Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
ระบบสืบพันธ์ุ (Reproductive System), 9BCC4466-24CA-4E2D-B0F6-7869E11B3F9E…
ระบบสืบพันธ์ุ
(Reproductive System)
อวัยวะสืบพันธ์ุเพศชาย (Male genital organ)
แบ่งออกเป็น 2 ส่วน
อวัยวะสืบพันธ์ุภายนอกของเพศชาย
Scrotum
Penis
อวัยวะสืบพันธ์ุภายในของเพศชาย
Seminal vesicle
Ejaculatory duct
Ductus (vas) deferens
Prostate gland
Epididymis
Urethral gland
Testis
หน้าที่
สร้างเชื้ออสุจิ (sperm)
สร้างฮอร์โมนเพศชาย
อวัยวะสืบพันธ์ุภายนอกของเพศชาย
(external genital organs)
ถุงอัณฑะ(Scrotum)
มีกล้ามเนื้อเรียบ เรียกว่า Dartosmuscle และ Cremastermascle
ช่วยปรับอุณหภูมิของงอัณฑะให้ต่ำกว่าอุณหภูมิของร่างกาย 3-5 องศาเซลเซียส
ไม่มีไขมันใต้ผิวหนัง และยื่นลงมาจากหน้าท้อง
ภายในมีอัณฑะ (testis) และบางส่วนของ spermaticcords
องคชาต (Penis)
Corpus cavernosum หรือ corpora cavernosum 2 อัน อยู่ทางด้านบน
Corpus spongiosum 1 อันอยู่ทางด้านล่าง มี urethra ผ่านกลาง
อวัยวะสืบพันธ์ุภายในของเพศชาย
(Internal genital organs)
อัณฑะ (Testis)
ขอบด้านหน้ากลม ขอบหลังจะติด กับหลอดเก็บอสุจิ (Epididymis)
ภายในมีท่ออสร้างอสุจิ (Seminiferous tubule)
มีลักษณะรูปไข่
มีผนังหุ้ม 2 ช้ัน คือ
Tunica vaginalis
Tunica albuginea
ท่อพักอสุจิ (Epididymis)
วางตัวติดกับด้านหลังของอัณฑะ
มีหน้าที่สำคัญคือ เก็บ sperm ไว้จนกว่าจะโตเต็มท่ี
เพื่อพร้อมทจี่ะหลงั่ออก
ท่อนำอสุจิ
(Vas deferens or Ductus deferens)
เป็นท่อที่ต่อจากหางของ epididymis และมีส่วนที่พองออกเป็นกระเปราะเรียกว่า Ampulla of vas deferens ซึ่งเป็ นที่เก็บอสุจิก่อนปล่อยออกสู่ภายนอก
เป็นที่เก็บอสุจิก่อนปล่อยออกสู่ภายนอก (อสุจิสามารถมีชีวิตอยู่ได้ 4 เดือน)
ถุงพักอสุจิ (SeminalVesicle)
อยู่ด้านหลังกระเพาะปัสสาวะ
ทำหน้าท่ีสร้างน้ำกาม (Semen) เพื่อเป็นอาหารมา
เลี้ยง sperm
ท่อฉีดอสุจิ (Ejaculatory Duct)
เปิดเข้าสู่ Prostatic urethra ตรงบริเวณต่อมลูกหมาก
ทำหน้าที่บีบตัวเพื่อขับน้ำอสุจิ (Semen)
ต่อมลูกหมาก (ProstateGland)
อยู่ด้านล่างกระเพาะปัสสาวะ และหลัง pubic symphysis
มีหน้าที่สร้าง Prostate fluid ที่มีฤทธ์ิเป็นด่างอ่อนๆ
ต่อมน้ำเมือก (Bulbo-urethral Gland หรือ
Cowper’s gland)
มีรูปร่างกลมเท่าเม็ดถั่ว
มีหน้าท่ีหลั่งสารเมือกเพื่อช่วยหล่อลื่นขณะร่วมเพศ และจะ
ช่วยลดความเป็นกรดของน้ำปัสสาวะที่ค้างอยู่ในท่อ ปัสสาวะ
ระบบสืบพันธ์ุเพศหญิง (Femalereproductivesystem)
แบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ
อวัยวะสืบพันธ์ุภายนอก
Clitoris
Vestibule
Labia minora
Hymen
Labia majora
Mons pubis
Perineum
อวัยวะสืบพันธ์ุภายใน
Cervix
Uterine tubes หรือ Fallopian tubes
หรือ oviducts
Uterus
Vagina
Ovary
อวัยวะสืบพันธ์ุภายนอกของเพศหญิง
เนินหัวเหน่า (Mons pubis)
มีหน้าที่ป้องกันการระแทกของกระดูกหัวหน่าว (Pubic bone) ในขณะร่วมเพศ และสร้างกลิ่นทางเพศ (Pheromone) จากต่อมสร้างกลิ่นที่อยู่ในผิวหนังของหัวหน่าว
แคมใหญ่ (Labia majora)
มีลักษณะเป็นกลีบเนื้อนูน
เทียบเท่ากับ Scrotum ของเพศชาย
แคมเล็ก (Labia minora)
ทำหน้าที่ล้อมรอบและปกปิดรูเปิดของท่อปัสสาวะและช่องคลอด
ด้านล่างจะมารวมกันเป็น Fourchette
ด้านบนจรดเป็นหนังหุ้ม Clitoris เรียกว่า frenulum
คลิตอริส (Clitoris)
เป็นก้อนเนื้อเล็กๆ ตั้งอยู่ตอนบนของแคมเล็ก (Labia minora) และใต้ต่อ mons pubis
ภายในประกอบด้วยเนื้อเยื่อที่แข็งตัวได้ (Erectiletissue)
เทียบได้กับอวัยวะเพศชาย คือ Penis
Vestibule
