Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การเปลี่ยนแปลงทางธรณีวิทยาบนผิวโลก 2/9, การกัดเซาะ, การกร่อน, การผุพัง…
-
การกัดเซาะ
-1. การที่กระแสน้ำกัดเซาะบริเวณริมฝั่งคลอง แม่น้ำ ลำธารจนพังทลายไป เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เปลือกโลกมีการเปลี่ยนแปลงช้าๆโดยรูปร่างของแม่น้ำ ลำธารจะมีผลต่อการไหลของน้ำและการทับถมของตะกอน
- ในบริเวณที่แม่น้ำไหลเป็นเส้นตรง น้ำในบริเวณกึ่งกลางของแม่น้ำจะไหลได้เร็วกว่าบริเวณริมตลิ่ง การทับถมจึงเกิดขึ้นตามริมแม่น้ำ ซึ่งน้ำเคลื่อนตัวไปได้อย่างช้าๆ
- ในบริเวณที่เป็นทางเลี้ยวโค้งแม่น้ำ น้ำจะไหลเร็วตามทางโค้งด้านนอก เกิดการกัดเซาะของแม่น้ำเข้าไปยังริมตลิ่ง ส่วนตะกอนถูกทับถมในทางโค้งด้านในซึ่งเป็นบริเวณที่น้ำไหลช้า
-
-กระแสน้ำจะกัดเซาะเปลือกโลกให้สึกกร่อนพังทลายลงมา และพัดพาเอาชิ้นส่วนต่างๆ ที่หลุดออกมาให้เคลื่อนที่ไป และเกิดการสะสมทับถมดังนี้
การกร่อน
-
การกร่อน คืออาการของกระบวนการที่ทำให้พื้นผิวดิน หิน หลุดออก หรือทำละลายออกจากตำแหน่งใด ๆ ของเปลือกโลก ให้เคลื่อนย้ายไปสู่ตำแหน่งอื่น ๆ
การผุพัง (Weathering) คือ กระบวนการเปลี่ยนแปลงลักษณะทางกายภาพของหินบนพื้นผิวโลก ไม่ว่าจะเป็นการแตกหัก ผุพัง หรือยุบสลายของหินจาก :ปัจจัยต่าง ๆ ในธรรมชาติหรือจากการกระทำของมนุษย์ ซึ่งนับเป็นกระบวนการแรกเริ่มของการก่อกำเนิดดินและการเจริญงอกงามของสิ่งมีชีวิตต่าง ๆ
-
การผุพังอยู่กับที่ (Weathering) หมายถึง การที่หินผุพังทำลายลงด้วยกรรมวิธีต่างๆ จากลมฟ้าอากาศกับน้ำฝน รวมทั้งการกระทำของต้นไม้กับแบคทีเรียตลอดจนการแตกตัวทางกลศาสตร์ มีการเพิ่ม-ลดอุณหภูมิสลับกัน เป็นต้น สาเหตุของการผุพังอยู่กับที่ ได้แก่ ความร้อน ความเย็น น้ำ น้ำแข็ง แก็สออกซิเจนและแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ในชั้นบรรยากาศ
-
-
-
-
-
-
-
-
-
-
-
ซึ่งโดยมากคือน้ำ เมื่อละลายแล้วได้รับการพัดพาไปสู่ตำแหน่งใหม่ การกร่อนทั้งสองรูปแบบนี้เป็นผลให้สสารเคลื่อนย้ายตำแหน่งไป ในระดับมิลลิเมตร จนถึงหลายพันกิโลเมตร
การกร่อนของดิน

การกร่อนของหิน

รูปการกัดเซาะของน้ำ

การกัดเซาะชายฝั่งน้ำทะเล
