Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การพยาบาลผู้ป่วยที่มีความผิดปกติระบบทางเดินอาหารทางเดินน้ำดี ตับและตับอ่อน…
การพยาบาลผู้ป่วยที่มีความผิดปกติระบบทางเดินอาหารทางเดินน้ำดี ตับและตับอ่อน
ีฝีในตับ
(Liver Abscesses)
คือหนองในตับที่มีอาการติดเชื้อในรูขนาดเล็ก ตับเป็นอวัยวะสำคัญที่ทำหน้าที่หลายประการ เช่น กักเก็บพลังงานและโปรตีน รวมทั้งกำจัดสารพิษออกจากร่างกาย เมื่อมีการติดเชื้อปรสิตที่ตับ อาจเกิดรูเล็กๆ และเกิดหนองขึ้น
อาการ มีไข้ หนาวสั่น ปวดท้อง โดยเฉพาะใต้ชายโครงด้านขวา อาจมีอาการได้เป็นสัปดาห์ เป็นเดือน ก่อนมาหาหมอ บางคนมีอาการไข้ติดต่อกันเป็นอาทิตย์ โดยไม่มีปวดท้องเลยก็มีครับ
สาเหจตุ เกิดจากเชื้ออะมีบาที่มีชื่อว่า เอนตามีบา ฮิสโตไลตาคา (Entamoeba histolytica) ซึ่งทำให้เกิดโรคบิดอะมีบา เชื้อนี้เข้าไปทำให้เกิดฝีในเนื้อตับ จึงมักเรียกว่า ฝีบิดในเนื้อตับ มักเป็นฝีหัวเดียว หลายหัวพบได้น้อย ระยะฟักตัวไม่แน่นอน ผู้ป่วยอาจมีประวัติเป็นบิดอะมีบามาก่อนในระยะใกล้ ๆ หรืออาจนานเป็นปีหรือสิบ ๆ ปี บางคนอาจไม่มีประวัติเป็นบิดมาก่อนเลยก็ได้
การรักษา รักษาด้วยยาฆ่าเชื้อ รักษาตามอาการ เช่น ให้น้ำเกลือถ้ามีภาวะขาดน้ำ บำรุงด้วยอาหารพวกโปรตีนหากสงสัยว่ามีภาวะขาดโปรตีน เป็นต้น
แผลฉีกขาดที่ทวารหนัก (Anal fissure)
รอยฉีกหรือแผลเปิดขนาดเล็กที่เกิดขึ้นบริเวณเยื่อบุทวารหนัก โดยมักทำให้มีอาการปวดทวารหนักและมีเลือดออกเมื่อถ่ายอุจจาระ หรืออาจมีอาการกล้ามเนื้อหูรูดทวารหนักกระตุกด้วย ซึ่งแผลนี้อาจเกิดจากการขับถ่ายอุจจาระที่แข็งหรือมีก้อนใหญ่ มักพบได้บ่อยในเด็กทารก อาจรักษาได้โดยเพิ่มการรับประทานอาหารที่มีไฟเบอร์หรือนั่งแช่ในน้ำ แต่บางรายก็อาจต้องใช้ยารักษาหรือการผ่าตัดเข้าช่วย
สาเหตุ ส่วนใหญ่โรคแผลขอบทวารเกิดจากการเบ่งถ่ายอุจจาระอย่างรุนแรงจากอาการท้องเสียหรือท้องผูก ในรายที่แผลลึกอาจบาดกล้ามเนื้อหูรูดทวารหนักชั้นใน และเกิดการอักเสบ กล้ามเนื้อหูรูดเกร็งส่งผลให้เลือดเข้ามาเลี้ยงแผลได้น้อย แผลหายยาก และกลายเป็นแผลเรื้อรังในที่สุด สำหรับผู้ป่วยที่เป็นแผลขอบทวารชนิดเรื้อรัง (เป็นมานาน) อาจพบมีการบวมอักเสบจนกลายเป็นติ่งเนื้อ (Sentinel Pile) บริเวณขอบแผลได้ อย่างไรก็ตามติ่งเนื้อลักษณะคล้ายคลึงกันอาจพบได้ในสตรีหลังคลอดบุตร โรคมะเร็ง วัณโรค ซิฟิลิส ลำไส้อักเสบ เป็นต้น
