Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
บทที่ 6 การวิเคราะห์ข้อมูลวิจัยเพื่อพัฒนาการเรียนการสอน - Coggle Diagram
บทที่ 6
การวิเคราะห์ข้อมูลวิจัยเพื่อพัฒนาการเรียนการสอน
6.1แนวคิดเกี่ยวกับการวิเคราะห์ข้อมูล
ความหมายของข้อมูล
ข้อมูล หมายถึง ข้อเท็จจริงที่มีการรวบรวมไว้และมีความหมายเกี่ยวกับบุคคล สถานที่ สิ่งของ หรือเหตุการณ์ที่สนใจ
ข้อมูลทางการศึกษา หมายถึง ข้อเท็จจริงทางการศึกษาที่มีการรวบรวมไว้
ประเภทของข้อมูล
แบ่งตามคุณสมบัติของค่าที่วัดได้ สามารถแบ่งข้อมูลเป็น 2 ประเภท
ข้อมูลเชิงคุณภาพ เป็นข้อมูลที่วัดค่าออกมาในรูปของประเภท หรือชนิด เช่น เพศของนักเรียน อาชีพของผู้ปกครอง
ข้อมูลเชิงปริมาณ เป็นข้อมูลที่วัดค่าออกมาในรูปของจำนวนหรือขนาด โดยสามารถบอกปริมาณความมากน้อยได้ เช่น คะแนนสอบระหว่างภาค คะแนนสอบปลายภาค
แบ่งตามแหล่งที่มาของข้อมูล สามารถแบ่งออกเป็น 2 ประเภท
ข้อมูลปฐมภูมิ หมายถึง ข้อมูลที่ผู้ใช้เก็บรวบรวมข้อมูลขึ้นเอง
ข้อมูลทุติยภูมิ หมายถึง ข้อมูลที่ผู้ใช้นำมาจากหน่วยงานอื่นหรือเก็บรวบรวมไว้แล้วในอดีต
แบ่งตามสเกลการวัดข้อมูล สามารถแบ่งข้อมูลได้ 4 ประเภท
ข้อมูลที่วัดในสเกลเรียงลำดับ คลอบคลุมข้อมูลที่การวัดในสเกลนามบัญญัติและสามารถจัดเรียงลำดับระหว่างกลุ่มให้มีอันดับลดหลั่นเป็นขั้นๆ โดยบอกทิศทางความแตกต่างได้ว่ามากหรือน้อยกว่ากัน เช่น ระดับการศึกษา จำแนกเป็น ประถมศึกษา มัธยมศึกษา อนุปริญญา ปริญญาตรี เรียกว่า ตัวแปรเชิงคุณภาพ
ข้อมูลที่วัดในสเกลอันตรภาค หรือสเกลช่วงข้อมูลที่วัดในสเกลนี้คลอบคลุมการวัดในสเกลเรียงลำดับ และมีคุณสมบัติเพิ่ม คือ ความห่างของแต่ละหน่วยที่วัดมีค่าเท่ากัน แต่การวัดในสเกลนี้ไม่มีศูนย์แท้ เช่น คะแนนสอบ อุณหภูมิ เรียกว่า ตัวแปรเชิงปริมาณ
ข้อมูลที่วัดในสเกลนามบัญญัติ เรียกอีกอย่างว่า ข้อมูลจัดประเภท เป็นการวัดข้อมูลโดยแบ่งออกเป็นกลุ่ม เป็นพวก ข้อมูลที่มีคุณสมบัติเหมือนกันจะจัดอยู่กลุ่มเดียวกัน การจำแนกกลุ่มนี้ไม่มีความหมายเชิงปริมาณ เช่น เพศของนักเรียน จำแนกเป็น นักเรียนชาย นักเรียนหญิง เรียกว่า ตัวแปรเชิงคุณภาพ
ข้อมูลที่วัดในสเกลอัตราส่วน คลอบคลุมการวัดในสเกลอันตรภาค และมีคุณสมบัติเพิ่มคือ ข้อมูลที่วัดในสเกลอันตรภาค และมีคุณสมบัติเพิ่มคือ ข้อมูลที่วัดในสเกลนี้มีศูนย์แท้ เช่น รายได้ของผู้ปกครอง น้ำหนักและส่วนสูงของนักเรียน เรียกว่า ตัวแปรเชิงปริมาณ
ประเภทของสถิติ
สถิติบรรยาย หรือ สถิติพรรณนา นักวิจัยใช้สถิติประเภทนี้ในการนำเสนอข้อมูล ทั้งในรูปแบบ
