Please enable JavaScript.

Coggle requires JavaScript to display documents.

แอลกอฮอลล์ (Alchohol) - Coggle Diagram

- - - - บุคคลที่ดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์มากเกินไปยังมีผลกระทบต่ออวัยวะภายในและระบบอวัยวะ
      - สมอง เมื่อเริ่มรับแอลกอฮอล์ใหม่ ๆ จะทำให้ระบบควบคุมการทำงานจะทำให้รู้สึก กระปรี้กระเปร่า มีการเปลี่ยนแปลงทางบุคลิก เมื่อดื่มมากขึ้น จะเกิดอาการมึนเมา ง่วงนอน หลับ หมดสติ หากดื่มเรื้อรัง จะทำให้ความจำเสื่อม ความคิดเลอะเลือน สมองเสื่อม ทำให้เสียการทรงตัว บางครั้งเศร้าซึม มีประสาทหลอน
      - หลอดเลือดสมอง หลอดเลือดในสมองแตกมีความสัมพันธ์อย่างมีนัยสำคัญกับการบริโภค ต่าง ๆ ในร่างกาย ดังต่อไปนี้ แอลกอฮอล์ติดต่อกันเป็นเวลานาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการดื่มในปริมาณมาก ๆ ในคราวเดียวกัน
      - ปากและลำคอ เมื่อแอลกอฮอล์เข้าปากและลำคอจะไปออกฤทธิ์ต่อผิวอวัยวะภายในช่องปาก ทำให้เกิดการระคายเคืองชั้นเยื่อบุที่ละเอียดอ่อนในปากและหลอดอาหาร มักมีอาการร้อน เมื่อผ่านลงไป
      - หัวใจ การดื่มแอลกอฮอล์มากและนานจะทำให้กล้ามเนื้อของหัวใจบวม ทำให้เกิดเป็นพิษกับหัวใจ มีการสะสมของไขมันมากขึ้น และทำให้การเผาผลาญช้าลงไปด้วย
      - กระแสเลือด ร้อยละ 95 ของแอลกอฮอล์ที่เข้าสู่ร่างกาย จะถูกดูดซึมเข้ากระแสเลือด โดยผ่านเยื่อบุในกระเพาะอาหารและลำไส้เล็กอย่างรวดเร็ว เมื่อถึงกระแสเลือดจะเข้าไปในเซลล์ และเนื้อเยื่อต่าง ๆ ในร่างกายอย่างรวดเร็ว แอลกอฮอล์ทำให้เซลล์ของเลือดเกาะเป็นก้อนเหนียว การไหลเวียนเลือดจึงช้าลง ปริมาณออกซิเจนในกระแสเลือดจึงลดต่ำลงด้วย สุราทำให้เลือดจาง โดยจะไปลด การสร้างเม็ดเลือดแดง ทำให้เม็ดเลือดขาวทำลายแบคทีเรียช้าลง และทำให้การแข็งตัวของเกล็ดเลือด ช้าลงด้วย
      - 7.ตับอ่อน แอลกอฮอล์หากดื่มในปริมาณมากและบ่อยครั้ง จะทำให้เซลล์ของตับอ่อน ระคายเคืองและบวมขึ้น สุราทำให้การไหลของน้ำย่อยไม่สามารถที่จะเข้าไปในลำไส้เล็กได้ น้ำย่อย จะย่อยตัวตับอ่อนเอง ส่งผลให้เกิดเลือดออกอย่างเฉียบพลันและเกิดการอักเสบของตับอ่อน
        
        ตับ แอลกอฮอล์หากดื่มในปริมาณมากและบ่อยครั้งจะมีอิทธิพลต่อเซลล์ของตับ ทำให้เกิด การบวม ทำให้น้ำดีซึมผ่านไปทั่วตับเป็นเหตุให้ตัวเหลือง รวมทั้งส่วนขอบตาและผิวหนังเป็นสีเหลืองด้วย ทุกครั้งที่ดื่มสุรานั้น เซลล์ของตับจะถูกทำลายเป็นผลให้ตับแข็ง
        
        กระเพาะปัสสาวะและไต แอลกอฮอล์ทำให้เยื่อบุของกระเพาะปัสสาวะบวม ทำให้ ไม่สามารถยึดได้ตามปกติ การระคายเคืองของไตทำให้ร่างกายสูญเสียน้ำมากขึ้น
        
