Please enable JavaScript.

Coggle requires JavaScript to display documents.

การดูแลมารดาหลังคลอด เตียง 18 นศพต.ทัศนียาพร ฤทธิ์นาคา เลขที่ 27 -…

- - - - Lab (27/12/64)VDRL = non reactive DCIP = negative, Anti HIV = negative ,HBsAG= negative
- - - - เกณฑ์การประเมิน:
        -สัญญาณชีพอยู่ในเกณฑ์ปกติ ไม่มีสัญญาณชีพต่ำ Systolic BPอยู่ในช่วง 90-139 mmHg Diastolic BPอยู่ในช่วง 60-89 mmHg Pulse ไม่เกิน 120 bpm RR 16-24 bpm
        -ไม่มีอาการคลื่นไส้อาเจียน ไม่ปวดศีรษะ -ผิวไม่ซีด เล็บมือเล็บเท้าไม่เขียว
        
        กิจกรรมและเหตุผลทางการพยาบาล: 1. ประเมินระดับความรู้สึกตัวโดยเรียกชื่อ นามสกุล การรู้จักเวลา สถานที่ อย่างใกล้ชิด ทุก 15-30 นาที เพื่อดูระดับความรู้สึกตัวของมารดา 2. จัดท่าให้นอนราบหนุนหมอน, ตะแคงตัวได้6 ชั่วโมง เพื่อป้องกันการปวดศีรษะและเกิดอาการคลื่นไส้อาเจียน อาการปวดจะบรรเทาเมื่อนอนราบ และรุนแรงขึ้นเมื่อนั่งหรือยืน ถ้ามีภาวะขาดน้ำในระดับรุนแรงหลังผ่าตัดคลอด จะทำให้อัตราการปวดศีรษะมากขึ้น 3. วัดและบันทึกสัญญาณชีพและBP ทุก 15 นาที จำนวน 4 ครั้ง ทุก 30นาที 2 ครั้งและทุก 1 ชั่วโมง จนกว่าจะคงที่ติดต่อกัน 2 ครั้ง และทุก 4 ชั่วโมง จนครบ 24 ชั่วโมงแรกเพื่อประเมินภาวะการทำงานของระบบหายใจ 4. สังเกตและบันทึกอาการของการขาดออกซิเจน เช่น กระสับกระส่าย เล็บมือและเล็บเท้าเขียว หายใจลำบาก ถ้าพบรายงานแพทย์ทันที
        
        การประเมินผล มารดาไม่มีภาวะแทรกซ้อนหลังได้รับยาระงับความรู้สึก
  - - - วัตถุประสงค์การพยาบาล: เพื่อป้องกันภาวะติดเชื้อที่แผลผ่าตัดและในโพรงมดลูก
        
        เกณฑ์การประเมิน:- ไม่มีอาการแสดงของการติดเชื้อหลังคลอด เช่น มีไข้ ปวดบริเวณแผลผ่าตัดมาก แผลมีหนอง มีสารคัดหลั่ง (Discharge) ซึม น้ำคาวปลามีกลิ่นเหม็น - สัญญาณชีพอยู่ในเกณฑ์ปกติ BP 90/60 - 140-90 mmHg Pulse 60-100 bpm Temp 36.5 - 37.5 องศาเซลเซียส RR 16-20 bpm
        
        กิจกรรมและเหตุผลทางการพยาบาล: 1. ประเมินสัญญาณชีพและบันทึกทุก 4 ชั่วโมง เพื่อติดตามอาการของภาวะติดเชื้อหลังคลอด โดยเฉพาะอุณหภูมิร่างกาย หากผิดปกติควรรีบรายงานแพทย์ 2ประเมินอาการและอาการแสดงของภาวะติดเชื้อหลังคลอด เช่น มีไข้ ปวดบริเวณแผลผ่าตัดมาก แผลมีหนองมีdischarge ซึม น้ำคาวปลามีกลิ่นเหม็น 3. ให้คำแนะนำในการปฏิบัติตัว เพื่อป้องกันภาวะติดเชื้อหลังคลอด ดังนี้ ทำความสะอาดอวัยวะสืบพันธุ์อย่างถูกวิธี ล้างจากข้างหน้าไปข้างหลัง ไม่เช็ดย้อนไปมา เปลี่ยนผ้าอนามัยทุก 2 - 4 ชั่วโมง หรือเมื่อผ้าอนามัยเปียกชุ่ม เพื่อลดสิ่งหมักหมม และขจัดน้ำคาวปลา- รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ โดยเฉพาะอาหารที่เป็นโปรตีนสูง เช่น เนื้อ นม ไข่ หรือผักผลไม้ที่มีวิตามินซีสูง เช่น ฝรั่ง ส้ม เพราะสารอาหารเหล่านี้จะช่วยซ่อมแซมให้แผลหายเร็วขึ้น - หากมีอาการผิดปกติ เช่น มีไข้ หนาวสั่น ปวดแผลผ่าตัดมาก น้ำคาวปลามีกลิ่นเหม็น ควรแจ้งพยาบาลให้ทราบทันที -แนะนำมารดาให้ดูแลแผลผ่าตัดไม่ให้แผลถูกน้ำ ไม่ใช้มือจับ แกะ เกาแผลและสังเกตสิ่งคัดหลั่งที่ออกมาจากแผลเพราะทำให้แผล มีโอกาสติดเชื้อ อักเสบหรือหายช้าได้
        
