Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
ระบบขับถ่ายปัสสาวะ (Urinary system) - Coggle Diagram
ระบบขับถ่ายปัสสาวะ (Urinary system)
ระบบขับถ่ายปัสสาวะ
ประกอบด้วยอวัยวะต่างๆดังนี้
ไต (Kidneys)
มีอยู่ 2 ข้าง
รูปร่างคล้ายเมล็ดถั่ว
วางตัวอยู่ด้านหลังของเยื่อบุช่องท้อง (Retroperitoneum)เหนือเอวเล็กน้อย
อยู่ระหว่างกระดูกสันหลังระดับ T12-L3 (ไตซ้ายอยู่สูงกว่าไตขวาเล็กน้อย)
โครงสร้างที่ห่อหุ้มไต
ผิวนอกของไตถูกคลุมด้วยเนื้อเยื่อ 3 ชั้น คือ
renal capsule
perinephric (perirenal) fat
renal fascia
Renal Cortex
มีสีน้ำตาลแดง
มีส่วนแทรกเข้าไปใน pyramid เรียก renal column
ประกอบด้วยRenal
corpouscles (Glomerulus
และ Bowman's Capsule)
พบท่อหน่วยไตส่วนต้น
(renal tubule)
Renal medulla
พบ renal pyramid 6-12 อัน
ยอดแหลมของ pyramid เรียก renal papilla เป็ นท่อเปิ ดของ papillary duct
ประกอบด้วยส่วน henle’s loop และ collecting duct
Parenchyma of kidney
เนื้อไตทางส่วนcortex และ medulla เรียกว่า Parenchy ma of kidney
Parenchy ma of kidney ประกอบด้วย uriniferous tubule
Uriniferous tubule
ประกอบด้วย 2 พวก คือ
1 Nephrons
2 Collecting tubules
Nephrons
ชนิดของ nephrons
Cortical nephron มี renal
corpuscle อยู่ที่ cortex,Henle’s loop ยื่นมาถึง medulla พบประมาณ 85%
Juxtamedullary nephron มี renal
corpuscle อยู่ที่ corticomedullary junction, Henle’s loop ยื่นมาถึง medulla พบประมาณ 15%
ส่วนประกอบของ Nephrons
ทำหน้าที่ในการสร้างน้ำปัสสาวะ และส่งผ่านเข้ากรวยไต ประกอบด้วย 2 ส่วน คือ
1) Renal corpuscles
Bowman’s capsule
Glomerulus)
2) Renal tubules
Proximal tubule
Henle’s loop
Distal tubule
Renal corpuscle
เป็นส่วนที่เกี่ยวข้องกับการกรอง(Filteringunit)อยู่ในเนื้อไตส่วนcortex ประกอบด้วย
Bowman’s capsule ทำหน้าท่ีรองรับ glomerulus และของเสียท่ีกรองได้
Glomerulus กล่มุ ของเส้นเลือดฝอย (capillaries)
Vascular pole เป็นทางเข้าออกของหลอดเลือดAfferent และEfferent arteriole จาก glomerulus
Urinary pole เป็นทางติดต่อกับ proximal convoluted tubule
Bowman’s capsule
Bowman’s capsule ประกอบด้วยผนัง 2 ช้ัน คือ
Parietallayer จะต่อเนื่องไปกับ proximaltublue
Viscerallayer มีเซลล์พิเศษช่ือ podocyte
Glomerulus
ประกอบด้วย
Glomerular capillary
Podocytes
Mesangial cells
Glomerular capillary
ประกอบด้วย endothelial cells บุอยู่ภายในของผนัง หลอดเลือดฝอยที่มีรูขนาด 10-100 นาโนเมตร
Podocytes
คือ modified epithelial cells ของ visceral layer
พบ filtrationslit กว้าง20-40นาโนเมตรและมีเนื้อเยื่อกั้น เรียก slitdiaphragm
Mesangial cells อยู่ระหว่าง capillary ดังน้ันจึงเปรียบเสมือนแกน ของ glomerulus โดยเชื่อมเส้นเลือดแดงฝอยให้รวมเป็นกลุ่ม
Renal tubules
ประกอบด้วย
Proximal convoluted tubule
Loop of Henle
Descending thick limb of Henle’s loop
Descending thin limb of Henle’s loop
