Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การประเมินสุขภาพของหญิงตั้งครรภ์, นศพต สริญยา โกมาลา เลขที่ 62 ชั้นปีที่ 3…
การประเมินสุขภาพของหญิงตั้งครรภ์
11 แบบแผนกอร์ดอน
แบบแผนที่1 : หญิงตั้งครรภ์อายุ 25 ปี สัญชาติไทย
ตั้งใจตั้งครรภ์ ไม่มีการคุมกำเนิด
วางแผนที่จะตั้งครรภ์อีก ในอีกประมาณ 3-4 ปีข้างหน้า รับรู้ว่าตนเองตั้งครรภ์
แบบแผนที่2 : รับประทานอาหารครบวันละ 3 มื้อ ตั้งแต่ตั้งครรภ์ทานอาหารได้ปกติ แต่รู้สึกอยากทานของเปรี้ยวมาก เช่น มะม่วง
เมื่อทราบว่าตนเองตั้งครรภ์ก็ทานอาหารที่มีประโยชน์มากขึ้น เช่น ไข่ ปลา และเน้นผักผลไม้มากขึ้น ดื่มน้ำมากขึ้น
ไม่ดื่มเหล้า ไม่สูบบุหรี่
นำ้หนักก่อนตั้งครรภ์ 42 กิโลกรัม ส่วนสูง 160 cm. BMI 16.41 ซึ่งถือว่ามีนำ้หนักตำ่กว่าเกณฑ์ (ควรมีนำ้ที่เพิ่มขึ้นตลอดการตั้งครรภ์ระหว่าง 12.5 - 18 กิโลกรัม) นำ้หนักหลังตั้งครรภ์ 55.2 กิโลกรัม
มีนำ้หนักที่เพิ่มขึ้นตบอดการตั้งครรภ์ 13.2 กิโลกรัม
แบบแผนที่3 : ก่อนตั้งครรภ์ปัสสาวะวันละ 3-4 ครั้ง
ลักษณะสีเหลืองใส ไม่ขุ่น ไม่มีตะกอน อุจจาระทุกวันตอนเช้า
หลังตั้งครรภ์ปัสสาวะบ่อยกว่าก่อนตั้งครรภ์ ลักษณะสีเหลืองใส ไม่ขุ่น ไม่มีตะกอน และมีอาการท้องผูก อุจจาระ 2 วันครั้ง
แบบแผนที่4 : ก่อนตั้งครรภ์ไม่ออกกำลังกาย แต่ทำงานที่ใช้การเคลื่อนไหวเยอะ
ขณะตั้งครรภ์ยังคงทำงานเหมือนเดิม
แบบแผนที่5 : นอนเวลา 22.00น. และตื่นนอนเวลา 06.00น. นอนวันละ 8 ชั่วโมง หลับสนิทดี ไม่มีอาการเพลียจากการทำงาน
แบบแผนที่6 : รับรู้วัน เวลา สถานที่ ว่าวันนี้คือวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2565 เวลา 11.00น. รับรู้ว่าตนเองตั้งครรภ์และรู้สึกดีที่ตนเองตั้งครรภ์
แบบแผนที่7 : รับรู้ว่าการตั้งครรภ์จะทำให้ร่างกายมีความเปลี่ยนแปลง เช่น แพ้ท้อง ท้องมีขนาดใหญ่ขึ้น เต้านมใหญ่ขึ้น เป็นต้น
แบบแผนที่8 : การปรับตัวหลังตั้งครรภ์ คือ เมื่อทราบว่าตนเองตั้งครรภ์ก็ได้มีการปรับเปลี่ยนการทานอาหารที่มีประโยชน์มากขึ้น เช่น เนื้อปลา ไข่ และไม่ดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน เช่น กาแฟ
แบบแผนที่9 : ก่อนตั้งครรภ์ไม่มีการคุมกำเนิด ไม่มีการรับประทานยาคุม
แบบแผนที่ 10 : ไม่มีความเครียด เนื่องจากมีความพร้อมในการเลี้ยงบุตร หลังจากครรภ์ครั้งนี้ก็วางแผนที่จะตั้งครรภ์อีกใน 3-4 ปีข้างหน้า
แบบแผนที่11 : ไม่มีความเชื่อทางศาสนาหรือความเชื่ออื่นๆ
ข้อมูลส่วนตัว
หญิงตั้งครรภ์ สัญชาติไทย อายุ 25 ปี G1P0000 อาชีพค้าขาย ทำงานที่บ้าน
LMP : 26 มิถุนายน 2564
EDC by U/S : 25 มีนาคม 2565
GA 34+4 by U/S
นำ้หนักก่อนตั้งครรภ์ 42 กิโลกรัม ส่วนสูง 160 cm. BMI 16.41
นำ้หนักหลังตั้งครรภ์ 55.2 กิโลกรัม นำ้หนักที่เพิ่มขึ้นตลอดการตั้งครรภ์ 13.2 กิโลกรัม
สัญญาณชีพแรกรับ
BP = 123/72 mmHg.
