Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
Reproductive System - Coggle Diagram
Reproductive System
Physiology of Reproductive system
หน้าที่ ดำรงค์พันธุ์ให้คงอยู่ในโลกสืบต่อไปไม่ให้สูญพันธุ์
สร้างเซลล์สืบพันธุ์
ผลิตฮอร์โมนเพศ
(Reproductive system)
Secondary sex organs, Accessory
ท่อต่าง ๆ (Various ducts), ต่อม (Glands), และอวัยวะเพศภายนอก (External genitalia) การควบคุมการทำงานโดย Hypothalamic-Pituitary-Gonadal axis
Primary sex organs, Gonads
สร้างเซลล์สืบพันธุ์ (Gametes) Testes (Male), Ovaries (Female)
(Human sex determination and differentiation)
Genetic sex
Gonadal sex
Phenotypic sex
Male Reproductive System
อัณฑะ (Testes)
สร้างอสุจิ (Sperm)
Phases of ecjaculation
Emission > Semen; Testes -> Urethra
Ejaculation > Semen; Urethra -> Out of Penis
Erection > Penis; Vasodilation🔼 , Blood flow🔼
ผลิตฮอร์โมน Testosterone
Female Reproductive System
รังไข่ (Ovaries)
การสร้างเซลล์ไข่ (Oogenesis)
การปฏิสนธิ (Fertilization)
การตั้งครรภ์ (Pregnancy)
วงจรประจำเดือน (Menstrual cycle)
การคลอด (Parturition)
การให้นม (Lactation)
การคุมกำเนิด (Contraception)
Follicle ผลิตฮอร์โมน Estrogen
Corpus luteum ผลิตฮอร์โมน Progesterone
Human sex determination and differentiation
โครโมโซมมนุษย์มีทั้งหมด 23
คู่ที่ 1-22 เป็น Autosomal chromosomes และ คู่ที่ 23 เป็น
Sex chromosomes
ชาย (Male)
Sex chromosome = XY
Hormone = TCF
หญิง (Female)
Sex chromosome = XX
Hormone = No TDF
Abnormal sex determination and differentiation
ระบบสืบพันธุ์เพศหญิง (Female reproductive system )
อวัยวะสืบพันธุ์ภายใน
2.1 Vagina
มีหน้าที่เป็นทางผ่านของเชื้ออสุจิเข้าภายใน และเป็นทางผ่านของเด็กขณะคลอด
เยื่อบุภายในช่องคลอดสามารถสลายตัวเกิดระดูขาวปกติในช่องคลอด
2.2 Uterus
อยู่ใน Pelvic cavity ด้านหน้าเป็น urinary bladder ด้านหลังเป็น rectum
มดลูกแบ่งออกเป็น 4 ส่วน
ยอดมดลูก (Fundus)
ตัวมดลูก (Body หรือ corpus)
Isthmus
ปากมดลูก (Cervix )
2.3 Cervix
นอกจากสร้างเมือกดังกล่าวแล้ว และจากการที่รูเปิดของปากมดลูกจะเปิดเฉพาะช่วงตกไข่ ช่วงมีประจำเดือน ช่วงมีเพศสัมพันธ์ และช่วงคลอดบุตร ดังนั้น จึงช่วยในการผสมพันธุ์, ช่วยป้องกันเชื้อโรคไม่ให้เข้าไปในโพรงมดลูก
2.4 Uterine tubes หรือ Fallopian tubes หรือ oviducts
มีหน้าที่นำไข่และอสุจิให้มาผสมกันในท่อนำไข่ และนำไข่ที่ผสมแล้วกลับสู่โพรงมดลูก เพื่อการฝังตัวในเยื่อบุมดลูก เพื่อการเจริญเป็นการตั้งครรภ์ปกติ
2.5 Ovary
เป็นที่สำหรับการเจริญเติบโตของตัวอ่อน หรือทารกนั่นเอง มีการขยายตัวเพื่อรับไข่ที่เตรียมจะผสมกับเชื้อเพศผู้ หากไม่มีเชื้อเพศผู้มดลูกจะบีบตัวเพื่อขับสิ่งต่าง ๆ ออกจากมดลูก หรือที่เรารู้จักกันดีในชื่อว่า “ประจำเดือน”
อวัยวะสืบพันธุ์ภายนอก
1.1 Mons pubis
มีหน้าที่ป้องกันการกระแทกของกระดูกหัวหน่าว (Pubic bone) ในขณะร่วมเพศและสร้างกลิ่นทางเพศ (Pheromone) จากต่อมสร้างกลิ่นที่อยู่ในผิวหนังของหัวหน่าว
1.2 Labia majora
มีลักษณะเป็นกถีบเนื้อนูน
เทียบเท่ากับ Scrotum ของเพศชาย