Ascending thick limb of Henle’s loop
Ascending thin limb of Henle’s loop
Distal convoluted tubule
หลอดไตส่วนต้น (Proximal convoluted tubule : PCT)
• เป็นหลอดไตส่วนแรกที่ต่อออกจาก parietal layer of bowman’s capsule เป็นท่อขดไปมา
หน้าที่
• ดูดซึมน้ำกลับจากน้าเลือดท่ีกรองที่ผ่าน
จากโกลเมอรูลัสและสารอื่น
• สามารถดูดกลับ กรดอะมิโน น้ำตาล
กลูโคส โดยกลูโคสท้ังหมดถูกดูดกลับท่ี
proximal tubule
• สามารถขับสารบางอย่างจากหลอดไต
เช่นครีเอทีน ไอโอดีนเพื่อเข้าสู่น้ำกรอง
ห่วงหลอดไต (Loop of Henle : ท่อขาลง,ท่อขาขึ้น )
อยู่ในเนื้อไต ประกอบด้วย
• ท่อตัวยูขาลง (descending limb)
-ท่อตัวยูขาลง (descending limb of loop of henle) หลอดไตส่วนนี้สามารถดูดน้ำกลับได้แต่ไม่ดูดกลับสาร
• ท่อตัวยูขาขึ้น (ascending limb)
-ท่อตัวยูขาขึ้น(aescending limb of
loop of henle)
มีการขนส่งเกลือแร่เช่นโซเดียม โพแทสเซียมและคลอไรด์มาก แต่ไม่มีการขนส่งน้ำ
หน้าที่
สามารถดูดซึมโซเดียมอิออน
โพแทสเซี่ยมและคลอไรด์อิออนกลับ
โดยท่ัวไปของเหลวที่อยู่ในส่วนนี้จะเป็น ของเหลวที่มีความเข้มข้นมากที่สุดในหลอดไต
หลอดไตส่วนปลาย (Distal convoluted tubule : DCT)
• เป็นท่อน้ำปัสสาวะไหลไปยังท่อไตรวม (Collecting tubule) และส่งออกไปยัง Calyx ของไต
หน้าที่
สามารถดูดซึมน้ำกลับได้
ประมาณ 10 เปอร์เซ็นต์ และมีการดูดซึม โซเดียมอิออนและคลอไรด์อิออนได้บ้าง รวมท้ังสามารถหลั่งหรือขับสารต่าง ๆ
กลับเข้าสู่ท่อไตได้ เช่น แอมโมเนียมอิออน ไฮโดรเจนอิออนและโพแทสเซี่ยมอิออน
หลอดไตรวม (Collecting duct)
เป็นท่อมีขนาดใหญ่มีส่วนปลายของ หลอดไต ส่วนปลาย (distal convoluted tubules) หลายๆท่อมาเปิดเข้า
หน้าที่
ทำให้น้ำปัสสาวะเข้มข้นภายใต้การควบคุม
ของ Antidiuretic hormone (ADH)
โครงสร้าง Juxtaglomerular apparatus (JGA)
เป็นโครงสร้างที่ทาหน้าที่สร้างฮอร์โมนรีนินโดยมีความเกี่ยวข้องกับ
ควบคุมเลือดที่เข้ามาที่ไต (renal blood flow, RBF)
ควบคุมอัตราการกรอง (glomerularfitrationrate,GFR)
ส่วนประกอบของ juxtaglomerular apparatus
Macula densa
Juxtaglomerular cell
Glomerular mesangial cells
เส้นเลือดที่มาไต (Blood supply)
เป็น renalartery ทั้งข้างซ้ายและขวาที่แตกแขนงมาจาก abdominal aorta
เส้นประสาทท่ีมาไต (Nerve supply)
Renal sympathetic plexus.
Sympathetic fibers from
T10-L2 (hypogastric plexus)
Parasympathetic fibers
from S2-4 (pelvic splanchnic nerve)
หลอดไต หรือ ท่อไต (Ureters)
เป็นท่อต่อจาก renal pelvis
ทอดตัวลงมาตามกล้ามเนื้อ psoas major
ยาวประมาณ 10-12 นิ้ว
เปิดสู่กระเพาะปัสสาวะทางด้านข้าง
ทำหน้าท่ี นำปัสสาวะจากกรวยไตไปเก็บในกระเพาะปัสสาวะ
กระเพาะปัสสาวะ (Urinary bladder)
เป็นอวัยวะที่อยู่บริเวณช่องท้องน้อย (Pelvic cavity) หลังรอยต่อของกระดูกหัวหน่าว(Symphysis pubis)
ทำหน้าที่กักเก็บน้ำปัสสาวะ
หลอดปัสสาวะ หรือ ท่อปัสสาวะ (Urethra)
ท่อปัสสาวะชาย (Male urethra)
มีความยาว18-20cm.
