Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การพยาบาลที่มีภาวะแทรกซ้อนในระยะหลังคลอด - Coggle Diagram
การพยาบาลที่มีภาวะแทรกซ้อนในระยะหลังคลอด
Postpartum hemorrhage
ภาวะที่มีการเสียเลือดในรายที่คลอดทางช่องคลอดมากกว่า 500 มิลลิลิตรและมากกว่า 1,000 มิลลิลิตรในรายที่ผ่าตัดคลอด
แบ่งเป็น 2 ระยะ
ภาวะตกเลือดหลังคลอดระยะแรก หรือระยะปฐมภูมิเป็นการตกเลือดภายใน 24 ชั่วโมงแรกหลังคลอด
ภาวะตกเลือดหลังคลอดระยะหลังเป็นการตกเลือดภายหลัง 24 ชั่วโมงจนถึง 6 สัปดาห์หลังคลอด
สาเหตุ
Tone หมายถึง มดลูกหดรัดตัวไม่มีดี
Trauma หมายถึง การฉีกขาดของช่องทางคลอด
Tissue หมายถึงรกหรือส่วนของรกค้างในโพรงมดลูก
Thrombin หมายถึง ความผิดปกติของเกล็ดเลือด และระบบการแข็งตัวของเลือด
อาการและอาการแสดง
เลือดที่ไหลออกมาให้เห็นทางช่องคลอด หรือคั่งค้างอยู่ภายในช่องคลอดเลือดที่ออกมาให้เห็นอาจมีลักษณะไหลซึมหรือ ไหลพุ่งออกมา
มีอาการของการเสียเลือด ได้แก่ ซีด เหงื่อออก ชีพจรเบาเร็ว ชีพจรมากกว่า 90 ครั้ง/นาที หายใจหอบ หายใจเร็ว ความดันโลหิตต่ำ น้อยกว่า 90/60 mmHg ใจสั่น ตัวเย็น เขียวปลายมือปลายเท้าได้
ยอดมดลูกอยู่เหนือระดับสะดือ หรือมีขนาดใหญ่กว่าปกติ
ภาวะแทรกซ้อน
ซีด อ่อนเพลีย อาจเป็นลม หมดสติได้
Sheehan syndrome การเสียเลือดมากอาจทำให้ต่อมใต้สมองส่วนหน้าขาดเลือดไปเลี้ยง และการสร้างฮอร์โมนลดลง ทำให้ไม่มีน้ำนมหลังคลอด ไม่มีประจำเดือน เต้านมเล็กลง ขนรักแร้และหัวหน่าวร่วง ต่อมไทรอยด์และต่อมหมวกไตส่วนนอกทำงานบกพร่อง
ตัดมดลูกเพื่อหยุดการเสียเลือด
การพยาบาล
ในรายที่ให้ oxytocin เมื่อทารกคลอดแล้วควรให้ต่อไปอย่างน้อย 1 ชั่วโมง
ในระยะ 2 ชั่วโมงแรกหลังคลอด ควรดูแลอย่างใกล้ชิดเพราะเป็นระยะที่เกิดการตกเลือดหลัง คลอดได้มากที่สุด โดยสังเกตการหดรัดตัวของมดลูก ปริมาณเลือดที่ออกทางช่องคลอด อาการทั่วไป วัดสัญญาณชีพทุก 15-30 นาที
ดูแลกระเพาะปัสสาวะให้ว่าง
แนะนำให้มารดาตรวจดูการหดรัดตัวของมดลูก หากมดลูกนุ่มสอนวิธีคลึงมดลูกจนกระทั่งมดลูกหดรัดตัวแข็งจึงหยุดคลึง
ตรวจการบวมเลือดของฝีเย็บหลังคลอด บริเวณบวมเลือดจะแข็ง เวลาสัมผัสจะรู้สึกเจ็บปวดมาก การป้องกันการเกิดเลือดคั่งใต้ผิวหนังโดยประคบเย็นบริเวณแผลฝีเย็บในชั่วโมงแรกหลังคลอด
Hematoma
สาเหตุ
เกิดจากการฉีกขาดของเส้นเลือดบริเวณช่องทางคลอด และอวัยวะใกล้เคียงภายหลังการคลอดบุตร
เกิดจากการตัดฝีเย็บขณะทำคลอด
การคลอดบุตรครั้งแรก การคลอดทารกครรภ์แฝด การคลอดท่าก้น
การคลอดโดยใช้เครื่องมือช่วยคลอดทางช่องคลอด
อาการ
Vulvar hematoma มีอาการปวดรุนแรง ปวดมากบริเวณฝีเย็บ
