Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
แนวคิด หลักการการพยาบาลผู้ป่วยภาวะฉุกเฉิน และสาธารณภัย - Coggle Diagram
แนวคิด หลักการการพยาบาลผู้ป่วยภาวะฉุกเฉิน และสาธารณภัย
การพยาบาลสาธารณภัย
ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับสาธารณภัย / ภัยพิบัติ (Disaster)
ภัย (Hazard) หมายถึง เหตุการณ์หรือปรากฏการณ์ใดๆที่สามารถที่ทำให้เกิดอันตรายต่อชีวิต ความเสียหายต่อทรัพย์สินความเป็นอยู่ และสิ่งแวดล้อม
2.สาธารณภัย / ภัยพิบัติ (Disaster) หมายถึง ภัยที่เกิดขึ้นไม่ว่าจะเกิดจากธรรมชาติหรือจากการกระทำของมนุษย์แล้วก่อให้เกิดอันตรายต่อชีวิต เกิดความสูญเสียหรือความเสียหายต่อทรัพย์สิน สังคม เศรษฐกิจและสิ่งแวดล้อม ตลอดจนภัยอื่นๆ อันมีผลกระทบต่อสาธารณชน ไม่ว่าเกิดจากธรรมชาติ มีผู้ทำให้เกิดขึ้นอุบัติเหตุ
สาธารณภัย ได้แก่ อัคคีภัย วาตภัย อุทกภัยภัย ภัยแล้ง
ภัยสาธารณะ
ภัยที่เกิดจากธรรมชาติ เช่น คลื่นยักษ์ ดินถล่ม โรคระบาดในมนุษย์ โรคระบาดสัตว์
ภัยที่เกิดจากคนทำ ได้แก่ สาเคมีรั่วไหล รถชน ตึกถล่ม
ภัยทางอากาศ ได้แก่ ปล้นเครื่องบิน
การก่อวินาศภัย ได้แก่ ก่อการร้าย กราดยิง วางระเบิด
ประเภทของภัยพิบัติ
ภัยที่เกิดจากธรรมชาติ (Natural Disaster)ได้แก่ เกิดแบบฉับพลัน และเกิดแบบค่อยเป็นค่อยไป
ภัยที่เกิดจากมนุษย์(Man-made Disaster)ได้แก่ เกิดอย่างจงใจและเกิดอย่างไม่จงใจ
การจัดระดับความรุนแรงของสาธารณภัยทางสาธารณสุข
ความรุนแรงระดับที่ 1 .สาธารณภัยที่เกิดขึ้นทั่วไปหรือมีขนาดเล็ก ซึ่งสำนักงานสาธารณสุขในระดับอำเภอสามารถจัดการได7ตามลำพัง
ความรุนแรงระดับที่ 2 .สาธารณภัยขนาดกลาง หน่วยงานสาธารณสุขระดับอำเภอไม่สามารถจัดการได้ต้องอาศัยความช่วยเหลือจากสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดในการจัดการเข้าระงับภัย
ความรุนแรงระดับที่ 3 . สาธารณภัยขนาดใหญ่ที่มีผลกระทบรุนแรงกว้างขวาง หรือสาธารณภัยที่จำเป็นต้องอาศัยผู้เชี่ยวชาญหรืออุปกรณ์พิเศษ ต้องอาศัยการสนับสนุนจากหน่วยงานหลายส่วนราชการภายในเขตจังหวัด /จังหวัดใกล้เคียง และระดับเขต ซึ่งสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดไม่สามารถควบคุมสถานการณ์และจัดการระงับภัยได้
