Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
Care of patient treated with vasodilators and anticoagulants (…
Care of patient treated with vasodilators and anticoagulants ( Streptokinase and Warfarin )
Streptokinase
ผลข้างเคียง
อาการแพ้ยา เช่น มีผื่น คัน บวม เวียนศีรษะรุนแรง และหายใจผิดปกติ เป็นต้น
ช็อกจากการแพ้อย่างรุนแรง
เกิดรอยช้ำง่าย ผิวแดง
ปวดศีรษะ
หัวใจเต้นเร็ว หรือเต้นผิดปกติ
เจ็บหน้าอก
มีเลือดออก เช่น มีเลือดปนในอุจจาระ อาเจียนเป็นเลือด เลือดกำเดาไหล มีจุดแดงหรือม่วงที่ผิวหนัง และมีรอยช้ำผิดปกติ เป็นต้น
วิธีการใช้
ในผู้ใหญ่ที่เป็นโรคกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลัน ให้ทันทีที่มีอาการ ให้หยดยาทางหลอดเลือดดำ 1.5 ล้านยูนิต เป็นเวลาประมาณ 1 ชั่วโมง วันละ 1 ครั้ง
ในผู้ใหญ่ที่เป็นโรคลิ่มเลือดอุดกั้นในปอด และการอุดกั้นของหลอดเลือดแดงและดำ
ปริมาณยาสำหรับควบคุมอาการ 100,000 ยูนิต/ชั่วโมง เป็นเวลา 24-72 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับอาการ
หยดยาเข้าทางหลอดเลือดดำปริมาณเริ่มต้น 250,000 ยูนิต เป็นเวลาประมาณ 30 นาที
สำหรับภาวะหลอดเลือดดำที่จอตาอุดตัน อาจใช้เวลาเพียง 12 ชั่วโมง โดยมีการตรวจติดตามระดับยาให้อยู่ตามเกณฑ์จากการเจาะเลือดประเมินค่าการแข็งตัวของเลือด
กลไกการออกฤทธิ์
จะจับกับ plasminogen ได้เป็น streptokinase-plasminogen complex ที่เปลี่ยนต่อไปทำให้plasminogen กลายเป็นplasmin ซึ่งจะไปย่อยfibrinogen, fibrin หรือโปรตีนอื่นๆ ทำให้ลิ่มเลือด สลาย
Warfarin
ผลข้างเคียง
มีอาการปวด บวม ร้อน ๆ หนาว ๆ เกิดการเปลี่ยนแปลงที่ผิวหนังหรืออวัยวะในร่างกายเปลี่ยนสี
มีอาการที่เกิดขึ้นเฉียบพลันหรือรุนแรง ได้แก่ เจ็บขาหรือเท้า มีแผลที่เท้า นิ้วเท้าหรือนิ้วมือเป็นสีม่วง
ปวดหัวเฉียบพลัน เวียนศีรษะหรืออ่อนเพลีย
เกิดรอยช้ำหรือมีเลือดออกได้ง่าย (เลือดกำเดาหรือเลือดออกที่เหงือก) หรือเกิดจุดสีแดงหรือสีม่วงใต้ผิวหนัง อาเจียนเป็นเลือด อุจจาระหรือปัสสาวะมีเลือดปน
มีเลือดออกไม่หยุดทั้งจากบาดแผลหรือจากการฉีดยา
ผิวซีด รู้สึกหวิวหรือหายใจถี่ หัวใจเต้นเร็ว และมีปัญหาในการทำสมาธิ
ปัสสาวะสีเข้ม ดีซ่าน
ปัสสาวะเพียงเล็กน้อยหรือปัสสาวะไม่ออก
มีอาการชาหรือกล้ามเนื้ออ่อนแรง
มีอาการปวดท้อง หลังหรือสีข้าง
วิธีการใช้
ขนาดรับประทานเพื่อการรักษาเริ่มต้น: 5 มิลลิกรัมต่อวัน ป้องกันการแข็งตัวของเลือดเร่งด่วน เริ่มต้นใช้ 10 มิลลิกรัมต่อวัน เป็นเวลา 2 วัน และปรับปริมาณการใช้ยาเพิ่มตามแพทย์สั่ง
ฉีดยาเข้าหลอดเลือดดำอย่างช้า ๆ ปริมาณเพื่อการรักษาเริ่มต้น 5 มิลลิกรัมต่อวัน ป้องกันการแข็งตัวของเลือดเร่งด่วน เริ่มต้นใช้ 10 มิลลิกรัมต่อวัน เป็นเวลา 2 วัน และปรับปริมาณการใช้ยาเพิ่มตามแพทย์สั่ง
กลไกการออกฤทธิ์
ยา Warfarin มีผลยับยั้งการเปลี่ยนกลับของ vitamin K epoxide ซึ่งอยู่ในรูปออกซิไดซ์ ไปเป็น reduced vitamin K ซึ่งเป็นรูปออกฤทธิ์ จึงเป็นการยับยั้งกระบวนการสร้าง vitamin K-dependent coagulation factors ในร่างกาย ได้แก่ coagulation factors II, VII, IX และ X รวมถึง protein C และ protein S จึงส่งผลให้เลือดแข็งตัวช้า