Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
ระบบย่อยอาหาร (Digestive system) - Coggle Diagram
ระบบย่อยอาหาร
(Digestive system)
1.ท่อทางเดินอาหาร (Gastrointestinal tract)
ปาก (Mouth)
(The Mouth, Oral Cavity)
คอหอย (Pharynx)
หน้าที่
1.ช่วยในการทำให้เกิดเสียง
2.เป็นทางผ่านของอาหารจากปากไปสู่หลอดอาหาร
หลอดอาหาร (Esophagus)
ยาวประมาณ 10-12 นิ้ว
เริ่มจากปลาย laryngopharynx และลอดผ่าน
กะบังลมทางรูเปิดที่เรียกว่า esophageal hiatus
สิ้นสุดโดยเข้าสู่ส่วนบนกระเพาะอาหาร
หน้าที่
เป็นทางผ่านของอาหารท่ีเคี้ยวแล้ว โดยการบีบตัวเป็นคลื่น ของหลอดอาหารให้ส่งอาหารไปสู่ กระเพาะอาหาร โดยการกระตุ้นของ เส้นประสาทสมองคู่ที่ 10
หลอดอาหารจะพบตําแหน่งรอยคดอยู่ 3 แห่งได้แก่
Upper esophageal constriction
(Cervical constriction)
Middle esophageal constriction
(Broncho-aortic constriction)
Lower esophageal constriction
(Diaphragmatic constriction)
กระเพาะอาหาร (Stomach)
กระเพาะอาหารแบ่งเป็น 4 ส่วน
▪Cardia เป็นส่วนต่อมาจากหลอดอาหาร
▪Fundus เป็นส่วนโค้งด้านบนสุดของกระเพาะอาหาร
▪Body เป็นส่วนกลางของกระเพาะอาหาร
▪Pylolus เป็นส่วนปลายของกระเพาะอาหารก่อนเข้า ลำไส้เล็กส่วนต้น
หน้าที่
-เป็นที่พักและกักเก็บอาหาร
-สร้างเอนไซม์และขับน้ำย่อย (Gastricjuice)
-คลุกเคล้าอาหารให้ผสมกับน้ำย่อย
ลําไส้เล็ก (Smallintestine)
เริ่มตั้งแต่ pyloric sphincter ไปจนถึง ileocaecalvalve
จึงเปิดเข้าสู่ลําไส้ใหญ่
ลําไส้เล็กแบ่งเป็น 3 ส่วน
ลําไส้เล็กส่วนต้น (Duodenum)
ยาวประมาณ 10 นิ้ว
เริ่มจาก pyloric sphincter ไปจนถึง
duodenojejunal flexure
ลําไส้เล็ส่วนกลาง (Jejunum)
ยาวประมาณ 8 ฟุต
มีการดูดซึมไขมัน และ B12 มาก
ลําไส้เล็กส่วนปลาย (Ileum)
ยาวประมาณ 12 ฟุตเป็นส่วนที่มีการ ดูดซึมมากที่สุดติดต่อกับลําไส้ใหญ่ ส่วนต้น บริเวณ ileocaecal vavle
ผนังของลำไส้เล็กมี 4 ชั้นคือ
Mucosa
Submucosa
Muscularis
Serosa
หน้าที่
-หลั่งน้ำย่อย
-เคลอื่นไหวเพื่อคลุกเคล้าอาหารให้ผสมกับน้ำย่อยต่างๆและทําให้อาหาร เคลื่อนที่ไปตามท่อของลําไส้เล็ก
ลําไส้ใหญ่ (Large intestine)
ยาวประมาณ 1.5 เมตร
เริ่มตั้งแต่ลําไส้ใหญ่ส่วน Cecum ไปจนถึง Anus
ลำไส้ใหญ่แบ่งออกเป็น
Cecum
พบ Ileocecal vale ,Vermiform appendix
Colon
1) Ascending colon
2) Transverse colon
3) Descending colon
4) Sigmoid colon
Rectum
ต่อจาก Sigmoid colon เร่ิมต้นจาก S3
ผนังของลําไส้ใหญ่ มี 4 ช้ันคือ
Mucosa ไม่มี villi และ มี goblet cells จํานวนมาก
Submucosa
Muscul aris พบ taeniae coli แรงตึงตัวทำให้ เกิด hau stra
