Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
🌱การเตรียมสมุนไพร สำหรับเครื่องสำอางและยา🌱 - Coggle Diagram
🌱
การเตรียมสมุนไพร
สำหรับเครื่องสำอางและยา
🌱
แบบผงแห้ง
1.การเก็บสมุนไพรสด 🍃
ถือว่าเป็นขั้นตอนหนึ่งที่มีความสําคัญเป็นอย่างยิ่ง เพราะมีผลต่อปริมาณสารสําคัญและสรรพคุณทางยาของสมุนไพร
อายุพืช
ให้เก็บเกี่ยวสมุนไพรที่มีอายุโตเต็มที่
ช่วงระยะเวลาที่เก็บ
พืชที่ใช้ใบหรือทั้งต้นเป็นยา
เมื่อพืชโตเต็มที่แล้วสามารถเก็บได้ทั้งปีให้เก็บใบที่โตเต็มที่โดยวิธีเด็ด ยกเว้นพืชบางชนิดที่ใช้ใบ หรือยอดอ่อน
พืชที่ใช้ดอกเป็นยา
เก็บในช่วงที่ดอกเริ่มบาน บางชนิดจะเก็บในช่วงดอกตูม
เช่น กานพลู
สําหรับดอกที่มีน้ํามันหอมระเหยปริมาณมาก และต้องการกลิ่นหอมด้วย ควรเก็บในช่วงหัวค่ำประมาณ 18.00-19.00 น. หรือเก็บในช่วงเช้ามืดขณะที่พระอาทิตย์ยังไม่ขึ้น เพราะปริมาณน้ํามันหอมระเหยจะมากกว่า
พืชที่ใช้เปลือกต้นหรือเปลือกรากเป็นยา
เก็บในช่วงปลายฤดูร้อนต่อกับฤดู ฝน เพราะเปลือกจะลอกออกง่าย
การเลือกกิ่งที่ลอกควรเป็นกิ่ง หรือแขนงย่อยที่โตเต็มที่ไม่ลอก จากลําต้นใหญ่ เพราะอาจทําให้พืชตายได้ง่าย
วิธีลอก ควรลอกออกครึ่งลําต้น อย่าลอกรากลําต้น เพราะจะกระทบกระเทือนต่อระบบการลําเลียงอาหารของพืช
วิธีลอก ควรลอกออกครึ่งลําต้น อย่าลอกรากลําต้น เพราะจะกระทบกระเทือนต่อระบบการลําเลียงอาหารของพืช
พืชที่ใช้แก่นเป็นยา
มักเก็บในฤดูร้อนควรเก็บกิ่ง หรือแขนงย่อยที่โตเต็มที่ และไม่ควรโค่นลําต้น
พืชที่ใช้รากหรือหัว
เก็บช่วงที่พืชหยุดการเจริญเติบโต ใบร่วงหมด (เรียกช่วงเวลานี้ว่า ลงหัว) ซึ่งมักเป็นช่วงต้นฤดูหนาวถึงปลายฤดูร้อน
เช่น
กระชาย
กระทือ
ข่า
การล้างสมุนไพรให้สะอาด 💧
โดยเฉพาะส่วนที่ขุดจากดิน เช่น เหง้า หรือราก ต้องล้างดินออกให้หมด และผึ่งในถาด ตะแกรงโปร่ง ที่มีรูขนาดกลางเพื่อระบายน้ําให้สะเด็ดน้ํา หั่นให้มีขนาดเล็กลงวัสดุที่ใช้เป็นถาด ได้แก่ ถาดสแตนเลสเจาะรู กระด้งที่มีรูขนาดกลาง หรือแคร่ไม้ไผ่ที่สะอาด
อบหรือตากแห้ง ☀️
ใช้อุณหภูมิ 50 องศาเซลเซียส
ผึ่งให้แห้ง
เหมาะสําหรับพืชที่มีน้ํามันหอมระเหย
เช่น
กะเพรา
โหระพา
มักใช้วิธีผูกเป็นมัดเล็กๆ แขวนที่เชือกหรือใส่กระด้ง กระจาดที่มีรูวางไว้ในที่โปร่งไม่โดนแดดส่องถึงโดยตรง มีลมพัดผ่านเกือบตลอดเวลา (ไม่สามารถทําได้ในภาคใต้เนื่องจากความชื้นในอากาศสูง พืชแห้งช้าจะขึ้นราได้ง่าย)
ตู้อบแสงอาทิตย์ประหยัดพลังงาน
ข้อเสีย คือ ต้องได้รับแสงแดดโดยตรง ซึ่งอาจทําลายสารสําคัญบางชนิด ❌
ตู้อบลมร้อนพลังงานไฟฟ้า แก๊ส ถ่าน ไม้ หรือแกลบ
ข้อดี คือ อุณหภูมิสม่ำเสมอ ✅
