Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
หน่วยที่ 4 ปรากฏการณ์ของโลกและภัยธรรมชาติ - Coggle Diagram
หน่วยที่ 4 ปรากฏการณ์ของโลกและภัยธรรมชาติ
บทที่ 1 ลมบก ลมทะเล และมรสุม
ทบทวนความรู้
ลมคืออะไร - ลมคืออากาศที่เคลื่อนที่
ลมเกิดขึ้นได้อย่างไร - ลมเกิดจากความแตกต่างของอุณหภูมิของอากาศบริเวณที่อยู่ใกล้กัน โดยอากาศบริเวณที่มีอุณหภูมิสูงจะเคลื่อนที่สูงขึ้นและอากาศบริเวณที่มีอุณหภูมิต่ำจะเคลื่อนเข้าไปแทนที่
ตัวอย่างข่าวพยากรณ์อากาศ "พยากรณ์อากาศวันที่ 10 ธันวาคม 2562 สภาพอากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยตอนบนมีอากาศหนาวเย็นกับมีลมแรง บริเวณพื้นราบในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 5-14 องศาเซลเซียส สำหรับภาคกลาง ภาคตะวันออก รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑลมีอากาศเย็นถึงหนาวอุณหภูมิต่ำสุด 13-20 องศาเซลเซียส" คำถาม -
เพราะเหตุใดช่วงเวลาดังกล่าวของประเทศไทย จึงมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด - ในช่วงเวลาดังกล่าวประเทศไทยมีอากาศหนาวถึงหนาวจัดเป็นผลมาจากมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ ที่อากาศเหนือพื้นทวีปทางตอนเหนือของประเทศจีนที่มีอุณหภูมิต่ำและมีความชื้นน้อยได้พัดผ่านประเทศไทยในช่วงกลางเดือนตุลาคมจนถึงเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งในช่วงวันที่ 10 ธันวาคม ก็อยู่ในช่วงระยะเวลาดังกล่าว
มรสุมที่ทำให้ประเทศไทยในช่วงเวลาดังกล่าวมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด มีการเกิดเหมือนหรือแตกต่างจากลมบก ลมทะเล หรือไม่ อย่างไร - มรสุม และลมบก ลมทะเล มีหลักกการเกิดเหมือนกันคือเกิดจากความแตกต่างระหว่างอุณหภูมิของอากาศเหนือพื้นดินและพื้นน้ำ
แนวคิดสำคัญ - ลมบก ลมทะเล และมรสุม เกิดจากความแตกต่างระหว่างอุณหภูมิอากาศเหนือพื้นดินและเหนือพื้นน้ำ จึงเกิดการเคลื่อนที่ของอากาศจากบริเวณที่มีอุณหภูมิต่ำไปยังบริเวณที่มีอุณหภูมิสูง ทั้งลมบก ลมทะเล และมรสุมมีหลักการเกิดเช่นเดียวกัน ลมบก ลมทะเลเกิดบริเวณชายฝั่ง แต่มรสุมเกิดขึ้นในบริเวณเขตร้อนของโลก ทั้งลมบก ลมทะเล และมรสุมมีผลต่อสิ่งมีชีวิตและสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้มรสุมยังมีผลต่อการเกิดฤดูของประเทศไทย
เรื่องที่ 1 การเกิดลมบก ลมทะเล และมรสุม
ขั้นตรวจสอบความรู้
ลมที่เกิดขึ้นตรงบริเวณชายฝั่งนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร - เกิดจากความแตกต่างระหว่างอุณหภูมิของอากาศเหนือพื้นดินบริเวณชายฝั่งและอุณหภูมิของอากาศเหนือพื้นทะเล ทำให้เกิดการเคลื่อนที่ของอากาศระหว่าง 2 บริเวณดังกล่าว
ลมที่เกิดขึ้น มีการเกิดเหมือนหรือแตกต่างจากมรสุมหรือไม่ อย่างไร - มีหลักการเกิดเหมือนกันคือเกิดจากความแตกต่างระหว่างอุณหภูมิของอากาศเหนือพื้นดินและพื้นน้ำ และมีสิ่งที่แตกต่างกัน คือขนาดของบริเวณที่เกิด และช่วงระยะเวลาการเกิด
ขั้นฝึกทักษะการอ่าน
