Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
คอสตาริกา, Costa_Rica,_administrative_divisions_-_th_-_colored.svg -…
คอสตาริกา
2. โครงสร้างการผลิตภายในประเทศ
ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (2549)
22.25 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
อัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ (2550/strong>
ร้อยละ 7
รายได้ประชาชาติต่อหัว (2550)
13,500 ดอลลาร์สหรัฐ/คน/ปี
หนี้ต่างประเทศ (2550)
ร้อยละ 7.163 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
เงินทุนสำรองระหว่างประเทศ (พ.ค.2550)
3.59 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
สินค้าเกษตรสำคัญ
กล้วย(คอสตาริกาเป็นผู้ส่งออกกล้วยมากเป็นอันดับสอง
ของโลกรองจากเอกวาดอร์) กาแฟ เมล็ดโกโก้ ข้าว และถั่ว
สินค้าบริการสำคัญ
อุตสาหกรรมการท่องเที่ยว (ทำรายได้เข้าประเทศกว่า
ร้อยละ 60)
สินค้าอุตสาหกรรมสำคัญ
อาหารและเครื่องดื่ม สิ่งทอ เฟอร์นิเจอร์ กระดาษ เคมี
ผลิตภัณฑ์พลาสติก และผลิตภัณฑ์ยาง
สินค้านำเข้าสำคัญ
2.ส่วนประกอบและอุปกรณ์ของเครื่องประมวลผล วงจร รวมโมโนลิทิก กระดาษคราฟต์
1.น้ำมันและผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม เวชภัณฑ์ และสิ่งก่อสร้าง
การค้าส่งออกสำคัญ
เยอรมัน ร้อยละ
กัวเตมาลา ร้อยละ
นิการากัว ร้อยละ
จีน ร้อยละ 11.81
เม็กซิโก ร้อยละ 4.2
เนเธอร์แลนด์ ร้อยละ 12.82
สหรัฐอเมริกา ร้อยละ 35.61
สิ้นค้าส่งออกสำคัญ
1.ผลิตผลการเกษตรกรรม
กล้วย สัปปะรด กาแฟ เมลอน พืชตกแต่ง เนื้อวัว น้ำตาล
2.อุตสาหกรรม
สิ่งทอ ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ เครื่องใช้ไฟฟ้า สินค้าเภสัช
สินค้าส่งออกของคอสตาริกาที่สำคัญและถือเป็นสินค้าที่สำคัญและมีชื่อเสียงที่สุด คือ กล้วยหอม
ตลาดนำเข้าหลัก
เม็กซิโก ร้อยละ 7.65
ญี่ปุ่น ร้อยละ 4.36
บราซิล ร้อยละ
สหรัฐอเมริกา ร้อยละ 44.72
เวเนซุเอลา ร้อยละ 5.56
6.จีน ร้อยละ 5.15
การส่งออก
มูลค่า 9.232 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (2550) ในปี 2553 มูลค่า 10.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
นโยบายต่างประเทศ
คอสตาริกาให้ความสำคัญเป็นอันดับแรกในการดำเนินความร่วมมือภายใต้กรอบ Organization of the American States (OAS) และความใกล้ชิดกับสหรัฐฯ โดยเฉพาะ
ในเรื่องการป้องกันประเทศซึ่งคอสตาริกาได้ยกเลิกกองกำลังทหารตั้งแต่ปี 2492นอกจากนี้ คอสตาริกายังให้ความสำคัญกับการต่อต้านการค้ายาเสพติด
โดยเป็นประเทศแรกในอเมริกากลางที่ลงนามใน Maritime Counter-Narcotics Agreement กับสหรัฐฯ ซึ่งเป็นความร่วมมือเพื่อต่อต้านการลักลอบขนส่งยาเสพติดในน่านน้ำคอสตาริกา
การนำเข้า