Vulvovaginal hematoma มีอาการปวดบริเวณช่องคลอดมากตรวจพบก้อนสีคล้ำๆ บริเวณปากช่องคลอด เจ็บมากเวลาแตะหรือสัมผัสก้อนอาจมีขนาดเล็กเพียง 2-3 เซนติเมตร
paravaginal hematoma จะมีอาการปวดหน่วงบริเวณทวารหนักและช่องคลอดก้อนใต้ผิวหนังมีขนาดมากกว่า 10 เซนติเมตร
ชนิดของการคั่งของเลือด
Vulvar hematoma ก้อนเลือดคั่งที่ปากช่องคลอด
Vulvovaginal hematoma คือก้อนเลือดคั่งที่ปากช่องคลอดแล้วลุกลามเข้าไปในส่วนล่างของช่องคลอด
paravaginal hematoma คือก้อนเลือดคั่งที่เกิดขึ้นในส่วนกลางถึงส่วนบนของช่องคลอดและอยู่เหนือต่อกล้ามเนื้อ
กาารักษา
ถ้าก้อนเลือดคั่งมีขนาดเล็กกว่า 5 เซนติเมตร และไม่มีการขยายตัวของก้อนเลือดลุกลามออกไป สามารถให้การดูแลรักษาโดยการตรวจติดตามประคบด้วยความเย็น ให้ยาเพื่อบรรเทาปวด การแช่ก้นด้วยน้ำอุ่น วันละ 2 ครั้งๆ ละ 10-20นาที ในรายที่มีอาการปวด
ถ้าก้อนเลือดใหญ่ หรือก้อนขนาดเล็กแต่มีการขยายขนาดขึ้น หรือมีอาการปวดมาก ควรผ่าตัดรักษาทันที
Puerperal infection
เป็นการติดเชื้อแบคทีเรียของระบบอวัยวะสืบพันธุ์ภายหลังคลอด
สาเหตุ
เคยมีประวัติการติดเชื้อภายหลังคลอดมาก่อน เช่น ติดเชื้อระบบทางเดินปัสสาวะ
การบาดเจ็บจากช่องทางคลอด จากการคลอดปกติหรือการใช้เครื่องมือช่วยคลอด
การผ่าตัดคลอด
ถุงน้ำแตกก่อนคลอดมากกว่า 24 ชั่วโมง
ระยะเวลาการเจ็บครรภ์และคลอดยาวนาน
การตรวจภายในบ่อยครั้งในระยะคลอด
การล้วงรก
มีเศษรกและเยื่อหุ้มทารกค้างในโพรงมดลูก
การดูแลแผลฝีเย็บไม่ถูกต้อง
การพยาบาล
แนะนำการปฏิบัติตัวระหว่างการตั้งครรภ์ให้มีสุขภาพแข็งแรง มาฝากครรภ์ตามนัด
ดูแลให้ผู้คลอดได้พักผ่อน และได้รับสารน้ำอย่างเพียงพอ
บุคลากรสุขภาพในห้องคลอดควรระมัดระวังเรื่องการติดเชื้อ โดยผูกผ้าปิดปากปิดจมูกและใช้อุปกรณ์ที่สะอาดปราศจากเชื้อ ทำความสะอาดหรือล้างมือทุกครั้งก่อนทำหัตถการด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อ
ระมัดระวังป้องกันการบาดเจ็บและชอกช้ำของช่องทางคลอด
ทันทีหลังคลอด ควรรีบเปลี่ยนเสื้อผ้า ผ้าปูที่นอน และสิ่งอื่นๆ ที่ปนเปื้อนเลือดหรือสารคัดหลั่ง
ให้ล้างมือบ่อยๆ โดยเฉพาะก่อนและหลังเปลี่ยนผ้าอนามัยและการขับถ่าย
แนะนำการทำความสะอาดอวัยวะสืบพันธุ์ที่ถูกวิธี ป้องการการนำเชื้อ Ecoli จากทวารหนักไปสู่แผลฝีเย็บหรือช่องคลอด
กระตุ้นให้ดื่มน้ำมากๆ รับประทานอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง
รักษาสภาพแวดล้อมให้สะอาด
thrombophlebitis
เป็นการอักเสบของหลอดเลือดดำและลิ่มเลือด
สาเหตุ
การคั่งของเลือด เพราะมีการขยายของหลอดเลือดดำบริเวณส่วนล่างของร่างกายและการไหลเวียนของเลือดไม่ดี
