Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
แนวคิด หลักการการพยาบาลผู้ป่วยภาวะฉุกเฉิน และสาธารณภัย, CBB61799-B382-4051…
แนวคิด หลักการการพยาบาลผู้ป่วยภาวะฉุกเฉิน และสาธารณภัย
แนวคิด หลักการพยาบาลผู้ป่วยภาวะฉุกเฉิน
แนวคิด
(1) Anglo-American Model (AAM)
(2) Franco-German Model (FGM)
ความหมาย
การเจ็บป่วยฉุกเฉิน
คือ การเจ็บป่วยที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน จําเป็น
ต้องดําเนินการช่วยเหลือ และการดูแลรักษาทันที อาจเกิดจากภาวะต่างๆ
การเจ็บป่วยวิกฤต
คําว่า วิกฤต มาจากคําที่ใช้ในภาษาอังกฤษ คือ “Crisis” และ “Critical” ทั้งสอง คํานี้ มีความหมายที่ใกล้เคียงกันมาก
จึงนํามาใช้สับเปลี่ยนกันอยู่เสมอ
การเจ็บป่วยวิกฤต จึงหมายความถึง การเจ็บป่วยที่มีความรุนแรงถึงขั้นที่อาจทําให้ผู้ป่วยถึงแก่ชีวิต หรือพิการได้
อุบัติเหตุ (Accident)
คือ อุบัติการณ์ซึ่งเกิดขึ้น โดยไม่คาดหมายมาก่อน
ทําให้เกิดการบาดเจ็บตาย และการสูญเสียทรัพย์สินโดยที่เราไม่ต้องการ
ผู้ป่วยภาวะฉุกเฉิน
หมายถึง ผู้ที่ทีอาการหนักรุนแรงต้องการการดูแลจากเจ้าหน้าที่ที่มีความชํานาญเฉพาะทาง โดยใช้หลักและกระบวนการพยาบาลที่สมบูรณ์
หลักการพยาบาลผู้ป่วยภาวะฉุกเฉิน
เพื่อช่วยชีวิต
การป้องกันและบรรเทาไม่ให้เกิดอาการรุนแรงถึงขั้นวิกฤต
การบันทึกเหตุการณ์อาการและการช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ
การส่งต่อรักษา หลังจากให้การช่วยเหลือเบื้องต้นแก่ผู้ป่วยแล้ว
ต้องรีบเคลื่อนย้ายนําส่งโรงพยาบาล
การพยาบาลสาธารณภัย
ภัยพิบัติ/สาธารณภัย (Disaster)
ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับ
สาธารณภัย / ภัยพิบัติ (Disaster)
สาธารณภัย ได้แก่ อัคคีภัย วาตภัย อุทกภัยภัย ภัยแล้ง
ภัยสาธารณะ
2.1 ภัยที่เกิดจากธรรมชาติ เช่น คลื่นยักษ์ ดินถล่ม โรคระบาดในมนุษย์โรคระบาดสัตว์ โรคระบาดสัตว์น้ํา การระบาดของศัตรูพืช
2.2 ภัยที่เกิดจากคนทํา ได้แก่ สาเคมีรั่วไหล รถชน ตึกถล่ม
ภัยทางอากาศ ได้แก่ ปล้นเครื่องบิน
การก่อวินาศภัย ได้แก่ ก่อการร้าย กราดยิง วางระเบิด
การจัดระดับความรุนแรง
ของสาธารณภัยทางสาธารณสุข
ความรุนแรงระดับที่ 1 : สาธารณภัยที่เกิดขึ้นทั่วไปหรือมีขนาดเล็ก
ความรุนแรงระดับที่ 2 : สาธารณภัยขนาดกลาง
ความรุนแรงระดับที่ 3 : สาธารณภัยขนาดใหญ่
ความรุนแรงระดับที่ 4 : สาธารณภัยขนาดใหญ่ ที่มีผลกระทบรุนแรงยิ่ง
"เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโดยธรรมชาติหรือโดยมนุษย์อย่างทันทีและทําให้ระบบการดูแลรักษาที่มีอยู่เดิม ชะงักลงหรือเพิ่มความต้องการในการปฏิบัติงานขององค์กร เหตุการณ์เช่นเดียวกันแต่เกิดในที่ห่างไกลหรือ ชนบทซึ่งอาจถือว่าเกินกําลังของโรงพยาบาลแห่งนั้นและต้องการความช่วยเหลือจากนอกโรงพยาบาลก็ถือว่า เป็นภัยพิบัติ"
ประเภทของภัยพิบัติ