มูลค่า 11.84 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (2550) ในปี 2553 มูลค่า 13.32 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
1. ภูมิศาสตร์
ขนาดพื้นที่
บนที่ราบสูงที่มีความสูงประมาณ 1,170เมตร (3,839 ฟุต) เหนือระดับน้ำทะเล
51,110 ตารางกิโลเมตร
ที่ตั้ง
คอสตาริกา แปลว่าชายฝั่งทะเลอันอุดมสมบูรณ์ (the rich coast) มีชายฝั่งทะเลด้านทิศตะวันออกติดกับทะเลแคริบเบียน และชายฝั่งทะเลด้านทิศตะวันตกติดกับมหาสมุทรแปซิฟิก ทิศเหนือติดกับนิการากัว และทิศใต้ติดกับ ปานามา พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นภูเขา โดยมีที่ราบสูงทางตอนกลางของประเทศและพื้นที่ราบลุ่มบริเวณชายฝั่งทะเลทั้งสองด้าน
ภูมิอากาศ
แบบร้อนชื้น (tropical) ในบริเวณพื้นที่ราบลุ่ม และมีอากาศแบบอบอุ่นในเขตที่ราบสูงและบริเวณหุบเขา
เมืองหลวงและเมืองใหญ่ที่สุด
กรุงซานโฮเซ (San Jose)
เป็นเมืองหลวงและเมืองใหญ่ที่สุดของประเทศคอสตาริกา และเป็นเมืองหลักของจังหวัดซานโฮเซด้วย ตั้งอยู่ภาคกลางของประเทศที่พิกัดภูมิศาสตร์
ในวันที่ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2427ซานโฮเซกลายเป็นเมืองแรกในลาตินอเมริกาที่ส่องสว่างด้วยพลังงานไฟฟ้า
ในช่วงหลังคริสต์ศตวรรษที่ 18 จึงทำให้กรุงซานโฮเซมีสถาปัตยกรรมสมัยอาณานิคมสเปนค่อนข้างน้อยเมื่อเทียบกับเมืองหลวงอื่น ๆ
ในลาตินอเมริกา
ประชากร(2020)
5,094,118[6] (อันดับที่ 123)
ชาวคอสตาริกาเป็นชนชาติผสมระหว่าง
สเปนกับชาวพื้นเมืองเดิม
เรียกตัวเองว่า
ตีโกส (Ticos)
ภาษา
ภาษาราชการ
ภาษาสเปน
ภาษพูดอื่นๆ
อังกฤษ
เยอรมัน
อิตาลี
เพลาท์ดีทซ์
ภาษาพื้นเมือง
ครีโอล
จาเมกา
บรีบรี
เมกาเตยู
ศาสนา(2021)
72.6% คริสต์
2.6% นิกายอื่น ๆ
27.0% ไม่มี
22.5% โปรเตสแตนต์
47.5% โรมันคาทอลิก (ทางการ)
0.4% อื่น ๆ
หน่วยเงินตรา
คอสตาริกา โคลอน (Costa Rica Colon/CRC)
อัตราการแลกเปลี่ยน( ก.ค 2550)
1 ดอลลาร์สหรัฐ เท่ากับ 517.90
CRC
วันได้รับเอกราช
15 กันยายน ค.ศ. 1838 (ประกาศอิสรภาพจากสเปน)
ส
มาชิกองค์กรระหว่างประเทศ
CACM, ECLAC, FAO, FEALAC, G-77, IADB, IAEA, IBRD, ICAO, ICFTU, ICRM, IDA, IFAD, IFC, ILO, IMF, IMO, Intelsat, Interpol, IOC, IOM, ITU, LAIA, NAM (observer), OAS, UN, UNCTAD, UNESCO, UNIDO, UNU, UPU, WHO, WIPO, WTO
3.การเมืองการปกครอง
3.1 การแบ่งเขตการปกครอง
คอสตาริกาแบ่งเขตการปกครองออกเป็น 7 จังหวัด ได้แก่
2.อาลาฮูเอลา
(ภาคกลาง; ทางเหนือของเมืองหลวงซานโฮเซ)
3.การ์ตาโก
4.กัวนากัสเต
(ตะวันตกเฉียงเหนือ)
5.เอเรเดีย
6.ลิมอน
(มีพื้นที่เลียบชายฝั่งทะเลแคริบเบียน)
7.ปุนตาเรนัส
(เลียบชายฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิกส่วนใหญ่ จากนั้นจึงมีพื้นที่โป่งกว้างทางตะวันตกเฉียงใต้และทางเหนือ สิ้นสุดทั้งสองส่วนที่อ่าวนีโกยา ซึ่งเป็นที่ตั้งเมืองหลวงของจังหวัดที่มีชื่อเดียวกัน)