ความรุนแรงระดับที่ 4 : สาธารณภัยขนาดใหญ่ ที่มีผลกระทบรุนแรงยิ่ง นายกรัฐมนตรีหรือรองนายกรัฐมนตรี ที่นายก ฯ มอบหมายให้เป็นผู้ควบคุมสถานการณ์ ในด้านการแพทย์และการสาธารณสุข รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นผู้ดำเนินการควบคุมสถานการณ์
แนวคิด
Franco-German Model (FGM)
การเคลื่อนย้ายผู้ป่วย
Ambulance, Helicopter และ Coastal ambulance
องค์การที่เกี่ยวข้อง
ภายใต้บริการจะเป็นส่วนหนึ่งของระบบสุขภาพ
แนวคิดการเชื่อมต่อองค์กร
ระบบการแพทย์ฉุกเฉินเป็นส่วนหนึ่งขององค์การสาธารณสุข
ค่าใช้จ่าย
ต่ำกว่า AAM
ปลายทาง
ลำเลียงผู้ป่วยส่งหน่วยเฉพาะทาง
จำนวนผู้ป่วย
ผู้ป่วยส่วนใหญ่ได้รับการรับการรักษา ณ จุดเกิดเหตุ
เพียงจำนวนน้อยที่นำส่งโรงพยาบาล
บุคลากรผู้ให้บริหาร/การดูแล
แพทย์ให้การดูแลโดยมีทีมเวชกิจฉุกเฉินช่วย อาจนำเทคโนโลยีรวมไปให้การดูแลในขั้นสูง
ตัวอย่างประเทศ
เยอรมนี ฝรั่งเศส กรีซ มอลต้า ออสเตรีย
ปรัชญา/จุดประสงค์หลัก
“Stay and Stabilize” ให้เวลานานในการดูแลอาการในสถานที่เกิดเหตุและนำการรักษาไปยังสถานที่เกิดเหตุ-นำบริการโรงพยาบาลมาหาผู้ป่วย
Anglo-American Mode (AAM)
บุคลากรผู้ให้บริหาร/การดูแล
ทีมเวชกิจฉุกเฉินให้การดูแลโดยมีแพทย์กํากับ
ปลายทาง
ลําเลียงผู้ป่วยส่งตรงห้องฉุกเฉิน
ปรัชญา/จุดประสงค์หลัก
“Scoop and run” เวลาสำหรับการประคับประคองอาการในสถานที่เกิดเหตุสั้น และนำผู้ป่วยส่งยังสถานพยาบาลให้เร็วที่สุด
นําผู้ป่วยไปยังโรงพยาบาลให้เร็วที่สุด
แนวคิดการเชื่อมต่อองค์กร
ระบบการแพทย์ฉุกเฉินเป็นส่วนหนึ่งขององค์การความปลอดภัยสาธารณะ
ค่าใช้จ่าย
สูงกว่า FGM
การเคลื่อนย้ายผู้ป่วย
รถ Ambulance เป็นหลัก
ใช้ Aero-medical หรือ Coastal ambulance
จำนวนผู้ป่วย
ผู้ป่วยส่วนใหญ่ได้รับการนําส่งไปยังโรงพยาบาล
เพียงจํานวนน้อยที่ได7รับ การดูแล ณ จุดเกิดเหตุ
องค์การที่เกี่ยวข้อง
องค์การที่เกี่ยวข้องการบริการความปลอดภัยของสาธารณะ เช่น ตํารวจ สถานีดับเพลิง
ตัวอย่างประเทศ
สหราชอาณาจักร สหรัฐอเมริกา แคนาดา นิวซีแลนด์ ออสเตรเลีย
ความหมาย
การเจ็บป่วยฉุกเฉินคือ การเจ็บป่วยที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน จำเป็นต้องดำเนินการช่วยเหลือ และการดูแลรักษาทันที อาจเกิดจากภาวะต่างๆ เช่น การเกิดโรคในระบบต่างๆ ของร่างกาย การบาดเจ็บ
การเจ็บป่วยวิกฤต คำว่า วิกฤต มาจากคำที่ใช้ในภาษาอังกฤษ คือ“Crisis”และ“Critical” ทั้งสองคำนี้ มีความหมายที่ใกล้เคียงกันมาก จึงนำมาใช้สับเปลี่ยนกันอยู่เสมอ