ข้อเสีย คือ ราคาตู้อบค่อนข้างแพง ❌
4.การบดเป็นผง
อาจใช้เครื่องมือบดได้หลายชนิด เช่น ครกหิน ครกบดยาชนิดบดด้วยมือ หรือเครื่องบดไฟฟ้าขนาดเล็กระดับอุตสาหกรรม
หลังจากผ่านเข้าเครื่องบดแล้วให้นําไปผ่านแร่ง เพื่อแยกผงยาที่มีความละเอียดสม่ำเสมอไปดําเนินการต่อ
ความละเอียดของผงยาที่ใช้ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์
ใช้เป็นผงในเครื่องสําอางผ่านแร่งเบอร์ 60 ขึ้นไป
ใช้สําหรับสกัดให้บดหยาบ ไม่จําเป็นต้องผ่านแร่ง หากใช้เครื่องบดที่มีตะแกรง ต้องใช้ตะแกรงหยาบที่สุด โดยใช้ตะแกรงขนาดไม่เกินเบอร์ 20
แบบสารสกัด
การต้ม (สารสกัดน้ำ หรือน้ำสกัด )
ให้ชั่งสมุนไพรสด หรือแห้ง
ย่อยสมุนไพรให้มีขนาดเล็กพอประมาณ ห้ามบดละเอียด
เติมน้ำ 3-5 เท่า ของน้ำหนัก
ถ้าเป็นสมุนไพรสด จะใช้น้อยกว่า โดยให้น้ำท่วมสูงเกินสมุนไพรประมาณ 5 นิ้ว จดบันทึกน้ำหนักของน้ำที่ใช้
ถ้าเป็นสมุนไพร แห้งให้แช่ในน้ำ 20 นาที ก่อนนำขึ้นตั้งไฟปานกลางจน เดือด จับเวลาเมื่อเริ่มเดือด ใช้เวลาประมาณ 30-45 นาที หากน้ำแห้งให้เติม เมื่อสีน้ำสกัดไม่เข้มจากเดิมให้ ยกลงกรองด้วยผ้าขาวบาง 3 ชั้น
นํากากมาต้มเช่นเดิม และรวมน้ำสกัด 2 ครั้ง เข้าด้วยกัน
ตั้งไฟเคี่ยวต่อจนได้น้ำหนักที่ต้องการ การเคี่ยวอาจไม่ใช้ไฟตรง เพื่อหลีกเลี่ยงการไหม้
ส่วนใหญ่จะนิยมให้น้ำหนักน้ำสกัดเท่ากับน้ำหนักสมุนไพรที่นำมาสกัด เช่น สมุนไพร 1 กก. เมื่อสกัดเสร็จแล้วได้ น้ำสกัด 1 กก. ซึ่งง่ายต่อการคำนวณสัดส่วนในเครื่องสําอาง
ข้อเสีย ❌
กรณีที่จะเตรียมเก็บไว้นานๆ อาจมีเชื้อ แบคทีเรีย หรือราทำให้บูดเน่าเสียได้ง่าย 🦠
สามารถแก้ไข ได้ 2 วิธี คือ เติมสารกันเสีย หรือเคี่ยวให้เข้มข้นมาก ที่สุดเท่าที่จะทำได้
เช่น
เคี่ยวจนเหลือน้ำหนัก 1 ใน 5 แต่ต้องระวังไม่ให้ไหม้และจดน้ำหนักสุดท้ายที่ได้ หลัง จากนั้นให้ สรุปการสกัด และเก็บข้อมูลไว้เป็นเทคนิคใน การสกัดครั้งต่อไป
ปัจจัยที่ต้องควบคุมในการสกัดแบบต้ม
อัตราส่วน ระหว่างน้ำและสมุนไพร เวลาที่ใช้ต้ม รายละเอียดอื่นๆ
เช่น น้ำก่อนต้ม เวลาที่ใช้แช่สมุนไพรก่อนนำขึ้นตั้งไฟ น้ำหนัก สารสกัดที่ได้ต้องเท่าเดิม และจดรายละเอียดทุกครั้งที่สกัด
การคั้นน้ำสด (น้ำสกัด หรือน้ำคั้น)
ต้องใช้สมุนไพรสด บีบเอาแต่น้ำ ซึ่งเหมาะสมกับสมุนไพรที่ทนความร้อนไม่ได้
วิธีที่ 1 น้ำคั้นผลไม้
เช่น น้ำคั้นผลส้ม น้ำคั้นผลมะเฟือง
เครื่องมือ : เครื่องคั้นน้ำผลไม้
วิธีทำล้าง : ทำความสะอาดผิวด้านนอก ของผลไม้ ผ่า ซีก บีบ ด้วยเครื่อง
วิธีที่ 2 น้ำคั้นใบหรือเหง้า
เช่น ขมิ้น
เครื่องมือ : เครื่องปั่นน้ำผลไม้