Serosa ผนังนี้มีไขมันมาสะสมเป็นติ่งไขมันเรียกว่า epiploic appendage
หน้าที่
-ดูดน้ําและสารละลายบางอย่างกลับเข้าสู่ร่างกาย เพื่อให้เกิดความสมดุลระหว่างน้ำกับสารละลายภายในร่างกาย
-ขับถ่ายกากเหลือจากการย่อยอาหาร
ทวารหนัก (Anus)
มีกล้ามเนื้อท่ีสําคัญ 2 มัด
Internal anal sphincter (smooth muscle)
External anal sphincter (skeletal muscle)
โครงสร้างของผนังท่อทางเดินอาหาร
แบ่งออกเป็น 4 ชั้น
ช้ันเยื่อเมือก(Mucosa)
ช้ันใต้เยื่อเมือก(Submucosa)
ช้ันกล้ามเนื้อเรียบ
(Muscularis externa)
Serosa(Adventitia)
2.อวัยวะเสริมในย่อยอาหาร (Accessory digestive organs)
ฟัน (Teeth)
ตัวฟัน (Crown)
คอฟัน (Neck)
รากฟัน (Root)
หน้าที่
-ช่วยในการทําเสียงเวลาพูด
-ช่วยรักษาขนาดและรูปร่างของขากรรไกร
-ช่วยในการเคี้ยวอาหารและบดอาหาร
ฟันในคน มี 2 ชุด เรียก dentation
ฟันน้ำนม (Deciduous teeth) เป็นฟันชุดแรกมี 20 ซี่ เริ่มงอกอายุประมาณ 6 เดือน
ฟันชุดที่ 2 ฟันแท้ (Permanent teeth) มีจํานวน 32 ซี่ เริ่มงอกอายุประมาณ 6 ปี
ลิ้น (Tongue)
หน้าที่
-คลุกเคล้าอาหารช่วยในการกลืนและช่วยในการออกเสียง
-รับรสอาหารชนิดต่างๆได้โดยมีต่อมรับรส (Taste bud)
กล้ามเนื้อของลิ้น
Extrinsic muscles of tongue ได้แก่กล้ามเนื้อทม่ีจุดเกาะต้นจากที่อื่นนอกลิ้น และ มาเกาะที่เนื้อเยื่อเกี่ยวพันของลิ้น
Genioglossus
Hyoglossus
Styloglossus
Palatoglossus
Intrinsic muscles of tongue ได้แก่ กล้ามเนื้อ ที่มีต้นกําเนิดและเกาะที่เนื้อเยื่อเกี่ยวพัน ภายในลิ้นกล้ามเนื้อเหล่านี้มีการเรียงตัว 3 แนว
longitudinal (superior & inferior)
transverse
vertical muscles
ต่อมน้ำลาย (Salivary glands)
มีหน้าที่สร้างนํ้าลาย (saliva) และถูกขับออกมาเข้าไปในช่องปาก แบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม ใหญ่ๆ
Minor salivary glands
Major salivary glands
ต่อมน้ำลายข้างกกหู (Parotid Gland)
ผลิตน้ำลายที่มีลักษณะเป็นน้ำใส
25 % ของน้ำลายทั้งหมด
ต่อมน้ำลายใต้ลิ้น (Sublingual Gland)
ผลิตน้ำลายที่มีลักษณะเป็นน้ำใสปนเมือกเหนียว
70 % ของน้ำลายทั้งหมด
ต่อมน้ำลายใต้ขากรรไกรล่าง (Submandibulary Gland)
ผลิตน้ำลายที่มีลักษณะข้น
5 % ของน้ำลายทั้งหมด
ตับ (Liver)
ตั้งอยู่บริเวณชายโครงขวา (rib 5-10) และมีกะบังลมคลุมอยู่ ยื่นผ่านแนวกลาง ลําตัวไปทางด้านซ้าย
ลักษณะของตับ แบ่งออกเป็น 4 กลีบ
-Left and Right lobe
-Caudate and Quadrate
ลักษณะทางจุลกายวิภาคของตับ
-เนื้อตับประกอบด้วยหน่วยโครงสร้างพื้นฐานเรียกว่า hepatic lobule
-ประกอบด้วย Centralvein เป็นจุดศูนย์กลาง
-ตรงมุมหกเหลี่ยมโครงสร้าง เรียกว่า portal triad