PR = 95 bpm.
ได้รับวัคซีนบาดทะยัก 2 เข็ม
เข็ม1 : 21 ธันวาคม 2564
เข็ม2 : 15 มกราคม 2565
ไม่มีโรคประจำตัว ปฏิเสธประวัติการเจ็บป่วยในครอบครัว
ปัจจัยเสี่ยง
BMI = 16.41 ( ปกติ 18.5 - 24.9)
เสี่ยงเกิดการคลอดก่อนกำหนด (Preterm)
เนื่องจาก BMI น้อย
Preterm
การคลอดก่อนกำหนด (Preterm Labor) เป็นภาวะการคลอดก่อนอายุครรภ์ครบ 37 สัปดาห์ ซึ่งทารกเหล่านี้ถึงแม้ว่าอวัยวะต่าง ๆ ครบสมบูรณ์ แต่การทำงานของอวัยวะแทบทุกส่วนยังไม่ดีเท่าทารกครบกำหนด ซึ่งช่วงหลังคลอดมักต้องการการดูแลเป็นพิเศษและต้องอยู่รักษาในโรงพยาบาลนานกว่าปกติ
ปัจจัยเสี่ยง
มารดา
อายุของมารดา มารดาอายุน้อยเกินไป คือน้อยกว่า 18 ปี หรือมารดาที่อายุมากเกินไป คือมากกว่า 35 ปี ถือว่ามีความเสี่ยงที่จะเกิดการคลอดก่อนกำหนด
โรคประจำตัวของมารดาขณะตั้งครรภ์ อาทิ เบาหวาน ความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ
มีประวัติเคยคลอดก่อนกำหนด ส่งผลให้ครรภ์ต่อมามีการคลอดก่อนกำหนดมากขึ้น
มดลูกขยายตัวมากเกินไป เช่น ครรภ์แฝด ภาวะน้ำคร่ำมากกว่าปกติ เป็นต้น
มดลูกมีความผิดปกติแต่กำเนิด เช่น ปากมดลูกสั้น เป็นต้น
ติดเชื้อในร่างกาย เช่น การติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะ เนื่องจากขณะตั้งครรภ์ท้องจะโตไปกดเบียดกระเพาะปัสสาวะได้ ส่งผลให้กระเพาะปัสสาวะอักเสบ ทำให้มีโอกาสเจ็บท้องคลอดก่อนกำหนด
การอักเสบในช่องคลอด
ดื่มเหล้า สูบบุหรี่ ใช้สารเสพติดขณะตั้งครรภ์
ฟันผุและการอักเสบของเหงือก
มารดามีนำ้หนักน้อย มี BMI < 18.5
ทารกในครรภ์
ทารกในครรภ์มีความผิดปกติของโครโมโซม
ทารกในครรภ์มีภาวะติดเชื้อ จะทำให้มารดามีอาการเจ็บท้องคลอดก่อนกำหนดได้
ทารกในครรภ์อยู่ในท่าที่ผิดปกติ
รก
รกเกาะตำ่
รกลอกตัวก่อนกำหนด
ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น
ผลกระทบต่อทารกแรกเกิด
ปอด
พบปัญหาเรื่องการขาดสารลดแรงตึงผิว (Surfactant) ได้ในทารกคลอดก่อนกำหนด ทำให้ถุงลมแฟบ ทารกจะมีอาการหายใจหอบและอาจต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ
1 more item...
หัวใจ
อาจมีปัญหาจากการที่เส้นเลือดที่เชื่อมต่อระหว่างเส้นเลือดแดงใหญ่ที่ออกจากหัวใจเพื่อไปเลี้ยงร่างกายกับเส้นเลือดที่ไปสู่ปอดยังเปิดอยู่ (PDA)ทำให้มีเลือดผ่านไปสู่ปอดมากเป็นผลทำให้ทารกหายใจหอบและเกิดภาวะหัวใจล้มเหลวได้
1 more item...
สมอง
ทารกน้ำหนักน้อยกว่า 1,500 กรัม มีความเสี่ยงที่จะมีเลือดออกในสมองได้ เนื่องจากเส้นเลือดเปราะแตกง่าย
1 more item...