Crisis careเพื่อช่วยชีวิตผู้ป่วยการรักษา จึงมุ่งเน้นแก้ไขอาการที่ปรากฏอันตราย โดยเฉพาะระบบของร่างกายที่มีการล้มเหลว เพื่อแก้ไขภาวะล้มเหลว หรือรักษาสภาพการทำงานของระบบนั้น
Critical Careเพื่อดำรงรักษาชีวิต มุ่งเน้นแก้ไขอาการที่ปรากฏในครั้งแรก และการป้องกันไม่ให้เข้าสู่สถานการณ์คับขันCrisisในการประคับประคองให้ความสำคัญกับทุกระบบไม่ให้นำสู่สภาวะที่เป็นปัญหาต่อไป
หลักการพยาบาลสาธารณภัย
2.การเตรียมความพร้อม (Preparedness) : การรองรับเหตุการณ์ฉุกเฉิน เป็นระยะต่อเนื่องจากการบรรเทาภัย โดยการเตรียมคนให้พร้อม มีแผนที่ตอบโต้ภาวะฉุกเฉิน มีการฝึกอบรมความรู้และทักษะ รวมถึงการซ่อมแผนและการเตรียมพร้อมของทรัพยากรที่จำเป็น
3.การตอบโต้เหตุการณ์ฉุกเฉิน (Response) ต้องมีการดำเนินการทันเมื่อเกิดภัย โดยยึดตามหลัก CSCATT
C –Command
S –Safety A, B, C (Personal, Scene, Survivors)
C –CommunicationA –Assessment ประกอบด้วย
M : Major incident : เป็นเหตุการณUสาธารณภัยหรือไม่
E :Exactlocation: สถานที่เกิดเหตุที่ชัดเจน
T :Typeofaccident: ประเภทของสาธารณภัย
H :Hazard: มีอันตราย หรือเกิดอันตรายอะไรบ้าง
A : Access :ข้อมูลการเดินทางเข้า-ออกจากที่เกิดเหตุ
N :Numberofcasualties: จำนวนและความรุนแรงของผู้บาดเจ็บ
E :Emergencyservice: หน่วยฉุกเฉินไปถึงหรือยัง
T –Triage
T –Treatment
T –Transportation
1.การบรรเทาภัย (Mitigation) : กิจกรรมต่าง ๆ ที่ดำเนินการเพื่อลดหรือกำจัดโอกาสในการเกิดหรือลดผลกระทบของการเกิดภัยพิบัติได้แก่ การจัดทำโครงการบรรเทาภัยก่อนเกิดภัย
4.การควบคุมยับยั้งโรคและภัยอันตรายที่อาจเกิดขึ้น ต้องจัดให้มีระบบเฝ้าระวังภายใน 5 วันหลังภัยพิบัติ
5.การบูรณะฟื้นฟู (Recovery) เป็นระยะสุดท้ายในการจัดการภาวะฉุกเฉินทางสาธารณสุข ซึ่งต้องดำเนินไปเรื่อยๆ จนกว่าทุกอย่างจะกลับสู่ภาวะปกติ โดยเน้นให้มีระบบเฝ้าระวังโรคติดต่อและส่งมอบภารกิจให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
อุบัติเหตุ (Accident)
ผู้ป่วยวิกฤต
ผู้ป่วยที่สามารถรักษาได้ เช่น ผู้ป่วยที่หมดสติ ผู้ป่วยที่มีระบบการหายใจล้มเหลว หากไม่ได้รับการรักษาผู้ป่วยจะเสียชีวิตในอัตราสูง
ผู้ป่วยที่มีอัตราตายสูง เช่น ผู้ป่วยSeptic Shock หากไม่ได้รับการรักษา ผู้ป่วยจะเสียชีวิตในอัตราสูง