        ต่อมเพศ ต่อมอัณฑะจะบวม ทำให้ความสามารถทางเพศลดลง
      - กระเพาะอาหารและลำไส้ แอลกอฮอล์เมื่อผ่านลงสู่กระเพาะอาหารจะมีผลกับผนังชั้นในสุด ที่เป็นชั้นที่จะปกป้องกระเพาะอาหาร จะทำให้เกิดแผลในกระเพาะอาหารและลำไส้เล็ก ถ้าอาการเกิดขึ้น อย่างเฉียบพลัน เกิดอาการอักเสบของเยื่อบุชั้นในสุดของผนังหรือกระเพาะอาหารหรืออาจทะลุถึง ลำไส้เล็กได้ นอกจากนี้สุรายังเป็นอุปสรรคกับการดูดซึมอาหารบางชนิด เช่น กรดโฟลิก (Folic acid) ไขมัน วิตามินบี 9 วิตามินบี 5 วิตามินบี ๑๒ และกรดอะมิโน (Amino acid) ต่าง ๆ
    - - สมองมนุษย์นั้นเป็นผลรวม จากนิวรอน (Neuron) หรือ เซลล์ประสาทมากกว่าหนึ่งร้อยล้านเซลล์ แต่ละเซลล์ประสาทจะสร้างการเชื่อมโยง ต่อเซลล์ประสาทอื่น ๆ นับหมื่นเซลล์ ฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ส่งผลกระทบ ต่อการทํางานของสมองจนทำให้ สมรรถนะถดถอยในหลายด้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในวัยรุ่น ที่ “ดื่ม” อย่างต่อเนื่อง
      - เครื่องดื่มแอลกอฮอล์แบ่งเป็น ๓ ประเภทใหญ่ ๆ คือ
      - 1.เบียร์ (Beer) ผลิตโดยการหมักที่มาจากธัญพืชกับยีสต์ แอลกอฮอล์ที่พบในเบียร์ โดยทั่วไปอยู่ระหว่างร้อยละ 4 ถึงร้อยละ 6
      - 2.ไวน์ (Wine) โดยทั่วไปหมายถึงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่ผลิตจากองุ่นแต่ยังมีไวน์ที่ผลิต จากผลไม้ชนิดอื่น ๆ รวมถึงธัญพืช แอลกอฮอล์ในไวน์เกิดจากกระบวนการเปลี่ยนน้ำตาลในผลไม้ ให้กลายเป็นแอลกอฮอล์จากการเจริญของยีสต์ มีปริมาณแอลกอฮอล์อยู่ระหว่างร้อยละ 9 - 16
      - 3.เหล้า (Spirits) เป็นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่ผ่านกระบวนการกลั่นจนได้แอลกอฮอล์ ไม่น้อยกว่าร้อยละ 20 โดยปริมาตร
    - - ภาวะขาดแอลกอฮอล์
      - เกิดจากการลดลงของระดับแอลกอฮอล์ ซึ่งจะส่งผลต่อการทำงานของสมองทำให้เกิดอาการ ต่าง ๆ ตามมา อาการจะขึ้นอยู่กับว่าผู้นั้นเป็นผู้ที่ดื่มจนกลายเป็นผู้ติดแอลกอฮอล์หรือไม่
      - ผู้ที่ไม่ติดแอลกอฮอล์ จะเกิดอาการขาดแอลกอฮอล์ได้หลังจากดื่มในปริมาณที่มากโดยมี ลักษณะที่เรียกกันว่า เมาค้างในตอนเช้า หรือยังไม่สร่างจากเมาเมื่อคืน โดยมีอาการดังนี้ อาการจะเริ่มเกิดขึ้นหลังจากหยุดดื่มได้ 4-5 ชั่วโมง โดยมีอาการปวดศีรษะ มือสั่น หงุดหงิด กระวนกระวาย ตาสู้แสงสว่างไม่ได้ รวมทั้งอาจมีอาการใจสั่นร่วมด้วย อาการต่าง ๆ เหล่านี้จะเป็นอยู่ ประมาณ ๒๔-๔๘ ชั่วโมง
      - ผู้ที่ดื่มแอลกอฮอล์จนติด จะเกิดอาการจะเริ่มเป็นตามช่วงระยะและลำดับเวลา ดังนี้ ในช่วง ๖-๒๔ ชั่วโมงแรกหลังจากหยุดหรือลดปริมาณการดื่ม จะมีอาการมือสั่น ปวดศีรษะ หงุดหงิด กระวนกระวาย ใจสั่น นอนไม่หลับ ในบางรายจะเริ่มเกิดอาการประสาทหลอนหูแว่ว หวาดระแวง มีอาการชักกระตุก เกร็ง อาการต่าง ๆ จะเป็นอยู่ประมาณ ๒๔-๔๘ ชั่วโมง
      - ผู้ที่ติดแอลกอฮอล์อย่างรุนแรง จะเกิดอาการต่าง ๆ ตามมาได้อีก คือ ประมาณ ๓๖-๗๒ ชั่วโมง หลังจากหยุดดื่มหรือลดปริมาณการดื่มลง จะเกิดอาการสับสน จำวัน เวลา สถานที่และบุคคล ไม่ได้ เพ้ออย่างรุนแรง กระวนกระวาย ได้ยินเสียงแว่ว ภาพหลอน ควบคุมตัวเองไม่ได้ อาการเหล่านี้ จะเป็นมากขึ้นเรื่อย ๆ บางรายอาจเป็นได้นานถึงสัปดาห์ หากไม่ได้รับการรักษาอย่างถูกต้องและ เหมาะสมจะมีอันตรายต่อสุขภาพตามมาได้ นอกจากนี้บางรายที่ติดแอลกอฮอล์อาจเกิดภาวะ ขาดแอลกอฮอล์ในลักษณะที่เรื้อรังได้ คือ จะมีอาการนอนไม่หลับ ความจำบกพร่อง อ่อนเพลียและ การทำงานของระบบอัตโนมัติของร่างกายผิดปกติไป เช่น ใจสั่น ใจเต้นเร็ว อาการเหล่านี้จะเป็น ต่อเนื่องได้นาน ๖-๒๔ เดือน ถึงแม้ว่าจะหยุดดื่มแอลกอฮอล์แล้วก็ตาม
    - - ผลของการดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ต่อสังคม
      - การดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์นอกจากจะมีผลเสียต่อสุขภาพร่างกายของคนเราแล้วยังส่งผลถึงการดาเนินชีวิตประจำวันดังนี้
      - ผลกระทบต่อครอบครัวและความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลการดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ในบางครั้งอาจจะมีการทะเลาะวิวาทหรือกระทบกระทั่งกันในระหว่างเพื่อนฝูงอาจจะมีการลงมือทำร้ายหรือพูดจาล้อเลียนส่อเสียดไปในทางที่ไม่ดีซึ่งสุดท้ายอาจจะทำให้เสียเพื่อนได้หากเป็นบุคคลที่มีครอบครัวแล้วก็อาจทำลายความสัมพันธ์กับคู่สมรสและความสัมพันธ์กับคนใกล้ชิดอื่น ๆ จนกระทั่งการแยกกันอยู่หรือการหย่าร้างเนื่องจากทนพฤติกรรมไม่ไหวก็เป็นได้
      - 2 .การประกอบอาชีพเนื่องจากการดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์มีผลทำให้เสียบุคลิกภาพขาดศักยภาพในการทำงานจึงอาจมีผลกระทบต่อหน้าที่การงานเช่นไม่ได้รับการเลื่อนตำแหน่งถูกลดตำแหน่งถูกไล่ออกทำให้เกิดปัญหาการว่างงานได้
        