1.ซานโฮเซ
(พื้นที่รอบเมืองหลวง)
3.2 นโยบายการเมืองและทางเศรษฐกิจ
-การเลือกตั้งประธานาธิบดีเมื่อวันที่ 5 ก.พ. 2549 ทำให้พรรค Citizen Action Party ซึ่งเป็นพรรคนิยมซ้าย สามารถเข้าไปมีบทบาทเป็นพรรคฝ่ายค้านเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์การเมืองของคอสตาริกา โดยในอดีตนับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2491 คอสตาริกา
ถูกปกครองโดยพรรคการเมือง 2 พรรค
ได้แก่
พรรค PLN และพรรค PUSC
ซึ่งเป็นพรรครัฐบาลชุดก่อน ซึ่งชี้ให้เห็นถึงกระแสความนิยมของชาวคอสตาริกาที่มีต่อพรรคที่มีอุดมการณ์สังคมนิยมที่เพิ่มมากขึ้น เช่นเดียวกับประเทศอื่นในลาตินอเมริกา เช่น ชิลี และโบลิเวีย
-ประธานาธิบดี Arias ประกาศจะให้สัตยาบันความตกลงการค้าเสรีสหรัฐฯ อเมริกากลาง (US-CAFTA) และดำเนินการปฏิรูปทางเศรษฐกิจที่สำคัญ อาทิ การแปรรูปกิจการโทรคมนาคมและพลังงาน รวมทั้งได้ตั้งเป้าหมายที่จะลดอัตราความยากจนของประชาชนคอสตาริกาลงอย่างน้อยร้อยละ 1 ต่อปี
ปรับปรุงระบบการศึกษาและกำหนดให้มีการศึกษาภาคบังคับจนถึงอายุ 17 ปี
ให้ความสำคัญกับการเพิ่มมูลค่าการค้าระหว่างประเทศตามระบบเศรษฐกิจที่เน้นการส่งออก และขยายการจัดทำความตกลงเสรีทางการค้า อาทิ การเจรจา FTAระหว่างกลุ่มประเทศอเมริกากลางและ EU และการเจรจา FTA กับปานามา (ปานามาเป็นตลาดสำคัญสำหรับสินค้าอาหารและเวชภัณฑ์
3.3กองทัพ
εїз-คอสตาริกาเป็น
หนึ่งในประเทศที่ไม่มีกองทัพ
คอสตาริกายกเลิกกองทัพในปี พ.ศ. 2491 เพื่อแก้ปัญหาที่เป็นรากเหง้าทางการเมืองที่มีการรัฐประหารจากกองทัพที่ได้รับการสนับสนุนจากบริษัทต่างชาติ
3.4 ความสัมพันธ์กับไทย
3.4.1 การทูต
εїз-ไทยและคอสตาริกาสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างกันเมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2516 โดยรัฐบาลไทยแต่งตั้งให้นายระวี หงส์ประภาส เอกอัครราชทูต ณ กรุงเม็กซิโก ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตไทยประจำคอสตาริกาอีกตำแหน่งหนึ่ง และแต่งตั้งนาย Juan Carlos Morales เป็นกงสุลกิตติมศักดิ์ไทยประจำคอสตาริกา แต่ต่อมา เมื่อรัฐบาลมีดำริเปิดสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงลิมา จึงมีการปรับเขตอาณาสถานอกอัครราชทูตในลาตินอเมริกา โดยได้ปรับให้คอสตาริกาอยู่ในความดูแลของสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงซันติอาโก
คอสตาริกาได้เปิดสถานกงสุลใหญ่กิตติมศักดิ์ในประเทศไทย เมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม 2541 โดยมี ม.ร.ว.ปรียนันทนา รังสิต ดำรงตำแหน่งกงสุลใหญ่กิตติมศักดิ์
