Bacterial Disease Gram Positive Bacteria
Bacillus cereus
การก่อโรค
1.เชื้อสร้างEnterotoxin>>FoodPoisoning
heatstableenterotoxin:มีอาการอาเจียน
heatlabileenterotoxin:ท้องร่วง
2.ตาอักเสบ(Panophthalmitis)
แหล่งของเชื้ออยู่ในสิ่งของที่เปื้อนกับดิน >>แพร่เข้าตา
เชื้อลุกลามอย่างรวดเร็ว>>ทำลายเนื้อเยื่อเรตินา>> สูญเสียการมองเห็นภายใน48ชม.
Clostridium
Clostridium perfringens
Clostridium botulinum
Clostridium tetani
การก่อโรค
เกิดจากบาดแผลขนาดเล็กหรือรอยถลอกที่ปนเปื้อนสปอร์ ของเชื้อC.tetaniจากดินหรือจากการสัมผัสสิ่งสกปรก
toxinเข้าสู่ระบบประสาทส่วนกลาง
เชื้อแบ่งตัวได้ดีในสภาพเนื้อตายแผลลึกและแผลที่มีดินติด
ทางเข้าของเชื้อคือบาดแผลฉีกขาดการติดเชื้อหลังคลอดและการตัดสายสะดือทารก
อาการและอาการแสดง
2.อาการชักกระตุก:เนื่องจากได้รับการรกระตุ้นจากสิ่งแวดล้อมภายนอกเช่นแสงเสียงการสัมผัส
3.อาการหลังแข็งแล้วแอ่นไปข้างหน้า:เวลานอนจะมีส่วนศรีษะและแขนที่แตะที่นอนขาทั้งสองข้างเหยียดตรง
1.อาการขากรรไกรแข็งเนื่องจากการหดตัวของของกล้ามเนื้อเกี่ยววกับการเคี้ยว
การก่อโรค
- Clostridial Food Poisoning
อาการและอาการแสดง
ปวดท้องรุนแรงคลื่นไส้และท้องร่วง(ไม่มีไข้และไม่อาเจียน) เกิดขึ้นหลังจากกินอาหาร8-24ชม.
2.โรคก๊าซแกงกรีนหรือโรคเนื้อตายเน่า(GasGangrene/Myonecrosis)
สาเหตุ
อาการและอาการแสดง
บาดแผลจากอุบัติเหตุ
บาดแผลอยู่ในสภาพไร้อากาศ
เชื้อเจริญได้ดี
2.แผลบริเวณกล้ามเนื้อบวมเป็นสีม่วงคล้ำมีก๊าซและของเหลวสะสม
3.แผลถูกล้อมรอบด้วยพังผืดเกิดความดันเพิ่มขึ้นขาดเลือดและกล้ามเนื้อตาย
- บริเวณรอบแผลบวมน้ำมีตุ่ม มีของเหลวไหลซึมออกมา
การก่อโรค
- Wound Botulism
- Infantile Botulism
- Foodborne Botulism
สาเหตุ
รับประทานอาหารที่ผ่านขบวนการถนอมอาหารที่มีการบรรจุไม่ได้มาตรฐาน เช่น อาหารกระป๋อง ผัก/ผลไม้กระป๋อง
botulinum toxin
อาการและอาการแสดง
ระยะฟัก12-36ชั่วโมง
อาการทางประสาท
อ่อนเพลียปวดท้องเวียนศรีษะกระหายน้ำคลื่นไส้อาเจียนท้องผูก
นัยน์ตาพร่า เห็นภาพซ้อน กล้ามเนื้ออ่อนแรง กลืนอาหารลำบาก พูดลำบาก หายใจลำบาก **อาจเสียชีวิตภายใน1วัน
พบในทารกอายุ 6 สัปดาห์ – 6 เดือน
อาการเกิดขึ้นอย่างเฉียบพลัน
อาการ
ท้องผูก เบื่ออาหาร อ่อนเพลีย ดูดกลืนลำบาก ร้องไห้
เสียงเบา และคออ่อนพับ