วิธีทำ : ปั่นสมุนไพรสดกับ น้ำจำนวนครึ่งเท่าของน้ำ หนักสมุนไพร ในเครื่องปั่นน้ำผลไม้ กรองด้วยผ้าขาวบาง
ข้อเสีย ❌
การสกัดแบบนี้สารสกัดสมุนไพรไม่ค่อยคงตัวมักต้องใช้สารกันบูด ควรเตรียมแล้วผลิตเครื่องสำอางทันที หรือแช่เย็นไว้ 1 วัน ก่อนใส่ในเครื่องสําอาง
การควบคุมคุณภาพ
คัดเลือกสมุนไพรที่มีอายุและขนาดเท่าเดิม
เครื่องมือที่ใช้ต้องทำความสะอาดด้วยแอลกอฮอล์ และทิ้งให้แห้งก่อนใช้ทุกครั้ง 💦
จดน้ำหนักพืชสมุนไพรที่ใช้ครั้งแรก จำนวนน้ำที่ใช้และน้ำหนักน้ำที่ได้ ภายหลังกรอง
เติมน้ำภายหลังให้ได้น้ำหนักประมาณ 30-50% ของน้ำหนักสกัด (ต้องให้ได้น้ำเท่าเดิมทุกครั้งที่สกัด เช่น น้ำสกัดน้ำหนักเป็นหนึ่งเท่า หรือเท่าครึ่งของสมุนไพรสด)
การเคี่ยวในน้ำมันหรือการหุงน้ำมัน
น้ำมันที่ใช้ควรเป็น น้ำมันปาล์ม หรือน้ำมันมะพร้าว 🥥
สัดส่วนสมุนไพรที่ใช้ ให้ใช้สมุนไพร สด หรือแห้ง 1-2 เท่า ของน้ำหนักน้ำมันพืช
วิธีทำ
ชั่งน้ำหนักสมุนไพร
ชั่งน้ำหนักน้ำมันพืช ยกขึ้นตั้งไฟปานกลาง
เมื่อน้ำมันพืชร้อน ประมาณ 100-150 องศา เชลเซียส ใส่สมุนไพรลงไปที่ละน้อย ทอดจนกรอบตัก กากสมุนไพรทิ้ง เติมลงไปที่ละน้อย ทำซ้ำจนหมด
กรองน้ำมันพืชด้วยผ้าขาวบาง 3 ชั้น จึงนำน้ำมันไปใช้
การสกัดด้วยแอลกอฮอล์
ตัวทำละลายที่ใช้ คือ เอทิลแอลกอฮอล์ ( ethyl alcohol)
ข้อเสีย คือ ได้สารที่ไม่ต้องการติดมาด้วย และในการทำให้เข้มข้นต้องใช้เครื่องมือที่มีราคาแพง จึงเหมาะสมสำหรับการสกัดในระดับอุตสาหกรรมเท่านั้น 🏭
วิธีการสกัด
การสกัดแบบต่อเนื่อง
การสกัดแบบชง (โดยใช้ Percolator)
การหมัก ( Maceration)
เหมาะสำหรับสารที่ไม่ทนต่อความร้อน ตัวอย่างเช่น การสกัดพญายอ การ สกัดยานอนหลับจากใบขี้เหล็ก หรือยาดองเหล้าของไทยเกือบทุกชนิด
เครื่องมือที่ใช้
ถังหมักคล้ายคูลเลอร์ มีก๊อกไข เอาสารละลายออก
เครื่องระเหยแห้งสุญญากาศ
วิธีทำ
ชั่งผงสมุนไพรสดหรือแห้งใส่ในถุงผ้า
แช่แอลกอฮอล์ 2-3 เท่าตัวในภาชนะปิดสนิท ทิ้งไว้ 7 วัน คนทุกวัน
กรองเอาส่วนน้ำ บีบสารละลายออกจากกาก แล้วเติมสารละลายเพื่อล้างกาก ทำซ้ำอีกครั้งเป็นการหมักซ้ำ เพื่อให้ได้สารสกัดมากที่สุด
เอาสารสกัด 2 ครั้งรวมกัน นำไปทำให้เข้มข้น ด้วยเครื่องระเหยแห้งสุญญากาศ เพื่อ ป้องกันอันตรายต่อคนทำงานและป้องกันการทําลายสิ่งแวดล้อม
ห้ามนำไปทำให้เข้มข้น ด้วยการตั้งไฟตรง หรือตุ๋นในลังถึงหรือ เครื่องไอน้ำ
เพราะแอลกอฮอล์ที่ระเหยออกมาขณะทำงาน จะกระจายในอากาศบริเวณนั้น ผู้ ทํางานจะมีอาการเหมือนคนเมาเหล้าและสิ่งแวดล้อมจะเสียไป จึงไม่แนะนำการสกัดวิธีนี้ในชุมชน นอกจากสามารถพัฒนาเครื่องมือกักเก็บแอลกอฮอล์ที่ระเหยออกมาและนำกลับไปใช้ใหม่ได้