Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การตรวจหัวใจและหลอดเลือด, image, S__18604034, นางสาวสิตานัน พงษ์งาม เลขที่…
การตรวจหัวใจและหลอดเลือด
การดูการทำงานของหัวใจ
- ดูท่าทางผู้ป่วยผู้ปวยที่มีปัญหาโรคหัวใจ เช่น heart failure มักมีปัญหาหายใจไม่สะดวกในขณะนอนราบ (orthopnea)
- ดู Jugular venous pressure โดยให้ผู้ป่วยนอนยกลำตัวสูง 30-40 องศา แลววัดระยะในแนวดิ่งจากสวน sternum angle ถึงจุดสุดยอดของการสั่น (osillation) ที่พบในinternal jugular vein, JV (หรือ external jugular vein หากดูยากจาก IV) ในคนปกติไม่ควรเกิน 2 ซม. ถ้ามากกวานี้แสดงใหเห็นถึงความผิดปกติเช่น หัวใจห้องล้มเหลวหรือมีการอุดตันของการไหลกับของเลือดสู่หัวใจ
- ดูการเต้นของเส้นเลือดที่คอและแขน หากพบเต้นแรงผิดปกติอาจเกิดจากภาวะความดันโลหิตสูง หรือเส้นเลือดแข็งตัวมากกว่าปกติ เช่น ในผู้ปวยสูงอายุ
- ดูสีของเยื่อบุตาและเล็บว่ามีภาวะเขียว (cyanosis) หรือไม่ซึ่งมักจะพบในผู้ป่วยโรคหัวใจพิการแตกำเนิด ภาวะเขียวดูได้จากบริเวณ เยื่อบุในตา เล็บ ซึ่งผู้ป่วยอาจมีลักษณะนิ้วปุ่มร่วมด้วย (clubbing of fingers and toes)
การฟังเสียงหัวใจ
- เสียงการเต้นของหัวใจสามารถแยกเป็นหลายเสียง แต่เสียงทั่วไปที่ดังและไดยินชัดเป็นเสียงที่เกิดจากการปิดของลิ้นหัวใจ ไดแก่
เสียงที่1 (S1) เป็นเสียงที่เกิดจากการปิดของลิ้น Mitral และ Tricuspid จะไดยินนำหน้า radial pulseเล็กน้อยหากเราใช้มือจับชีพจรบริเวณข้อมือไปด้วย
เสียงที่2 (S2) เป็นเสียงที่เกิดจากการปิดของลิ้น Aortic และ Pulmonary เป็นเสียงที่ค่อยแต่สูงกว่าเสียงแรก
นอกจากเสียง S1 และ s2 แล้วยังมีเสียงอื่น ๆ ที่เกิดจากทำงานของหัวใจแต่เป็นเสียงที่ฟังได้ค่อนข้างยากหากไม่มีความชำนาญได้แก่ เสียง spit S2 (เกิดจากการปิดของสิ้น Aortic และ Pulmonaryที่ช้ากว่ากันเล็กน้อย) เสียง S3 (เป็นเสียงที่เกิดจากการไหลของเลือดเข้าสู่ ventricle อย่างรวดเร็ว) และเสียง S4 เป็นต้น
-
- เสียงหัวใจผิดปกติที่พบบ่อย ได้แก่ เสียง murmur (เสียงฟด) มักพบในผู้ปวยโรคลิ้นหัวใจรั่ว หรือตีบ หรือผนังหัวใจรั่ว เป็นต้น แบ่งตามช่วงที่ได้ยินเสียงเป็น systolic murmur และ diastolic murmur และแบ่งระดับความดังเป็น 6 ระดับ (grade) ดังนี้
-
-
การเคาะ
- ไม่นิยมใช้ในการตรวจหัวใจเนื่องจากให้ข้อมูลที่น่าเชื่อถือได้น้อย
-
-
-