3.ผู้ป่วยที่มีแนวโน้มที่จะมีอาการรุนแรง เช่น ผู้ป่วย myocardialinfarction ต้องการการเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด
ผู้ป่วยที่อัตราตายสูง แม้จะได้รับการรักษา เช่น ผู้ป่วยมะเร็งระยะสุดท้าย
ผู้บาดเจ็บจากสาธารณภัย
1.กลุ่มอาการไม่รุนแรง หากผู้ป่วยเดินได้อาจถือว่าอาการไม่หนัก
2.กลุ่มอาการหนัก ต้องหามนอนหรือนั่งมาอาการแสดงยังคลุมเครือต้องใช้การตรวจอย่างละเอียด
3.กลุ่มอาการหนักมาก หรือสาหัสต้องการการรักษาโดยด่วนหรือช่วยชีวิตทันทีกลุ่มผู้ป่ วยเสียชีวิต เป็นกลุ่มที่หมดหวังในการรักษา
ผู้ป่วยภาวะฉุกเฉิน
1.ไม่รู้สึกตัว ชัก เป็นอัมพาต
2.หยุดหายใจ หายใจช้ากว่า 10 ครั้งต่อนาที หรือเร็วกว่า30ครั้งต่อนาที หายใจลำบากหรือหอบเหนื่อย
3.คลำชีพจรไม่ได้ หรือชีพจรช้ากว่า 40หรือเร็วกว่า30 ครั้ง/นาที
4.ความดันโลหิตSystolicต่ำกว่า 80 มม.ปรอท หรือ Diastolic สูงกว่า 130 มม.ปรอท
5.ตกเลือดเลือดออกมากซีดมาก
6.เจ็บปวดทุรนทุรายกระสับกระส่าย
7.มือเท้าซีดเย็น เหงื่อออกมาก
8.อุณหภูมิของร่างกายต่ำกว่า 35 เซลเซียส หรือสูงกว่า 40 เซลเซียส
9.ถูกพิษจากสัตว์ เช่น งู หรือสารพิษชนิดต่างๆ
หลักการพยาบาลผู้ป่วยภาวะฉุกเฉิน
หลักทั่วไปในการพยาบาลผู้ป่วยภาวะฉุกเฉิน
1.เพื่อช่วยชีวิต เช่น ผู้ป่วยที่มีภาวะหยุดหายใจ หรือหัวใจหยุดเต้นกะทันหัน ต้องรีบช่วยหายใจโดยการผายปอด ด้วยวิธีการที่เหมาะสม และนวดหัวใจทันที หรือในกรณีที่ผู้ป่วยมีบาดแผลเลือดออก ต้องรีบห้ามเลือดทันทีโดยใช้วิธีการที่เหมาะสม
2.การป้องกันและบรรเทาไม่ให้เกิดอาการรุนแรงถึงขั้นวิกฤต เช่น การทำแผล การใส่เฝือกชั่วคราวกระดูกที่หัก การดามกระดูกคอ การจัดท่านอนที่เหมาะสม การให้ความอบอุ่นร่างกาย การสังเกตอาการและสัญญาณชีพ
3.การบันทึกเหตุการณ์อาการและการช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ เพื่อเป็นประโยชน์ในการรักษาต่อไป
.การส่งต่อรักษา หลังจากให้การช่วยเหลือเบื้องต้นแก่ผู้ป่วยแล้ว ต้องรีบเคลื่อนย้ายนำส่งโรงพยาบาล เพื่อทำการรักษาต่อทันที
การพยาบาล
1.มีหลักในการอุ้มยกเคลื่อนย้ายผู้ป่วยจากยานพาหนะไปยังห้องพยาบาล อย่างนุ่มนวลรวดเร็วปลอดภัย
2.มีการซักประวัติการเจ็บป่วยและอาการสำคัญอย่างละเอียด ในเวลาที่รวดเร็ว กรณีผู้ป่วยอุบัติเหตุต้องซักประวัติการช่วยเหลือเบื้องต้น
