Please enable JavaScript.

Coggle requires JavaScript to display documents.

การพยาบาลผู้ป่วยพึ่งพาสารเสพติด (Substance - related disorders),…

- - - - Alcohol withdrawal delirium (Delirium Tremens) อาการมักเกิดขึ้นหลังจากหยุดสุราได้ 2-3 วัน และจะรุนแรงมากที่สุดในวันที่ 4-5 เกิดในผู้ที่ดื่มสุราหนักมา 5-15 ปี และมีความเจ็บป่วยทางร่างกายร่วม เช่น อุบัติเหตุ โรคตับ โรคติดเชื้อ
        
        ลักษณะอาการสำคัญ คืออาการ delirium โดยมักเริ่มเป็นตอนเย็นหรือกลางคืน ผู้ป่วยจะมีอาการสับสน ประสาทหลอนเห็นคนจะมาทำร้าย เห็นตำรวจจะมาจับ หรืออาจเห็นเป็นสัตว์ต่าง ๆ รู้สึกว่ามีอะไรมาไต่ตามตัว บางครั้งหูแว่ว เสียงคนพูด เสียงคนข่มขู่ มีท่าทางหวาดกลัว บางครั้งพูดฟังไม่เข้าใจ ร้องตะโกน หรือหลบซ่อนตัว อาการเป็นตลอดทั้งคืน ช่วงเช้าส่วนใหญ่อาการจะทุเลาลง ตอนบ่ายอาการปกติดี ซึ่งเป็นการแกว่งไกวของอาการ (fluctuation) ญาติมักจะคิดว่าหายดีแล้ว แต่พอตกเย็น ผู้ป่วยก็เริ่มกลับมามีอาการอีก
        
        อาการ Alcohol withdrawal แยกจากอาการ Delirium คือ โดยที่ผู้ป่วยไม่มีอาการเพ้อ งุนงง สับสน หรือหลงลืม
      - เกณฑ์มาตรฐานการดื่ม (1 Ounces = 30 ml.)12Ouncesเบียร์ 360 ml. 8 Ounces วิสกี้ บรั่นดี 240 ml.5 Ounces ไวน์ 150 ml.
        
        ระดับของผู้ใช้แอลกอฮอล์
        
        1.Abstinece ไม่ดื่ม
        2.Moderate Drinking
        หญิง มากกว่า1ดื่ม มาตรฐาน/วัน
        ชาย มากกว่า2ดื่ม มาตรฐาน/วัน
        3.Heavy or Excessive Alcohol Use
        หญิง มากกว่า8ดื่ม มาตรฐาน/สัปดาห์
        ชาย มากกว่่า15ดื่ม มาตรฐาน/สัปดาห์
        
        ระดับแอลกอฮอล์ในเลือดที่มีผลต่อพฤติกรรม
        20-50 mgพฤติกรรมเปลี่ยน สนุกสนาน ร่างเริง
        80-100 mg สูญเสียความสามารถในการขับขี่
        100-150 mg ร่างกายทำงานไม่สัมพันธ์กัน สับสน
        200 mg การรับรู้ของประสาททุกด้านลดลง
        300 mg ส่งผลต่อการทำงานของระบบหัวใจ หลอดเลือด อาจรุนแรง ถึงขั้นเสียชีวิตได้
- - - - การซักประวัติการใช้สารเสพติด 1.ชขิดของสารเสพติดที่ผู้ป่วยเคยใช้ 2.วิธีการนำสารเข้าสู่ร่างกาย 3.ปริมาณสารเสพติดที่ใช้ในแต่ละครั้ง 4.ระยะเวลา ความถี่ในการใช้สารและหลังสุดใช้สารเสพติดเมื่อไหร่ 5.สภาพการณ์ที่ผู้ป่วยต้องใช้สารเสพติดนั้นๆ 6.ประสบการณ์ที่เกี่ยวกับอาการต่างๆทางร่างกายและจิตใจ
  - - - เป้าหมาย ไม่กลับไปใช้สารเสพติดซ้ำ
        
