Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
Thierry Hermès เทียร์รี่ แอร์, มาซาโยชิ ซัน ซีอีโอแห่ง “ซอฟต์แบงก์”,…
Thierry Hermès
เทียร์รี่ แอร์
ด้วยฉายาของเมืองที่หมายถึงกำมะหยี่ สะท้อนให้เห็นความยิ่งใหญ่ของอุตสาหกรรมการผลิตสิ่งทอในเมืองนี้ หล่อหลอมให้เทียร์รี่มีความสนใจในด้านการพิมพ์ลายและสิ่งทอ เขาศึกษาด้านศิลปะอย่างจริงจังรวมถึงสั่งสมประสบการณ์งานฝีมือจนเชี่ยวชาญตั้งแต่วัยเยาว์
เทียร์รี่ นำเทคนิคงานศิลปะที่เขาฝึกฝนมาตั้งแต่วัยเยาว์มาปรับใช้และผสมผสานกับงานฝีมือตัดเย็บเครื่องหนังที่ร่ำเรียนมา รังสรรค์อุปกรณ์สำหรับม้า ไม่ว่าจะเป็นบังเหียน สายคล้อง อานม้า การพิถีพิถันเลือกหนังเพื่อนำมาใช้เป็นวัสดุรวมถึงการตัดเย็บที่ละเอียด ผลงานของเขาจึงเป็นที่เลื่องลือถึงฝีมืออันไม่ธรรมดาของเด็กหนุ่มจากเครเฟลด์คนนี้ ลูกค้าของเขาเป็นกลุ่มคนชั้นสูงผู้ดีมีเงิน ขุนนาง ราชวงศ์ รวมถึงจักรพรรดิ นโปเลียนที่ 3 ก็มีรับสั่งให้เขาทำอานม้าถวาย
ปี 1879 ชาร์ลส์ เอมิล แอร์เมส (Charles Émile Hermès) ทายาทรุ่น 2 ได้ย้ายสตูดิโอมาอยู่ที่ ถนน Rue du Faubourg Saint-Honore (ที่ตั้งในปัจจุบัน) สร้างเป็นร้านรองเท้าแตะ ทั้งผลิต ขายส่ง ขายปลีก ในอดีตถนนสายนี้เคยเป็นที่อยู่อาศัยของขุนนางชั้นสูง แอร์เมสให้กลยุทธ์การขายปลีกโดยตั้งร้านในแหล่งที่อยู่อาศัยของขุนนางชั้นสูง เพื่อเข้าถึงลูกค้าและสร้างความสัมพันธ์กันง่ายขึ้น อานม้าของ Hermès ได้รับรางวัลเหรียญเงินในงานเอ็กซ์โป 2 ครั้ง ทำให้มีชื่อเสียงมากขึ้น
Hermès Frères กับชื่อเสียงระดับโลก
ภายหลังการเกษียนของชาร์ล ได้ส่งต่อการบริหารให้กับลูก 2 คน เข้ารับช่วงบริหารต่อ โดยเปลี่ยนชื่อบริษัทเป็น “Hermès Frères” ซึ่งมีความหมายว่า “2 พี่น้องแอร์เมส” เอมิล ได้ทำการขยายตลาดไกลถึงเมืองเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก มีโอกาสผลิตอานม้าถวายให้กับกษัตริย์ซีซ่าแห่งรัสเซีย ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่เกิดขึ้นตามมาทันที Hermès เป็นที่รู้จักในฐานะผู้ค้าอานม้าสุดหรูและมีชื่อเสียงทั่วโลก