Streptococcus
Streptococcus agalactiae
Streptococcus mutans
Streptococcus pyogenes
Streptococcus suis
Streptococcus pneumoniae
การก่อโรค
โรคปอดบวม Pneumonia
ปอดอักเสบ Pneumonitis
ภาวะที่ร่างกายมีภูมิคุ้มกันต่ำลง
ไซนัสอักเสบ หูชั้นกลางอักเสบ หลอดลมอักเสบ เยื่อหุ้มสมองอักเสบ เยื่อบุหัวใจอักเสบ ข้ออักเสบ
ภาวะภูมิแพ้Alcoholism การระคายเคืองทางเดินหายใจความเป็นพิษของการทำงานของ phagocyte
อาการและอาการแสดง
มีหนองในช่องปอด
Bacteremia
เหงื่อออกมาก ชีพจรเต็นเร็ว หายใจลำบาก
มีการติดเชื้อไปสู่ส่วนอื่น:โพรงจมูก หูส่วนกลาง เยื่อหุ้มสมอง
มีไข้ ไอ เจ็บหน้าอกรุนแรง มีเสมหะเป็นสีสิมหรือสีน้ำตาล และมีเลือดปน
การก่อโรค
1.โรคไฟลามทุ่ง(Erysipelas):เกิกการติดเชื้อที่ผิวหนังอย่างรุนแรง
อาการและอาการแสดง
เกิดรอยแผลตามใบหน้าและขาผิวหนังจะเป็นสีแดงคล้ำบวมน้ำ
และเป็นตุ่ม
2.โรคคออักเสบเฉียบพลัน(Acutepharyngitis)
อาการและอาการแสดง
คอหอย และต่อมทอนซิลแดง มีหนองที่ต่อมทอนซิล ลิ้นไก่บวมแดง
ต่อมน้ำเหลืองข้างคอโต และกดเจ็บ
กลืนน้ำลายแล้วรู้สึกเจ็บคอ มีไข้
ในเด็กมักพบอาการปวดศีรษะ และอาการในระบบทางเดินอาหาร(เช่นปวดท้องและอาเจียน)
เจ็บคอ(อาการเกิดขึ้นอย่างเฉียบพลัน)
การก่อโรค
พบเชื้อบริเวณpharynxทางเดินอาหารช่องคลอด
15-20%ของหญิงตั้งครรภ์อาจเป็นพาหะของเชื้อนี้และอาจถ่ายทอดไปยังเด็กแรกเกิด
อาการและอาการแสดง
Bacteremia
ภาวะโลหิตเป็นพิษในทารกแรกเกิด
ปอดบวมเยื่อหุ้มสมองอักเสบไขสันหลังอักเสบ
ติดเชื้อที่ผิวหนัง เยื่อบุหัวใจอักเสบ หูอักเสบ ข้ออกัเสบ
การก่อโรค
โรคฟันผุ(decayedteeth)
พบเชื้อใน nasopharynx ในปาก รอยแยกของช่องเหงือก
การก่อโรค
Sepsis / Streptococcal Toxic Shock Syndrome (STSS)
ระยะฟกั ตัว 2-3 วัน
เป็นโรคติดต่อจากสัตว์สู่คน>>ถ่ายทอดสู่คนโดยการสัมผัสโดยตรงและ การกินอาหารสุกๆดิบๆ
อาการและอาการแสดง
มีไข้หนาวสั่น หอบเหนื่อย คลื่นไส้ ปวดศรีษะสูญเสียการได้ยนิ>>หูหนวก(ไข้หูดับ)
Bacteremia>>อาจมีอาการรนุแรงถึงขั้นเสียชีวิต
เยื่อหุ้มสมองอักเสบ ข้ออักเสบ ม่านตาอักเสบ
Staphylococcus
Staphylococcus aureus
1.การติดเชื้อที่ผิวหนัง
โรคผิวหนังเป็นตุ่มพุพอง(impetigo)
โรคผิวหนังหลุดลอก (scalded skin syndrome)
Staphylococcal scalded skin syndrome (SSSS) Ritter’ disease
