Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
Care of patient treated with sympathomimetic drug ( Adrenaline and…
Care of patient treated with sympathomimetic drug ( Adrenaline and Dopamine )
Adrenaline
ผลข้างเคียง
ยานี้อาจทำให้มีอาการตื่นเต้น ใจสั่น มือสั่น ปวดศีรษะ คลื่นไส้ อาเจียน ส่วนผลข้างเคียงอื่น ๆ ที่อาจพบได้ เช่น เหงื่อออกมาก น้ำลายออกมาก น้ำตาลในเลือดสูงเพิ่มขึ้น อ่อนเพลีย มีอาการตัวสั่น เกลือโพแทสเซียมในเลือดต่ำ (ก่อให้เกิดอาการอ่อนเพลีย กล้ามเนื้อเป็นตะคริว หัวใจเต้นผิดปกติ) ตาพร่ามัว ตากลัวแสง ตัวบวม รู้สึกไม่สบายในกระเพาะอาหารและลำไส้ อาหารไม่ย่อย ปัสสาวะขัด เป็นต้น
วิธีการใช้
สำหรับรักษาอาการแพ้ (Allergic reaction) และอาการแพ้อย่างรุนแรง (Anaphylaxis) ในผู้ใหญ่ที่มีน้ำหนัก 30 กิโลกรัมขึ้นไป ให้ฉีดยาในขนาด 0.3 มิลลิกรัม เข้ากล้ามเนื้อหรือใต้ผิวหนังบริเวณส่วนหน้าทางด้านข้างของต้นขา และหากจำเป็นอาจต้องใช้ยาซ้ำ (ในเด็กที่มีน้ำหนักตัว 15-30 กิโลกรัม ให้ฉีดยาในขนาด 0.15 มิลลิกรัม ส่วนเด็กที่มีน้ำหนักตัวมากกว่า 30 กิโลกรัม ให้ฉีดยาในขนาด 0.3 มิลลิกรัม ด้วยวิธีเดียวกันและให้ยาซ้ำได้เมื่อจำเป็น)
สำหรับใช้รักษาภาวะความดันโลหิตต่ำ (Hypotension) และอาการช็อก (Shock) ในผู้ใหญ่ ให้ฉีดยาเข้าหลอดเลือดในขนาด 0.05-2 ไมโครกรัม/น้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม/นาที และปรับขนาดยาตามค่าความดันเลือดแดงเฉลี่ย (MAP)
สำหรับรักษาโรคหืด (Asthma) ที่อาการรุนแรง ในผู้ใหญ่ให้ฉีดยาเข้าหลอดเลือดในขนาด 0.1-0.25 มิลลิกรัม (1-2.5 มิลลิลิตร) อย่างช้า ๆ เพียงครั้งเดียว ส่วนในเด็กทารก (0-1 เดือน) ให้ฉีดเข้าหลอดเลือดในขนาด 0.01 มิลลิกรัม/น้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม อย่างช้า ๆ เพียงครั้งเดียว ส่วนในเด็กอ่อน (อายุ 1-12 เดือน) ให้ฉีดเข้าหลอดเลือดในขนาด 0.05 มิลลิกรัม อย่างช้า ๆ เพียงครั้งเดียว และอาจซ้ำได้ทุก 20-30 นาทีตามความจำเป็น (ในปัจจุบันไม่แนะให้ใช้ยานี้ฉีดรักษาอาการหืดกำเริบรุนแรงแล้ว เนื่องจากมียาอื่นที่ได้ผลและปลอดภัยมากกว่า
สำหรับใช้รักษาภาวะหัวใจเต้นช้าผิดปกติ (Bradyarrhythmia) ในผู้ใหญ่ ให้ฉีดยาเข้าหลอดเลือดในขนาด 2-10 ไมโครกรัม/นาที และปรับขนาดยาตามการตอบสนองของผู้ป่วย