        การประเมินผล มารดาไม่ติดเชื้อบริเวณแผลผ่าตัดที่หน้าท้องและในโพรงมดลูก
  - - - วัตถุประสงค์การพยาบาล: เพื่อบรรเทาอาการปวดให้มารดาสุขสบายขึ้นและปวดแผลลดลง
        
        เกณฑ์การประเมิน: มารดาปวดแผลลดลง มารดามีสีหน้าสดชื่น แจ่มใส และนอนพักผ่อนได้ Pain score <3 คะแนน
        
        กิจกรรมและเหตุผลทางการพยาบาล:
        
        ประเมินความเจ็บปวดของอาการปวดแผลผ่าตัดด้วยการสอบถาม สังเกตจากสีหน้าท่าทาง และใช้การประเมิน Pain score เพื่อเป็นข้อมูลในการช่วยเหลือและเลือกวิธีบรรเทาอาการปวด
        
        แนะนำให้นอนในท่าที่สบายเพื่อบรรเทาความเจ็บปวด และเมื่อมารดารู้สึกตัวดีจัดให้ นอนท่าศีรษะสูง ชันเข่า เพื่อให้กล้ามเนื้อหน้าท้องหย่อนตัว ลดการดึงรั้งของแผล ช่วยให้อาการปวดทุเลาลง
        
        แนะนำให้ใช้มือ หรือหมอนประคองแผลผ่าตัดขณะไอ หรือมีการเคลื่อนไหว และแนะนำให้เคลื่อนไหวช้า ๆ ใช้มือประคองแผลขณะลุกนั่งหรือเดิน เพื่อลดการกระทบกระเทือนแผลผ่าตัด
        
        สอนเทคนิคการหายใจลดปวด โดยให้หายใจเข้าทางจมูกลึกๆ และผ่อนลมหายใจออกทางปากเพราะการหายใจสามารถควบคุมความเจ็บปวดได้ โดยเป็นการเบี่ยงเบนความสนใจมาที่การควบคุมหายใจ เข้า ออก
        
        ให้การพยาบาลแก่มารดา ด้วยความนุ่มนวล ช่วยให้อาการปวดแผลลดลง
        
        ในระยะที่มารดายังงดน้ำและอาหาร และมีอาการปวดแผลมาก ให้ยาแก้ปวดตามแผนการรักษา คือ Pethidine 25 มิลลิกรัม เข้าทางหลอดเลือดดำ เมื่อมีอาการปวด Pain score > 4
        ระยะที่แพทย์อนุญาตให้มารดารับประทานอาหารได้แล้ว และยังมีอาการปวดแผลอยู่ ดูแลให้ได้รับ
        ประทานยาแก้ปวดตามแผนการรักษา ซึ่งทำให้อาการปวดแผลลดลง
        
        พูดคุยให้กำลังใจ เพื่อลดความวิตกกังวล มารดาผ่อนคลายช่วยให้บรรเทาความเจ็บปวดลดลง
        
        การประเมินผล มารดาไม่มีภาวะไม่สุขสบายเนื่องจากปวดแผลผ่าตัด
  - - - วัตถุประสงค์การพยาบาล: เพื่อลดโอกาสท้องอืดในมารดาหลังคลอด
        
        เกณฑ์การประเมิน : มารดาไม่มีอาการท้องอืด การเคลื่อนไหวของลำไส้ bowel sound 6-12 ครั้งต่อนาที
        
        กิจกรรมพยาบาล
        
        ประเมินการทํางานของก๋าไส้โดยการฟัง bowel sound ทั้ง 4 quadrants หลังผ่าตัด 24 ชั่วโมง หากพบว่าสําไส้เริ่มมีการทํางานมีการเคลื่อนไหว ของจําไส้ 3-5 ครั้ง / นาทีแสดงว่านําไส้เริ่ม ทํางานรอรับคําสั่งเรื่อง step diet จากแพทย์ เจ้าของไข้ (ระบุตามจริงเลย)
        
        ประเมินอาการท้องอืดหลังผ่าตัดตรวจร่างกายผู้ป่วยโดยการ สังเกตเช่นอาการหน้าท้องแข็งแน่นท้องพร้อมทั้งสอบถาม อาการเรือและอาการผายลมภายหลังผ่าตัด
        