3.4.2 การเศรษฐกิจ
εїз-ในปี 2549 การค้าสองฝ่ายมีมูลค่า 51.61ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลงจากปี 2548
ร้อยละ 1.48 โดยไทยเป็นฝ่ายได้ปรียบดุลการค้า
3.4.3 การส่งออก
εїз-ในปี 2549 ไทยส่งออกไปคอสตาริกา 27.50 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นจากปี 2548 ร้อยละ 19.61
สินค้าที่ไทยส่งออกไปคอสตาริกา รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เครื่องซักผ้าและเครื่องซักผ้าแห้งและส่วนประกอบ ผลิตภัณฑ์ยาง เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เม็ดพลาสติกอาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป ผักกระป๋องและแปรรูป
3.4.4 การนำเข้
า
εїз-ในปี 2549 ไทยนำเข้าจากคอสตาริกา มูลค่า 24.11 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันของปี 2548 ร้อยละ 27.98
สินค้าที่ไทยนำเข้าจากคอสตาริกา แผงวงจรไฟฟ้า เครื่องจักรไฟฟ้าและส่วนประกอบ เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ เหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ กระจก แก้วและผลิตภัณฑ์ พืชและผลิตภัณฑ์จากพืช สัตว์และผลิตภัณฑ์จากสัตว์
3.4.5 ข้อตกลง
εїз-ความตกลงว่าด้วยการยกเว้นการตรวจลงตราซึ่งกันและกันสำหรับหนังสือเดินทางทูตและหนังสือเดินทางราชการ (หนังสือเดินทางพิเศษ) ลงนามเมื่อวันที่ 5 ตุลาคม 2548
3.6 รูปแบบการปกครอง
ประชาธิปไตยแบบสาธารณรัฐ
มีประธานาธิบดีเป็นประมุข
3.7 ประธานาธิบดี
ภายใต้รัฐธรรมนูญซึ่งจะอยู่ในตำแหน่งได้เป็นระยะเวลา 4 ปีเพียงครั้งเดียว
-นาย
Oscar ARIAS Sanchez
(เข้ารับตำแหน่งเมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2549)
-นาง
Laura Chinchilla
จากพรรค (เข้ารับตำแหน่งเมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2553)
3.9 พรรการเมืองสำคัญ
Social Christian Unity Party (PUSC)
(พรรครัฐบาล) Democrat Party National Liberation Party (Partido Liberacion Nacional)
3.8 ฝ่ายต่างๆ
3.8.1 ฝ่ายนิติบัญญัติ
-เป็นระบบรัฐสภาเดียว มีสมาชิกสภานิติบัญญัติที่มาจากการเลือกตั้ง 57 คน มีวาระการดำรงตำแหน่ง 4 ปี
3.8.2 ฝ่ายตุลการ
-ศาลสูงสุดของประเทศ (Supreme Court) มาจากการ
เลือกตั้งโดย สมาชิกสภานิติบัญญัติ
มีวาระการดำรงตำแหน่ง 8 ปี
9.กลุ่มชาติพันธุ์(2011)
2.4% ชนพื้นเมือง
1.1% ชนผิวดำ
6.2% อื่น ๆ
6.7% มูแลตโต (ผสมระหว่างชนผิวดำกับชนผิวขาว)
83.6% ชนผิวขาวหรือเมสติโซ
10. เมืองยอดนิยมใน คอสตาริกา
ลาฟอร์ตูนาเดซันการ์โลส
ทามารินโด
ซานโฮเซ
Garabito Municipality
5.ความร่วมมือทางการค้ากับต่างประเทศ
ความตกลงเขตการค้าเสรีพหุภาคีที่คอสตาริกาเป็นภาคีร่วมมี
CAFTA-DR (ความตกลงเขตการค้าเสรีระหว่าง
