณภัย
สาธารณภัย / ภัยพิบัติ (Disaster) หมายถึง ภัยที่เกิดขึ้นไม่ว่าจะเกิดจากธรรมชาติหรือจากการกระทําของมนุษย์แล้วก่อให้เกิดอันตรายต่อชีวิต
ภัย (Hazard) หมายถึง เหตุการณ์หรือปรากฏการณ์ใดๆที่สามารถที่ทําให้เกิดอันตรายต่อชีวิต
หลักการพยาบาลสาธารณภัย
2.การเตรียมความพร้อม (Preparedness) : การรองรับเหตุการณ์ฉุกเฉิน เป็นระยะต่อเนื่องจากการบรรเทาภัย
3.การตอบโต้เหตุการณ์ฉุกเฉิน (Response) ต้องมีการดําเนินการทันเมื่อเกิดภัย
1.การบรรเทาภัย (Mitigation) : กิจกรรมต่าง ๆ ที่ดําเนินการเพื่อลดหรือกําจัดโอกาสในการเกิดหรือลดผลกระทบของการเกิดภัยพิบัติ
4.การควบคุมยับยั้งโรคและภัยอันตรายที่อาจเกิดขึ้น ต้องจัดให้มีระบบเฝ้าระวังภายใน 5 วันหลังภัยพิบัติ
5.การบูรณะฟื้นฟู (Recovery) เป็นระยะสุดท้ายในการจัดการภาวะฉุกเฉินทางสาธารณสุข
ลักษณะของการปฏิบัติการพยาบาลในสถานการณ์สาธารณภัย
1.มุ่งลดความเสียหายต่อชีวิตและสุขภาพของประชาชนที่เกิดจากสาธารณภัย
2.ต้องนําความรู้และทักษะทางการพยาบาลทั่วไปและด้านการพยาบาลฉุกเฉินมาประยุกต์ใช้
3.เป็นการปฏิบัติการพยาบาลเพื่อ
-ป้องกันและลดความรุนแรงของการบาดเจ็บหรือเจ็บป่วย
-มุ่งเน้นด้านการพยาบาลฉุกเฉินแก่ผู้ประสบภัยจํานวนมากในขณะเกิดภัย
-การฟefนฟูสภาพร;างกายและจิตใจของผู้ประสบภัยและญาติ
การประเมินสภาพร่างกายผู้ป่วยที่ได้รับบาดเจ็บอย่างละเอียด (Secondary Survey)
Blunttrauma ส่วนใหญ่เกิดจากอุบัติเหตุจราจร พลัดตกจากที่สูง
Penetrating traumaเกิดจากอาวุธปืน มีด
History
Physical Examinationในการดูแลผู้ป่วยที่ได้รับบาดเจ็บ ควรตรวจร่างกายผู้ป่วยอย่างละเอียด
Cervical spine and Neck ผู้ป่วยที่ไม่รู้สึกตัวทุกรายที่มีการบาดเจ็บศีรษะควรคํานึงถึง cervical spine injury
Headในการตรวจหนังศีรษะให้ใช้มือคลําให้ทั่วหนังศีรษะเพื่อหาบาดแผล
Chest การตรวจจะเริ่มจากการมองหารอยช้ํา รอยยุบ คลําดูว่ามี Crepitus หรือเจ็บที่จุดใด
Facialควรคลํากระดูกใบหน้าให้ทั่วเพื่อหา deformity ที่อาจบ่งบอกfacial fracture
Abdomen ในผู้ป่วยที่บาดเจ็บและเกิดภาวะ Shock ให้สงสัยการบาดเจ็บในช่องท้องและมีการเสียเลือดเกิดขึ้น
Neurological system เปgนการตรวจระบบประสาทและสมองอย่างละเอียด ประเมิน motor, sensory และต7อง Reevaluation
Musculoskeletal and Peripheral vascular assessmentการบาดเจ็บแขนขาจะประเมินบาดแผล การหักงอ บวมผิดรูป ประเมินจุดที่เจ็บ การเคลื่อนไหว
Re-evaluation ในระยะแรกที่ดูแลผู้ป่วยที่บาดเจ็บ ควรมีการประเมินร่างกายซ้ําเป็นระยะๆ
Pelvic fracture จะตรวจพบ Ecchymosis บริเวณ Iliac wing, Pubis, Labia หรือ Scrotum และเมื่อตรวจ Pelvic compression
การกู้ชีพ (Resuscitation)
Circulation การห้ามเลือดเป็นสิ่งจําเป็นอย่างยิ่งในผู้บาดเจ็บโดยทําร;ช่วมกับการให้สารน้ําทดแทน
การตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ
