Please enable JavaScript.

Coggle requires JavaScript to display documents.

การพยาบาลผู้ป่วยวิกฤตในระบบหัวใจ และการไหลเวียนโลหิต 5cda228de9ca8 -…

- - - - ยา sodium nitroprusside
        
        ไม่แนะนำให้ใช้ในผู้ป่วย
        ที่มีการทำงานของตับและไตบกพร่อง
      - ไม่แนะนำให้ใช้ยา Nifedipine
        
        เพราะความดันโลหิตอาจลดต่ำลงมากเกินไปจนไม่สามารถควบคุมได้
  - - - sodium
        nitroprusside
        
        ขนาดยาสูงสุดให้ไม่เกิน 10 mcg/kg/min ผสมยาใน D5W และ NSS
        
        ให้
        ยาทาง infusion pump
    - - ไม่ควรลด SBP ลง
        มาต่ำกว่า 120 มม.ปรอท ความดันโลหิต DBP
        ที่เหมาะสม คือ 70-79 มม.ปรอท
    - - เฝ้าติดตามอย่างใกล้ชิดเกี่ยวกับอาการและอาการแสดง
  - - - ปวดศรีษะ
      - การมองเห็นผิดปกติ
      - สับสน
      - คลื่นไส้ อาเจียน
  - - - ยาคุมกำเนิด
      - ยาต้านการอักเสบที่ไม่ใช้สเตียรอยด์
- - - - 3.1 ภาวะช็อกจากการติดเชื้อ (Septic shock)
      - 3.2 ภาวะช็อกจากการแพ้(Anaphylactic shock)
      - 3.3 ภาวะช็อกจากการทำงานผิดปกติของต่อมหมวกไต (Hypoadrenal / adrenocortical shock)
  - - - 1.1 การให้สารน้ำ ได้แก้ Crystalloid solution
        
        เพื่อเพิ่มปริมาตรของสารน้ำในหลอดเลือด
      - 1.2 การให้ยาที่มีผลต่อการบีบตัวของหัวใจ (Inotropic agent)
        
        Dopamine, Dobutamine, Epinephrine Norepinephrine
    - - การให้ยาปฏิชีวนะ
  - - - ดูแลให้ยา
        
        Dopamine, Dobutamine, Epinephrine Norepinephrine
      - ดูแลให้สารน้ำและอิเล็กโตรไลท์ทดแทนตามแผนการรักษา
      - ดูแลจัดท่านอนหงายราบ ยกปลายเท้าสูง 20-30 องศา
      - ประเมินสัญญาณชีพ รวมถึงค่า MAP ทุก 1 ชั่วโมง
    - - ดูแลให้ได้รับยาปฏิชีวนะตามแผนการรักษา
      - ดูแลให้ยา Chlorpheniramine 1 amp V เพื่อ แก้ไขภาวะแพ้
      - ดูแลให้ยาละลายลิ่มเลือดตามแผนการรักษา
      - เตรียมผู้ป่วยเพื่อให้ได้รับการทำ PTCA, CABG
      - ดูแลเตรียมให้ได้รับการตรวจเพื่อหาสาเหตุ
    - - ดูแลให้ได้รับออกซิเจนอย่างเพียงพอ
      - ดูแลทางเดินหายใจให้โล่ง
      - ประเมินภาวะขาดออกซิเจน โดยการติดตามสัญญาณชีพทุก 1 ชั่วโมง
- - - - การเปลี่ยนลิ้นหัวใจในโคโรนารี
      - การขยายหลอดเลือดหัวใจโคโรนารี
      - การรักษาภาวะติดเชื้อ
- - - - โรคหัวใจรูห์มาติก
      - ภาวะหัวใจล้มเหลว
      - โรคหัวใจขาดเลือด
      - ความดันโลหิตสูง
      - เยื่อหุ้มหัวใจอักเสบ
      - ผู้ป่วยหลังผ่าตัดหัวใจ
    - - อ่อนเพลีย
      - เหนื่อยเวลาออกแรง
      - ใจสั่น
      - คลำชีพจรที่ข้อมือได้เบา
    - - ประเมินการเปลี่ยนแปลงของสัญญาณชีพและคลื่นไฟฟ้าหัวใจ
      - สังเกตอาการและอาการแสดงของการเกิดลิ่มเลือดอุดตัน สมอง ปอด แขนและขา
      - ดูแลให้ได้รับยาควบคุมการเต้นของหัวใจ
      - ดูแลให้ได้รับยาต้านการแข็งตัวของเลือด
      - เตรียมผู้ป่วยและอุปกรณ์ในการทำ Cardioversion
      - เตรียมผู้ป่วยในการจี้ด้วยคลื่นไฟฟ้าความถี่สูง (Radiofrequency Ablation)
  - - - อาการเกิดทันที
        
        รู้สึกใจสั่น ความดันโลหิตต่ำ หน้ามืด เจ็บหน้าอก หายใจลำบาก หัวใจหยุดเต้น
    - - ภาวะโพแทสเซียมในเลือดต่ำ
      - โรคหัวใจรูห์มาติก
      - ถูกไฟฟ้าดูด
      - กล้ามเนื้อหัวใจตายบริเวณกว้าง (Myocardial infarction)
      - กล้ามเนื้อหัวใจถูกกระตุ้นจากการตรวจสวนหัวใจ
    - - ร่วมกับแพทย์ในการดูแลให้ได้รับยาและแก้ไขสาเหตุ
      - ในผู้ป่วยที่เกิด VT และคลำชีพจรได้ร่วมกับมีอาการของการไหลเวียนโลหิตในร่างกายลดลง
        
        ทำ synchronized cardioversion
      - คลำชีพจร ประเมินสัญญาณชีพ ระดับความรู้สึกตัว
      - ในผู้ป่วยที่เกิด VT และคลำชีพจรไม่ได้
        
        เตรียมเครื่อง Defibrillator
        
        ทำการช็อกไฟฟ้าหัวใจ
      - นำเครื่อง Defibrillator มาที่เตียงผู้ป่วยและรายงานแพทย์ทันที และเปิดหลอดเลือดดำเพื่อให้ยาและสารน้ำ
      - ทำ CPR ถ้าหัวใจหยุดเต้น
  - - - เกิดทันที
        
        หมดสติ ไม่มีชีพจร รูม่านตาขยาย
    - - เตรียมเครื่งมือ อุปกรณ์และยาที่ใช้ในการช่วยฟื้นคืนชีพให้พร้อมและทำ CPR
        
        การช็อกไฟฟ้าหัวใจทันที และการกดหน้าอก