Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
บทที่ ๕ การทำรายงานการค้นคว้า - Coggle Diagram
บทที่ ๕
การทำรายงานการค้นคว้า
วัตถุประสงค์ของการท ารายงาน
๑. เพื่อให้รู้จักวิธีการค้นคว้าหาความรู้ด้วยตนเอง อย่างกว้างขวางและลึกซึ้ง
๒. เพื่อฝึกทักษะด้านการอ่าน การสรุป และการจับใจความส าคัญของเรื่อง
๓. เพื่อส่งเสริมให้มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ คิดอย่างเป็นระบบ มีเหตุผล
๔. เพื่อฝึกทักษะด้านการเขียน สามารถเรียบเรียงข้อมูลได้อย่างเป็นระเบียบด้วยส านวนภาษาที่ถูกต้อง
๕. เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของการประเมินผลการศึกษา ว่ามีความรู้ ความเข้าใจในรายวิชาที่ศึกษามากน้อยเพียงใด
ส่วนประกอบของรายงาน
๑. ส่วนหน้า ประกอบไปด้วย ปก หน้าปกใน ค าน า สารบัญ
๒. ส่วนเนื้อเรื่อง ประกอบไปด้วย เนื้อหาของรายงาน เชิงอรรถ
๓. ส่วนท้าย ประกอบไปด้วย บรรณานุกรม
ประเภทของรายงาน
๑. รายงานทั่วไป
๑.๑ รายงานแสดงผลงาน
๑.๒ รายงานเหตุการณ์
๒. รายงานวิชาการ
๒.๑ รายงานค้นคว้าทั่วไป
๒.๒ รายงานค้นคว้าวิจัย
รายงาน (Report) หมายถึง ผลของการศึกษาค้นคว้าเรื่องใดเรื่องหนึ่งที่ผู้สอนมอบหมายให้ แล้วผู้ท ารายงานน ามาเรียบเรียงใหม่ ด้วยการพิมพ์ ให้ถูกต้องตามแบบแผนของรายงาน
ปกรายงาน (Binding)
ปกรายงาน คือ ปกที่หุ้มรายงาน ประกอบไปด้วย ปกหน้า และปกหลัง ปก จะใช้
กระดาษอะไร สีอะไรก็ได้ แต่ควรจะเป็นกระดาษที่มีความหนากว่าเนื้อในของรายงาน
๑. ชื่อเรื่อง หรือหัวข้อของรายงาน
๒. เสนอ และ ชื่อ – สกุล ของครูผู้สอน
๓. โดย หรือจัดท าโดย และชื่อ – สกุล ของผู้ท ารายงาน ในกรณีที่ผู้ท ารายงานมีหลายคน
ให้ใส่ให้ครบโดยเรียงตามล าดับเลขที่
๔. เลขที่ และระดับชั้น ของผู้ท ารายงาน
๕. ชื่อของรายวิชาที่ก าหนดให้ท ารายงาน
๖. ภาคเรียนที่ และปีการศึกษา
๗. ชื่อสถาบันการศึกษา
หน้าปกใน
หน้าปกใน คือ หน้าที่อยู่ถัดจากปก มีรายละเอียดหรือข้อความ
เหมือนปกทุกประการ แต่ใช้กระดาษ A4 สีขาวธรรมดา
สารบัญ
สารบัญ เป็นการเรียงล าดับหัวข้อที่ปรากฏในรายงาน และมีเลขหน้าก ากับ หน้าสารบัญจะท าได้ก็ต่อเมื่อเนื้อหาของรายงานนั่นเสร็จเรียบร้อยแล้ว การพิมพ์หน้าสารบัญ ได้พิมพ์ค าว่า สารบัญ ไว้กลางหน้ากระดาษ ห่างจากขอบกระดาษด้านบนลงมา ๑.๕ นิ้ว
เนื้อหาของรายงาน