Breathing ผู้บาดเจ็บทุกรายควรได้รับออกซิเจนเสริมหากไม่ได้ใส่ท่อช่วยหายใจ ผู้บาดเจ็บควรได้รับออกซิเจนผ่านหน้ากาก
การตวงวัดปริมาณปัสสาวะ เป็นตัวบ่งชี้ที่ดีของปริมาณสาน้ําในร่างกายผู็บาดเจ็บและแสดงให้เห็นแต่เนิ่นๆ
Airway ภายหลังจากการประเมิน การทําDefinitive airway ในผู้บาดเจ็บที่มีปัญหาการหายใจ สามารถรักษาได้โดยการใส่ท่อช่วยหายใจ และควรกระทําแต่เริ่มต้นหลังจากที่ช่วยหายใจด้วยออกซิเจน
แนวทางปฏิบัติในระบบทางด่วน (Fast track) สําหรับผู้ป่วยที่มีภาวะฉุกเฉินเร่งด่วน
บทบาทพยาบาลกับระบบทางด่วน (Fast track)
3.การประสานงานผู้เกี่ยวข้องทั้งภายในและภายนอกองค์กร
4.การจัดการและดูแลขณะส่งต่อ
2.การรายงานแพทย์ผู้รักษาเพื่อตัดสินใจสั่งการรักษา
5.การให้การดูแลตามแผนการรักษาภายใต้ระยะเวลาที่จํากัด
1.การประเมินเบื้องต้นโดยใช้ความรู้ ความสามารถเฉพาะโรค
หลักการดูแลผู้บาดเจ็บ (Trauma life support)
ระบบการดูแลผู้บาดเจ็บ (Trauma care system)
การเข้าถึงหรือรับรู้ว่ามีเหตุเกิดขึ้น (Access)
การดูแลในระยะก่อนถึงโรงพยาบาล (Prehospital care)
การดูแลในระยะที่อยู่โรงพยาบาล (Hospital care)
การฟ[\นฟูสภาพและการส่งต่อ (Rehabilitation& transfer)
การดูแลผู้บาดเจ็บขั้นต้น ประกอบด้วย
การประเมินผู้ป่วยที่ได้รับบาดเจ็บเบื้องต้น (Primary Survey)เปgนการตรวจประเมินพยาธิสภาพหรือการเปลี่ยนแปลง ต้องเรียงลําดับความสําคัญของการบาดเจ็บและภาวะคุกคามแก่ชีวิตให้ดี
Airway maintenance with cervical spine protection
วิธีการเปิดทางเดินหายใจแบบ modified jaw-thrust maneuverใช้ในกรณีสงสัยมีการบาดเจ็บบริเวณต้นคอ
วิธีการเปิดทางเดินหายใจแบบTriple airway maneuver
วิธีการเปิดทางเดินหายใจแบบ jaw-thrust maneuver
วิธีการเปิดทางเดินหายใจแบบ Head-tilt Chin-liftmaneuver
Resuscitation เปgนการช;วยเหลือเพื่อให้ผู้ป่วยพ้นภาวะวิกฤตที่อาจทําให้เสียชีวิตได้
ปัญหาการหายใจที่พบบ่อยในการทํา primary survey ได้แก่ tension pneumothorax, Flail chest withpulmonary contusion, Open pneumothorax, Hemothorax, นอกจากจะมีปัญหาเรื่องการหายใจแล้วยังมีปัญหาเรื่อง Hypovolemic shock
Secondary surveyเป็นการตรวจร่างกายอย่างละเอียดหลังจากผู้ป่วยพ้นภาวะวิกฤตแล้ว
อาการทางระบบประสาท ประกอบด้วย ระดับความรู้สึกตัวเปลี่ยนแปลง ผู้ป่วยจะเริ่มมีอาการซึม เชื่องช้า สับสน
ผิวหนัง ผู้ป่วยจะมีผิวหนังเย็น ชื้น เหงื่อออกมาก cyanosis
หัวใจและหลอดเลือดBlood pressureมีความสําคัญเพราะแสดงถึงปริมาณเลือดออกจากหัวใจใน 1 นาที
ระบบหายใจจะพบการหายใจเร็ว และไม่สม่ําเสมอ จาก Acidosis respiration
ระบบทางเดินปัสสาวะระยะแรกปัสสาวะจะลดลงเหลือ 30-50 ml./hr. และ 40 ml./hr.เมื่อเกิดภาวะไตวายปัสสาวะจะออกน7อยกว่า 20 ml./hr.
ระบบทางเดินอาหารผู7ปYวยจะกระหายน้ํา น้ําลายน7อยลง ท7องอืด คลื่นไส7 อาเจียน ลําไส7บวม และ ไม;ได7ยิน bowel sound
Definitive care เปgนการรักษาหลังจากผู้ป่วยได้รับการวินิจฉัยเบื้องต้นแล้ว