Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การดูแลหญิงตั้งครรภ์ที่มีโรคติดเชื้อร่วมกับการตั้งครรภ์ shutterstock…
การดูแลหญิงตั้งครรภ์ที่มีโรคติดเชื้อร่วมกับการตั้งครรภ์
เชื้อไวรัสก่อโรค ได้แก่ Herpes simplex virus (HSV) ถ่ายทอดทางการมีเพศสัมพันธ์และถ่ายทอดสู่ทารกโดย ร้อยละ 5 ผ่านทางรก ทำให้เกิดการติดเชื้อแต่กาเนิด ร้อยละ 85 ถ่ายทอดในระยะคลอดที่ปากมดลูกหรือช่องคลอด เมื่อถุงน้ำคร่ำแตกหรือระหว่างการคลอด และร้อยละ 10 ถ่ายทอดในช่วงหลังคลอด
อาการและอาการแสดง
เมื่อเชื้อเข้าสู่ร่างกาย ในรายที่ไม่เคยได้รับเชื้อมาก่อน จะมีระยะฟักตัว 3 -6 วัน แล้วจึงมีอาการแสดงคือ มีตุ่มคัน เจ็บ และกลายเป็นตุ่มใส ต่อมาตุ่มจะแตกออกกระจายทั่วอวัยวะเพศ อาจมีไข้ต่าๆ คล้ายหวัด คือมีไข้ อ่อนเพลีย ปวดเมื่อยตามร่างกาย พบต่อมน้ำเหลืองที่ขาหนีบโตอาการจะอยู่ประมาณ 2 -4 สัปดาห์ ในรายที่มีการติดเชื้อซ้าจะมีระยะฟักตัว 7 -10 วัน ระยะการแพร่เชื้อจะสั้นกว่าและหายเร็วกว่ารายที่ได้รับเชื้อครั้งแรก การกลับเป็นซ้ำมักเป็นตาแหน่งเดิมเช่น เกิดตุ่มหนองที่ตำแหน่งเดิม แต่จะมีอาการรุนแรงน้อยกว่า
ผลของโรคต่อการตั้งครรภ์
-
-
มีรอยโรคที่อวัยวะเพศมีโอกาสติดเชื้อสูง ร้อยละ 30 50 อาจมีการแพร่กระจายเชื้อทั่วร่างหรือมีพยาธิสภาพเฉพาะที่ เช่น ระบบประสาทส่วนกลาง ตา ผิวหนัง หรือเยื่อบุต่างๆ
-
การดูแลรักษา
- ระยะก่อนคลอด ถ้าเป็นการติดเชื้อครั้งแรก ให้ยาต้านไวรัสจะช่วยลดระยะเวลาของการมีอาการ ลดการแพร่กระจายเชื้อและลดเวลาในการให้ยา แต่ถ้าเป็นการติดเชื้อหรือเกิดโรคซ้ำให้การรักษาตามอาการ ในรายที่มีประวัติการติดเชื้อเริมหรือมีอาการระหว่างการตั้งครรภ์ ให้ยาต้านไวรัสตั้งแต่อายุครรภ์ 36 สัปดาห์ จนคลอด เพื่อลดระยะการแพร่กระจายของเชื้อไวรัส
- ระยะคลอด สามารถคลอดทางช่องคลอดได้ แต่ถ้ามีอาการการติดเชื้อครั้งแรกที่อวัยวะเพศในไตรมาสที่ 3 ของการตั้งครรภ์ มีรอยโรคที่อวัยวะเพศในช่วงเวลาคลอด หรือมีอาการแสบ คันที่อวัยวะเพศภายนอก แนะนาให้ผ่าตัดคลอด
- ระยะหลังคลอด ในรายที่มีรอยโรคที่เต้านม ควรเลี่ยงการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ แต่ถ้ามีรอยโรคที่อื่น สามารถให้นมได้ และระวังทารกไม่สัมผัสกับรอยโรค
โรคซิฟิลิส
ผลของโรคต่อการตั้งครรภ์
- ผลต่อมารดา แท้งบุตร น้ำคร่ำมาก คลอดก่อนกาหนด รกมีขนาดใหญ่และซีด เสี่ยงตกเลือดหลังคลอด
ทารกแรกเกิดน้ำหนักน้อย DFIU เกิดความผิดปกติ เช่น การติดเชื้อซิฟิลิสแต่กำเนิด (มีอาการมีผื่น น้ามูก ตับโต ม้ามโต ดีซ่าน ต่อมน้าเหลืองโต กระดูกและกระดูกอ่อนอักเสบ จอประสาทตาอักเสบ
เกิดความพิการต่อทารกได้เมื่อติดเชื้อหลังการตั้งครรภ์ 18 สัปดาห์ ถ้าเป็นในระยะที่ 1 2 และระยะแฝงตอนต้น จะเกิดการติดเชื้อแต่กาเนิดได้ร้อยละ 40 50
เชื้อก่อโรค ได้แก่ Treponema Pallidum ติดต่อทางการมีเพศสัมพันธ์ แพร่เชื้อจากมารดาสู่ทารกได้ผ่านทางรกได้ตั้งแต่อายุครรภ์ 6-10 สัปดาห์ และการสัมผัสรอยโรคโดยตรงในช่วงการคลอด
อาการและอาการแสดง