มักจะมีอาการเจ็บปวดเหมือนมีอะไรบาดบริเวณทวารหนักขณะหรือหลังถ่ายอุจจาระ อาการมักจะเป็นอยู่นานหลายนาทีหรือเป็นชั่วโมงๆ และจะกำเริบทุกครั้งที่ถ่ายอุจจาระประมาณร้อยละ 70 ของผู้ป่วย (โดยเฉพาะอย่างยิ่งในทารก) จะมีเลือดออก มีลักษณะเป็นเลือดสดออกเป็นลายติดอยู่ที่บนส่วนผิวของอุจจาระหรือเปื้อนกระดาษชำระ ส่วนน้อยที่ออกเป็นหยดเลือด 2-3 หยด เลือดที่ออกจะมีเพียงเล็กน้อยและหยุดได้เองบางรายอาจมีอาการปวดมากจนกลัวการถ่ายอุจจาระ ทำให้มีอาการท้องผูกถ่ายยาก
การดูแลตนเองและปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเพื่อช่วยให้การขับถ่ายง่ายขึ้น การรักษาด้วยการผ่าตัด รักษาด้วยยา
ตับแข็ง
ตับแข็ง (cirrhosis) เป็นภาวะที่เกิดขึ้นของโรคตับ ซึ่งเกิดจากการที่ตับได้รับความเสียหายและเกิดแผลเป็นอย่างถาวร มีลักษณะเฉพาะคือการมีเนื้อเยื่อพังผืดเกิดขึ้นในเนื้อตับ ส่งผลให้การทำงานของตับลดลง ไม่ว่าจะเป็นการผลิตโปรตีน การเก็บสะสมสารสำคัญและแร่ธาตุต่างๆ การทำลายสารพิษ รวมทั้งปิดกั้นการไหลเวียนของเลือดที่ไหลผ่านตับด้วย
อาการ ผู้ป่วยตับแข็งในระยะแรกจะไม่มีอาการ เมื่อตับแข็งมากขึ้นเรื่อยๆ จึงเกิดอาการของโรคตับแข็งได้แก่ อ่อนเพลีย คลื่นไส้ ถ้าอาการโรคเป็นมากขึ้น ผู้ป่วยบางรายอาจมาด้วยอาการของโรคแทรกซ้อนของโรคตับแข็ง เช่น บวม ตาเหลือง ตัวเหลือง สูญเสียความจำ อาเจียนเป็นเลือดจากการแตกของหลอดเลือดดำ ท้องมาน มะเร็งตับ ไตวาย
สาเหตุ การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ การใช้ยา อาหารเสริม หรือเสริมอาหาร หรือยาสมุนไพรที่ไม่ได้มาตรฐานโดยไม่มีข้อบ่งชี้ ภาวะอ้วน น้ำหนักเกิน กลุ่มไวรัสตับอักเสบบีและซี ก็ต้องระวังเรื่องการเปลี่ยนคู่นอนบ่อยๆ
การรักษาภาวะตับแข็งมีวัตถุประสงค์เพื่อหยุดการพัฒนาของเนื้อเยื่อแผลเป็นในตับและเพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อน โดยมีหลักสำคัญคือการรักษาที่สาเหตุที่ทำให้เกิดตับแข็ง ซึ่งไม่เพียงแต่แพทย์เท่านั้นที่มีบทบาทในการรักษา ผู้ป่วยเองก็มีบทบาทที่สำคัญยิ่งในการหลีกเลี่ยงทุกสิ่งที่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อตับ ซึ่งอาจนำไปสู่ภาวะตับล้มเหลวได้ การปฏิบัติตัวในการดูแลและป้องกันภาวะแทรกซ้อนสำหรับผู้ที่มีภาวะตับแข็ง
มะเร็งตับ
โรคมะเร็งตับ เป็นมะเร็งที่พบได้มากที่สุดเป็นอันดับ 1 ของโรคมะเร็งที่เกิดในผู้ชายไทย โดยมักพบในคนอายุ 30-70 ปี และพบได้ในผู้ชายมากกว่าผู้หญิงประมาณ 2-3 เท่า เนื่องจากเพศชายมีปัจจัยเสี่ยงมากกว่าเพศหญิง โดยโรคมะเร็งตับในระยะแรกมักไม่แสดงอาการ