แผนภูมิชนิดต่างๆและในรูปค่าสถิติ
สถิติอนุมาน นักวิจัยใช้สถิตินี้ในการสรุปอ้างอิงผลการวิเคราะห์ข้อมูลจากกลุ่มตัวอย่างไปสู่ประชากร
สถิติว่าด้วยการเลือกกลุ่มตัวอย่าง นักวิจัยใช้สถิติประเภทนี้ในการกำหนดกลุ่มตัวอย่างให้มีขนาดเพียงพอ ไม่มากและไม่น้อยเกินไป
หลักการเลือกใช้สถิติ
วัตถุประสงค์การวิจัย
(2) เปรียบเทียบความแตกต่างระหว่างประชากร
(3) อธิบายความสัมพันธ์ระหว่างตัวแปรหรือการทำนาย
(1) บรรยายลักษณะของประชากร หรือกลุ่มตัวอย่าง
(4) จัดระบบโครงสร้างความสัมพันธ์ของกลุ่มตัวแปร
(5) แสวงหาความสัมพันธ์เชิงสาเหตุ
(6) พัฒนาหรือทดสอบทฤษฎีโดยการสร้างแบบจำลองหรือโมเดล
สเกลการวัดค่าของตัวแปร จะนำมาวอเคราะห์วัดในสเกลนามบัญญัติ สเกลเรียงลำดับ สเกลอันตรภาค หรือสเกลอัตราส่วน ถึงแม้งานวิจัยที่มีวัตถุประสงค์วิจัยเดียวกันแต่ถ้าข้อมูลที่ศึกษามีเกลการวัดต่างกัน สถิติที่ใช้วิเคราะห์ก็จะต่างกัน
จำนวนตัวแปรที่ศึกษา ต้องพิจารณาว่าจำนวนตัวแปรอิสระและจำนวนตัวแปรตามในการวิจัยนั้นมีอย่างละกี่ตัว
ขนาดของกลุ่มตัวอย่าง ต้องพิจารณาว่ากลุ่มตัวอย่างมีขนาดเล็กหรือขนาดใหญ่
จำนวนกลุ่มตัวอย่างของประชากรที่ศึกษา ต้องพิจารณาว่างานวิจัยนั้นศึกษากับประชากรกี่กลุ่ม
จำนวนกลุ่มประชากรที่ศึกษาต่างกันสถิติที่ใช้ก็ต่างกันด้วย
ความต่างระดับของหน่วยการวิเคราะห์ ต้องพิจารณาว่าเก็บรวบรวมข้อมูลมาจากหน่วยตัวอย่างที่ต่างระดับกันหรือไม่ งานวิจัยบางเรื่องเก็บหลายระดับ
ความสอดคล้องของข้อมูลกับข้อตกลงเบื้องต้นของสถิติวิเคราะห์ที่จะใช้ สถิติวิเคราะห์แต่ละตัวจะมีข้อตกลงเบื้องต้นต่างกัน นักวิจัยต้องตรวจสอบก่อนว่าข้อมูลที่จะนำมาวิเคราะห์เป็นไปตามข้อตกลงเบื้องต้นหรือไม่
การเก็บข้อมูลครั้งเดียว หรือเก็บข้อมูลหลายช่วงเวลา ประเด็นนี้ก็มีความสำคัญในการเลือกใช้สถิติเช่นกัน
การวางแผนการวิเคราะห์ข้อมูล
เมื่อนักวิจัยได้ปัญหาวิจัย ออกแบบการวิจัย และดำเนินการเก็บรวบรวมข้อมูลแล้ว นักวิจัยจะต้องวางแผนการวิเคราะห์ข้อมูล เพื่อให้ตอบวัตถุประสงค์ของการวิจัย
6.3 การวิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติอนุมาน
การวิเคราะห์ความแตกต่างของค่าเฉลี่ย
การเปรียบเทียบความแตกต่างของคะแนนเฉลี่ยก่อนเรียนระหว่างกลุ่มควบคุมกับกลุ่มทดลองเพื่อแสดงความเท่าเทียมกันของกลุ่มควบคุมกับกลุ่มทดลอง
การเปรียบเทียบความแตกต่างของคะแนนเฉลี่ยก่อนเรียนกับคะแนนเฉลี่ย หลังเรียนของกลุ่มตัวอย่างเพื่อศึกษาความก้าวหน้าของผู้เรียน
การเปรียบเทียบความแตกต่างของค่าเฉลี่ยกรณีกลุ่มตัวอย่างตั้งแต่สามกลุ่มขึ้นไป