        อธิบายให้ทราบถึงสาเหตุของอาการท้องอืดภายหลังผ่าตัดเนื่องจากผู้ ป่วยได้รับการระงับความรู้สึกทำให้ลำไส้มีการเคลื่อนไหวลดลงทำให้เกิด อาการท้องอืดตามมาภายหลังผ่าตัดจึงควรกระตุ้นให้ลำไส้กลับมาทำงาน เร็วขึ้น โดยให้คำแนะนำในการเคลื่อนไหวร่างกายมากขึ้นเพื่อลดอาการ ท้องอืด
        
        1 more item...
  - - - วัตถุประสงค์การพยาบาล: เพื่อป้องกันอุบัติเหตุจากการพลัดตกหกล้ม
        
        เกณฑ์การประเมิน: มารดาไม่เกิดอุบัติเหตุ ไม่มีรอบช้ำหรือแผลจากการพลัดตกหกล้ม
        
        กิจกรรมและเหตุผลทางการพยาบาล:
        
        ประเมินสัญญาณชีพเพื่อประเมินความผิดปกติ เช่นความดันโลหิตต่ำมีโอกาสเกิดอาการเวียนศีรษะ ทําให้หน้ามืด อาจเกิดการพลัดตกหกล้มได้
        
        อธิบายให้ผู้ป่วยทราบถึงแนวปฏิบัติถึงแนวทางป้องกันพลัดตกหกล้ม ให้ผู้ป่วยนอนอยู่กับเตียงอย่างน้อย 8 ชั่วโมง ถ้าต้องการความช่วยเหลือให้กดกริ่งเรียกพยาบาล
        
        จัดสิ่งแวดล้อมบริเวณข้างเตียงให้เรียบร้อยให้เป็นระเบียบเพื่อป้องกันการสะดุดลื่นล้ม
        
        1 more item...
  - - - วัตถุประสงค์การพยาบาล : เพื่อให้มารดาลดความวิตกกังวลลง
        
        เกณฑ์การประเมิน :
        
        ผู้รับบริการมีสีหน้าสดชื่น
        
        เข้าใจถึงกระบวนการให้ความช่วยเหลือทารกแรกเกิด
        
        กิจกรรมและเหตุผลทางการพยาบาล : 1.ให้ข้อมูลมารดาเกี่ยวกับการรักษาของแพทย์ 2.ดูแลช่วยเหลือให้ไปเยี่ยมบุตรที่งานบริบาลทารกแรกเกิดภาวะวิกฤต พูดคุยให้กำลังใจมารดา เพื่อให้ผ่อนคลาย 3.ดูแลความสุขสบายโดยเช็ดหน้า จัดอาหารและเครื่องดื่มให้รับประทานหลังคลอด 4.ดูแลให้นอนพักผ่อน
        
        การประเมินผล :มารดามีสีหน้าสดชื่น นอนหลับพักผ่อนได้
  - - - วัตถุประสงค์การพยาบาล : 1.อาการปวดและคัดตึงเต้านมลดลง
        2.เพื่อให้มารดารู้สึกสุขสบาย
        
        เกณฑ์การประเมิน : มารดามีอาการคัดตึงเต้านมลดลง
        
        กิจกรรมและเหตุผลทางการพยาบาล : 1.อธิบายให้มารดาเข้าใจว่าอาการคัดตึงเต้านมเป็นอาการปกติในมารดาหลังกลอด เนื่องจากเลือดมาเลี้ยงเต้านมมาก หลอดเลือดและหลอดน้ำเหลืองขยายใหญ่ขึ้น จึงมีการคั่งของเลือดและน้ำเหลือง จะมีอาการเพียง 2 วัน ซึ่งต่อไปอาการคัดดึงเต้านม จะทุเลาคงเมื่อให้ทารกดูนมเร็ว ดูดนมบ่อย ดูดนมในท่าที่เหมาะสม เพื่อให้มารดาคลายความวิตกกังวล
        
        2.ประคบร้อนเต้านมทั้ง 2 ข้างจะช่วยให้หลอดเลือดแดงมีการขยายตัวการไหลเวียนของเลือดสะดวกขึ้น
        
        3.นวดเปิดท่อน้ำนมและนวดกระตุ้นน้ำนม จากนั้นให้บีบน้ำนมทิ้ง เพื่อลดการคัดตึงเต้านม
        
        4.สนับสนุนให้ทารกดูดนมเร็ว ดูดนมบ่อย คือ ดูดนมทุก 2 - 3 ชั่วโมง วันละ 10 - 12 ครั้ง ท่าดูดนมที่เหมาะสม
        
        5.ดูแลให้ยาแก้ปวด Paracctamol ขนาด 500 มิลลิกรัม รับประทานตามแผนการักษา เพื่อบรรเทาการคัดตึงเต้านม
        
        การประเมินผล : มารดาไม่มีอาการคัดตึงเต้านม น้ำนมไหล grade 2