นปี ค.ศ. 1914 Hermès นำซิปมาใช้สำหรับผลิตเสื้อผ้าและเครื่องหนัง เอมิลกลายเป็นนักออกแบบคนแรกที่เริ่มนำซิปมาใช้ในวงการแฟชั่นในฝรั่งเศส แจ็คเก็ตหนังสีทองมีซิปที่ตัดเย็บขึ้นโดยเฉพาะสำหรับเอ็ดเวิร์ดเจ้าชายแห่งเวลส์ เป็นผลงานแรกที่ออกสู่สายตาประชาชน รวมถึงมีการตั้งชื่อซิปอย่างหรูหราว่า “Hermès fastener”
1.พิถีพิถันในการเลือกวัสดุ มีคุณภาพ
2.มีเทคนิคการเย็บเฉพาะตัว อย่างมืออาชีพ
.ไม่เน้นปริมาณแต่เน้นคุณภาพ ทำให้เป็น Hermes ที่ต้องการของลูกค้า
4.แบรนด์เกิดเพราะการบอกต่อ แบรนด์อยู่เติบโตเพราะคุณภาพดี ไม่ใช่โฆษณา
5.ปรับตัวตามยุคสมัยที่เปลี่ยนไป
6.ตำแหน่งทางการตลาด
7.พัฒนาบุคลากรอย่างมืออาชีพ
จากอานม้า สู่กระเป๋าหนังสุดหรู
การพัฒนาของอุตสาหกรรมยานยนต์ ได้เข้ามาแทนที่การเดินทางด้วยม้า ธุรกิจอานม้าได้รับผลกระทบอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เมื่ออานม้าไม่ได้รับความนิยมอีกต่อไป Hermès จึงหันมาผลิตและจำหน่ายกระเป๋าสตรี ในปี ค.ศ. 1956 Hermès เปิดตัวกระเป๋าถือที่มีชื่อเรียกว่า Sac à dépêches เป็นกระเป๋าที่อดีตนักแสดง เกรซ เคลลี่ คู่หมั้นของเจ้าชายแรนีแยร์ (Prince Rainier) แห่งโมนาโค ได้นำกระเป๋ามาบังท้องของเธอไว้ เพื่อปิดข่าวการตั้งครรภ์ขณะกำลังถูกถ่ายภาพโดยปาปารัซซี่ของนิตยสารไลฟ์
ซึ่งแน่นอนว่าเมื่อภาพได้ถูกตีพิมพ์ออกไป กลายเป็นกระแสฮือฮาชั่วข้ามคืน เหล่าสตรีผู้หลงไหลในแฟชั่นต่างพากันมาที่ร้านแอร์เมสพร้อมกับถามหา “Kelly Bag” ทางแบรนด์เห็นโอกาสอันดีในการเปลี่ยนชื่อรุ่นกระเป๋าเพื่อให้รับกับกระแสที่กำลังเป็นนิยมรวมทั้งให้ง่ายต่อการจดจำ ชื่อรุ่น “Hermès Kelly” จึงถือกำเนิดขึ้น โดยที่มาของชื่อมาจาก Grace Kelly นั่นเอง
มาซาโยชิ ซัน
ซีอีโอแห่ง “ซอฟต์แบงก์”
ผู้ปลุกปั้นตั้งกองทุนที่ใหญ่ที่สุดในโลก “วิชั่นฟันด์” มูลค่าเกือบแสนล้านดอลลาร์สหรัฐ
ที่ลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวกับ IoT, AI, หุ่นยนต์,
โครงสร้างพื้นฐาน, โทรคมนาคม, เทคโนโลยีชีวภาพ,
Fintech และ Mobile Application ทั้งหลาย ทั้งยังตั้งเป้า
จะขยายกองทุนเพิ่มอีก 10 เท่าตัว
นิตยสารฟอบส์เผยว่าซงมีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิมากถึง
19.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ จึงเป็นบุคคลที่ร่ำรวยเป็น
