Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
PBL: Eclampsia, นายวิษณุ ชุ่มเย็น 63019913 - Coggle Diagram
PBL: Eclampsia
5.Action/Nursing care
1.oral airway หรือ mouth gag เพื่อป้องกันไม่ให้กัดลิ้นและความสะดวกในการดูดเสมหะ
และน้ำสาย เพื่อป้องกันการสำลัก
- จัดให้นอนตะแคง ใส่ไม่กั้นเตียงโดยใช้หมอนรองรับ เพื่อป้องกันอันตรายจากการชัก
-
- ดูแลให้ยาระงับชักตามแผนการรักษา
- ประเมินสัญญาณชีพเป็นระยะอย่างต่อเนื่อง
- บันทึกปริมาณสารน้ำเข้าและออกจากร่างกาย
7.สังเกตและบันทึกอาการทางสมอง ได้แก่ ระดับความรู้สึกตัว ขนาดของ Pupil และการตอบสนอง
ต่อแสง การเคลื่อนไหวของลูกตา รวมทั้ง motor และ sensory function
- สังเกตและบันทึกอาการนำของของการชัก ระยะเวลาของการชัก ระยะเวลาที่หยุดหายใจระดับ
ความรู้สึกตัวและพฤติกรรมของสศรีตั้งครรภ์หลังอาการชัก
- รายงานแพทย์ และดูแลให้ได้รับยาระงับการชักตามแผนการรักษา
- ให้งดน้ำและอาหารตามแผนการรักษา
- จัดสิ่งแวดล้อมให้สงบ และลดสิ่งกระตุ้นต่าง ๆ
- ประเมินอัตราการเต้นของหัวใจทารกในครรภ์เป็นระยะการทครัดตัวของมดลูกความก้าวหน้าของ
การคลอดและ การแตกของถุงน้ำคร่ำ หลังการชัก
- เตรียมสดรีตั้งครรภ์เพื่อคลอดตามสถานการณ์ เช่น การคลอดด้วยสูติศาสตร์หัตถการทางช่อง
คลอด หรือการผ่าตัดคลอด
- ดูแลป้องกันการชักช้ำภายหลังคลอด
- ให้การดูแสป้องกันการตกเลือดหลังคลอด
- ดูแลทารกแรกเกิด ซึ่งอาจมีภาวะชาดออกชิเขน คลอดก่อนกำหนด หรือ น้ำหนัก
1.Root cause
-
หมายถึง ผู้ป่วยที่มีภาวะ pre - eclampsia แล้วมีอาการ ชัก เกร็ง หมดสติ ซึ่งเป็นการชักแบบทั้งตัว อาจเกิดได้ตั้งแต่ก่อนเจ็บครรภ์คลอด เจ็บครรภ์คลอก หรือหลังคลอด
สาเหตุ
-
-
-
-
-
sBP³ 140 หรือ dBP³ 90 mmHg; repeat 4 hr.
sBP³ 160 หรือ dBP³ 110 mmHg; repeat within short interval (min)
-
-
มีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ภายในกลุ่มสมาชิกและกลุ่มอื่นๆหรือมารดาที่เคยมีประสบการณ์มาใช้กับผู้รับบริการรายใหม่ ๆ
-
2.Identified
Cerebral vasospasm ร่วมกับ local ischemia, vasogenic edema, endothelial damage, และ
Hypertensive encephalopathy รbวมกับ hyper perfusion, ภาวะ utero-placenta ischemia
ทำให้มีการหลั่งสาร molecules เช่น neurokinin B, inflammatory
cytokines,endothelins,tissue plasminogen activator
-
-
-
ผลต่อทารก
-
-
-
-
-
กรณีที่ได้รับการรักษาด้วย MgSo4 ในระยะคลอด ซึ่งยานี้ผ่านรกไปสู่ทารกได้ทารกแรกเกิดอาจมี
รีเฟล็กส์และการหายใจไม่ดี แต่อาการเหล่านี้จะค่อยๆหายไปภายใน 3-4 วัน
การรักษา eclampsia
- ควบคุมอาการชักและป้องกันการชักช้ำโดยให้ MgSo4 Loading dose ตามด้วย maintenance
dose ควรให้ทางหลอดเลือดดำ
- หากชักในขณะได้ MgSo4 อยู่ก่อน ให้เจาะ Mg level! ทันที ในรายที่มีการเจ็บครรภ์คลอดแล้ว ให้
loadซ้ำได้อีก 2-4 กรัม โดยไม่ต้องรอผล Mg I level
- ให้ยาลดความตันโลหิตเมื่อ systolic BP >/=160 mmHg หรือ diastolic BP >/= 110mmHg
- ป้องกันภาวะแทรกซ้อนในขณะชักและหลังชัก โดยทำให้ทางเดินทายใจโลง oral airway หรือ
mouth gag เตรียมเครื่องดูดเสมหะ งดน้ำและอาหารทางปาก และลดสิ่งกระตุ้น
5 ติดตามและตรวจสอบอาการเปลี่ยนแปลงอย่างใกล้ชิดตลอดเวลา ควบคุมสัญญาณชีพโดยเฉพาะ
การหายใจ ให้ออกซิเจนทาง canular หรือ face mask
- ตรวจสอบภาวะ oliguria หรือ anuria โดยคาสายสวนปัสสาวะ และวัดปริมาณปัสสาวะ
- ไม่ควรใช้ยา diazepam เนื่องจากจะกดระดับความรู้สึก
- Eclampsia ที่มีการเจ็บครรภ์คลอด ห้ามให้า tocolysis ในทุกอายุครรภ์
- เริ่มกระบวนการ augmentation of labor พิจารณาช้วยคลอดด้วยคีมหรือเครื่องดูด
- เฝ้าระวังการตกเลือดหลังคลอด
- ให้ magnesium sulfate ต่อไปจนครบ 24 ชั่วโมงหลังคลอด
-