3.ทำการคัดกรองผู้ป่วยอย่างรวดเร็วแม่นยำ
4.ให้การรักษาพยาบาลภายใต้นโยบายของโรงพยาบาล และภายในเขตการรับรองของกฎหมาย โดยคงไว้ซึ่งหน้าที่ของอวัยวะสำคัญชีวิตและสภาพร่างกายของผู้ป่วย
5.ให้การช่วยฟื้นคืนชีพอย่างถูกต้อง
6.ให้การดูแลจิตใจของผู้ป่วยและญาติ ซึ่งจะเกิดความกลัวความวิตกกังวลต่อความเจ็บป่วย และมีความคาดหวังต่อการรักษาพยาบาล จึงต้องอธิบายให้ผู้ป่วยและญาติทราบถึงปัญหาการเจ็บป่วย
7.มีการนัดหมายผู้ป่วยที่ไม่ได้นอนโรงพยาบาลเพื่อให้การรักษาต่อเนื่อง
8.มีการส่งต่อเพื่อการรักษาทั้งในหอผู้ป่วยในแผนกผู้ป่วยหนัก และภายนอกโรงพยาบาล เพื่อรับการรักษาในสถานพยาบาลอื่น ในระหว่างการส่งต่อผู้ป่วยพยาบาล จะต้องมีการเตรียมพร้อมในการช่วยเหลือผู้ป่วย หากเกิดปัญหาในระหว่างการเดินทาง
หลักการพยาบาลตามบทบาทพยาบาลวิชาชีพงานบริการพยาบาลผู้ป่วยอุบัติเหตุและฉุกเฉินของสภาการพยาบาลพ.ศ.2552
ดำเนินการแก้ไขปัญหาที่กำลังคุกคามชีวิตผู้ป่วย
ค้นหาสาเหตุและ/หรือปัญหาที่ทำให้เกิดภาวะฉุกเฉินหรืออุบัติเหตุ แล้วดำเนินการแก้ไข
ดูแลและรักษาสภาวะของผู้ป่วยให้อยู่ระดับปลอดภัย และคงที่โดยการเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด
รักษาหน้าที่ต่างๆ ของอวัยวะสำคัญของร่างกายให้คงไว้
ป้องกันภาวะแทรกซ้อนและติดเชื้อ
6.ประคับประคองจิตใจและอารมณ์ของผู้ป่วยและญาติ
อุบัติภัย
ภัย (Hazard)หมายถึง เหตุการณ์หรือปรากฏการณ์ใดๆที่สามารถที่ทำให้เกิดอันตรายต่อชีวิต ความเสียหายต่อทรัพย์สินความเป็นอยู่ และสิ่งแวดล้อม
อุบัติเหตุกลุ่มชน/อุบัติภัยหมู่(MASS CASSUALTIES)
1.เกิดการบาดเจ็บหรือการเจ็บป่วยของประชาชนจำนวนมาก
2.มีการทำลายของทรัพย์สินหรือสิ่งแวดล้อม
3.ทรัพยากรที่มีอยู่ในภาวะปกติไม่เพียงพอที่จะนำมาใช้ควบคู่สถานการณ์
ระบบและกลไกปกติของสังคมถูกทำลายหรือไม่เพียงพอที่จะควบคุมสถานการณ์ได้
ประเภทของอุบัติภัยหมู่แบ่งตามขีดความสามารถของสถานพยาบาล
1.Multiple casualtiesทั้งจำนวนและความรุนแรงของผู้ป่วยไม่เกินขีดความสามารถของโรงพยาบาลผู้ป่วยที่มีภาวะคุกคามต่อชีวิต(life Threatening) จะได้รับการรักษาก่อน
Mass casualtiesทั้งจำนวนและความรุนแรงของผู้ป่วยเกินขีดความสามารถของโรงพยาบาลและทีมผู้รักษาผู้ป่วยที่มีโอกาสรอดชีวิตมากที่สุดโดยใช้เวลาและทรัพยากรน้อยที่สุดจะได้รับการรักษาก่อน