Please enable JavaScript.

Coggle requires JavaScript to display documents.

สรุปรายละเอียดของโรคที่สามารถป้องกันได้ด้วยวัคซีน โรคในระบบทางเดินหายใจ…

- - - - สาเหตุ▶เชื้อจากการเป็นหวัด ในลำคอ ผ่านทาง Eustachian tube
      - อาการ▶ปวดหูมาก มีไข้ มีหนองในหู ปวด บวมหลังหู หากเป็น เกิน 2 สัปดาห์ ถือเป็น เรื้อรัง
      - การป้องกัน▶ใช้ผ้าสะอาดนุ่มชุบน้ำอุ่นเช็ดในหู ห้ามใช้ไม้พัน
        สำลี ห้ามหยอดยาหรือน้ ามัน ระวังน้ำเข้าหู ใช้ยาต้านจุลชีพ
    - - อาการ▶แน่นจมูก น้ำมูกใสหรือเป็นหนอง กลิ่นเหม็น ภายในช่องจมูก ปวดศีรษะ กดเจ็บที่ไซนัส เด็กเล็ก ผิวรอบ กระบอกตาบวม
      - การป้องกัน▶ลดการคั่งของเลือดในเยื่อบุจมูก ให้ยาลดบวม ยาแอนติฮีสตามีน ให้ยาต้านจุลชีพ การเจาะโพรงจมูกหากใช้ยาไม่ดีขึ้น
      - สาเหตุ▶พบบ่อย เช่น Haemophillus influenza , Strptococcus phnuemoniae
  - - - สาเหตุ▶Adenovirus, C.diptheriae, Group A Beta-hemolytic Streptococcus
      - อาการ▶ต่อมน้ำเหลืองที่ข้างคอด้านหน้า ใต้ขากรรไกร บวมโตและกดเจ็บ
      - การป้องกัน▶ พักผ่อน ดื่มน้ำเยอะๆ
    - - สาเหตุ▶
        แบคทีเรีย : Haemophilus influenza type B , Corynebacterium diptheriae ,Staphylococcus aures
        ไวรัส : Parainfluenza virus type 1,2,3, Adenovirus Measel virus
      - อาการ▶ มีอาการหวัดน ามาก่อน จึงมีการ อักเสบลามท าให้กล่องเสียงอักเสบ หายใจลำบาก ไอก้อง
        เสียงดังมาก หายใจเข้ามีเสียงฮูป เมื่อฟังปอดขณะหายใจเข้ามีเสียง “สไตรดอร์” (stridor)
      - การป้องกัน▶ การรักษา ตามอาการให้ออกซิเจนที่มีความชุ่มชื้น ให้น้ำเพียงพอ ถ้ารุนแรงอาจใส่ท่อหายใจ ให้ยาต้านจุลชีพเมื่อติดเชื้อแบคทีเรีย
    - - สาเหตุ▶เชื้อแบคทีเรียพบบ่อยที่สุดโดยเฉพาะในกลุ่มผู้ป่วย เด็กคือ Hemophilus influenzae type B (HIB)
      - อาการ▶มีอาการรุนแรงรวดเร็ว เริ่มจาก ไข้สูงเจ็บคอ กลืนลำบาก น้ำลายสอ หายใจลำบาก ไม่ไอ มักนั่งแหงนคอ
      - การรักษา▶ ต้องรีบด่วน ใส่ท่อหายใจในหลอดลม ให้ยาต้านจุลชีพ และรักษาตามอาการ
- - - - สาเหตุ▶เกิดได้ทั้งเชื้อไวรัสและแบคทีเรีย พบบ่อยเกิดจาก เชื้อ กลุ่ม adenovirus ได้แก่ Entero virus 70 และ Coxsackie A24
      - การป้องกัน▶ ไม่ใช้มือขยี้ตา ไม่คลุกคลีผู้ป่วยตาแดง
      - อาการ▶ เคืองตาน้ำตาไหล ตาแดงบวม มีขี้ตาหรือเมือกใส
