Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
ระบบขับถ่ายปัสสาวะ Urinary system - Coggle Diagram
ระบบขับถ่ายปัสสาวะ Urinary system
ท่อปัสสาวะ (Urethra)
ท่อปัสสาวะชาย (Male urethra)
•มีความยาว18-20cm.
•เร่ิมจากรูเปิดภายใน(internalorifice)ที่คอของกระเพาะปัสสาวะไปจนถึงรูเปิดภายนอก (external orifice) หรือที่ปลายองคชาต (penis)
•เป็นทางผ่านของน้ำปัสสาวะและน้ำอสุจิ
ท่อปัสสาวะชาย (Male Urethra) แบ่งออกเป็น 3 ส่วนคือ
Prostatic urethra
Membranous urethra
Penile urethra
ท่อปัสสาวะเพศหญิง (Female urethra)
➢ยาว4ซม.ตั้งอยู่หลังsymphysispubisและติดกับผนังด้านหน้าของช่องคลอด(vagina)
หน้าที่สำคัญของระบบขับถ่ายปัสสาวะ คือ
1.รักษาสมดุลของน้ำ สารพวกเกลือแร่ต่างๆ
2.เลือกสารขับถ่ายต่างๆที่เป็นพิษออกไป
3.ควบคุมสมดุลกรด-ด่างในร่างกาย
4.สร้างฮอร์โมน renin, erythropoetin และ calcitriol
หลอดไต (Ureters)
• เป็นท่อต่อจาก renal pelvis
•ทอดตัวลงมาตามกล้ามเนื้อ psoasmajor
• ยาวประมาณ 10-12 นิ้ว
• เปิดสู่กระเพาะปัสสาวะทางด้านข้าง
• ทำหน้าท่ีนำปัสสาวะจากกรวยไตไปเก็บในกระเพาะปัสสาวะ
กระเพาะปัสสาวะ (Urinary bladder)
• เป็นอวัยวะที่อยู่บริเวณช่องท้องน้อย (Pelvic cavity) หลังรอยต่อของกระดูกหัวหน่าว (Symphysis pubis )
• ทำหน้าที่กักเก็บน้ำปัสสาวะ
ระบบขับถ่ายปัสสาวะ ประกอบด้วยอวัยวะต่างๆดังนี้
•ไต (Kidneys)
•หลอดไต หรือท่อไต (Ureters)
• กระเพาะปัสสาวะ (Urinary bladder)
• หลอดปัสสาวะ หรือท่อปัสสาวะ(Urethra)
ไต(Kidney)
Uriniferous tubule •ประกอบด้วย 2 พวกคือ
Nephrons
Cortical nephron มี renalcorpuscle อยู่ที่cortex,Henle’sloop
Juxtamedullary nephron มี renalcorpuscle อยู่ที่corticomedullary junction, Henle’s loop
ส่วนประกอบของ Nephrons
ทำหน้าที่ในการสร้างน้ำปัสสาวะ และส่งผ่านเข้ากรวยไต ประกอบด้วย 2 ส่วน คือ
Renal corpuscles
1.1 Bowman’s capsule
1.2 Glomerulus
Renal tubules
2.1 Proximal tubules
2.2 Henle’s loop
2.3 Distal tubule
2.Collecting tubules
Renal tubules
2.1 หลอดไตส่วนต้น (Proximal convoluted tubule : PCT)
หน้าที่
• ดูดซึมน้ำกลับจากน้ำเลือดท่ีกรองที่ผ่านจากโกลเมอรูลัสและสารอื่น
2.2 ห่วงหลอดไต(LoopofHenle:ท่อขาลง,ท่อขาขึ้น ) อยู่ในเนื้อไต ประกอบด้วย
ท่อตัวยูขาลง (descending limb)
ท่อตัวยูขาขึ้น (ascending limb)
หน้าที่
สามารถดูดซึมโซเดียมอิออน โพแทสเซี่ยมและคลอไรด์อิออนกลับ โดยท่ัวไปของเหลว
2.3 หลอดไตส่วนปลาย (Distal convoluted tubule : DCT)
• เป็นท่อน้ำปัสสาวะไหลไปยังท่อไตรวม (Collecting tubule) และส่งออกไปยงั้น Calyx ของไต
หน้าที่
สามารถดูดซึมน้ำกลับได้ประมาณ 10 เปอร์เซ็นต์ และมีการดูดซึม โซเดียมอิออนและคลอไรด์อิออนได้บ้าง
โครงสร้างของไต
Renal Cortex
• มีสีน้ำตาลแดง
• มีส่วนแทรกเข้าไปใน pyramid เรียก renal column
• ประกอบด้วยRenalcorpouscles (Glomerulusและ Bowman's Capsule)
• พบท่อหน่วยไตส่วนต้น(renal tubule)
Renal medulla
• พบ renal pyramid 6-12 อัน
• ยอดแหลมของ pyramid เรียก renal papilla เป็นท่อเปิดของ papillary duct
• ประกอบด้วยส่วน henle’s loop และ collecting duct
ไต (Kidney)
• มีอยู่2ข้าง
• รูปร่างคล้ายเมล็ดถั่ว
• วางตัวอยู่ด้านหลังของเยื่อบุช่องท้อง (Retroperitoneum) เหนือเอวเล็กน้อย
โครงสร้างที่ห่อหุ้มไต
ผิวนอกของไตถูกคลุมด้วยเนื้อเยื่อ 3 ชั้น คือ
Renalcapsule
Perinephric(Perirenal) fat
Renalfascia
การทำงานของหน่วยไต (Function of Nephron)
ลำดับการทกงานของหน่วยไต
การกรอง (Filtration)
↓
การดูดกลับ(Reabsorption)
↓
การหลั่ง (Secretion)
↓
การขับถ่าย (Excretion)
หน้าที่การทำงานของไต
• การขับถ่าย(Execratoryfunction) Metabolites, Drugs, and Toxins
• การรักษาสมดุล(Homeostaticfunction) Water, Electrolyte, and Acid- Base balance
•การหลั่งฮอร์โมน
(Endocrine (hormonal) secretory function)
Renin (JG cells), Erythropoietin (Renal cortex), and Prostaglandins
• การสังเคราะห์ฮอร์โมน
(Endocrine (hormonal) metabolic function)
Vitamin D3 → Active 1,25(OH)2D3