การวิเคราะห์ความสัมพันธ์
สหสัมพันธ์ (correlation) เป็นเทคนิคทางสถิติที่ใช้วัดและอธิบายความสัมพันธ์ระหว่างตัวแปรสองตัว ซึ่งตัวแปรสองตัวนั้นได้จากการสังเกตตามธรรมชาติ เพื่อให้ทราบขนาดและทิศทางของความสัมพันธ์ โดยไม่กำหนดว่าตัวแปรใดเป็นตัวแปรอิสระ และตัวแปรใดเป็นตัวแปรตาม
การวิเคราะห์ความสัมพันธ์กรณีตัวแปรเชิงคุณภาพ กรณีที่ตัวแปรที่นักวิจัยสนใจศึกษาความสัมพันธ์เป็นตัวแปรเชิงคุณภาพ การทดสอบว่าตัวแปรเชิงคุณภาพ 2 ตัวมีความสัมพันธ์กันอย่างมีนัยสำคัญหรือ ไม่คือสถิติทดสอบไค-สแควร์
สหสัมพันธ์แบบเพียร์สัน (Pearson correlation หรือ Pearson product-moment
correlation) เป็นเทคนิคสถิติที่ใช้หาขนาคและทิศทางของความสัมพันธ์เชิงเส้นตรงระหว่างตัวเปรเชิงปริมาณ
6.2 การวิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติพรรณนา
การแจกแจงความถี่ ร้อยละ
การแจกแจงความถี่คือ การนำข้อมูลที่นักวิจัยรวบรวมมาได้ซึ่งเป็นข้อมูลดิบมาจัดให้เป็นระเบียบเป็นหมวดหมู่โดยเรียงจากค่ามากไปหาค่าน้อยหรือจากค่าน้อยไปหาค่ามาก แล้วนับจำนวนความถี่ เพื่อสะควกในการวิเคราะห์ต่อการนำเสนอเป็นค่าสถิติต่างๆ
การวัดแนวโน้มเข้าสู่ส่วนกลาง
ค่าเฉลี่ยเลขคณิต (arithmetic Mean) หรือบางครั้งเรียกว่า มัชฌิมเลขคณิต แต่ต่อไปนี้จะเรียกสั้นๆ ว่า คำถสี่ยเป็นการวัดแนวโน้มเข้าสู่ส่วนกลางที่นิยมใช้มากที่สุด
มัธยฐาน คือ ค่าที่อยู่ตรงกลางเมื่อเรียงลำคับข้อมูลจากมากไปหาน้อย หรือจากน้อยไปหามากแล้ว ดังนั้นการหาคำกลางโดยใช้มัธยฐานก็คือการหาข้อมูลตัวที่อยู่ตรงกลางของข้อมูลชุดนั้น
ฐานนิยม ข้อมูลตัวที่ปรากฏบ่อยที่สุดหรือข้อมูลตัวที่มีความถี่สูงสุคข้อมูลหนึ่งอาจมีฐานนิยม 1ค่าหรือมากกว่าหรือไม่มีฐานนิยมเลย
การวัดการกระจาย
พิสัย (range) ผลต่างระหว่างข้อมูลตัวที่มีค่าสูงสุดกับตัวที่มีค่าต่ำสุดสามารถเขียน
ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน(Standard Deviation) การวัดการกระจายของข้อมูลที่นิยมมากที่สุดคือ
ส่วนเยี่ยงเบนมาตรฐานส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเป็นการวัดการกระจายรอบคำเฉลี่ย เป็นค่าเฉลี่ยของการกระจายของข้อมูลจากค่าเฉลี่ยของข้อมูลชุดนั้น
สัมประสิทธิ์การแปรผัน ในกรณีที่ต้องการเปรียบเทียบการกระจายของข้อมูลตั้งแต่สองชุดที่มีค่าเฉลี่ยไม่เท่ากันหรือมีหน่วยต่างกันสามารถทำได้โดยการเทียบอัตราส่วนของส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานโดยกำหนดให้ค่าเฉลี่ยเป็น 100