ฝีและฝีฝักบัว(furuncles and carbuncles) : ผิวหนังชั้นนอกอักเสบ ทำให้เกิดหนอง/ฝีฝักบัวมักเกิดขึ้นที่คอหรือหลังส่วนบนโดยจะมีปริมาณมากกว่าฝีธรรมดาและแพร่กระจายไปลึกกว่า
2.ไขกระดูกอักเสบ(osteomyelitis):ในเด็กชายอายุต่ำกว่า12ปี
3.โพรงข้อต่อมีหนอง(pyoarthrosis):หลังจากการทำศัลยกรรมกระดกู>>เกิดการติดเชื้อระหว่างการฉีดสารบางชนิดเข้าไปในข้อต่อ
4.อาหารเป็นพิษ(Foodpoisoning):การกินอาหารที่ปนเปื้อนenterotoxinของเชื้อ
5.ลำไส้อักเสบ(enterocolitis):คนไข้ในโรงพยาบาลที่normalfloraในลพไส้ถูกยับยั้งการเจริญด้วยantibioticที่ออกฤทธิ์กว้าง(broadspectrumantibiotics)
6.ช็อก(ToxicShockSyndrome,TSS):ในผู้หญิงที่ใช้ผ้าอนามัยแบบสอด
Staphylococcus saprophyticus
การก่อโรค
พบเชื้อตามผิวหนัง
ติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะของผู้หญิง **ไม่ค่อยพบการติดเชื้อในผู้ชาย
อาการและอาการแสดง
ปวดเวลาถ่ายปัสสาวะมีหนองและมีเชื้อจำนวนมากในปัสสาวะ
Mycobacterium
Mycobacterium tuberculosis
การก่อโรค
วัณโรค(Tuberculosis)
เกิดจากการหายใจสูดดมเอาละอองของเชื้อเข้าไป
กลุ่มเสี่ยง>>ประชากรอาศัยอยู่หนาแน่นมีการระบายอากาศไม่ดี
ผู้ที่ติดสุรารับสารอาหารไม่ครบถ้วนอดนอนเครียดต่อการทำงาน
เกิดได้กับทุกส่วนของร่างกายโดยเฉพาะที่ปอด>>วัณโรคปอด
(Pulmonary tuberculosis)
เด็กทารกและผู้มีอายุ16-21ปีมีความเสี่ยงต่อการติดโรคได้ง่าย
อาการและอาการแสดง
เชื้อกระจายไปยังส่วนต่างๆของร่างกายหลังจากเกิดภาวะBacteremia
การติดต่อ : การไอ และจากเสมหะ
เยื่อหุ้มปอด อักเสบ เจ็บหน้าอก ไอ มีไข้ตอนบ่าย เหงื่อออกตอนกลางคืนเบื่ออาหาร น้ำหนักลด
สร้างภูมต้านทาน:ฉีดวัคซีนBCG
Mycobacterium leprae
การก่อโรค
โรคเรื้อน(LeprosyหรือHansen'sdisease,HD)
อาการและอาการแสดง
อาการทางระบบประสาท
อาการทางผิวหนัง เส้นประสาทส่วนปลาย เยื่อบุทางเดินหายใจส่วนบน
2)เส้นประสาทควบคุมกล้ามเนื้อถูกทำลาย:กล้ามเนื้อลีบและเกิดอัมพาสของกล้ามเนื้อตามมือ เท้า ใบหน้า
3)เส้นประสาทอัตโนมัติที่ควบคุมหลอดเลือดและต่อมเหงื่อถูกทำลาย:เหงื่อไม่ออกผิวหนัง ขนร่วง หลอดเลือดตีบ
1)เส้นประสาทรับความรู้สึกจะถูกทำลาย:อาการชาสูญเสียการรับความรู้สึก
Corynebacterium diphtheriae
การก่อโรค
โรคคอตีบ (Diphtheria)
การติดเชื้อที่ทางเดินหายใจส่วนบน>>เกิดบริเวณคอหอยมากที่สุด