ระยะที่ 1
มีแผลริมแข็ง (chancre) ที่อวัยวะเพศหรือทวารหนัก ลักษณะเป็นตุ่มนูนแดง เรียบ ขอบแข็งไม่เจ็บ อาจมีต่อมน้ำเหลืองที่ขาหนีบโต หายเองใน 2 -8 สัปดาห์
ระยะที่ 2
ระยะนี้เชื้อแพร่ไปตามกระแสเลือด มี เกิดขึ้นหลังจากมีแผลริมเข็ง 4- 10 สัปดาห์ มีผื่นแดงตามลำตัว ฝ่ามือฝ่าเท้า ตุ่มนูนแดง ผิวมัน ที่บริเวณอวัยวะเพศ อ่อนเพลีย ปวดเมื่อยตามตัว มีต่อมน้ำเหลืองโต อาจพบอาการของเยื่อหุ้มสมองอักเสบ ตับอักเสบ ความผิดปกติของไต การติดเชื้อที่ตา และเยื่อหุ้มกระดูกได้
-
การดูแลรักษา
- ควรรักษาก่อนอายุครรภ์ 16 สัปดาห์ การรักษาโรคระยะแรก
-
2.นัดฝากครรภ์เพื่อติดตามอาการตามปกติ และตรวจ titer เดือนละครั้งจนคลอด และตรวจต่อ ระยะ 3, 6, 12 เดือนหลังคลอด หากพบ titer เพิ่ม 4 เท่า มีอาการและอาการแสดงของซิฟิลิส จะเริ่มการรักษาใหม่
-
-
หูดหงอนไก่
(condyloma accuminata)
อาการและอาการแสดง
การติดเชื้อ HPV มักไม่มีอาการ แต่จะพบเป็นตุ่มก้อนคล้ายดอกกะหล่ำที่บริเวณอวัยวะเพศและทวารหนัก อาจพบในช่องคลอดและปากมดลูกร่วมด้วย
-
ผลของโรคต่อการตั้งครรภ์
ถ้ามีจำนวนมากและมีขนาดใหญ่ บางรายใหญ่มากจนเต็มช่องคลอดและออกมาบดบังอวัยวะเพศภายนอก อาจขัดขวางการคลอดและการตัดฝีเย็บ ทารกอาจได้รับเชื้อขณะคลอดทางช่องคลอด บางรายอาจเกิดเนื้องอกในกล่องเสียง ทารกที่เป็นโรคนี้ อาจมีอาการตั้งแต่แรกเกิดจนถึงขวบปีแรก ความรุนแรงแตกต่างกัน ตั้งแต่มีเสียงแหบ จนถึงมีการอุดกั้นของระบบทางเดินหายใจส่วนบน
การดูแลรักษา
ในช่วงตั้งครรภ์ใช้กรด Trichloracetic acid (TCA) สัปดาห์ละครั้งจนกว่ารอยโรคจะหาย หลังคลอดมักจะดีขึ้น การคลอดสามารถคลอดทางช่องคลอดได้ อาจพิจารณาผ่าตัดกรณีหูดมีขนาดใหญ่มากขัดขวางช่องทางคลอดและอาจทำให้มีแผลหรือเลือดออกมาก
การพยาบาล
ระยะตั้งครรภ์
- อธิบายสตรีตั้งครรภ์และครอบครัวเกี่ยวกับโรคและภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้น การแพร่กระจายเชื้อ แผนการรักษา
- ติดตามผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการ อาการและอาการแสดง/รอยโรค ทุกครั้งที่มาฝากครรภ์
-
-
• สังเกตอาการผิดปกติของโรค เช่น มีผื่น ตุ่มน้ำ ปัสสาวะมีหนองปน ต่อน้ำเหลืองบริเวณขาหนีบโต ปัสสาวะลำบาก ให้พบแพทย์
-
-
ระยะคลอด
- ระยะคลอดระวังตุ่มน้ำบริเวณแผลและอวัยวะเพศแตก ระวังถูกน้ำคร่ำแตกก่อนกำหนด
- ภายหลังศีรษะทารกคลอดควรรีบเช็ดตาทารกให้สะอาดทันที เช็ดเลือด/สารคัดหลั่งจากตัวทารกให้มากที่สุด
- ป้ายตาทารกด้วย 1% terramycin ointment
ระยะหลังคลอด
- แยกของใช้มารดาทารกที่มีการติดเชื้อ ไม่ใช้ปะปนกับรายอื่น
- ในรายที่หัวนมเต้านมปกติ สามารถให้นมแม่ได้ เน้นรักษาความสะอาดร่างกาย ล้างมือ ก่อน หลังสัมผัสทารก ระวังสัมผัสรอยโรค
- เน้นการมาตรวจตามนัดทั้งมารดาทารก
เชื้อก่อโรค คือ HPV ชนิด low oncogenic risk ได้แก่ สายพันธุ์ 6, 11, 42, 43, 44 ติดต่อทางเพศสัมพันธ์หรือการสัมผัสเชื้อโรคโดยตรงและทางเพศสัมพันธ์
-
จัดทำโดย พันจ่าอากาศเอกเจนภพ ตามสัตย์ เลขที่ 17