กลุ่มประเทศอเมริกากลาง และสาธารณรัฐคอมินิกัน กับสหรัฐอเมริกา)
ลงนามเมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 2547 มีผลบังคับในคอสตาริกาเมื่อวันที่ 1 มกราคม 2552 ทั้งนี้ กลุ่ม
ประเทศอเมริกากลางเป็นตลาดส่งออกอันดับสามในกลุ่มละตินอเมริกาสำหรับสหรัฐฯ หลังจากเม็กซิโกและบราซิล การส่งออกจากสหรัฐฯ ไปยังกลุ่มประเทศ CAFTA-DR มีมูลค่า 26.3 พันล้านเหรียญฯ ในปี 2551
ความตกลงเขตการค้าเสรีพหุภาคีกับกลุ่มประเทศคาริบเบียน (CARICOM) ลงนามเมื่อวันที่ 9 มีนาคม 2547 มีผลบังคับในคอสตาริกาเมื่อวันที่ 19 กันยายน 2548 โดยมีเงื่อนไขความตกลง 4 ระดับซึ่งเจรจากันระหว่างแต่ละประเทศอีกต่างหาก ได้แก่ การเปิดเสรีอัตโนมัติ การลดภาษีใน 4 ปี ข้อยกเว้นเป็นรายสินค้า และข้อยกเว้นสำหรับสินค้าเกษตรตามฤดูกาลสำหรับความตกลงเขตการค้าเสรีในระดับทวิภาคี
คอสตาริกาได้ลงนามความตกลงไว้ 5 ประเทศ คือ กับเม็กซิโก (มีผลบังคับตั้งแต่ปี 2538) แคนาดา (2544) ชิลี (2545) สาธารณรัฐโดมินิกัน (2538) และปานามา (2551) และได้เริ่มกระบวนการเจรจาความตกลงเขตการค้าเสรีกับ ประเทศจีน เมื่อปี2550 และกับสหภาพยุโรป (AACUE) เมื่อปี 2549
ความตกลงระหว่างประเทศอื่น ๆ ได้แก่
ICC/CBI (Caribbean Basin Initiative-1983), GSP-Europe และ ALCA/FTAA (Free Trade Areas of the Americas-1994)
4. เงินทุนสำรองระหว่างประเทศ
ในปี 2553 คอสตาริกามีเงินทุนสำรองระหว่างประเทศประมาณ 4.584 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ
7.ข้อมูลดัชนี
ดัชนีกิจกรรมทางเศรษฐกิจของคอสตาริกาประจำเดือนธันวาคม 2553 ชี้ว่าเศรษฐกิจของประเทศยังเติบโตต่ำ และเป็นไปในแนวทางเดียวกับแนวโน้มเศรษฐกิจของประเทศที่ขยายตัวลดลงเรื่อย ๆ ตลอดปีที่ผ่านมา เมื่อเดือนธันวาคม 2553 อัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศลดลงอีกร้อยละ 2.3 จากเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2553 ไปอยู่ในจุดที่ต่ำที่สุดในรอบปีที่ผ่านมา อย่างไรก็ดี มีบางภาคเศรษฐกิจที่ยังคงขยายตัวได้ ได้แก่ อุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับภาคบริการ ซึ่งขยายตัวร้อยละ 9.10 รวมทั้งอุตสาหกรรมการขนส่ง การสื่อสารโทรคมนาคม ซึ่งขยายตัวร้อยละ 6.42 ส่วนภาคเศรษฐกิจอื่น ๆ ไม่มีความเปลี่ยนแปลงมากนัก ในขณะที่ภาคธุรกิจก่อสร้าง การผลิตภาคอุตสาหกรรม รวมทั้งภาคการเหมืองแร่ และเหมืองหินมีอัตราการเจริญเติบโตที่ติดลบ
6.คมนาคมและโทรคมนาคม
มีเส้นทางการเดินทางแบบถนน 35,330 กิโลเมตร ทางรถไฟ 278 กิโลเมตร ทางน้ำ 730 กิโลเมตรที่ใช้เดินเรือได้เฉพาะเรือขนาดเล็ก สนามบิน 151 แห่ง มีท่อส่งก๊าซและน้ำมัน 796 กิโลเมตร ท่าเรือสำคัญ 2 แห่ง
8. ประวัติศาสตร์
มี3 ยุค
ยุคอาณานิคมสเปน
ยุครัฐชาติสมัยใหม่
ยุคก่อนอาณานิคม