ภัยที่เกิดจากธรรมชาติ (Natural Disaster)
ได้แก่ เกิดแบบฉับพลัน และเกิดแบบค่อยเป็นค่อยไป
ภัยที่เกิดจากมนุษยU (Man-made Disaster)
ได้แก่ เกิดอย่างจงใจและเกิดอย่างไม่จงใจ
อุบัติภัย
ภัย (Hazard)
หมายถึง เหตุการณ์หรือปรากฏการณ์ใดๆที่สามารถที่ทําให้เกิดอันตรายต่อชีวิตความเสียหายต่อทรัพย์สินความเป็นอยู่ และสิ่งแวดล้อม
อุบัติเหตุกลุ่มชน/อุบัติภัยหมู่ (MASS CASSUALTIES)
หมายถึง อุบัติเหตุที่เกิดกับคนจํานวนมาก
ได้รับการเจ็บป่วยจํานวนมาก
เกิดการบาดเจ็บหรือการเจ็บป่วยของประชาชนจํานวนมาก
มีการทําลายของทรัพย์สินหรือสิ่งแวดล้อม
ทรัพยากรที่มีอยู่ในภาวะปกติไม่เพียงพอที่จะนํามาใช้ควบคู่สถานการณ์
ระบบและกลไกปกติของสังคมถูกทําลายหรือไม่เพียงพอที่จะควบคุมสถานการณ์ได้
ประเภทของอุบัติภัย
Multiple casualties
Mass casualties
ลักษณะ
ผู้ป่วยภาวะฉุกเฉิน
ไม่รู้สึกตัวชักเป็นอัมพาต
หยุดหายใจหายใจช้ากว่า 10 ครั้งต่อนาทีหรือเร็วกว่า 30 ครั้ง/นาทีหายใจลําบากหรือหอบเหนื่อย
คลําชีพจรไม่ได้หรือชีพจรช้ากว่า 40 หรือเร็วกว่า 30 ครั้ง/นาที
ความดันโลหิต Systolic ต่ำกว่า 80 มม.ปรอทหรือ Diastolic สูงกว่า 130 มม.ปรอท
เจ็บปวดทุรนทุรายกระสับกระส่าย
มือเท้าซีดเย็น เหงื่อออกมาก
อุณหภูมิของร่างกายต่ำกว่า 35 เซลเซียสหรือสูงกว่า 40 เซลเซียส
ถูกพิษจากสัตว์ เช่น งูหรือสารพิษชนิดต่างๆ
ตกเลือดเลือดออกมากซีดมาก
ผู้ป่วยวิกฤติ
ผู้ป่วยที่สามารถรักษาได้ เช่น ผู้ป่วยที่หมดสติ ผู้ป่วยที่มีระบบการหายใจล้มเหลวเป็นต้น หากไม่ได้รับการรักษาผู้ป่วยจะเสียชีวิตในอัตราสูง
ผู้ป่วยที่มีอัตราตายสูง เช่น ผู้ป่วยSeptic Shock หากไม่ได้รับการรักษา ผู้ป่วยจะเสียชีวิตในอัตราสูง
ผู้ป่วยที่มีแนวโน้มที่จะมีอาการรุนแรง เช่น ผู้ป่วย myocardialin farction ต้องการการเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด
ผู้ป่วยที่อัตราตายสูง แม้จะได้รับการรักษา เช่น ผู้ป่วยมะเร็งระยะสุดท้าย
ผู้บาดเจ็บจากสาธารณภัย
กลุ่มอาการไม่รุนแรง หากผู้ป่วยเดินได้อาจถือว่าอาการไม่หนัก
กลุ่มอาการหนัก ต้องห้ามนอนหรือนั่งมาอาการแสดงยังคลุมเครือต้องใช้การตรวจอย่างละเอียด
กลุ่มอาการหนักมาก หรือสาหัสต้องการการรักษาโดยด่วนหรือช่วยชีวิตทันทีกลุ่มผู้ป่วยเสียชีวิต เป็นกลุ่มที่หมดหวังในการรักษา
หลักการพยาบาลตามบทบาทพยาบาลวิชาชีพงานบริการพยาบาล
ผู้ป่วยอุบัติเหตุและฉุกเฉินของสภาการพยาบาล พ.ศ. 2552
ดําเนินการแก้ไขปัญหาที่กําลังคุกคามชีวิตผู้ป่วย
ค้นหาสาเหตุและ/หรือปัญหาที่ทําให้เกิด
ภาวะฉุกเฉินหรืออุบัติเหตุ แล้วดําเนินการแก้ไข
ดูแลและรักษาสภาวะของผู้ป่วยให้อยู่ระดับปลอดภัย
และคงที่โดยการเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด
ป้องกันภาวะแทรกซ้อนและติดเชื้อ
ประคับประคองจิตใจและอารมณ์ของผู้ป่วยและญาติ
รักษาหน้าที่ต่างๆ ของอวัยวะสําคัญของร่างกายให้คงไว