สำหรับใช้รักษาภาวะหัวใจหยุดเต้นฉุกเฉิน (Cardiac arrest), ภาวะหัวใจหยุดสนิท (Asystole), ภาวะหัวใจห้องล่างเต้นแผ่วระรัว (Ventricular fibrillation) และภาวะหัวใจห้องล่างเต้นเร็วผิดปกติ (Ventricular tachycardia) ในผู้ใหญ่ ให้ฉีดยาเข้าหลอดเลือดในขนาด 0.5-1 มิลลิกรัม (5-10 มิลลิลิตร) และให้ยาซ้ำในขนาด 0.5 มิลลิกรัม (5 มิลลิลิตร) ทุก ๆ 5 นาทีในระหว่างการกู้ชีพ (ส่วนในเด็กเฉพาะสำหรับการรักษาภาวะหัวใจหยุดเต้น (Cardiac arrest) ให้ฉีดยาเข้าหลอดเลือดในขนาด 0.01-0.03 มิลลิกรัม/น้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม เพียงครั้งเดียว)
กลไกการออกฤทธิ์
อะดรีนาลีนเป็นยาในซิมพาโทมิเมติก (Sympathomimetic) ที่มีกลไกการออกฤทธิ์ที่ตัวรับชื่อ แอดริเนอจิก ทั้งแอลฟาและเบต้า (Alpha and Beta adrenergic receptors) ซึ่งเป็นตัวรับที่ทำงานเกี่ยวข้องกับระบบประสาทอัตโนมัติ ส่งผลให้เกิดการคลายตัวของกล้ามเนื้อเรียบที่หลอดลม กระตุ้นการทำงานของหัวใจ รวมถึงทำให้หลอดเลือดบริเวณกล้ามเนื้อคลายตัว ด้วยกลไกดังกล่าวจึงทำให้เกิดฤทธิ์ในการรักษาตามสรรพคุณดังกล่าว
ส่วนการใช้อะดรีนาลีนในรูปแบบที่ผสมกับยาชา จะทำให้ลดการดูดซึมของยาชาจากบริเวณอวัยวะที่ใช้ยาชานั้น ทำให้ยาชาออกฤทธิ์ได้นานและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
Dopamine
ผลข้างเคียง
มีดังนี้้
หัวใจเต้นเร็วผิดจังหวะ
ใจสั่น
คลื่นไฟฟ้าหัวใจผิดปกติ (Widened QRS complex)
แน่นหน้าอก
เส้นเลือดตีบ
ความดันโลหิตสูงหรือต่ำผิดปกติ
หายใจลำบาก
คลื่นไส้ อาเจียน
ปวดศีรษะ
วิตกกังวล
เกิดภาวะคั่งของของเสียในเลือด
เนื้อตายจากภาวะเส้นเลือดอุดตันส่วนปลาย
วิธีการใช้
เบื้องต้นให้ในปริมาณ 2-5 ไมโครกรัมต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัมต่อนาที และให้เพิ่มได้ถึง 5-10 ไมโครกรัมต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัมต่อนาที ขึ้นอยู่กับสภาพหัวใจและปริมาณปัสสาวะของผู้ป่วย ในกรณีที่อาการรุนแรงให้ได้มากถึง 20-50 ไมโครกรัมต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัมต่อนาที
กลไกการออกฤทธิ์
ยาจะเข้าไปช่วยขยายหลอดเลือดไต และหลอดเลือดระบบทางเดินอาหาร แต่ถ้าใช้ในปริมาณที่มากขึ้นตัวยาจะเข้าไปกระตุ้นการทำงานของตัวรับสัญญาณของ โดปามิเนอร์จิก (Dopaminergic Receptor) และอะดรีเนอจิกแบบเบตา (β1-Adrenergic Receptors) หากใช้ในปริมาณมากยานี้ก็จะเข้าไปกระตุ้นการทำงานของตัวรับสัญญาณอะดรีเนอจิก (Adrenergic Receptors) เป็นผลให้หัวใจสูบฉีดเลือดได้มากขึ้น และเลือดไหลเวียนไปเลี้ยงทั่วร่างกายได้อย่างเพียงพอ