Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
บทที่ 4 ชีวิตในทัศนะ ปรัชญาอินเดีย - Coggle Diagram
บทที่ 4 ชีวิตในทัศนะ ปรัชญาอินเดีย
ความหมายปรัชญาอินเดีย
ปรัชญาทุกสำนัก/ทุกระบบคิดที่เกิดขึ้นในอินเดียโดยศาสดา/นักคิดที่เคยมีชีวิตอยู่/กำลังมีชีวิตอยู่ในอินเดีย
ลักษณะปรัชญาอินเดีย
เป็นปรัชญาชีวิต
ไม่พอใจชีวิตที่เป็นอยู่
เชื่อกรรม
สมาธิ > ความจริง
อวิชชา > ทุกข์
คุมกาย-จิต > ความสุข
การพ้นจากทุกข์เป็นไปได้
ปรัชญาอินเดีย มี3 ยุค
1.สมัยพระเวท
เวท : ความรู้
ฤคเวท:สรรเสริญ
ยชุรเวท:บวงสรวง
สามเวท:สวดถวาย
อาถรรพเวท: เวทมนตร์
พระพรหม : ผู้สร้าง
พระวิษณุ : ผู้รักษา
พระศิวะ : ผู้ทำลาย
2.สมัยมหากาพย์
:นับถือพระปชาบดี/พระพรหม
มหากาพย์ที่สำคัญ
มหากาพย์มหาภารตยุทธ์
มหากาพย์รามายณะ
3.สมัยปรัชญา 6 สำนัก
นำคัมภีร์พระเวทมาตีความตามความคิดของนักคิดแต่ละสำนัก
ปรัชญา 6 สำนัก
1.สางขยะ 2.โยคะ 3.นยายะ 4.ไวเศษิกะ 5.เวทาตะ 6.มีมางสา
แนวคิดปรัชญาอินเดีย แบ่งเป็น 2 กลุ่ม
กลุ่มอาสติกะ ( Orthodox )
นำคัมภีร์พระเวทมาตีความทั้งโดยตรงและอ้อม > Theism
กลุ่มนาสติกะ ( Heterodox )
สร้างระบบปรัชญาขึ้นมาเองไม่เห็นด้วยกับคัมภีร์พระเวท > Atheism
ตรีมูรติ
โอม มาจากอักษร๓ ตัว คือ
อะ หมายถึง พระวิษณุ อุ หมายถึง พระศิวะ
เพื่อที่จะปรับตัวของปรัชญาพราหมณ์ในการจะต่อสู้เพื่อแย่งชิงศาสนิกจากปรัชญาพุทธ จึงทำให้ปรัชญาพราหมณ์ทำการปฏิรูปตัวศาสนิกจากปรัชญาพุทธ จึงทำให้ปรัชญาพราหมณ์ทำการปฏิรูปตัว
ชีวิตแบ่งเป็น 4 ขั้น (อาศรม4)
พรหมจารี อายุ 1-25 ปี
คฤหัสถ์ อายุ 26-50 ปี
วนปรัสถ์ อายุ 51-75 ปี
สันยาสี อายุ 76-100 ปี
โมกษะ
โมกษะ ได้แก่ การหลุดพ้นจากการเวียนว่ายตายเกิดและมีชีวิตที่เป็นสุขนิรันดร์เหมือนกัน เพียงแต่ปรัชญาพราหมณ์เน้นการหลอมละลายรวมเป็นหนึ่งเดียว ระหว่างวิญญาณเล็กกับวิญญาณใหญ่
ปรัชญาพุทธ หมดกิเลส มีแต่ความเบิกบานตายแล้วไม่เกิด
ปรัชญาอิสลามกับคริสต์ ไปอยู่เป็นบริวารกับพระเจ้าบนสวรรค์
พุทธปรัชญา
พุทธปรัชญาคือปัญญาที่รู้แจ้งของผู้รู้หมายถึงความรู้แจ้งในความเป็นจริงของหมายถึงความรู้แจ้งในความเป็นจริงของเล่าเรียน ฝึกฝน จำแนก แยกแยะและคิดค้นด้วยหลักเหตุผลตามที่เป็นจริง
ชีวิตมนุษย์ ประกอบด้วย
1.รูป 2.เวทนา 3.สัญญา 4.สังขาร 5.วิญญาณ
ปฏิจจสมุปบาท
ปฏิจจสมุปบาท บาลี: Paticcasamuppāda; สันสกฤต: Pratītyasamutpāda เป็นชื่อหัวข้อหนึ่งในพุทธปรัชญา เรียกอีกอย่างว่า อิทัปปัจจยตาเป็นการอธิบายถึงการเกิดขึ้นพร้อมแห่งสิ่งทั้งหลายที่ต้องอาศัยซึ่งกันและกัน, การที่สิ่งทั้งหลายอาศัยซึ่งกันและกันจึงเกิดมีขึ้นเนื่องกันมาตามลำดับ
องค์ประกอบ
1.อวิชชา ความไม่รู้ (Ignorance)
2.สังขาร การคิดปรุงแต่ง (Kamma-Formations)
3.วิญญาณ ความรู้แจ้งอารมณ์ (Consciousness)
4.นามรูป นามและรูป (Mind and Matter)
5.สฬายตนะ อายตนะ ๖ (Six Sense-Bases)
6.ผัสสะ ความกระทบ (Contact)
7.เวทนา ความเสวยอารมณ์ (Feeling)
8.ตัณหา ความทะยานอยาก (Craving)
9.อุปาทาน ความยึดมั่น (Clinging / Attachment)
10.ภพ ภาวะชีวิต (Becoming)
11.ชาติ ความเกิด (Birth)
12.ชรามรณะ ความแก่และความตาย (Decay and Death)
แนวคิดพุทธปรัชญา
1.ธรรมชาติของพุทธ (ปัญหา) ทุกข์ > ผล
2.สาเหตุของทุก (ปัญหา) สมุทัย > เหตุ
3.ผลการดับทุกข์ (ไม่มีปัญหา) > ผล
4.วิธีดับทุกข์ (วิธีแก้ปัญหา) มรรค > เหตุ
๑.ธรรมชาติของทุกข์ > ผล
๓.ผลการดับทุกข์ > ผล
๒.สาเหตุของทุกข์ > เหตุ
๔.วิธีดับทุกข์ > เหตุ
อริยมรรคมีองค์ ๘
1.สัมมาทิฎฐิ = ความเห็นชอบ
2.สัมมาสังกัปปะ = ความคิดชอบ
3.สัมมาวาจา = คำพูดชอบ
4.สัมมากัมมันตะ = การกระทำทางกายชอบ
5.สัมมาอาชีวะ = อาชีพชอบ
6.สัมมาวายามะ = ความเพียรชอบ
7.สัมมาสติ = ความระลึกชอบ
8.สัมมาสมาฐิ = ความตั้งใจชอบ