1.3 Labia minora
ด้านล่างจะมารวมกันเป็น Fourchette
ทำหน้าที่ล้อมรอบและปกปิดรูเปิดของท่อปัสสาวะและช่องคลอด
ด้านบนจรดเป็นหนังหุ้ม Clitorisเรียกว่า frenulum
1.4 Clitoris
ภายในประกอบด้วยเนื้อเยื่อที่แข็งตัวได้ (Erectile tissue)
เทียบได้กับอวัยวะเพศชาย คือ Penis
เป็นก้อนเนื้อเล็กๆ ตั้งอยู่ตอนบนของแคมเล็ก (Labia minora) และใต้ต่อ mons pubis
1.5 Vestibule
และอยู่นอก hymen มีช่องสำคัญๆมาเปิดคือ
vagina urethral orifice และ bartholin duct
เป็นบริเวณตั้งแต่ clitoris จนถึง fourchette
1.6 Bartholin gland
เป็นต่อมที่สำคัญ ทีหน้าที่ขับเมือก สีเหลืองข้นๆออกมา ช่วยหล่อลื่นช่องคลอด ระหว่างร่วมเพศ
1.7 Perineum
เป็นช่องเปิดเล็กๆ 2 ช่อง เทียบเท่ากับต่อมลูกหมากในเพศชาย
1.8 Hymen
เป็นเยื่อที่ยึดหดได้ปิดปากช่อง คลอดเกือบหมดเว้นช่องเล็กๆไว้ ตรงกลาง เพื่อให้ประจำเดือน ผ่าน
อวัยวะสืบพันธุ์เพศชาย (Male genital organ)
อวัยวะสืบพันธุ์ภายนอกของเพศชาย
Scrotum
มีกล้ามเนื้อเรียบ เรียกว่า Dartos muscle และ Cremaster mascle
ช่วยปรับอุณหภูมิของอัณฑะ ให้ต่ำกว่าอุณหภูมิของร่างกาย 3-5 องศาเซลเซียล
ไม่มีไขมันใต้ผิวหนัง และยื่นลงมาจากหน้าท้อง
ภายในมีอัณฑะ (testis) และบางส่วนของ spermatic cords
Penis
Corpus cavernosum หรือ corpora cavernosum 2 อันอยู่ทางด้านบน
Corpus spongiosum 1 อันอยู่ทางด้านล่าง มี แrethra ผ่านกลาง
อวัยวะสืบพันธุ์ภายในของเพศชาย
Seminal vesicle
ㆍอยู่ด้านหลังกระเพาะปัสสาวะ
ㆍทำหน้าที่สร้างน้ำกาม (Semen) เพื่อ
เป็นอาหารมาเลี้ยง sperm
Ductus (vas) deferens
ㆍ เป็นท่อที่ต่อจากหางของ epididymis และมีส่วนที่พองออกเป็นกระเปราะเรียกว่า Ampulla of vas deferens ซึ่งเป็นที่เก็บอสุจิก่อนปล่อยออกสู่ภายนอก
ㆍเป็นที่เก็บอสุจิก่อนปล่อยออกสู่ภายนอก (อสุจิสามารถมีชีวิตอยู่ได้ 4 เดือน)
Prostate gland
ㆍ อยู่ด้านล่างกระเพาะปัสสาวะ และหลัง pubic symphysis
ㆍมีหน้าที่สร้าง Prostate 1uid ที่มีฤทธิ์เป็น
ด่างอ่อนๆ
Epididymis
วางตัวติดกับด้านหลังของอัณฑะ
มีหน้าที่สำคัญ คือ เก็บ sperm ไว้จนกว่าจะโตเต็มที่ เพื่อพร้อมที่จะหลั่งออก
Urethral gland
ㆍมีรูปร่างกลมเท่าเม็ดถั่ว
ㆍมีหน้าที่หลั่งสารเมือก เพื่อช่วยหล่อลื่น ขณะร่วมเพศ และจะช่วยลดความเป็น กรดของน้ำปัสสาวะที่ค้างอยู่ในท่อ ปัสสาวะ
Testis
ㆍ ขอบด้านหน้ากลม ขอบหลังจะติด
กับ หลอดเก็บอสุจิ (Epididymis)
ㆍมีผนังหุ้ม 2 ชั้นคือ
ㆍ Tunica vaginalis
ㆍ Tunica albuginea
ㆍ มีลักษณะรูปไข่
ㆍภายในมีท่อสร้างอสุจิ Seminiferous tubule)
spernatogenic cel จะเจริญไปเป็น mature sperm (ตัวอสุจิ)
Interstitial cel หรือ Leydig's cell ทำหน้าที่สร้างฮอร์โมนTestosterone
Sertoli cel ทำหน้าที่ผลิตของเหลว ใช้หล่อเลี้ยงเซลล์อสุจิ
*หน้าที่ของอัณฑะคือ สร้างตัวอสุจิ และฮอร์โมนเพศชาย
Ejaculatory Duct
"เปิดเข้าสู่ Prostatic urethra ตรงบริเวณต่อมลูกหมาก
-ทำหน้าที่บีบตัว เพื่อขับน้ำอสุจิ (Semen)
ตัวอสุจิ (Spermatozoa)
ส่วนหัว (Head) มีลักษณะกลมรี มีสารพันธุกรรมและ Acrosome
บรรจุเอนไซม์ที่ช่วยในการเจาะเข้าสู่ไข่ (Ovum)
ส่วนกลาง (Body) เป็นส่วนคอมี Mitochondia จำนวนมาก
ส่วนหาง (Tail) เป็น Flagellum