ลำไส้
มีความเปราะบางมากกว่าปกติ การย่อยและการดูดซึมอาหารยังไม่ดีนัก ทำให้ต้องให้นมทีละน้อย ๆ และอาจต้องให้สารอาหารทางหลอดเลือดดำร่วมด้วย
1 more item...
ดวงตา
จอประสาทตายังพัฒนาไม่สมบูรณ์ หลังเกิดอาจมีการพัฒนาของเส้นเลือดจอประสาทตาผิดปกติ ซึ่งถ้าเป็นรุนแรงอาจส่งผลต่อการมองเห็นของทารกได้
1 more item...
หู
มีโอกาสเสี่ยงที่จะมีความบกพร่องของการได้ยินโดยเฉพาะทารกที่มีปัญหาหลาย ๆ อย่าง
การติดเชื้อ
ทารกที่คลอดก่อนกำหนดมักติดเชื้อได้ง่าย เนื่องจากระบบภูมิคุ้มกันทำงานได้ไม่เต็มที่
1 more item...
ผลกระทบต่อมารดา
ผลกระทบด้านร่างกาย จิตใจ สังคมและเศรษฐกิจ
เช่น วิตกกังวลเกี่ยวกับบุตร สูญเสียรายได้
เสียค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล
ผลกระทบต่อทารกในครรภ์
IUGR
สัญญาณเตือนคลอดก่อนกำหนด
GA23+4 wk. by U/S มีนำ้หนักเพิ่มขึ้น 1 kg/wk.
คำแนะนำ
การพักผ่อน
นอนหลับอย่างเพียงพอในตอนกลางคืนอย่างน้อยวันละ 8 ชั่วโมง และงีบในตอนกลางวัน 2-3 ชั่วโมง แนะนำให้มารดานอนตะแคงซ้ายอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง ครั้งละ 1 ชั่วโมง เพื่อเพิ่มการไหลเวียนเลือดไปสู่มดลูก
สตรีตั้งครรภ์ควรหลีกเลี่ยงสถานการณ์ที่ทำให้เกิดความตึงเครียดเพราะจะทำให้เกิดการหลั่งสาร Catecholamine ออกมามีผลให้เลือดไปเลี้ยงมดลูกลดลง และทำให้หลั่งสารProstaglandin ออกมากระตุ้นให้เกิดการเจ็บครรภ์คลอดก่อนกำหนด
ดังนั้นสตรีตั้งครรภ์จึงควรหากิจกรรมที่ทำให้เกิดความผ่อนคลาย เช่น การทำสมาธิ การฟังเพลงเบาๆ เป็นต้น
การออกกำลังกาย
มารดาควรออกกำลังกายเล็กๆ น้อยๆ เช่น โยคะหรือการเดินเล่นรอบๆบ้าน ทำให้ร่างกายหลั่งสารแห่งความสุขออกมา ช่วยให้กระปรี้กระเปร่า หัวใจและกล้ามเนื้อแข็งแรง ทารกในครรภ์ได้รับออกซิเจนมากขึ้น ควรออกกำลังกายแต่พอดี ไม่หักโหม
การทำงาน สามารถทำได้ปกติถ้าไม่มีภาวะแทรกซ้อน หลีกเลี่ยงการทำงานที่ต้องยืนนานๆ การยกของหนัก และการขึ้น-ลงบันไดบ่อย เพราะอาจทำให้เกิดการคลอดก่อนกำหนดได้
โภชนาการ
ดื่มนำ้เปล่ามากๆอย่างน้อยวันละ 8 แก้ว ประมาณ 2 ลิตร หรือขวดนำ้ธรรมดา 600 มิลลิลิตร 4 ขวด
เพื่อช่วยป้องกันภาวะขาดนำ้ ช่วยให้ร่างกายสดชื่น ลดอาการท้องผูก
หลีกเลี่ยงเลี่ยงคาเฟอีน นำ้อัดลม อาหารรสหวาน แอลกอฮอล์ สารเสพติด อาหารที่มีไขมันมาก อาหารสำเร็จรูป ของหมักดอง เพราะทำให้ Prostaglandin หลั่งออกมากระตุ้นให้เกิดการเจ็บครรภ์คลอดก่อนกำหนดได้
ให้มารดาได้รับวิตามิน ยา อาหารเสริมการการรักษาของแพทย์อย่างต่อเนื่อง ไม่ซื้อยามารับประทานเอง
รับประอาหารให้ครบ 5 หมู่ และมีประโยชน์ต่อทารกในครรภ์ เน้นการรับประทานอาหารประเภทโปรตีน เช่น เนื้อสัตว์ ปลา ไข่ เป็นต้น
