Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การเปรียบเทียบทฤษฎี กับกรณีศึกษา - Coggle Diagram
การเปรียบเทียบทฤษฎี
กับกรณีศึกษา
1.อาการและอาการแสดงที่สงสัยว่าจะตั้งครรภ์
ขาดประจำเดือน(Amenorrhea)
จากกรณีศึกษา พบว่า ประจำเดือนขาดก่อนการตั้งครรภ์ 2 เดือน
เต้านมคัดตึง
จากกรณีศึกษาพบว่า
สตรีตั้งครรภ์บอกว่า “เต้านมใหญ่ขึ้นกว่าก่อนตั้งครรภ์”
จากการตรวจร่างกายพบว่า
เต้านมขยายใหญ่ขึ้น คลำไม่พบรอยโรคหรือก้อน
หัวนมไม่บอดหรือบุ๋ม
คลื่นไส้อาเจียน (Nausea, vomiting)
จากกรณีศึกษาพบว่า
สตรีตั้งครรภ์มีอาการแพ้ท้อง อาเจียน ในระยะไตรมาสแรกของการตั้งครรภ์
รู้สึกอ่อนเพลีย (Fatigue)
จากกรณีศึกษาพบว่า
สตรีตั้งครรภ์อ่อนเพลียเนื่องจากมีการปัสสาวะบ่อย และทำงานหนัก
ปัสสาวะบ่อย
จากกรณีศึกษาพบว่า
สตรีตั้งครรภ์ให้ข้อมูลว่า ปัสสาวะบ่อยวันละ 7-10 ครั้งในตอนกลางวัน
4-5 ครั้งในตอนกลางคืน ไม่มีอาการแสบขัด ลักษณะสีเหลืองใส ไม่พบเลือดปน
อาการแสดงว่าน่าจะตั้งครรภ์ (Probable signs)
เยื่อบุบริเวณปาดมดลูกและช่องคลอดมีสีคล้ำขึ้น
(Chawick’s sign)
ไม่พบข้อมูล
หน้าท้องโตขึ้น
(Abdominal enlargement)
จากกรณีศึกษา มีหน้าท้องโตขึ้น
ปากมดลูกนุ่ม
(Goodell’s sign)
ไม่พบข้อมูล
ตรวจพบฮอร์โมน HCG ในปัสสาวะ
(Positive result of pregnancy test in urine)
จากการตรวจการตั้งครรภ์ด้วยตัวเอง
จากกรณีศึกษาพบว่า ตรวจพบฮอร์โมน HCG ในปัสสาวะจากการตรวจการตั้งครรภ์ด้วยตนเอง
อาการแสดงว่าตั้งครรภ์แน่นอน
(Positive sign)
คลำได้การดิ้นของทารก
(Perception of fetal movement
ขณะที่ตรวจครรภ์ ทารกดิ้นดี
คลำได้ส่วนของทารก (Fetal part)
จากการตรวจครรภ์
Large part คลำได้ฝั่งซ้ายของสตรีตั้งครรภ์
Small part คลำได้ฝั่งขวาของสตรีตั้งครรภ์
ส่วนนำของทารกคือ vertex พบ ballottement
ตรวจพบทารกโดยการใช้คลื่นเสียงความถี่สูง
ตรวจ U/S ครั้งแรก GA 7+4 wks. พบการตั้งครรภ์
ได้ยินเสียงการเต้นของหัวใจทารก
(Fetal heart sounds)
พบ FHS 146-152 bpm.
การเปลี่ยนแปลงด้านภาพลักษณ์ของหญิงตั้งครรภ์
ก่อนตั้งครรภ์ มองคนที่ท้องว่าทำอะไรก็ลำบาก อึดอัด เหนื่อยง่าย ไม่สามารถทำกิจวัตรประจำวันได้เหมือนเดิม สตรีตั้งครรภ์พอใจในรูปร่างของตัวเอง ไม่มีความกังวลเกี่ยวกับภาพลักษณ์
ขณะตั้งครรภ์ รู้สึกว่าตนเองอ้วนขึ้น ไม่สบายเนื้อสบายตัว ปวดหลัง ความคล่องตัวลดลง เคลื่อนไหวร่างกายลำบาก ไม่มีความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาพลักษณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป
อาการไม่สุขสบายในไตรมาสที่ 3
อาการหดรัดตัวของมดลูก (Braxton Hick’s contraction
จากกรณีศึกษาพบว่า สตรีตั้งครรภ์มีท้องแข็ง 4 ครั้งต่อวัน
ตะคริว (Leg cramp)
สตรีตั้งครรภ์ไตรมาสที่ 3 GA36+1 wks. High of fundus 35 cm.
ขนาดมดลูกโตกดทับตำแหน่งอุ้งเชิงกราน ทำให้เลือดไหลเวียนไม่สะดวก
กล้ามเนื้อน่องขาดออกซิเจน ทำให้เกิดตะคริว
ปัสสาวะบ่อย (frequent micturition)
จากกรณีศึกษาพบว่า
สตรีตั้งครรภ์ปัสสาวะวันละ 7-10 ครั้งในตอนกลางวัน
4-5 ครั้ง ในตอนกลางคืน
ปวดหลัง (Back pian)
สตรีตั้งครรภ์ไตรมาสที่ 3 GA36+1 wks. High of fundus 35 cm.
ขนาดมดลูกโต ศูนย์ถ่วงเลื่อนมาข้างหน้า ทำให้กล้ามเนื้อหลังตึง
การเปลี่ยนแปลงด้านร่างกายและจิตใจ
ระบบทางเดินปัสสาวะ
สตรีตั้งครรภ์มีอาการปัสสาวะบ่อย เนื่องจากส่วนนำทารกกดทับกระเพาะปัสสาวะ ทำให้ปัสสาวะบ่อยขึ้น
ระบบทางเดินอาหาร
จากกรณีศึกษาพบว่า
ไม่มีอาการท้องอืด ท้องเสีย หรือจุกเสียดแสบร้อนกลางอก
ระบบอวัยวะสืบพันธ์ุ
มดลูก
จากกรณีศึกษาพบว่า
หน้าท้องมีลักษณะเป็น ovoid shape
highT of fundus 35 cm.
hight of fundus 35 cm.
ปากมดลูก
จากกรณีศึกษาพบว่า สตรีตั้งครรภ์ GA 8+3 wks.
มีอาการปวดท้องน้อยและเลือดปนออกทางช่องคลอด
Cx : os closed with bleeding per os no cervical lesion
อวัยสืบพันธ์ุภายนอกและช่องคลอด
ระบบทางเดินหายใจ
จากกรณีศึกษาพบว่า
จากการสังเกตและซักประวัติ สตรีตั้งครรภ์ไม่มีอาการหายใจเหนื่อย หายใจติดคัด
ระบบผิวหนัง
จากกรณีศึกษาพบว่า
จากการสังเกตและซักประวัติพบว่ามีผิวหนัง ชุ่มชื่น ไม่แตกลาย
บริเวณหน้าท้องพบ Linea nigra ไม่พบ striae gravidarum
ระบบโครงสร้าง
มดลูกโต ทำให้ศูนย์ถ่วงเลื่อนมาข้างหน้า เพื่อรักษาสมดุลการทรงตัว
การเปลี่ยนแปลงด้านอารมณ์ระยะไตรมาสที่ 3
จากการซักประวัติ สตรีตั้งครรภ์ไม่มีความวิตกกังวลเกี่ยวกับการคลอด
เนื่องจากเคยคลอดบุตรมาแล้ว 2 คน สุขภาพร่างกายแข็งแรงดี