สาเหตุ สารอะฟลาท็อกซิน (Aflatoxin) หรือเชื้อราที่อยู่ในถั่วลิสงที่อับชื้น, พริกแห้ง, กระเทียม และหัวหอมเป็นต้น ไขมันพอกตับ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ไวรัสตับอักเสบบีและซี
ปวดท้องโดยเฉพาะใต้ชายโครงขวา หรือบริเวณลิ้นปี่ ท้องบวมโต มีน้ำในช่องท้อง เบื่ออาหาร น้ำหนักลด ตัวเหลือง ตาเหลือง อาเจียนเป็นเลือด ตรวจพบการทำงานของตับผิดปกติ
แนวทางการรักษามะเร็งตับ ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยที่ต้องพิจารณาร่วมกัน ได้แก่ ขนาด และ จำนวนก้อนในตับ การกระจายของโรค ค่าการทำงานของตับ และสมรรถภาพทางร่างกายของผู้ป่วย โดยหากเป็นมะเร็งในระยะเริ่มต้น สามารถรักษาให้หายขาดได้โดย การผ่าตัดตับเอาก้อนมะเร็งออก หรือ จี้ทำลายก้อนมะเร็ง หรือ การผ่าตัดเปลี่ยนตับ หากเป็นมะเร็งระยะลุกลาม เป้าหมายเพื่อชะลอการโตของก้อน และป้องกันการเกิดผลแทรกซ้อนจากก้อน ทำได้โดย การฉีดยาและอุดหลอดเลือดที่ไปเลี้ยงก้อน หรือ การฉายแสงที่ก้อน หรือ การให้ยากินเพื่อประคับประคองมะเร็งตับ
นิ่วในถุงน้ำดี
นิ่วที่ในถุงน้ำดี เกิดจากการตกผลึกของหินปูน (แคลเซียม) คอเลสเตอรอล และบิลิรูบิน (สารเคมีชนิดหนึ่งที่ให้สีเหลืองออกน้ำตาล เกิดจากการแตกตัวหรือการตายของเซลล์เม็ดเลือดแดงในหลอดเลือด) ที่มีอยู่ในน้ำดี ส่วนสาเหตุที่ทำให้เกิดการตกผลึกของสารเหล่านี้ เชื่อว่าเกิดจากการติดเชื้อของทางเดินน้ำดี และความไม่สมดุลของส่วนประกอบคอเลสเตอรอลและบิลิรูบินในน้ำดี การตกผลึกของสารเหล่านี้อาจทำให้เกิดเป็นก้อนนิ่วเพียงก้อนเดียว หรือก้อนเล็กๆ หลายๆ ก้อน
วิธีการรักษานิ่วในถุงน้ำดี ที่ดีในปัจจุบัน คือ การผ่าตัดโดยใช้กล้องส่องผ่านทางช่องท้อง เป็นการผ่าตัดแบบโดยการเจาะรูเล็กๆ ที่หน้าท้อง ถ้าผู้ป่วยไม่มีถุงน้ำดีอักเสบเฉียบพลัน การผ่าตัดโดยใช้กล้องส่องผ่านทางช่องท้องสามารถทำได้สำเร็จถึงร้อยละ 95
สาเหตุ กิดจากความไม่สมดุลของสารเคมีในน้ำดีที่ใช้ในการย่อยไขมันเพื่อให้ดูดซึมเข้าสู่ร่างกาย ซึ่งโดยปกติน้ำดีประกอบด้วยสารต่าง ๆ มากมายหลายชนิด ที่ถุงน้ำดี (อวัยวะที่มีลักษณะเป็นถุงหรือกระเปาะ อยู่บริเวณใต้ชายโครงด้านขวา) ทำหน้าที่เหมือนเป็นโกดังสะสมน้ำดีที่ผลิตมาจากตับ เช่น น้ำ คอเลสเตอรอล บิลิรูบิน เลซิติน และเกลือน้ำดี เป็นต้น