หลักการพยาบาลสาธารณภัย
พยาบาลกับการจัดการสาธารณภัย
การพยาบาลสาธารณภัย (Disaster Nursing) เป็นการพยาบาลที่ต้องนําความรู้และทักษะทางการ พยาบาลทั่วไปและด้านการพยาบาลฉุกเฉิน มาประยุกต์ใช้ในสถานการณ์ที่เกิดสาธารณภัยทั้งในระยะก่อนเกิด ขณะเกิด และหลังเกิดภัย
หลักการบริหารจัดการในที่เกิดเหตุและรักษาผู้บาดเจ็บ
D – Detection
คือ การประเมินสถานการณ์ว่าเกินกําลังหรือไม่
I - Incident command
คือ ระบบการบัญชาเหตุการณ์และผู้ดูภาพรวมของการปฏิบัติการทั้งหมด
S – Safety and Security
คือ การประเมินความปลอดภัยของผู้ปฏิบัติงานในที่เกิดเหตุ
A – Assess Hazards
คือ การประเมินสถานที่เกิดเหตุเพื่อระแวดระวังวัตถุอันตรายต่างๆที่อาจเหลือ ตกค้างในที่เกิดเหตุ
S – Support
คือ การเตรียมอุปกรณ์และทรัพยากรที่จําเป็นต้องใช้ในที่เกิดเหตุ
T – Triage/Treatment
คือ การคัดกรองและให้การรักษาที่รีบด่วนตามความจําเป็นของผู้ป่วย โดยการใช้หลักการของMASS Triage Model
E – Evacuation
คือ การอพยพผู้บาดเจ็บระหว่างเหตุการณ์
R – Recovery
คือ การฟื้นฟูสภาพหลังจากเกิดเหตุการณ์
ลักษณะของการปฏิบัติการพยาบาล
ในสถานการณ์สาธารณภัย
มุ่งลดความเสียหายต่อชีวิตและสุขภาพของประชาชนที่เกิดจากสาธารณภัยโดยใช้องค์ความรู้และ ทักษะทางการพยาบาลอย่างเป็นระบบ
ต้องนําความรู้และทักษะทางการพยาบาลทั่วไปและด้านการพยาบาลฉุกเฉินมาประยุกต์ใช้ใน สถานการณ์ภัยพิบัติ ทั้งในระยะก่อนเกิดภัย
ขณะเกิดภัย และหลังเกิดภัย
เป็นการปฏิบัติการพยาบาลเพื่อ
ป้องกันและลดความรุนแรงของการบาดเจ็บหรือเจ็บป่วย
มุ่งเน้นด้านการพยาบาลฉุกเฉินแก่ผู้ประสบภัยจํานวนมากในขณะเกิดภัย
การฟื้นฟูสภาพร่างกายและจิตใจของผู้ประสบภัยและญาติ
คุณสมบัติพยาบาลสําหรับจัดการสาธารณภัย
มีความรู้ทางการพยาบาลและมีประสบการณ์การปฏิบัติงานการพยาบาลผู้ป่วยฉุกเฉินและวิกฤตและ ด้านการรักษาโรคเบื้องต้นได้
มีความรู้ด้านสาธารณภัยมีความสามารถในการประเมินสถานการณ์และคาดการณ์ถึงปัญหาสุขภาพที่ จะเกิดจากสาธารณภัยชนิดต่างๆ รวมทั้งมีความสามารถให้การพยาบาลได้ครอบคลุมทุกระยะของการเกิดภัย
มีทักษะในการตัดสินใจที่ดี มีความเป็นผู้นํา และสามารถแก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้อย่างถูกต้องเหมาะสม
มีทักษะในการสื่อสารและการบันทึกข้อมูลต่างๆได้อย่างถูกต้องครบถ้วนชัดเจน
มีวุฒิภาวะที่เหมาะสมกับสถานการณ์
แนวทางปฏิบัติในระบบทางด่วน (Fast track)
สําหรับผู้ป่วยที่มีภาวะฉุกเฉินเร่งด่วน
การจัดทําควรเป็นทีมสหสาขาวิชาชีพ ประกอบด้วยแพทย์พยาบาล เจ้าหน้าที่ในส่วนต่างๆที่เกี่ยวข้อง มาร่วมดําเนินการ
จัดทําแผนภูมิการดูแลผู้ป่วย พร้อมกําหนดลักษณะผู้ป่วยที่มีภาวะฉุกเฉินเร่งด่วนที่เข้าระบบทางด่วน
จัดทําแนวปฏิบัติ ลําดับการปฏิบัติในการเคลื่อนย้ายผู้ป่วยตั้งแต่ผู้ป่วยมาถึงประตูโรงพยาบาล หรือ ห้องฉุกเฉิน พร้อมกําหนดหน้าที่ต่างๆของผู้ที่เกี่ยวข้อง