    - - สาเหตุ▶สาเหตุเชื้อแบคทีเรียไนซีเรีย เมนิงไจทิดิส (Neisseria Meningitidis)
      - อาการ▶ผู้ป่วยจะมีไข้สูงทันที ปวดศีรษะมาก อ่อนเพลีย คลื่นไส้อาเจียน เจ็บคอคอแข็ง ปวดเมื่อยกล้มเนื้อปวดข้อ มักมีผื่นเลือดออกใต้ผิวหนัง (petechialrash) ร่วมกับจ้ำเลือดขึ้นตามตัว แขนขา
      - การป้องกัน▶ สวมหน้ากากอนามัย
    - - อาการ▶ เป็นวงขาวหรือสีจาง ขอบไม่ชัด
      - การป้องกัน▶
        ✓ไม่ใกล้ชิดผู้ป่วย หรือใช้สิ่งของร่วมกัน
        ✓สังเกตอาการผิดปกติของผิวหนัง รีบรักษา หากพบว่ามีผื่นเป็นวงสีขาวเกิดขึ้น มีอาการชาที่ผื่น หรือแม้ว่าไม่มีผื่นปรากฏให้เห็น แต่มีความรู้สึกรับสัมผัสที่ผิวหนังลดลง
      - สาเหตุ▶ เชื้อ Mycobacterium leprae
    - - สาเหตุ▶เชื้อรา dermatophyte
      - อาการ▶ กลากลำตัว (Tinea corporis) : เป็นตุ่มแดง ลามออก กลากศีรษะ (Tinea capitis) : ผมร่วงเป็นหย่อมๆ กลากที่ขาหนีบ หรือ สังคัง(Tinea cruris) : เป็นตุ่มแดงๆที่ขาหนีบ กลากที่นิ้วเท้า หรือ ฮ่องกงฟุต (Tinea pedis) กลากที่เล็บ (Tinea unguium)
      - การป้องกัน▶ ไม่ใช้สิ่งของร่วมกับผู้ป่วย รักษาความสะอาดร่างกาย ให้แห้ง ไม่สวมเสื้อผ้าอับชื้น รัดเกินไป
    - - สาเหตุ▶ เชื้อรา Malassezia furfur
      - อาการ▶จะเป็นผื่นและมีขุยอยู่ รอบรูขุมขนผื่นมีทั้งสีจางและสีเข้ม หรือชมพูอ่อนๆ อยู่ต่อกันเป็นแผ่นใหญ่
      - การป้องกัน▶ไม่ใช้สิ่งของร่วมกับผู้ป่วย รักษาความสะอาดร่างกาย ให้แห้ง ไม่สวมเสื้อผ้าอับชื้น รัดเกินไป
    - - สาเหตุ▶เพ็ดดิคูลัส ฮิวแมนนัส คาปิติส (Pediculus humanus capitis) เป็นเหาที่อาศัยอยู่บนศีรษะ เพ็ดดิคูลัส ฮิวแมนนัส ฮิวม์นัส (Pediculus humanushumnus) เป็นเหาที่อาศัยอยู่ตามร่างกาย พธีรัส พิวบิส (Phthirus pubis) เป็นเหาที่อาศัยอยู่ที่อวัยวะสืบพันธุ์ สำหรับประเทศไทยพบเหาที่อาศัยอยู่บนศีรษะ
      - อาการ▶ คัน ระคายเคืองบริเวณหนังศีรษะ
      - การป้องกัน▶ สระผมให้สระอาดเป็นประจำ ไม่คลุกคลี ใช้หวี ผ้าเช็ดตัวร่วมกับผู้ที่เป็นเหา
    - - สาเหตุ▶ เอนเทอโรไวรัส
      - อาการ▶ มีแผลในปาก มีตุ่มแดงบนฝ่ามือ ฝ่าเท้า ลำตัว มีไข้
      - การป้องกัน▶ รักษาสุขอนามัย กินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ สวมหน้ากากอนามัย
    - - สาเหตุ▶ เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย Burkholderia pseudomallei(Psudomonas psudomalle)
