Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
ระบบสืบพันธุ์เพศหญิง (Female reproductive system), นางสาวสกุลกานต์ ทาดี …
ระบบสืบพันธุ์เพศหญิง
(Female reproductive system)
หน้าที่
สร้างเซลล์สืบพันธุ์&ฮอร์โมนเพศ
อวัยวะในระบบสืบพันธุ์หญิง
อวัยวะสืบพันธุ์ภายใน
(Internal genitalia)
ประกอบด้วย อวัยวะภายในอุ้งเชิงกราน
รังไข่, ปิกมดลูก, มดลูก, ปากมดลูก, ช่องคลอด
อวัยวะสืบพันธุ์ภายนอก
(External genitaliia)
ประกอบด้วย บริเวณหัวเหน่า แคมใหญ่ แคมเล็ก คลิตอริส
รังไข่ (Ovary)
สร้างเซลล์สืบพันธุ์ ด้านข้างฝังอยู่ใน Broad ligament ตรงกลางเรียก Hilum ตรงข้ามมี Ovarian ligament
โครงสร้าง
1.Cortex : ชั้นนอกบุด้วย Germinal epithelium ในหญิงเจริญพันธุ์พบ Ovarian follicles
2.Medulla : ชั้นในมีโครงสร้างเป็น Loose connective tissue พบแขนงหลอดเลือด หลอดน้ำเหลือง&เส้นประสาท
Ovarian follicle
คือ โครงสร้างที่มีเซลล์สืบพันธุ์เพศหญิง ล้อมรอบด้วย follicular cells
1.Primordial ovarian follicle
Oocyte
2.Primary ovarian follicle
ระยะนี้ Oocyte จะขยายตัวจนหนา ปรากฎ Membrane เรียก zona pellucida
3.Secondary ovarian follicle
ระยะนี้ Follicularis ที่อยู่รอบ Oocyte จะหลั่งของเหลวมาแทรกระหว่างเซลล์ ทำให้เกิดแอ่ง เรียก Antrum
4.Mature ovarian follicle
มีการดันของ Oocyte ไปทางด้านหนึ่ง จนมองเห็น Oocyte ที่ล้อมรอบอยู่ที่เป็นเนินนูน เรียก Germ hill
การเจริญของเซลล์ไข่
(Maturation of oocyte / Oogenesis)
เริ่มจาก Primodial germ cell ไปเป็น Oogonia, Primary oocyte, Secondary oocyte จนถึง Ovum
การเจริญช่วงก่อนคลอด
ตัวอ่อน&รังไข่ เริ่มเจริณจากนั้น Primordial germ cell มีโครโมโซมเป็น 2n & มีการเพิ่มจำนวนแบบ Mitosis แล้วเจริญเป็น Primary oocyte
การเจริญช่วงหลังคลอด
รังไข่ของเด็กหลังคลอด จะมีเซลล์ไข่ระยะ Primary Oocyte เมื่อเข้าสู่วัยสาว Follicular stimulating hormone จากต่อมใต้สมองส่วนหน้า จะมากระตุ้น Primary Oocyte เจริญต่อไปและแบ่งตัวจนเสร็จสิ้น Meiosis I ได้ผลลัพธ์ คือ Secondary oocyte (n) & Polar body เมื่อเกิดกระบวนการตกไข่ ไข่ที่ตกออกมาจะอยู่ในระยะ Secondary oocyte ระหว่างที่ผ่านมาตามปีกมดลูกนั้น Secondary มีการแบ่งตัวแบบ Meiosis II ถ้าเซลล์เป็น Meiosis II แต่ถ้าไม่มีการปฏิสนธิ เซลล์สืลพันธุ์เพศหญิงก็จะสลายไประยะ Secondary ooyte ที่แบ่งตัวค้างอยู่ในขั้น Metaphase I
การตกไข่ (Ovulation)
ประมาณวันที่ 14 ของรอบการมีประจำเดือน จะมีการสร้าง Follicular fluid เพิ่มทำให้เกิดการดันผิวของรังไข่ให้บางลง ทำให้ผิวรังไข่ขาดเลือดขณะเดียวกัน Follicular fluid ที่เพิ่ม จะดันให้ Oocyte หลุด เรียกว่า การตกไข่และไข่ที่หลุดมาจะถูกส่งต่อไปที่ท่อนำไข่ หากไข่ไม่ถูกผสมก็จะสลายไปเป็น Corpus albicans&ฝ่อไปในที่สุด
กระบวนการปฏิสนธิ
(Fertilation)
เกิดจากการผสมกันของ Sperm กับ Ovum ได้เป็น Zygote โดยทั่วไปเกิดที่ Ampulla part ของปีมดลูก
ปีกมดลูก (Uterine tube,
Oviduct, Follopian tube)
ติดต่อระหว่างมดลูกกับรังไข่ ปลายด้านติดกับรังไข่ มีลักษณะบานออกคล้ายปากแตร เรียก Fimbria
Infundibulum : ส่วนปลายด้านที่ติดกับรังไข่ โดยส่วนปลายที่สัมพันธ์อยู่กับรังไข่ มีลักษณะคล้ายนิ้วมือเรียก Fimbria
Ampulla : ถัดจากส่วน Infundibulum เป็นส่วนที่ขยายมีผนังบาง ภายในมีรอยพับตามยาว มักเกิดการปฏิสนธิ
Isthmus : ส่วนคอด แคบสุด มีชั้นของกล้ามเนื้อเรียบที่หนา
Intramural / Intrauterine part : ส่วนที่อยู่ในมดลูก
ปีกมดลูก
1.ชั้นเยื่อเมือก (Mucosa)
ชั้นในสุดบุด้วย Simple columnar epithelium มีและไม่มี cilia เซลล์ที่มี cilia พบมากที่อยู่ใกล้กับรังไข่
หน้าที่ โบกพัดไข่ เมื่อมีการตกไข่/พัดโบกตัวอ่อน หลังการมีปฏิสนธิให้เข้าไปฝังตัวที่โพรงมดลูก
2.ชั้นกล้ามเนื้อ (Muscular layer)
ถัดจากชั้นเยื่อเมือก ประกอบด้วย กล้ามเนื้อเรียบ 2 ชั้น ชั้นในจะเรียงตัวเป็นวงกลม (Inner circular) ชั้นนอกจะเรียงตัวตามยาว (Outer langitudinal) กล้ามเนื้อเรียบทั้ง 2 ชั้นจะหดตัวเป็นจังหวะแบบบีบรูด (Peristalsis) ช่วยการเคลื่อนไหวของไข่/ตัวอ่อนไปยังโพรงมดลูก
3.ชั้นเยื่อหุ้ม (Adventita)
ชั้นนอกสุุด ประกอบด้วย เนื้อเยื่อเกี่ยวพันชนิดหลวม
นางสาวสกุลกานต์ ทาดี
ห้อง 1B รหัสนักศึกษา 64106301100 เลขที่ 28
แหล่งอ้างอิง
https://sites.google.com/site/khrukarnsriboon/rabb-sub-phanthu
https://thai.luxurysocietyasia.com/
https://www.trueplookpanya.com/learning/detail/33938