Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
Reproductive System and Physiology of Reproductive System - Coggle…
Reproductive System
and
Physiology of Reproductive System
หน้าที>>การทํางานของระบบสืบพันธุ์ —> ดํารงค์พันธุ์ให้คงอยู่ในโลกสืบต่อไปไม่ให้สูญพันธุ์
ระบบสืบพันธุ์
อวัยวะสืยพันธุ์ระดับทุติยภูมิ (Secondary sex organs, Accessory)
ท่อต่าง ๆ (Various ducts), ต่อม (Glands), และอวัยวะเพศภายนอก (External genitalia)
การควบคุมการทางานโดย Hypothalamic-Pituitary-Gonadal axis
อวัยวะสืยพันธุ์ระดับปฐมภูมิ (primary sex organs ,Gonads)
สร้างเซลล์สืบพันธุ์ (Gametes)→Testes (Male), Ovaries (Female)
การกำหนดเพศและความแตกต่างทางเพศของมนุษย์
ชาย (Male) XY Testes determination factor (TDF)
XY>>มีการแสดงออกของ SRY gene>>มีการผลิตTDF>>กระตุ้น Primordial gonad>>
Tertes
1.Sertoli cells>>หลั่งฮอร์โมน MIS>>ทำให้ท่อ Mullerian duct ฝ่อ
2.Leydig cells>>หลั่งฮอร์โมนTestosterone>>พัฒนา Wolffianduct และอวัยวะเพศชายอื่น ๆ
หญิง (Female) XX No TDF
XX chromosomeไม่มีการแสดงออกของ SRY gene>>ไม่มีการผลิตTDF>>กระตุ้นPrimordial gonad>>Ovariesไม่มีฮอร์โมน 1.MIS>>พัฒนา Mullerian duct >>Vagina, Uterus,Fallopian tube
2.ไม่มีฮอร์โมนTestosteroneทำให้ Wolffianduct ฝ่อเกิดการพัฒนาไปเป็นและอวัยวะเพศหญิง
อวัยวะต่างๆในระบบสืบพันธ์เพศหญิง
Oogenesis and Ovarian cycle,Estrogen, Progesterone
Ovaries
อวัยวะสืบพันธุ์ปฐมภูมิระดับปฐมภูมิ (Primary sex organs,Gonads)มีกระบวนการ Oogenesis สร้างไข่ (Oocyte/Ovum)Follicle ผลิตฮอร์โมน EstrogenCorpus luteum ผลิตฮอร์โมน Progesterone
อวัยวะสืบพันธุ์ปฐมภูมิรัง ไข่ (Ovaries) → สร้างไข่ (Ovum)→ ผลิต Estrogen, Progesterone
อวัยวะสืบพันธุ์ระดับทุติยภูมิUterus, Fallopian tube, Vagina, Mammary glands
Testes
อวัยวะสืบพันธุ์ระดับปซมภูมิ (Primary sex organs, Gonads)
Sertoli cells มีกระบวนการ Spermatogenesis สร้างสุจิ
Leydig cells มีกระบวนการ Steroidogenesis ผลิตฮอร์โมน Testosterone
การให้นม
Oxytocinหลั่งน้ำนม
Prolactin ผลิตน้ำนม
การตั้งครรภ์
ใช้เวลา 266-270 วันนับตั้งแต่ปฎิสนนธิถึงคลอด
Female reproductive system
อวัยวะสืบพันธุ์ภายในเพศหญิง
Cervix
Internal os เปิดเข้าสู่โพรงมดลูก
External os ยื่นเข้าไปในช่องคลอด
Uterine หรือ Fallopian tube แบ่งออกเป็น 4 ส่วน
Interstitial portion (Cornu)
Isthmus
Ampulla
Infundibulum
ทำหน้าที่เก็บเซลล์ไข่ที่หลุดออกจากรังไข่เป็นบริเวณที่เกิดการปฏิสนธิและนําเซลล์ไข่ที่ผสมติดแล้วเดินทางเข้าสู่โพรงมดลูก
Uterus
อยู่ใน Pelvic cavity
ด้านหน้าเป็นurinary bladder
ด้านหลังเป็นrectum
แบ่งออกเป็น 4 ส่วน
ตัวมดลูก (Body หรือ corpus)
Isthmus
ยอดมดลูก Fundus
ปากมดลูก (Cervix)
ผนังมดลูก
เส้นเลือดที่มาเลี้ยงมดลูก มาจากUterine artery เป็นแขนงมาจาก internal lilac ateriesOvarian artery เป็นแขนงมาจาก abdominal artery
Endometrium แบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ
Stratum functionalis
Stratum basalis
Ligament ที่ยึดมดลกู (Uterus)
Broad ligament
Round ligament