Diphtheriaexotoxin:เป็นตัวสำคัญที่ให้เชื้อมีความรนุแรง>>ทำลายเยื่อบุผิวเกิดการอักเสบ
อาการและอาการแสดง
เกิด pseudomembrane
พบบริเวณต่อมทอนซิล >>แพร่สู่โพรงจมูก กล่องเสียงและหลอดลม
แผ่นเยื่อไปปิดกั้นทางเดินหายใจ>>หายใจไม่ออก(ต้องช่วยหายใจโดยการเจาะคอ)
เป็นแผ่นเยื่อมีความเหนียวมากและลอกออกยาก
toxinแพร่เข้าสู่ร่างกายทางกระแสเลือด:Bacteremia
Listeria monocytogenes
การก่อโรค
Listeriosis
พบในทารกแรกเกิด หญิงตั้งครรภ์ ผู้สูงอายุ และคนไข้ภูมิคุ้มกันต่ำ
ส่งผลต่อระบบทางเดินหายใจ โลหิตเป็นพิษ และสมองอักเสบ
สาเหตุ
สัมผัสสัตว์และอุจจาระของสัตว์ กินผักสดที่รดด้วยปุ๋ยคอก การดื่ม นมและเนยที่ไม่ผ่านการpasteurization(62.8oCเป็นเวลา30นาที)
Spirochetes
Leptospira interrogans
Treponema pallidum
การก่อโรค
โรคฉี่หนู(Leptospirosis)
การก่อโรค
โรคซิฟิลิส (Syphilis)
ระยะฟักตัว:ประมาณ10-90วัน(เฉลี่ย ~3สัปดาห์)
การเกิดโรคแบ่งเป็น 2ชนิดคือ
1.ซิฟิลิสที่เกิดขึ้นภายหลัง(Acquiredsyphilis)
2.ซิฟิลิสแตก่าเนดิ(Congenitalsyphilis)
ติดต่อทางเพศสัมพันธ์>>เชื้อเข้าสู่ร่างกาย ทางผิวหนังที่มีแผล รอยถลอก หรือเยื่อเมือกของอวัยวะสืบพันธุ์
มารดาติดเชื้อซิฟิลิสขณะตั้งครรภ์ (เชื้ออยู่ในกระแสเลือด
ผ่านรก>>ทารกในครรภ์)
ระยะที่1(primarysyphilis
ระยะที่2(secondarysyphilis)
เกิดขึ้นหลังจากไดร้บเชื้อ2-10สัปดาห์>> ตุ่ม>>อวัยวะสืบพันธุ์ ลิ้น
ริมฝีปาก ต่อมทอนซิล หัวนม หนังตา นิ้วมือ รอบทวารหนัก เยื่อเมือก
ระยะhardchancre(แผลรมิแขง็ง
ตรวจเลือดยังไม่ให้ผล+จนกว่าจะเกิดรอยแผลแล้วอย่างน้อย1สัปดาห์
เชื้อติดต่อสู่ผู้อื่นได้
เกิดหลังเป็นแผลริมแข็ง1-2เดือน
มีอาการแสดงออกทางผิวหนัง
ระยะออกดอก (แพร่เชื้อมากที่สุด )
ต่อมน้ำเหลืองบวม
ปวดศรีษะ อ่อนเพลีย เป็นไข้ เบื่ออาหาร น้ำหนักลด
เม็ดตุ่มหรือผื่นแดงตามร่างกาย เป็นผื่นเรียบขนาดเล็กหรือนูนเป็นตุ่มแข็ง
อาจกลายเป็นตุ่มหนองที่แตก ออกเป็นแผลทั่วร่างกาย
ระยะที่3(tertiary/latesyphilis)
ระยะไม่ติดต่อ
เป็นระยะทำลายของโรค (5-20 ปี)
เชื้อทำลายสมอง>>ความจำเสื่อม
เกิดgummaตามส่วนต่างๆของร่างกาย เช่น ผิวหนัง กระดูก ตับ ลิ้น เพดานปาก กระดูกใบหน้า
ตาบอด หูหนวก เส้นเลือดแดงใหญ่โป่งพอง ลิ้นหัวใจเสื่อม
click to edit
:
A6480110นางสาวภัทรศยา สำเภา