        เศรษฐกิจของครอบครัวทำให้ครอบครัวขาดรายได้ประจำที่เคยได้จากการทำงานเงินทองไม่พอใช้เป็นหนี้สินหรือต้องกู้หนี้ยืมสินเพื่อนำมาใช้จ่ายในครอบครัวเพราะเมื่อดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ก็จะทำให้ต้องใช้ค่าใช้จ่ายเพิ่มจึงอาจเป็นโอกาสของมิจฉาชีพทำให้ถูกฉ้อโกงถูกหลอกลวงได้
        
        กฎหมายในประเทศไทยก็จะมีกฎหมายตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. ๒๕๒๒ แก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ. ๒๕๕๗) ห้ามผู้ขับขี่อายุไม่ถึง ๒๐ ปีต้องมีปริมาณแอลกอฮอล์ไม่เกิน ๒๐ มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์และบุคคลอื่นมีปริมาณแอลกอฮอล์ไม่เกิน ๕๐ มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์หากฝ่าฝืนกฎหมายที่ห้ามดื่มสุราหรือเสพยาขณะขับรถก็จะมีโทษจําคุกไม่เกิน 2 ปีหรือปรับตั้งแต่ ๑๐,๐๐๐-๒๐,๐๐๐ บาทหรือทั้งจําทั้งปรับอาจจะถูกพักใช้หรือเพิกถอนใบอนุญาตขับขี่หรือถูกยึดรถได้
        
        เป็นปัญหาทางสังคมอาจจะมีการใช้ความรุนแรงถูกทำร้ายร่างกายปัญหาการฆ่าตัวตายเด็กที่เกิดมาในครอบครัวที่มีผู้ปกครองชอบดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ก็อาจจะถูกทอดทิ้งไม่เลี้ยงดูเด็กอาจทําให้เกิดปัญหาสังคมอื่น ๆ ตามมา