อาการ ท้องเฟ้อบริเวณเหนือสะดือ เรอ คลื่นไส้ อาเจียน คล้ายอาการของอาหารไม่ย่อย ซึ่งมักเป็นหลังกินอาหารมันๆ ในรายที่ก้อนนิ่วเคลื่อนไปอุดในท่อส่งน้ำดี จะมีอาการปวดบิดรุนแรงเป็นพักๆ ตรงบริเวณใต้ลิ้นปี่หรือใต้ชายโครงขวา ซึ่งอาจปวดร้าวมาที่ไหล่ขวาหรือบริเวณหลังตรงใต้สะบักขวา มักปวดนานเป็นชั่วโมงๆ และมีอาการคลื่นไส้ อาเจียนร่วมด้วย
ตับอ่อนอักเสบเฉียบพัน
เป็นการอักเสบที่เกิดขึ้นกับตับอ่อน ทำให้เนื้อเยื่อตับอ่อนบวมและถูกทำลาย โดยตับอ่อนมีลักษณะยาว แบน อยู่หลังกระเพาะอาหาร และอยู่บริเวณท้องส่วนบน มีหน้าที่ผลิตเอนไซม์ช่วยย่อยอาหาร และผลิตฮอร์โมนที่ช่วยควบคุมกระบวนการทำงานของน้ำตาลในร่างกาย
อาการ ปวดท้องอย่างรุนแรงบริเวณท้องส่วนบน อาจปวดร้าวลามไปที่หลังได้ โดยอาการปวดมักจะเป็นอยู่ประมาณ 2-3 วัน มีอาการปวดท้องที่รู้สึกปวดมากขึ้น เมื่อรับประทานอาหาร มีอาการไข้ คลื่นไส้ อาเจียน อาการดีซ่าน มีอาการกดแล้วเจ็บ เมื่อสัมผัสหน้าท้อง หรือท้องอืด ภาวะขาดน้ำ และภาวะช็อก
สาเหตุ ตับอ่อนอักเสบเกิดขึ้นเมื่อเอนไซม์จากตับอ่อนซึ่งทำหน้าที่ย่อยอาหารเริ่มทำงานตั้งแต่ยังคงอยู่ในตับอ่อน โดยเฉพาะชนิดที่เรียกว่าทริปซิน (Trypsin) ซึ่งเป็นน้ำย่อยโปรตีนที่ปกติแล้วจะไม่ทำงานเมื่ออยู่ในตับอ่อน แต่จะทำงานต่อเมื่อเข้าไปอยู่ในลำไส้เล็ก แต่เมื่อเซลล์ของตับอ่อนเกิดการอักเสบจากสาเหตุหรือปัจจัยเสี่ยงต่าง ๆ จะทำให้เกิดสารเคมีผิดปกติขึ้น ซึ่งจะกระตุ้นให้น้ำย่อยของตับอ่อนโดยเฉพาะทริปซินทำงาน น้ำย่อยเหล่านี้จึงย่อยสลายเซลล์ของตับอ่อน และก่อให้เกิดตับอ่อนอักเสบในที่สุด
การรักษา การรักษาผู้ป่วยตับอ่อนอักเสบเฉียบพลัน จะเป็นการให้สารน้ำผ่านทางหลอดเลือด และให้ยาบรรเทาอาการปวดที่โรงพยาบาล ผู้ป่วยอาจต้องงดรับประทานอาหารและน้ำ เพื่อลดการทำงานของตับอ่อนจนกว่าอาการอักเสบจะทุเลาลง โดยแพทย์จะให้น้ำเกลือและสารอาหารทางหลอดเลือดดำ เพื่อป้องกันภาวะขาดน้ำ ภาวะช็อก และรักษาสมดุลของเกลือแร่จนกว่าผู้ป่วยจะรับประทานอาหารทางปากได้
ตับอ่อนอักเสบเรื้อรัง
อาการ น้ำหนักตัวลดลงโดยไม่ได้ตั้งใจ เป็นผลมาจากการที่ร่างกายไม่สามารถดูดซึมสารอาหารได้ตามปกติ ภาวะอุจจาระมีไขมันมาก อุจจาระเป็นสีเทาหรือสีซีดหรืออุจจาระมีกลิ่นเหม็นกว่าปกติ ปวดท้องส่วนบน โดยปวดแบบเป็น ๆ หาย ๆ หรือปวดตลอดเวลา
เป็นการอักเสบที่เกิดขึ้นกับตับอ่อน ทำให้เนื้อเยื่อตับอ่อนบวมและถูกทำลาย โดยตับอ่อนมีลักษณะยาว แบน อยู่หลังกระเพาะอาหาร และอยู่บริเวณท้องส่วนบน มีหน้าที่ผลิตเอนไซม์ช่วยย่อยอาหาร และผลิตฮอร์โมนที่ช่วยควบคุมกระบวนการทำงานของน้ำตาลในร่างกาย