        กิจกรรมการพยาบาล
        1.สร้างสัมพันธภาพกับผู้ป่วยโดยแสดงความเห็นอกเห็นใจ เข้าใจ รับฟังผู้ป่วยอย่างตั้งใจ
        2.พูดคุยกับผู้ป่วยถึงเหตุการณ์ที่ผ่านมา ที่เคยทำให้กลับไปใช้ยาซ้ำ และเรียนรู้การมีพฤติกรรมใหม่ที่ไม่ต้องใช้สารเสพติด
        3.ให้กำลังใจผู้ป่วยในช่วงที่หยุดยาได้
        4.สอนทักษะต่างๆในการป้องกันการกลับไปใช้สารเสพติดซ้ำ เช่น เทคนิคการจัดการกับอารมณ์ สนับสนุนให้ผู้ป่วยทำกิจกรรมต่างๆ หากิจกรรมผ่อนคลาย ดูหนัง ฟังเพลง ออกกำลังกาย เล่นดนตรี
        5.อธิบายถึงผลเสียที่จะเกิดขึ้นกับผู้ป่วย หากกลับไปใช้สารเสพติดซ้ำ
  - - - 4.2 ขั้นการถอนพิษยา เน้นการรักษาบำบัดด้วยยา ติดตามการเปลี่ยนแปลงของร่างกายที่เกิดขึ้นขณะหยุดยา ดูแลผู้ป่วยให้ปลอดภัยจากพิษของสารเสพติด และภาวะแทรกซ้อนจากการหยุดใช้ยา
        ใช้เวลาประมาณ 2 สัปดาห์
        
        4.3 ขั้นฟื้นฟูสภาพ เน้นการเสริมสร้างทักษะในการดําเนินชีวิต เพื่อหลีกเลี่ยงการกลับไปใช้สารเสพติดซ้ำ ให้ข้อมูล ความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้อง เกี่ยวกับสาเหตุการติดสารเสพติด แนวทางในการบําบัดรักษา วิธีการที่จะหยุดใช้ยาได้อย่างถูกต้อง ให้ความรู้เกี่ยวกับทักษะในการหยุดยา เทคนิคการหยุดความคิดเพื่อไม่ให้เกิดความอยากยา แยกแยะตัวกระตุ้นที่ทำให้เกิดความอยากยา สนับสนุนให้ผู้ป่วยเรียนรู้ทักษะพื้นฐานต่าง ๆ ในการเลิกยา เรียนรู้ว่าความคิด อารมณ์และพฤติกรรมต่างๆ สามารถเปลี่ยนแปลงได้ พยาบาลและผู้ป่วยร่วมกันหาแนวทางในการปฏิบัติตัวเพื่อเตรียมเผชิญกับตัวกระตุ้นต่าง ๆ พูดคุยกับผู้ป่วยถึงเหตุการณ์ประสบการณ์ต่างๆ ที่ผ่านมาที่เคยทำให้กลับไปใช้สารเสพติด ให้กําลังใจแก่ผู้ป่วยที่หยุดยาได้เพื่อให้เข้าใจ และเห็นถึงผลสําเร็จ ที่เกิดจากความตั้งใจ สอนทักษะต่าง ๆ ในการป้องกันการกลับไปเสพยาซ้ำ สนับสนุนให้ผู้ป่วยมีพฤติกรรมใหม่ที่ต่างจากการใช้สารเสพติดเดิม การออกกาลังกาย การจัดตารางชีวิตใหม่ การมีกิจกรรมนันทนาการใหม่ในชีวิต สนับสนุนให้ผู้ป่วยเรียนรู้โอกาสของการกลับไปใช้ยาซ้ํา อาจเกิดขึ้นได้ แต่เป็นสิ่งที่จะช่วยให้เกิดการเรียนรู้ที่จะป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นอีก ใช้เวลาประมาณ 3 สัปดาห์
        
        4.4 ขั้นของการติดตามหลังการบำบัดรักษา การติดตามให้มาตรวจตามนัด ระยะเวลา 1 ปี และรับประทานยาอย่างต่อเนื่อง สังเกตอาการข้างเคียงของยา หางานอดิเรกทำ หลีกเลี่ยงปัจจัยที่กระตุ้นให้กลับไปเสพยาซ้ำ หากมีความอยากใช้สารเสพติดซ้ำให้มาพบแพทย์ พยาบาล เพื่อขอคำปรึกษาและกลับเข้าสู่กระบวนการบำบัดรักษาอีกครัง