      - อาการ▶ มีไข้สูงเป็นเวลานาน แผลฝีหนองที่ปอดตับ หรือม้าม
      - การป้องกัน▶ ใส่รองเท้าบู๊ด ดื่มน้ำต้มสุก หลีกเลี่ยงการรับประทาน อาหารสุกๆ ดิบๆ ทำความสะอาดทันทีหลังสัมผัส ดินและน้ำ
  - - - อาการ▶ ➢เพศชาย หลังรับเชื้อ 2-10 วัน แสบล ากล้องเวลาถ่ายปัสสาวะ ปัสสาวะขัด มีหนองไหลออกมาทางท่อปัสสาวะ เริ่มจากเป็นมูกใสต่อมาเป็นหนองเหลืองข้น พบว่า ร้อยละ 10 ไม่มีอาการ ➢เพศหญิง มีอาการตกขาวเป็นหนอง เหม็น ไม่คัน แสบขัดเวลาปัสสาวะ ไข้สูง หนาวสั่น กดเจ็บแบบปีกมดลูกอักเสบ พบว่า ร้อยละ 50 ไม่มีอาการ
      - การป้องกัน▶ งดการมีเพศสัมพันธ์จนกว่าจะหาย ดูแลทำความสะอาดร่างกายและอวัยวะเพศสม่ำเสมอ
      - สาเหตุ▶ เกิดจากเชื้อเกิดจากแบคทีเรียที่ชื่อว่าไนซ์ซีเรีย โกโนร์เรีย(Neisseria Gonorrhoeae)
    - - อาการ▶มีอาการแสบ ปลายท่อปัสสาวะ มีหนองไหลเป็นมูกใส หรือ มูกขุ่นๆ ไม่เป็น หนอง เพศหญิงอาจไม่มีอาการ ส่วนน้อยมีตกขาว
      - การป้องกัน▶งดการมีเพศสัมพันธ์จนกว่าจะหาย ดูแลทำความสะอาดร่างกายและอวัยวะเพศสม่ำเสมอ
      - สาเหตุ▶Chlamydia
    - - อาการ▶ ระยะที่1 มีแผลตามร่างกาย ระยะที่2 มีผื่นคันตามร่างกาย ระยะที่3 ซื้อยากินโดยไม่ปรึกษาแพทย์
      - การป้องกัน▶ ใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์ ไม่มั่วสุมทางเพศ ไม่ใช้สารเสพเสพติด
      - สาเหตุ▶เกิดจาก เชื้อซิฟิลิส Treponema pallidum
    - - อาการ▶ ลักษณะแผลเปื่อย ขอบไม่แข็งและไม่เรียบ เวลาแตะถูกจะมีเลือดซึม มีหลายแผล ต่อมาต่อมน้ าเหลืองขาหนีบโตติดกันเป็นพืด สีแดงคล้ำและนุ่ม อาจแตกเป็นหนองได้ โตข้างเดียว อาจมีหนาวสั่น ไข้ เบื่ออาหาร
      - การป้องกัน▶ สวมถุงยางอนามัย งดมีเพศสัมพันธ์ ทำความสะอาดบ่อยๆ
      - สาเหตุ▶ ติดเชื้อแบคทีเรียHaemophilus Ducreyi
    - - อาการ▶โดยจะพบตุ่มน้ าใสและแผลเจ็บที่ บริเวณอวัยวะเพศ นอกจากนี้ ผู้ติดโรคบางรายอาจมีไข้และมีต่อมน้ าเหลืองโตได้ โดยเฉพาะบริเวณขาหนีบ
      - การป้องกัน▶สวมถุงยางอนามัย งดมีเพศสัมพันธ์ ทำความสะอาดบ่อยๆ
      - สาเหตุ▶คืออาการติดเชื้อไวรัส Herpes Simplex Virus
    - - อาการ▶ เป็นการติดเชื้อแบบถาวร
      - การป้องกัน▶ แม่ที่ติดเชื้อเอดส์ไม่ควรเลี้ยงลูกด้วยนม ไม่ใช้ของร่วมกับผู้อื่น ใส่ถุงอย่างอนามัยทุกครั้งเมื่อมีเพศสัมพันธ์
      - สาเหตุ▶ เชื้อไวรัส HIV