เนื้อหาของรายงาน เป็นส่วนที่ส าคัญที่สุด
เนื้อหาของรายงานที่ดีประกอบด้วย
๑. บทน า คือ การเขียนอธิบายอย่างกว้าง ๆ
๒. เนื้อหา คือ รายละเอียดทั้งหมดเกี่ยวกับรายงาน ควรเรียงล าดับตาม
ความส าคัญ เพื่อให้ผู้อ่านเข้าใจได้ง่าย
๓. บทสรุป คือ ส่วนที่เขียนย้ า หรือน าเสนอประเด็นส าคัญของเนื้อเรื่อง และ
ควรจะอยู่ย่อหน้าสุดท้ายของรายงาน
เชิงอรรถ
เชิงอรรถ (Footnote) หมายถึง ค าอธิบายข้อความยากตอนใดตอนหนึ่งในหนังสือหน้านั้น หรือแสดงถึงการอ้างหนังสือเรื่องอื่นที่ได้คัดลอกข้อความน ามาอ้างในการเขียน
๑. เชิงอรรถอ้างอิง
๒. เชิงอรรถเสริมความ
๓. เชิงอรรถโยง
บรรณานุกรม
บรรณานุกรม คือ ส่วนที่รวบรวมรายชื่อทรัพยากรสารสนเทศทุกประเภท ที่ผู้ท ารายงานน ามาใช้อ้างอิงประกอบการท ารายงาน ซึ่งจะต้องน ามาจัดเรียงไว้ตามล าดับอักษร และบันทึกรายการต่าง ๆ ตามแบบแผน
คำนำ
ค าน า คือ หน้าที่อยู่ถัดจากหน้าปกใน หน้าค าน าจะกล่าวถึงวัตถุประสงค์ และขอบเขตของรายงาน ตลอดจนค ากล่าวขอบคุณผู้ที่ให้วัตถุประสงค์ และขอบเขตของรายงาน ตลอดจนค ากล่าวขอบคุณผู้ที่ให้ความช่วยเหลือในการท ารายงาน ซึ่งการเขียนค าน าที่ดี ไม่ควรเขียนออกตัว หรือแก้ตัว เช่น หากรายงานฉบับนี้มีข้อผิดพลาดประการใด ผู้รายงานขออภัยไว้ ณ ที่นี้ ในการพิมพ์หน้าค าน า ให้พิมพ์ค าว่า ค าน า ไว้ตรงกลางหน้ากระดาษ ห่างจากขอบกระดาษด้านบนลงมา ๑.๕ นิ้ว
ขั้นตอนการท ารายงาน
๒. การส ารวจและค้นคว้าข้อมูลจากหลาย ๆ แหล่ง
๑. การเลือกและก าหนดหัวข้อเรื่อง
๓. การวางโครงเรื่องและเรียบเรียงข้อมูล
๔. ท าบรรณานุกรม มีจุดมุ่งหมายคือ
๔.๑ เพื่อรวบรวมรายชื่อแหล่งข้อมูลที่ใช้ประกอบการท ารายงาน
๔.๒ เพื่อน ามาบันทึกไว้ท้ายรายงาน ใช้เป็นหลักฐานประกอบการค้นคว้า
๔.๓ เพื่อเป็นแนวทางให้ผู้สนใจได้ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติม
๔.๔ เพื่อเป็นแหล่งตรวจสอบหลักฐานข้อเท็จจริงในรายงาน
การน าเสนอรายงาน
๑. การเสนอรายงานแบบปากเปล่า
๒. การเสนอรายงานแบบลายลักษณ์อักษร
๓. การเสนอรายงานแบบแผนภูมิหรือแผนภาพ
การจัดการตั้งค่าหน้ากระดาษ
๔. เว้นห่างจากขอบกระดาษด้านล่าง ๑ นิ้ว
๓. เว้นห่างจากขอบกระดาษด้านขวา ๑ นิ้ว
๒. เว้นห่างจากขอบกระดาษด้านซ้าย ๑.๕ นิ้ว เผื่อส าหรับการเย็บเล่ม
๑. เว้นห่างจากขอบกระดาษด้านบน ถึงตัวอักษรบรรทัดแรก ให้ห่างลงมา
๑.๕ นิ้ว