ภายในตับประกอบด้วยเซลล์ 2 ชนิด
1.Livercell หรือ hepatocytes ทําหน้าที่สร้างน้ำดีและขับออกที่ช่องแคบๆเรียก bilecanaliculi
2.Kuffercellบุอยู่ใน sinusoid ทําหน้าที่เก็บกินเม็ดเลือดแดงที่หมดอายุและแบคทเรียที่ปนมากับเลือด
หน้าที่
-ช่วยเผาผลาญสารอาหารต่างๆ
-กําจัดและทําลายพิษของยาและฮอร์โมนบางชนิดเช่นpenicillin,estrogrn,thyroxine
-สร้างน้ำดีขับออกสู่ลําไส้เล็ก สําหรับย่อยและดูดซึมสารอาหารพวกไขมัน
Ligaments/Peritoneal Attachments of the Liver
Coronary ligament
ยึดผิวด้านบนของตับไว้กับกะบังลม
Falciform ligament
ยึดผิวด้านหน้าของตับไว้กับกะบังลมและผนังหน้าท้อง
Round ligament of liver (ligamentum teres hepatis)
ยึกระหว่างตับกับสะดือซึ่งเป็นส่วน เหลือของ
umbilical vein ในตัวอ่อน
Lesser omentum
ยึดขั้วตับไว้กับกระเพาะอาหารและลําไส้เล็กส่วนต้น
ถุงน้ำดี (Gallbladder)
วางตัวอยู่ตามขอบข้างขวาของ quadrate lobe ทําหน้าท่ีทําให้น้ำดีที่คัดหลั่งจากตับเข้มข้นขึ้น เพื่อปล่อยลงสู่ลําไส้เล็กทาง common bile duct
-มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 4 ซม.
-มีความยาวประมาณ 7-10 ซม
-มีความจุถึง 30-60 มล.
ถุงน้ำดีแบ่งออกเป็น 3 ส่วน
Fundus
Body
Neck
ระบบทางเดินน้ำดีประกอบด้วย
-Common hepatic duct
-Cystic duct
-Common bile duct
ตับอ่อน(pancreas)
วางตัวอยู่ในกระดูกสันหลัง ระดับ L1-L2
หน้าที่
-สร้างน้ำย่อย (pancreaticjuice)
-สร้าง glucagon และ insulin
แบ่งออกเป็น 3 ส่วนคือ
Head,Body,Tail
ท่อของตับอ่อน
Main pancreatic duct ไปรวมกับ common bile duct รวมเป็น hepatopancreatic ampulla แล้วเปิดเข้าสู่ลําไส้เล็กทาง Major duodenal papilla
2.Accessorypancreaticductเปิดเข้าสู่ลําไส้เล็ก
ทาง Minor duodenal papilla
จุลกายวิภาคของตับอ่อน
-เนื้อต่อม1% เป็น Pancreatic islets(islets of Langerhans)
-สร้าง glucagon, insulin
•เนื้อต่อมส่วนที่เหลือเป็น Acini cell ทําหน้าท่ีสร้างน้ำย่อยของตับอ่อน (Pancreatic Juice) ประกอบด้วย
-โซเดียมไบคาร์บอเนต (NaHCO3)
-น้ำย่อยอะไมเลส (Amylase)
-น้ำย่อยลิเพส (Lipase)
เยื่อบุช่องท้อง (Peritoneum)
ช้ันนอก (Parietal peritoneum)
คือ เยื่อบุช่องท้องท่ีติดกับผนังช่องท้องด้านใน
ช้ันใน (Visceral peritoneum)
คือ เยื่อบุช่องท้องส่วนหุ้มอวัยวะต่างๆในช่องท้อง
มีชื่อเรียกแตกต่างกันออกไป
หน้าที่
-สร้าง Peritoneal fluid มาหล่อลื่นเพื่อลดแรงเสียดทานเมื่ออวัยวะภายในมีการเคลื่นนไหว
-ป้องกันการกระจายของเชื้อโรค
-แขวนอวัยวะต่างๆให้คงอยู่ในตําแหน่งและเป็นที่เกาะของหลอดเลือด หลอดน้ำเหลืองและเส้นประสาท