Uterosacral ligament
Transverse cervical ligament หรือ (Cardinal ligament)
Ovary
• ทําหน้าที่สร้างเซลล์ไข่และสร้างฮอรโมน 2 ชนิดคือEstrogenและProgesterone
Vagina
มีหน้าที่เป็นทางผ่านของเชื้ออสุจิเข้าภายในและเป็นทางผ่านของเด็กขณะคลอด
เยื่อบุภายในช่องคลอดสามารถสลายตัวเกิดระดูขาวปกติในช่องคลอด
อวัยวะสืบพันธุ์ภายนอกเพศหญิง
Vestibule
เป็นบรเิวณตั้งแต่ clitoris จนถึง fourchette
Bartholin gland
เป็นต่อมที่สําคัญทําหน้าที่ขับเมือกสีเหลืองข้นๆออกมาช่วยหล่อลื่นช่องคลอดระหว่างร่วมเพศ
Clitoris
เป็นก้อนเนื้อเล็กๆตั้งอยู่อุ่นบนของแคมเล็ก (Labia minora)และใต้ต่อ mons pubis
Skene’s glands หรือ paraurethral gland
Labia minora
ด้านบนจรดเป็นหนังหุ้มClitoris เรียกว่า frenulum
ทําหน้าที่ล้อมรอบและปกปิดรูเปิดของท่อปัสสาวะและช่องคลอด
เยื่อพรหมจารี (Hymen)
เป็นเยื่่อที่ยืดหดได้ปิดปากช่องคลอดเกือบหมด
Labia majora
มีลักษณะเป็นกลีบเนื้อนูน
เทียลเท่ากับ Scrotumเพศชาย
ฝีเย็บ (Perineum)
ทําหน้าที่พยุงอวัยวะภายในอุ้งเชิงกราน
Mons pubis
มีหน้าที่ป้องกันการกระแทกของ Pubic bone ในขณะร่วมเพศ
MALE REPRODUCTIVE SYSTEM
Internal genital organs
Ejaculatory Duct
เปิดเข้าสู่ prostatic urethra ตรงบริเวณต่อมลูกหมาก
ทำหน้าที่บีบตัวเพื่อขับน้ำอสุจิ
Prostate Gland
อยู่ด้านล่างกระเพาะปัสสาวะ และหลัง pubic symphysis
สร้างProstate fluid ที่มีฤทธิ์เป็นด่างอ่อนๆ
Seminal Vesicle
อยู่ด้านหลังของกระเพาะปัสสาวะ
ทำหน้าที่เป็นน้ำกามเพื่อสร้างอาหารมาเลี้ยง sperm
Cowper’s gland
รูปร่างเท่าเม็ดถั่ว
มีหน้าที่หลั่งสารเมือกเพื่อช่วยหล่อลื่นขณะร่วมเพศและช่วยลดความเป็นกรดของน้ำปัสสาวะ
Vas deferens or Ductus deferens
เป็นท่อที่ต่อจากห่างของ Epididymis และมีส่วนที่พองออกเป็นกระเปราะเรียกว่า Ampulla of vas deferens
ซึ่งเป็นที่เก็บอสสุจิก่อนปล่อยออกสู่ข้างนอก
Spermatozoa
ส่วนหัว(Head )มีลักษณะกลมรี มีสารพันธุกรรมและAcrosome บรรจุเอนไซม์ที่ช่วยในการเจาะเข้าสู่ไข่
ส่วงกลาง (Body )เป็นส่วนคอมี Mitochondia จำนวนมาก
ส่วนหาง เป็น Flagellum
Epididymis
วางตัวติดกับด้านหลังของอวัยวะมีหน้าที่สําคัญ คือ เก็บ sperm ไว้จ นกว่าจะโตเต็มที่เพื่อพร้อมที่จะหลั่งออก
มีลักษณะรูปไข่ขอบด้านหน้ากลม,หลอดหลังจะติดกับหลออดอสุจิ(Epididymis) ,มีผนังหุ้ม 2 ชั้น
Tunica vaginalis,Tunica albuginea ภายในท่ออสุจิ(Seminiferous tubule )
Seminiferous tubule
Spermatogenic cell จะเจริญเป็น maturesperm (ตัวอสุจิ)
Interstitial cell หรือ Leydig’s cell
ทําหน้าที่สร้างฮอร์โมน Testosterone
Sertoli cell ทําหน้าทีผลิตของเหลวใช้หล่อเลี้ยงเซลล์อสุจิ
หน้าที่ของอัณฑะคือสร้างตัวอสุจิและฮอร์โ์มนเพศชาย
external genital organs
Scrotum
มีกล้ามเนื้อเรียบ เรียกว่า Dartos muscleและ Cremaster muscle
ช่วยยปรับอุณหภูมิของอัณฑะ
ไม่มีไขมันใต้ผิวหนังและยื่นออกมาจากหน้าท้อง
ภายในมีอัฐฑะ (testis) และบางส่วนของspermatic cords
Penis ประกอบด้วยเนื้อเยื่อที่แข็งตัวได้ (Erectiletissue) 3 อันคือ
Corpus spongiosum 1 อันอยู่ทางด้านล่าง มี urethra ผ่านกลาง
Corpus cavernosum หรอื corpora cavernosum 2 อันที่อยู่ทางด้านบน