การแข็งตัวของเลือดง่ายกว่าปกติ เพราะหลังคลอดมีไฟบริโนเจนเพิ่มขึ้น
การบาดเจ็บของหลอดเลือด จากรูของหลอดเลือดขยายและมีการอักเสบ สร้างแรงกดดันรอบๆ เนื้อเยื่อ
อาการ
กรณีมีการอักเสบของหลอดเลือดดำบริเวณพื้นผิวปวดน่องเล็กน้อย บวม แดง ร้อน หลอดเลือดดำแข็ง
กรณีมีการอักเสบของหลอดเลือดดำที่ลึกลงไปจะมีอาการไข้ต่ำๆ ผิวหนังร้อน แต่มองไม่เห็นหรือคลำไม่ได้ กดหลอดเลือดดำส่วนลึกเจ็บ เมื่อใช้มือข้างหนึ่งกดที่เข่าอีกมือหนึ่งดันปลายเท้าเข้าหาลำตัวให้น่องตึง จะมีอาการเจ็บปวดอย่างมาก
Homan’s sign ได้ผลบวกHoman’s sign ได้ผลบวก
การพยาบาล
ให้นอนพักยกขาข้างที่เกิดการอักเสบของหลอดเลือดดำให้สูงขึ้นกว่าระดับหัวใจ
ประคบด้วยความร้อน ต้องระวังไม่ให้ร้อนเกินไป
หลีกเลี่ยงการนวดน่องหรือบริเวณที่มีการอักเสบเพราะอาจเป็นสาเหตุให้ลิ่มเลือดหลุดออกไปอุดตันที่ปอด
หลีกเลี่ยงการสวมใส่เสื้อผ้าที่คับหรือรัดบริเวณส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย
หลีกเลี่ยงการไขว้ขา หรือการนั่งไขว่ห้าง
ใช้ผ้ายืดหรือถุงเท้าที่เป็นผ้ายืดพันบริเวณขาส่วนล่างเป็นระยะ เพื่อลดการคั่งของเลือด
กระตุ้นให้ดื่มน้ำมาก ๆ อย่างน้อยวันละ 3,000 - 4,000 มิลลิลิตร เพื่อลดความหนืดของเลือด
Postpartum psychosis
เป็นอาการทางจิตที่เกิดขึ้นในระยะหลังคลอด มีลักษณะอาการในกลุ่มอาการหลงผิด ประสาทหลอน ส่วนใหญ่เป็นอาการรุนแรงต่อเนื่องมาจากภาวะอารมณ์เศร้า และภาวะซึมเศร้าหลังคลอด
สาเหตุ
เคยมีประวัติเป็นโรคจิตหลังคลอด
เคยมีประวัติเป็นอารมณ์แปรปรวน bipolar disorder
มีบุคลิกภาพแปรปรวนอยู่ก่อนแล้ว เช่นบุคลิกภาพแบบเก็บตัวหรือบุคลิกภาพแบบย้ำคิดย้ำทำ
มีบุคคลในครอบครัวหรือญาติใกล้ชิดป่วยด้วยโรคไบโพล่าร์
มีความเครียดในระยะตั้งครรภ์ ขาดการสนับสนุนจากสามีและญาติ มีปัญหาทางเศรษฐกิจ
อาการ
อาการนำ มักเริ่มเป็นในระยะ 2-3 วันแรกหลังคลอด จะมีอาการไม่สุขสบายนำมาก่อน
นอนไม่หลับ ฝันร้าย
บุคลิกภาพเปลี่ยนแปลง ขาดความสนใจต่อสิ่งแวดล้อมรอบตัว กระสับกระส่าย ผุดลุกผุดนั่งหงุดหงิด วิตกกังวลอย่างมาก
ภาวการณ์รับรู้อาจลางเลือน มีอาการสับสน ความจำเสีย ขาดสมาธิ
การเคลื่นไหวผิดปกติ เช่น กระตุก เกร็ง พูดเร็ว นิ่งเฉยไม่ขยับตัว หรือขยับตัวช้ามาก
การพยาบาล
ส่งเสริมและกระตุ้นมารดาได้ปฏิบัติกิจวัตรประจำวันด้วยตนเองให้มากที่สุด
ดูแลให้มารดาได้รับประทานอาหารทุกมื้อ
ให้เวลาแก่มารดาในการพูดคุย และรับฟังในสิ่งที่มารดาพูดให้มาก เปิดโอกาสให้ระบายความรู้สึก กระตุ้นให้มารดาหลังคลอดแสดงความคิดเห็น ความรู้สึก ความคับข้องใจ
ส่งเสริมสัมพันธภาพภายในครอบครัว