เป็นบริเวณตั้งแต่ clitoris จนถึง fourchette
และอยู่นอก hymen มีช่องสำคัญๆมาเปิดคือ
vagina urethral orifice และ bartholin duct
เยื่อพรหมจารี (Hymen)
เป็นเยื่อที่ยืดหดได้ปิดปากช่องคลอดเกือบหมดเว้นช่องเล็กๆไว้ตรงกลาง เพื่อให้ประจำเดือนผ่าน
ฝีเย็บ (Perineum)
ทำหน้าที่พยุงอวัยวะภายในอุ้งเชิงกราน
ประกอบด้วย perinealbody กล้ามเนื้อ levatorani, Externalanalsphincter,
Superficial transverse perineal
อวัยวะสืบพันธ์ุภายในของเพศหญิง
ช่องคลอด (Vagina)
มีหน้าที่เป็นทางผ่านของเชื้ออสุจิเข้าภายใน และเป็นทางผ่านของเด็กขณะคลอด
เยื่อบุภายในช่องคลอดสามารถสลายตัวเกิดระดูขาวปกติ
ในช่องคลอด
มดลูก (Uterus)
อยู่ใน Pelvic cavity ด้านหน้าเป็น urinary bladder ด้านหลังเป็น rectum
มดลูกแบ่งออกเป็น 4 ส่วน
ตัวมดลูก (Body หรือ corpus)
Isthmus
ปากมดลูก (Cervix )
ยอดมดลูก (Fundus)
เส้นเลือดที่มาเลี้ยงมดลูก มาจาก
Uterine artery เป็นแขนงมาจาก internal lilac ateries
Ovarian artery เป็นแขนงมาจาก abdominal artery
เอ็น (Ligament) ที่ยึดมดลูก (Uterus)
Broad ligament
Round ligament
Uterosacral ligament
Transverse cervical ligament หรือ (Cardinal ligament)
ปากมดลูก (Cervix)
Internal os เปิดเข้าสู่โพรงมดลูก
External os ยื่นเข้าไปในช่องคลอด
ท่อรังไข่ หรือปีกมดลูก (Uterine หรือ Fallopian tube)
แบ่งออกเป็น 4 ส่วน คือ
Isthmus
Ampulla
Interstitial portion (Cornu)
Infundibulum
ทำหน้าที่เก็บเซลล์ไข่ที่หลุดออกจากรังไข่ เป็นบริเวณที่เกิดการปฏิสนธิ และนาเซลล์ไข่ที่ผสมติดแล้วเดินทางเข้าสู่โพรงมดลูก
รังไข่ (Ovary)
หน้าที่ของรังไข่
สร้างไข่ (Ovum)
สร้างฮอร์โมน 2 ชนิด คือ Estrogen และ Progesterone
เอ็น (ligament) ที่ยึด ovary กับ uterus
Ovarian ligament
Suspensory ligament of ovary
Mesovarium
ระบบสืบพันธ์ุ
(Reproductive system)
อวัยวะสืบพันธ์ุระดับปฐมภูมิ (Primary sex organs, Gonads)
สร้างเซลล์สืบพันธุ์
(Gametes)→Testes(Male),Ovaries(Female)
อวัยวะสืบพันธ์ุระดับทุติยภูมิ (Secondary sex organs, Accessory)
ท่อต่างๆ (Various ducts), ต่อม (Glands), และอวัยวะเพศภายนอก (External genitalia)
พันธุกรรมเพศ (Geneticsex)
คู่ที่ 1-22 เป็น Autosomal chromosomes และ คู่ที่ 23 เป็น Sex chromosomes
เพศชาย (Male) โครโมโซมเพศ XY
โครโมโซมมนุษย์มีทั้งหมด 23 คู่
เพศหญิง (Female) โครโมโซมเพศ XX
อวัยวะต่างๆในระบบสืบพันธ์ุเพศชาย (Male reproductive organs)
Steroidogenesis→Testosterone
อวัยวะสืบพันธ์ุระดับปฐมภูมิ
(Primary sex organs, Gonads)
อณัฑะ(Testes)→สร้างอสุจิ(Sperm)
→ ผลิต Testosterone
Spermatogenesis/Gametogenesis
อวัยวะสืบพันธ์ุระดับทุติยภูมิ
(Secondary sex organs)
Epididymis, Vas deferens, Prostate gland, Seminal vesicle, Penis
อวัยวะต่างๆในระบบสืบพันธ์ุเพศหญิง
(Female reproductive organs)
Oogenesis and Ovarian cycle
Estrogen, Progesterone
อวัยวะสืบพันธ์ุระดับปฐมภูมิ
(Primary sex organs, Gonads)
รังไข่ (Ovaries) → สร้างไข่ (Ovum)
→ ผลิต Estrogen, Progesterone
อวัยวะสืบพันธ์ุระดับทุติยภูมิ
(Secondary sex organs)
Uterus
Fallopian tube
Vagina
Mammary glands
วงจรการเปลี่ยนแปลงของรังไข่ (Ovariancycle)
Follicle phase (1-14 days)
Eggmatures
พัฒนาเซลล์ไข่ให้สมบูรณ์
Ovulation (Day 14)
Egg released วันไข่ตก
Luteal phase (14-28 days)
Corpusluteum พัฒนา Endometrium
No pregnancy (Day 28)
Menses Endometrium และ Egg ฝ่อ แล้วถูกขับออกมาเป็นประจำเดือน