การรักษาตับอ่อนอักเสบเรื้อรังนั้นทำได้ยาก แพทย์จะพยายามรักษาด้วยการลดอาการปวด และช่วยจัดการปัญหาด้านโภชนาการ โดยทั่วไป ผู้ป่วยมักจะได้รับเอนไซม์ของตับอ่อน และอาจจำเป็นต้องได้รับอินซูลิน รวมถึงปรับไปรับประทานอาหารที่มีไขมันต่ำด้วย บางรักอาจจะต้องผ่าตัด
สาเหตุ ตับอ่อนอักเสบเกิดขึ้นเมื่อเอนไซม์จากตับอ่อนซึ่งทำหน้าที่ย่อยอาหารเริ่มทำงานตั้งแต่ยังคงอยู่ในตับอ่อน โดยเฉพาะชนิดที่เรียกว่าทริปซิน (Trypsin) ซึ่งเป็นน้ำย่อยโปรตีนที่ปกติแล้วจะไม่ทำงานเมื่ออยู่ในตับอ่อน แต่จะทำงานต่อเมื่อเข้าไปอยู่ในลำไส้เล็ก แต่เมื่อเซลล์ของตับอ่อนเกิดการอักเสบจากสาเหตุหรือปัจจัยเสี่ยงต่าง ๆ จะทำให้เกิดสารเคมีผิดปกติขึ้น ซึ่งจะกระตุ้นให้น้ำย่อยของตับอ่อนโดยเฉพาะทริปซินทำงาน น้ำย่อยเหล่านี้จึงย่อยสลายเซลล์ของตับอ่อน และก่อให้เกิดตับอ่อนอักเสบในที่สุด
มะเร็งตับอ่อน
สาเหตุของมะเร็งตับอ่อนยังไม่ชัดเจน มีรายงานความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งตับอ่อนพบว่าคนสูบบุหรี่มีความเสี่ยง มากกว่าคนไม่สูบบุหรี่ ประมาณ 1.6-3.1 เท่า อาหารที่มีไขมันสัตว์ในปริมาณที่สูง การสัมผัสสาร DDTหรืออนุพันธ์ของ ปิโตรเลียม ล้วนมีโอกาสเสี่ยงมากขึ้นสำหรับรังสีหรือยาเคมีบำบัดอาจเพิ่มความเสี่ยงเพียงเล็กน้อยเท่านั้นเบาหวาน, ตับอ่อนอักเสบเรื้อรัง หรือความผิดปกติทางพันธุกรรม อาจมีความสัมพันธ์กับการเกิดมะเร็งตับอ่อนเพียงเล็กน้อย
มะเร็งตับอ่อนเป็นมะเร็งที่พบได้ไม่บ่อยนัก มักพบเมื่อก้อนมีขนาดใหญ่ไม่สามารถผ่าตัดออกได้หรือพบระยะลุกลาม และมักมีอัตราเสียชีวิตสูงได้ เนื่องจากอาการเริ่มแรกมักไม่จำเพาะเจาะจง อาจมีเพียงอาการปวดท้องหรือไม่มีอาการเลย ทำให้การรักษามีความล่าช้า
อาการ ปวกท้องใต้ลิ้นปี่เหมือนโดนมีดแทงและร้าวไปข้างหลัง ตาเหลือง ตาเหลือง เบื่ออาหาร น้ำหนักลด ตับโต
การรักษา หลายครั้งที่กว่าจะพบ ผู้ป่วยก็เป็นมากแล้วคืออยู่ในระยะที่ไม่สามารถผ่าตัดได้และมีอัตราการรอดชีวิตต่ำ ดังนั้นแพทย์จะแนะนำให้ผู้ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงตรวจสุขภาพอย่างสม่ำเสมอ อาจจะทุก 6 เดือน หรือ 1 ปีในช่วงท้ายการเจ็บป่วยนั้น บางครั้งอาจยังไม่ทราบสาเหตุและไม่มีอาการบ่งชี้เฉพาะ อย่านิ่งนอนใจหากคุณอยู่ในกลุ่มเสี่ยงเพราะเรื่องของสุขภาพนั้นประมาทไม่ได้