อันดับ 2 ของญี่ปุ่นในเดือนมีนาคม ค.ศ. 2020
ฝันให้ไกล...แล้วไปให้ถึง”
“วิสัยทัศน์แห่งอัจฉริยภาพบุคคล”
“แต่ที่น่าสนใจคือเขามีแผนธุรกิจ 300 ปีอยู่ในใจมาตลอด เขาเชื่อใน "Singularity"ว่าในที่สุดเทคโนโลยี Aritificial Intelligence จะพัฒนาด้วยตนเองได้จนเหนือกว่ามนุษย์”
“จุดเริ่มต้นความบ้าของมาซาโยชิ ซัน”
มาซาโยชิเกิดปี 1957 เขาเป็นลูกคนเกาหลีที่อยู่บนเกาะคิวชูของญี่ปุ่น ภาพในวัยเด็กที่เขาจำได้คือถูกเพื่อนร่วมชั้นเรียนปาหินใส่เพราะเขาเป็นคนเกาหลี และนี่คงเป็นแรงผลักดันทำให้เขาอยากทำอะไรสักอย่างเพื่อพิสูจน์ตัวเขาเองว่ามีดีกว่าคนอื่น สิ่งที่ผลักดันเขาอีกแรงหนึ่งคือ การได้พบกับ เด็น ฟูจิตะ นักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จจากการนำแฟรนไชส์ Mcdonald มาเปิดที่ญี่ปุ่น และคนนี้แนะนำให้เขาเลือกเรียนภาษาอังกฤษ และไปเรียนต่อที่อเมริกา
แม้ครอบครัวจะทัดทาน แต่ซันในวัย 16 ปี ยืนยันจะบินไปสหรัฐอเมริกา และเข้าเรียนมัธยมปลายที่โอ๊คแลนด์ในรัฐแคลิฟอร์เนีย ก่อนจะสอบเทียบและเรียนจบได้ภายในระยะเวลาไม่กี่สัปดาห์ เขาเลือกต่อปริญญาตรีด้านวิทยาศาสตร์และเศรษฐศาสตร์ที่ UC Berkeley ซึ่งระหว่างเรียน ซันก็ฉายแววความเป็นผู้ประกอบการด้วยการก่อตั้งบริษัทต่าง ๆ ขึ้นจากความรู้ด้านเทคโนโลยี
เขายังมีสมุดจดไอเดีย นวัตกรรมที่เขาคิดไว้มากกว่า 250 ไอเดีย หนึ่งในไอเดียเหล่านั้น ซันร่วมกับศาสตราจารย์ในมหาวิทยาลัยที่เขาชักชวนมาร่วมงาน พัฒนาเป็นเครื่องแปลภาษา 8 ภาษา จากนั้นเขาก็ขายนวัตกรรมนี้ให้กับบริษัท Sharp ที่ญี่ปุ่น มูลค่า 1 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งนับเป็นจุดเริ่มต้นของเขาในโลกธุรกิจ
แจ็ก หม่า
(อังกฤษ: Jack Ma) หรือชื่อจริงว่า หม่า หยุน
เป็นเจ้าสัวธุรกิจและผู้ใจบุญชาวจีน เขาเป็นผู้ก่อตั้งและประธานบริหารของกลุ่มอาลีบาบาซึ่งประสบความสำเร็จในธุรกิจอินเทอร์เน็ต
เขาเป็นบุคคลที่รวยที่สุดในประเทศจีน และเป็นบุคคลรวยที่สุดอันดับที่ 11 ของโลก โดยมีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิประมาณ 50.3 พันล้านดอลลาร์
แจ็ค หม่า เริ่มต้นทำธุรกิจโดยมีเงินเริ่มต้นเพียง $20,000 เท่านั้น แต่ปัจจุบันเขาเป็นเจ้าของ ALIBABA บริษัทอีคอมเมิร์ซยักษ์ใหญ่ของประเทศจีน เป็นคนที่ร่ำรวยที่สุดของจีน และเป็นมหาเศรษฐีแนวหน้าของโลก