เร่ิมจากรูเปิดภายใน (internalorifice) ที่คอของ กระเพาะปัสสาวะไปจนถึงรูเปิดภายนอก (external orifice) หรือที่ปลายองคชาต (penis)
เป็นทางผ่านของน้ำปัสสาวะและน้ำอสุจิ
แบ่งออกเป็น 3 ส่วน คือ
Prostatic urethra
Membranous urethra
Penile urethra
ท่อปัสสาวะเพศหญิง (Female urethra)
ยาว4ซม.ตั้งอยู่หลัง symphysis pubis และติดกับผนังด้านหน้าของช่องคลอด(vagina)
เส้นประสาทที่มาเลี้ยง ureter, urinary bladder และ internal urethral sphincter
Parasympatheticfibers ทำให้กล้ามเนื้อเรียบของ ureter และ urinary bladder หดตัว และ กล้ามเนื้อ internalurethralsphincter คลายตัว
Sympathetic fibers ให้ผลตรงข้ามกับParasympathetic fibers
หน้าที่สำคัญของระบบขับถ่ายปัสสาวะ คือ
รักษาสมดุลของน้ำ สารพวกเกลือแร่ต่างๆ
เลือกสารขับถ่ายต่างๆ ที่เป็นพิษออกไป
ควบคุมสมดุลกรด-ด่างในร่างกาย
สร้างฮอร์โมน renin,erythropoietin และ calcitriol
สรีรวิทยาของระบบขับถ่ายปัสสาวะ (Renal Physiology)
หน้าที่การทำงานของไต
การขับถ่าย(Execratoryfunction)
Metabolites, Drugs, and Toxins
การรักษาสมดุล(Homeostaticfunction)
Water, Electrolyte, and Acid-Base balance
การหลั่งฮอร์โมน
(Endocrine (hormonal) secretory function)
Renin (JG cells), Erythropoietin (Renal cortex), and Prostaglandins
การสังเคราะห์ฮอร์โมน
(Endocrine (hormonal) metabolic function)
Vitamin D3 → Active 1,25(OH)2D3
การไหลเวียนเลือดของระบบขับถ่ายปัสสาวะ (Blood Supply of the Kidneys)
Abdominal aorta
↓
Renal artery
↓
Afferent arteriole
↓
Glomerulus (Capillaries)
↓
Efferent arteriole
↓
Renal vein, pillaries and Vasa recta
*(pillaries and Vasa recta
↓
Renal vein)
หน่วยไต (Nephron)
การทำงานของหน่วยไต (Function of Nephron)
หน่วยการทำงานของไต คือ หน่วยไต (Nephron)
Renal tubule & Renal Corpuscle
↓
Nephron
ลำดับการทำงานของหน่วยไต
การกรอง (Filtration)
↓
การดูดกลับ (Reabsorption)
↓
การหลั่ง (Secretion)
↓
การขับถ่าย (Excretion)
การกรอง(Filtration) Glomerular ultrafiltration
Renal blood flow
↓
Glomerular filtration
↓
Filtration barrier
↓
Flow to Proximal tubule
↓
Fluid: Glomerular filtrate
รีนัลคอร์พัสเคิลหรือโกลเมอรูลัส (Renal Corpuscle or Glomerulus)
คุณสมบัติของสารที่จะผ่าน Glomerular Filtration Barrier
• สารที่มีประจุเป็นบวก
• มีขนาดเล็กน้อยกว่าหรือเท่ากับ 70 kDa
• Podocyte เซลลเ์ยื่อบุผิวเฉพาะที่ปกคลุมพื้นผิวด้านนอกของเส้นเลือดฝอย
• Glycocalyx มีประจุเป็นลบ
• Fenestrae รูระหว่างเซลล์เล็กๆ (4-14 nm)
•Endothelium เป็น Basement ทำให้สารบางชนิด
ท่ีมีขนาดน้อยกว่า 1kD หลุดออกจากท่อ
การวัดอัตราการกรองของไต (Glomerular filtration rate, GFR)
GFR อัตราการกรองของสาร → Clearance การขับสารทิ้ง
U = concentration in urine (ความเข้มข้นของสาร x ในปัสสาวะ)
V = volume of urine/min (ปริมาณของปัสสาวะต่อนาที)
P = concentration in plasma (ความเข้มข้นของสาร x เลือด)
อัตราการกรองของไต (Glomerular filtration rate, GFR) ≈ 125 ml/min (180 liters/day)
GFR = Kf(PGC-πGC–PBC) Kf = Filtration coefficient
GFR เป็นพารามิเตอร์ที่ใช้ในการประเมินประสิทธิภาพในการทำงานของไต
การขับถ่าย (Excretion)
ปริมาณปัสสาวะ↓ → ความเข้มข้นปัสสาวะ↑
ปริมาณปัสสาวะ↑ → ความเข้มข้นปัสสาวะ↓
การปัสสาวะ(Micturition)
ท่อไต (Renal Tubules)
ลำดับการทางานของท่อไต
Glomerulus
↓
Proximal tubule
↓
Thin descending limb
↓
Loop of Henle
↓
Thick Ascending limb
↓
Distal tubule
↓
Collecting duct