Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
ผลของการใช้พลังงานต่อชีวิต และสิ่งแวดล้อม - Coggle Diagram
ผลของการใช้พลังงานต่อชีวิต และสิ่งแวดล้อม
1.ระดับปัญหาสิ่งแวดล้อม
ปัญหาสิ่งแวดล้อมระดับประเทศหรือภูมิภาค
เป็นปัญหาสิ่งแวดล้อมที่มีความ รุนแรงค่อนข้างมาก เกิดกับคนหมู่มากในบริเวณกว้าง อาจจะเกิดปัญหาระดับท้องถิ่นมาก ๆ สะสมหรือรวมกัน
ปัญหาสิ่งแวดล้อมระดับโลก
เป็นปัญหาสิ่งแวดล้อมที่มีความรุนแรงมหาศาล กระทบกระเทือนต่อสิ่งมีชีวิต คนและสภาพแวดล้อมทั่วโลก ซึ่งเกิดจากปัญหาระดับท้องถิ่นและระดับภูมิภาคสะสมรวมกันมาก ข้ึนจนยากจะแก้ไข จะแก้ไขได้ตอ้ งมีการร่วมมือกันของคนทั่วโลก
ปัญหาสิ่งแวดล้อมระดับท้องถิ่น
เป็นปัญหาสิ่งแวดล้อมที่มีขนาดความรุนแรงไม่มากนักแก้ไขได้ไม่ยุ่งยากกระทบกระเทือนต่สภาพแวดล้อมในบริเวณใกล้เคียง
ผลกระทบสิ่งแวดล้อมจากพลังงาน
1.ผลกระทบจากขั้นตอนการผลิต
การใช้พลังน้ําเพื่อผลิตกระแสไฟฟ้า
ถึงแม้จะจัดเป็นพลังงานสะอาดและการสร้างเขื่อน กักเก็บน้ําต้องสูญเสียพื้นที่ป่าไม้เพื่อใช้เป็นอ่างเก็บน้ําเหนือเขื่อนราษฎรในพื้นที่น้ําท่วมต้องอพยพย้ายที่ตั้งถิ่นฐานใหม่ สัตว์ ป่าสูญเสียที่อยู่อาศัยหรืออาจสูญพันธุ์ไป แร่ธาตุต่าง ๆ ที่มีอยู่ในพื้นที่อาจถูกทิ้งให้จมอยู่ใต้น้ํา โดยไม่มีโอกาสนําขึ้นมาใช้ประโยชน์อีกเลย
กระบวนการผลิตน้ํามันและก๊าซธรรมชาติ
การขุดเจาะน้ํามันและก๊าซธรรมชาติมักจะประสบปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมบริเวณแหล่งขุดเจาะ เช่น การขุดเจาะที่แหล่งสิริกิติ์ ได้พบปัญหาน้ําโคลน เศษหิน ดินทราย รวมทั้งการ ปนเปื้อนของน้ํามันดิบต่อพื้นที่บริเวณโครงการและพื้นที่ใกล้เคียง
การผลิตไฟฟ้าจากถ่านหินลิกไนต์และน้ํามันเตา
ก่อให้เกิดมลภาวะทางอากาศมาก เถ้าลอยที่เกิดจากการเผาไหม้จะก่อให้เกิดก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์ลอยอยู่ในบรรยากาศและเมื่อรวมตัวกับความชื้นในอากาศตกลงมาเป็นฝนกรด ซึ่งทําลายสภาพนิเวศอย่างกว้างขวาง
2.ผลกระทบสิ่งแวดล้อมจากการใช้พลังงาน
การใช้พลังงานนิวเคลียร์
รังสีที่เกิดจากปฏิกิริยานิวเคลียร์อาจรั่วไหลซึ่งเป็นอันตรายมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ถ้าเกิดการระเบิด ฝุ่นรังสีจะฟุ้งกระจาย ทําอันตรายต่อสิ่งมีชีวิตในทันทีทันใด และเกิดผลกระทบระยะยาว ยิ่งไปกว่านั้นน้ําเสียจากการระบายความร้อนที่ปล่อยออกสู่แหล่งน้ําก็จะทําให้เกิดความเสียหายต่อระบบนิเวศตามมา
การใช้ผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม
การเผาไหม้ปิโตรเลียมจะก่อให้เกิดมลภาวะทางอากาศ โดยการปล่อยไอเสียออกมาจากปล่องควันของโรงงานอุตสาหกรรม โรงจักรไฟฟ้า และจากรถยนต์ สารพิษดังกล่าวคือ ซัลเฟอร์ไดออกไซด์ ก๊าซ คาร์บอนไดออกไซด์ สารไฮโดรคาร์บอน เขม่า และฝุ่นละออง
อุตสาหกรรม
เกิดปัญหาสิ่งแวดล้อมจากการใช้น้ํามันเตาและถ่านหินลิกไนต์ซึ่งมีปริมาณกํามะถันสูง ก่อให้เกิดฝุ่นละออง ก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์ และก๊าซไนโตรเจนออกไซด
การใช้ถ่านหินลิกไนต์
มีทั้งการทําเหมือง และการเผาไหม้เนื่องจากสมบัติและองค์ประกอบของถ่านหินเอง ได้แก่ เกิดน้ําเสียจากบ่อเหมือง น้ํากระด้าง น้ํามีสารแขวนลอย และซัลเฟตสูง เกิดฝุ่นละอองรอบๆ บริเวณเหมือง เมื่อสารใน ฝุ่นละอองตกลงสู่พื้นสะสมอยู่บนผิวดิน ทําให้สิ่งมีชีวิตในหน้าดินเสียสมดุล ปลูกพืชไม่ได้ การทําเหมืองมีการทําลายป่าไม้ เสีย ดุลธรรมชาติ