จัดทํารายการตรวจสอบ (check list) สําหรับการลงข้อมูล ตรวจสอบข้อมูลต่างๆ
ฝึกอบรมผู้มีส่วนเกี่ยวข้องให้มีความรู้และสามารถดําเนินการตามระบบทางด่วน
แผนการปฏิบัติต้องเน้นย้ำเวลาเปgนสําคัญ ต้องมีแผนปฏิบัติการรองรับเพื่อให้สามารถดูแลผู้ป่วยได้
กําหนด clinical indicator เพื่อการติดตามและประเมินผลในแต่ละขั้นตอนของระบบทางด่วน (Fast track/Pathway system) สําหรับผู้ป่วยที่มีภาวะฉุกเฉินเร่งด่วน
บทบาทพยาบาลกับ
Fast track
บทบาทพยาบาลกับระบบทางด่วน (Fast track)
การประเมินเบื้องต้นโดยใช้ความรู้ ความสามารถเฉพาะโรค
การประสานงานผู้เกี่ยวข้องทั้งภายในและภายนอกองค์กร
การให้การดูแลตามแผนการรักษาภายใต้ระยะเวลาที่จํากัด
การติดตามอาการอย่างต่อเนื่อง
การให้ความช่วยเหลือเมื่อมีความผิดปกติและติดตามการประเมินผลลัพธ์
การดําเนินงานเพื่อประโยชน์ในการวิเคราะห์ผลการดําเนินงานในภาพรวม
การจัดการและดูแลขณะส่งต่อ
การรายงานแพทย์ผู้รักษาเพื่อตัดสินใจสั่งการรักษา
การจัดระบบให้มีการทบทวนและพัฒนาคุณภาพอย่างต่อเนื่อง
บทบาทพยาบาลในระบบทางด่วน (Fast track)
EMS (accessibility)
Triage/ Specific triage/ Assessment
Activate system
Flow (purpose-process-performance)
Investigation
Care delivery
Monitoring: early warning signs & E-response
Co-ordination, Communication, Handover
Evaluation,output,outcome
Improvement,Innovation,Integration
Risk management (general & clinical)
Inter&Intratransportation
Trauma life support
ระบบการดูแลผู้บาดเจ็บ (Trauma care system)
การเข้าถึงหรือรับรู้ว่ามีเหตุเกิดขึ้น (Access)
การดูแลในระยะก่อนถึงโรงพยาบาล (Prehospital care)
การดูแลในระยะที่อยู่โรงพยาบาล (Hospital care)
การฟื้นฟูสภาพ และการส่งต่อ (Rehabilitation & transfer)
การดูแลผู้บาดเจ็บขั้นต้น
การประเมินผู้ป่วยที่ได้รับ
บาดเจ็บเบื้องต้น (Primary Survey)
Airway maintenance with cervical spine protection
Breathing and Ventilation
Circulation and Hemorrhage control
Disability: Neurologic Status
Exposure / Environment control
Resuscitation
เป็นการช่วยเหลือเพื่อให้ผู้ป่วยพ้นภาวะวิกฤตที่อาจทําให้เสียชีวิตได้ ได้แก่ การดูแลทางเดินหายใจ การช่วยหายใจ การใส่ท่อช่วยหายใจ การให้สารละลายทางหลอดเลือดดํา การห้ามเลือดเป็นต้น
Secondary survey
เป็นการตรวจร่างกายอย่างละเอียดหลังจากผู้ป่วยพ้นภาวะวิกฤตแล้ว ได้แก่ การซักประวัติ การตรวจ Head to toe การตรวจทางรังสีรักษา การตรวจทางห้องปฏิบัติการ การตรวจพิเศษต่างๆ
Definitive care
เป็นการรักษาหลังจากผู้ป่วยได้รับการวินิจฉัยเบื้องต้นแล้ว เช่น การผ่าตัด Craniotomy การผ่าตัดหน้าท้อง Exploratory Laparotomy เป็นต้น