15 วลีเด็ด "แจ็ค หม่า" แรงบันดาลใจดี ๆ ที่อาจเปลี่ยนชีวิตคุณ
อย่าคิดจะยอมแพ้กับอะไรง่าย ๆ แม้ว่าวันนี้จะโหดร้าย จำไว้ว่าพรุ่งนี้โหดร้ายยิ่งกว่า แต่ถ้าผ่านมันไปได้ วันที่สดใสจะมาถึงแน่นอน
คุณควรเรียนรู้จากคู่แข่งของคุณ แต่อย่าไปเลียนแบบเขา หากคุณเลียนแบบ คุณจบ
คนที่ล้มเหลวมีสิ่งที่เหมือนกันอย่างหนึ่ง คือ ทั้งชีวิตพวกเขามีแต่คำว่า "ดูก่อน“
คนจน คือ กลุ่มที่เอาใจยากที่สุด เพราะพวกเขาชอบถามทุกอย่างจาก Google และชอบที่จะคุยแต่กับเพื่อนที่ล้มเหลวเหมือนกันกับตัวเอง
ก่อนอายุ 20 ปี ควรตั้งใจเรียน
ก่อนอายุ 30 ปี ควรหาแบบอย่างสักคน
เมื่ออายุ 30-40 ปี จงทำงานสร้างเนื้อสร้างตัวให้กับตัวเอง
เมื่ออายุ 40-50 ปี ให้มุ่งทำสิ่งที่เราทำได้ดี
เมื่ออายุ 50-60 ปี ให้รู้จักทำงานร่วมกับคนรุ่นใหม่
และเมื่อคุณอายุ 60 ปี ก็จงใช้เวลาที่เหลือไปกับความสุขของตัวเอง
ถ้าคุณมีความฝันที่ยิ่งใหญ่ สิ่งสำคัญที่สุดคือ ต้องมีคนที่เชื่อมั่นในตัวคุณอยู่รอบตัว
ไม่ว่าคุณจะเก่งหรือฉลาดแค่ไหน แต่ถ้าทำงานร่วมกับคนอื่นไม่ได้ ความฝันของคุณก็จะกลายเป็นแค่เรื่องไร้สาระ และไม่มีวันเป็นจริง
โลกนี้มีคน 7,000 ล้านคน แต่ขอให้คิดไว้เสมอว่าคุณคือคนพิเศษกว่าคนอื่น เพราะไม่มีใครที่เหมือนคุณ มีแค่คุณเท่านั้นที่เป็นตัวคุณเอง
วัยหนุ่มสาวคงมีหลายสิ่งหลายอย่างที่อยากจะทำ แต่จงเลือกมาสักอย่างหนึ่ง แล้วลงมือทำมันด้วยความหลงใหล มุ่งมั่นไปกับสิ่งนั้นให้เต็มที่
อย่าคิดว่าคุณจะได้อะไร แต่จงคิดก่อนว่าคุณจะให้อะไร
เริ่มทำก่อนไม่พอ ต้องทำให้ไวด้วย
ถ้าอยากก้าวหน้าในชีวิต จงพยายามมองหาโอกาสให้ตัวเอง และถ้าอยากประสบความสำเร็จในโลกธุรกิจ ให้ลองถามตัวเองก่อนว่า ทุกวันนี้เราช่วยแก้ปัญหาอะไรให้สังคมได้บ้างหรือยัง
ตอบ 3 คำถามนี้ให้ได้ ว่า อะไรคือสิ่งที่คุณอยากทำ อะไรคือสิ่งที่คุณควรทำ และคุณควรใช้เวลากับการทำสิ่งนั้นมากน้อยแค่ไหน
ความสำเร็จไม่มีทางเกิดขึ้นได้แน่นอน ถ้าคุณไม่คิดที่จะลงมือทำ แต่ถ้าได้ลองพยายามทำแล้ว อย่างน้อยคุณก็ยังมีความหวังว่ามันจะสำเร็จ
โลกต้องการผู้นำแบบใหม่ นั่นคือผู้นำที่เข้าใจวิธีการทำงานร่วมกับคนอื่น