Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
แนวทางการพยาบาลเพื่อควบคุมภาวะแทรกซ้อนระหว่างคลอด และเกิด - Coggle Diagram
แนวทางการพยาบาลเพื่อควบคุมภาวะแทรกซ้อนระหว่างคลอด และเกิด
คณะผู้วิจัย
The American College of Nurse-Midwives this document. This Committee Opinion was developed by the Committee on Obstetric Practice in collaboration with committee members Allison S.Bryant,MD,MPH and Ann E.Borders,MD,MSc,MPH
วิธีการดำเนินงาน
ทบทวนหลักฐานสำหรับแนวทางการปฏิบัติในการดูแลหญิงตั้งครรภ์ที่เอื้อต่อกระบวนการคลอดและลดอาการแทรกซ้อนสำหรับหญิงตั้งครรภ์ซึ่งอยู่ในระยะคลอดบุตรแบบธรรมชาติ ความต้องการที่จะหลีกเลี่ยงอาการแทรกซ้อนที่ไม่จำเป็นระหว่างการคลอดบุตร
ผลงานวิจัย
การปฏิบัติทางสูติกรรมท่ัวไปหลายอย่างมีประโยชน์อย่างจํากัด หรือไม่แน่นอนสําหรับสตรีที่มีความเสี่ยงต่ำในการคลอดเอง นอกจากนี้ ผู้หญิงบางคนอาจพยายามลดการแทรกซ้อนทางการ แพทย์ระหว่างการคลอดและการคลอด ความพอใจกับประสบการณก์ารคลอดบุตรยังสัมพันธ์กับความคาดหวังส่วน บุคคลการสนับสนุนจากผู้ดูแล คุณภาพของผู้ป่วย – ความสัมพันธ์ระหว่างผู้ดูแลและการมีส่วนร่วมของผู้ป่วยในการ ตัดสินใจ ดังน้ันสูติแพทย์ – นรีแพทย์และผู้ให้บริการด้าน สูติศาสตร์อื่นๆ ควรทําความคุ้นเคยและพิจารณาใช้แนวทางที่มีการแทรกแซงต่ำ (low-interventional approach) เมื่อเหมาะสมสําหรับการจัดการภายในระยะคลอดของสตรีที่มีการคลอดโดยธรรมชาติ
ข้อเสนอแนะ และสรุป
สำหรับหญิงตั้งครรภ์ที่สามารถคลอดได้แบบธรรมชาติ โดยทารกมีส่วนนำเป็นหัว
ในการให้การพยาบาลในระยะคลอดก็จะขึ้นอยู่กับบุคคล เช่น
การตรวจคนไข้เป็นระยะๆ และวิธีบรรเทาปวดแบบไม่ใช้ยา
การรับไว้อาจจะล่าช้าสำหรับหญิงตั้งครรภ์ที่อยู่ใน Latent Phase และทารกในครรภ์อยู่ในสภาพปกติ สตรีเหล่าสามารถได้รับการติดต่อ และให้การสนับสนุนได้บ่อยครั้งเช่นเดียวกับการจัดการความปวดโดยไม่ใช้ยา
สูติแพทย์-สูตินรี ควรแนะนำการชักนำการคลอดแก่สตรีมีครรภ์ที่เรียกว่าภาวะน้ำเดินก่อนกำหนด : PROM ในการชักนำให้เกิดการคลอด ควรแจ้งให้สตรีมีครรภ์ทราบ เพื่อรับทราบความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นหากสตรีตั้งครรภ์เห็นชอบและไม่มีเหตุผลอื่นของสตรี หรือทารกในครรภ์ในการเร่งคลอดสามารถทำได้
เมื่อผู้หญิงถูกสังเกต หรือยอมรับความเจ็บปวด หรือความ
เหนื่อยล้าในการคลอดบุตร จะได้รับการพยาบาลโดยใช้เทคนิคต่างๆ เช่น การศึกษาและการสนับสนุน การให้สารน้ำทางปาก ท่าที่สุขสบาย และเทคนิคการจัดการความเจ็บปวดที่ไม่ใช่ทางเภสัชวิทยา เช่น การนวด หรือการแช่น้ำ
หลักฐานแสดงให้เห็นว่านอกเหนือจากการพยาบาลตามปกติแล้ว การสนับสนุนทางอารมณ์แบบตัวต่อตัวอย่างต่อเนื่องโดยบุคคลาการสนับสนุน เช่น ผู้ช่วยเหลือคนไข้ ยังสัมพันธ์กันผลลัพธ์ที่ดีขึ้นสำหรับสตรีที่คลอดบุตร
สำหรับหญิงที่มีการคลอดตามปกติและไม่มีความจำเป็นที่จะต้องเร่งคลอด เว้นแต่จำเป็นต้องอำนวยสะดวกในการตรวจสอบ
สูตินรีแพทย์ และผู้ให้บริการควรด้านสูติกรรมควรพิจารณาใช้ข้อกำหนด ให้เจ้าหน้าที่มีการฝึกอบรมใช้อุปกรณ์ในการตรวจครรภ์ได้แก่ Drop tone สำหรับหญิงตั้งครรภ์ที่มีความเสี่ยงต่ำ ที่ต้องการตรวจระหว่างการตั้งครรภ์
การที่หญิงตั้งครรภ์เปลียนท่า หรือเปลี่ยนตำแหน่งเพื่อเพิ่มความสะดวกสบาย ถือเป็นการส่งเสริมการวางตำแหน่งของทารกในครรภ์ให้เหมาะสม และจากการศึกษาพบว่า ไม่มีข้อห้ามและภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นได้ จากการเปลี่ยนท่า
การเปรียบเทียบการจัดการปัญหาร่วมกับเทคนิคการจัดการความเจ็บปวดทั้งการใช้ยาและไม่ใช้ยา สามารถช่วยให้ผู้ให้บริการปรับวิธีการแก้ปัญหาที่ตอบสนองความต้องการของหญิงตั้งครรภ์แต่ละคนได้ดีที่สุด
เมื่อรู้วิธีการเบ่งที่ถูกต้อง จะทำให้การคลอดมีประสิทธิภาพ และการเบ่งที่ถูกต้องคือ Valsalva
11.หลังจากหญิงตั้งครรภ์อยู่ในระยะที่สองของการคลอด ซึ่งได้รับการระงับปวดจากเส้นประสาท ไม่ได้ช่วยเพิ่มโอกาสของการคลอดทางช่องคลอด และความเสี่ยงที่ทำให้เกิดการคลอดล่าช้า รวมทั้งการติดเชื้อ การตกเลือด และภาวะเลือดเป็นกรดในภาวะเลือดเป็นกรดในทารกแรกเกิด
ในการพยาบาลอื่นๆ ขึ้นอยู่กับครอบครัว โดยมีครอบครัวเป็นศูนย์กลาง