การรักษความสะอาด
อาบนำ้ให้ร่างกายสะอาด สดชื่น แต่ถ้าอากาศเย็นควร
อาบนำ้อุ่นและให้ความอบอุ่นแก่ร่างกาย
ดูแลสุขภาพช่องปาก แลัฟันอย่างสม่ำเสมอ เพราะถ้าหากช่องปากไม่สะอาดอาจเกิดการติดเชื้อและส่งผลต่อทารกในครรภ์ได้
เสื้อผ้า การแต่งกายต้องปรับให้เหมาะสมกับร่างกาย ไม่แน่นหรืออึดอัดเกินไป
รองเท้าความหลีกเลี่ยงการใส่รองเท้าส้นสูง เพราะอาจเกิดอุบัติเหตุได้
ไม่ควรกลั้นปัสสาวะ เพื่อป้องกันการติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะ และสตรีมีครรภ์อาจมีตกขาวเพิ่มขึ้น ดังนั้นจึงควรสังเกตตกขาวที่มีลักษณะผิดปกติ เช่น มีสี กลิ่นที่เปลี่ยนไป หรือมีอาการคันในช่องคลอดร่วมด้วย ควรรีบมาพบแพทย์ทันที การติดเชื้อบางชนิดอาจทำให้เกิดการเจ็บครรภ์คลอดก่อนกำหนดได้
อาการสำคัญที่ต้องรีบมาโรงพยาบาล
มดลูกบีบตัวแรงขึ้น และถี่ขึ้นมากกว่า 4 ครั้งใน 1 ชั่วโมง หรือ ทุก 15 นาทีแม้ในขณะที่นอนพักโดยเฉพาะอย่างยิ่งหากมีการบีบรัดตัวเป็นจังหวะสม่ำเสมอ
ปวดหลังช่วงล่างหรือบริเวณเอว เป็นต่อเนื่องหรือเป็น ๆ หาย ๆ แม้จะเปลี่ยนท่าทาง
มีมูกหรือเลือดออกทางช่องคลอด
รู้สึกลูกดิ้นน้อยกว่าปกติ
บวมและความดันโลหิตสูงขึ้น อาจเป็นสัญญาณหนึ่งของครรภ์เป็นพิษ
เพศสัมพันธ์
ในไตรมาสที่ 3 ควรงดเว้นการมีเพศสัมพันธ์ เพราะอาจกระตุ้นให้มีอาการเจ็บครรภ์คลอดก่อนกำหนดได้
วินิจฉัยการตั้งครรภ์
Presumptive signs
✅ประจำเดือนขาด LMP: 26/06/64
✅ปัสสาวะบ่อย
✅รู้สึกอ่อนเพลีย
✅อยากกินของเปรี้ยว
Probable signs
✅ตรวจ Urine Pregnancy Test = Positive
✅หน้าท้องโตขึ้น
✅คลำขอบเขตตัวทารกได้
Positive signs
✅ได้ยินเสียงทารก (Fetal Heart Sound)
✅เห็นการเคลื่อนไหวและคลำส่วนต่างๆของทารกได้
✅เห็นทารกผ่านคลื่นเสียงความถี่สูง (Ultrasound)
ผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการ
ABO Group A
RH Group Positive
Indirect antiglobulin Tesr/Ab screening Negative
ภูมิคุ้มกันวิทยา
HBsAg = Negative
HIV Ab = Non reactive
VDRL (RPR) = Non reactive
(20/11/64). Glucose Challenge Test (50 gm) = 107 mg/dL
(ค่าปกติ 0 -140 mg/dL) คัดกรองเนื่องจากมีนำ้หนักเพิ่มขึ้นระหว่างสัปดาห์มากกว่าปกติ (ปกติ~0.5 kg/wk)
CBC : Complete Blood Count
Hemoglobin(Hb) = 11.6 g/dL (ค่าปกติ > 11 g/dL)
Hematocrit (Hct) = 35.1% (ค่าปกติ > 33%)
MCV = 90.8 fL (ค่าปกติ 80 - 100 fL)
MCH = 30.1pq (ค่าปกติ 25.9 - 32.4pq)
(19/01/65) Hemoglobin Typing :A2A Normal typing or nonclinical significant thalassemia
UA
Albumin = Negative
Glucose = Negative
นศพต สริญยา โกมาลา เลขที่ 62 ชั้นปีที่ 3