การคมนาคมขนส่ง
การทํางานของเครื่องยนต์ที่ใช้น้ํามันเบนซินจะปล่อยและควันเสียออกมา เครื่องยนต์ที่มีการเผาไหม้ของเชื้อเพลิงที่ไม่สมบูรณ์ ก่อให้เกิดก๊าซคาร์บอนมอนนอกไซด์ ก๊าซไนโตรเจนออกไซด์ และสารไฮโดรคาร์บอน (HC) ในบรรยากาศ
การใช้กังหันลม
การเกิดมลภาวะทางเสียง เมื่อใบพัดขนาดใหญ่ทํางานจะเกิดเสียงดังมากรบกวนผู้อยู่ใกล้เคียง
การรบกวนคลื่นวิทยุ ซึ่งเกิดจากใบพัดของกังหันที่ส่วนใหญ่ทําจากโลหะ เมื่อกังหันหมุนจะทําให้เกิดการ
รบกวนคลื่นวิทยุ และโทรทัศน์ในระยะ 1–2 กิโลเมตร
ผลต่อทัศนียภาพ เนื่องจากต้องใช้กังหันขนาดใหญ่ อาจบดบังส่วนต่าง ๆ ของพื้นที่ไป
ผลกระทบต่อระบบนิเวศ เมื่อติดตั้งกังหันลมขนาดใหญ่อาจทําให้สิ่งมีชีวิตใกล้เคียงอพยพไปหาที่อยู่ใหม่
เนื่องจากแหล่งอาศัยเดมิ ถกู ทลาย
การใช้พลังงานความร้อนใต้พิภพ
สารเคมีอันตรายที่ละลายปนอยู่อาจปนเปื้อนระบบน้ําบาดาลหรือน้ําผิวดิน เช่น สารหนู ปรอท เป็นต้น
มีก๊าซอันตราย เช่น ไฮโดรเจนซัลไฟด์ และก๊าซอื่นๆ ระเหยออกมาด้วย ก่อให้เกิดผลกระทบต่อระบบทางเดินหายใจ
หากเป็นการตั้งโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่ อาจจะก่อให้เกิดปัญหาการทรุดตัวของแผ่นดินได
มีไอน้ําร้อนที่ใช้ผลิตกระแสไฟฟ้าจํานวนมาก จะทําให้เกิดความร้อนตกค้างในอากาศ ส่งผลกระทบต่อ
ระบบนิเวศที่อยู่ใกล้เคียง
ภาวะโลกร้อน
ผลกระทบจากภาวะโลกร้อน
ด้านเศรษฐกิจ
ธุรกิจท่องเที่ยวทางทะเลที่สําคัญจะสูญเสียรายเนื่องจากชายฝั่งเกิดการกัดเซาะ และแนวประกา รับสูญหายไป ในทวีปเอเชียมีโอกาส 66-90 % ที่อาจเกิดฝนและมรสุมรุนแรง รวมถึงเกิดความแห้งแล้งในฤดูร้อนที่ยาวนาน
ด้านสุขภาพ
ภาวะโลกร้อนขึ้นทําให้เกิดสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมแก่การฟักตัวของเชื้อโรคและศัตรูของพืชที่ เป็นอาหารของมนุษย์บางชนิด โรคเขตร้อนที่มียุงเป็นพาหะนําโรคจะแพร่กระจายไปยังเขตอบอุ่นได้ เชื้อโรคที่ฟักตัวได้ดีใน สภาพร้อนชื้นของโลกจะเพิ่มขึ้นมากในอีก 20 ปีข้างหน้า โรคที่จะมีการติดเชื้อเพิ่มมากขึ้น
ด้านนิเวศวิทยา
ภาวะโลกร้อนทําให้อุณหภูมิของโลกสูงขึ้น ฤดูร้อนจะยาวนานขึ้น ในขณะที่ฤดูหนาวจะสั้นลง ภูเขาน้ําแข็งบริเวณขั้วโลกได้รับผลกระทบ น้ําแข็งละลายอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้ระดับน้ําทะเลเพิ่มขึ้นและไหลสู่มหาสมุทรและ ทะเลอื่น ๆ ทั่วโลก ทําให้เกิดน้ําท่วม แหล่งอาศัยของสัตว์น้ําเปลี่ยนแปลงทําให้สัตว์น้ําบางชนิดอาจไม่สามารถอยู่รอดได
วิธีการแก้ไขและป้องกันภาวะโลกร้อน
การใช้หลอดไฟฟา้แบบคอมแพคฟลูออเรสเซนต์ช่วยประหยัดไฟฟ้าได้มากกว่าหลอดไส้ถึง80%
การใช้ฝักบัวชนิดประหยัดน้ํา (Water Efficient Showerhead) แทนการอาบน้ําแบบตักน้ํา สามารถลด
ปริมาณน้ําได้ถึง 25-75%
ขับรถด้วยความเร็วไม่เกิน 90 กิโลเมตรต่อชั่วโมง จะช่วยลดการใช้น้ํามันลงได้ 20%
ใช้วัตถุดิบ ผลิตภัณฑ์ และอาหารที่ผลิตในท้องถิ่นหรือประเทศ เพราะการขนส่งต้องใช้น้ํามันเป็นเชื้อเพลิงและ
ยังปล่อยคาร์บอนไดออกไซด
ปลูกต้นไม้เพื่อเพิ่มตัวดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์
ใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีสัญลักษณ์ช่วยรักษาสิ่งแวดล้อม เช่น ป้ายฉลากเขียว ป้ายประหยัดไฟเบอร์ 5 และมาตรฐาน
ผลิตภัณฑ์คุณภาพสินค้าเกษตรอินทรีย์ เป็นต้น