ลมเกิดขึ้นได้อย่างไร - ลมเกิดจากความแตกต่างระหว่างอุณหภูมิของอากาศเหนือบริเวณ 2 บริเวณ โดยอากาศบริเวณที่มีอุณหภูมิสูงกว่าจะเคลื่อนที่สูงขึ้น และอากาศบริเวณที่มีอุณหภูมิต่ำกว่าจะเคลื่อนเข้ามาแทนที่
ปัจจัยใดบ้างที่ทำให้เกิดลมประเภทต่างๆ - ลักษณะการเกิด พื้นที่ที่เกิด และช่วงเวลาการเกิด
ลมบก ลมทะเล และมรสุม เกิดในช่วงระยะเวลาที่แตกต่างกันหรือไม่ อย่างไร - ลมบก ลมทะเล และมรสุม เกิดในช่วงระยะเวลาที่แตกต่างกัน ลมบกเกิดในช่วงเวลากลางคืน ลมทะเลเกิดในช่วงเวลากลางวัน และมรสุมเกิดในช่วงระยะเวลานานตลอดฤดูหนึ่งๆ
ลมบก ลมทะเล และมรสุม เกิดในบริเวณที่มีขนาดแตกต่างกันหรือไม่ อย่างไร - ลมบก ลมทะเล และมรสุม เกิดในบริเวณที่มีขนาดแตกต่างกัน ลมบก ลมทะเลเกิดบริเวณชายฝั่ง ส่วนมรสุมเกิดในบริเวณที่มีขนาดใหญ่กว่า โดยเกิดเป็นบริเวณกว้างระดับทวีป
ประเทศไทยมีมรสุมใดพัดผ่านบ้าง - มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือและมรสุมตะวันออกเฉียงใต้
สรุป - ลมเกิดจากการเคลื่อนที่ของอากาศ ลมมีหลายประเภทตามลักษณะการเกิด พื้นที่ที่เกิด และช่วงเวลาการเกิด ลมบก ลมทะเล เป็นลมประจำถิ่นที่เกิดเฉพาะบริเวณชายฝั่ง ซึ่งเกิดขึ้นในช่วงเวลากลางวันและกลางคืน ส่วนมรสุมเป็นลมประจำฤดูที่เกิดบริเวณเขตร้อนของโลก มรสุมเกิดเป็นบริเวณกว้างระดับทวีปและเกิดเป็นเวลานานตลอดฤดูหนึ่งๆ ประเทศไทยได้รับผลจากมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ และมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ซึ่งจะพัดผ่านในช่วงระยะเวลาที่แตกต่างกัน
รู้หรือยัง
1.ลมเกิดขึ้นได้อย่างไร - ลมเกิดจากความแตกต่างระหว่างอุณหภูมิของอากาศเหนือบริเวณ 2 บริเวณ โดยอากาศบริเวณที่มีอุณหภูมิสูงกว่าจะเคลื่อนที่สูงขึ้น และอากาศบริเวณที่มีอุณหภูมิต่ำกว่าจะเคลื่อนที่เข้ามาแทนที่ การเคลื่อนที่ของอากาศทำให้เกิดลม
2.ลมบก ลมทะเล แตกต่างจากมรสุมอย่างไร - ลมบก ลมทะเล แตกต่างจากมรสุมในด้านขนาดของบริเวณที่เกิด และช่วงระยะเวลาการเกิด โดยลมบก ลมทะเลเกิดเฉพาะบริเวณชายฝั่ง ส่วนมรสุมเกิดเป็นบริเวณกว้างระดับทวีป ส่วนช่วงระยะเวลาการเกิด ลมบก ลมทะเล เกิดในช่วงเวลา 1 วัน คือช่วงเวลากลางวันและกลางคืน ส่วนมรสุมเกิดเป็นช่วงระยะเวลานานตลอดฤดูหนึ่งๆ
3.มรสุมที่พัดผ่านประเทศไทยมีอะไรบ้าง - มรสุมที่พัดผ่านประเทศไทย ได้แก่ มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ และมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ซึ่งจะพัดผ่านในช่วงระยะเวลาที่แตกต่างกัน
กิจกรรมที่ 1.1 ลมบก ลมทะเลเป็นอย่างไร
ตรวจสอบความรู้เดิม
ลมบก ลมทะเล แตกต่างกันอย่างไร - แตกต่างกันที่ทิศทางการเคลื่อนที่ของลม โดยลมบก ลมจะพัดจากชายฝั่งออกสู่ทะเล ส่วนลมทะเล ลมจะพัดจากทะเลเข้าสู่ชายฝั่ง
ลมบก ลมทะเลมีประโยชน์ต่อชาวประมงอย่างไร ชาวประมงอาศัยลมบกช่วยในการพัดเรือออกสู่ทะเลในเวลากลางคืน และอาศัยลมทะเลช่วยในการพัดเรือกลับเข้าฝั่งในเวลากลางวัน
คำถามหลังจากกิจกรรม ตอนที่ 1
จากสถานการณ์ มีการให้ความร้อนและหยุดให้ความร้อนแก่ทรายและน้ำ เป็นเวลาเท่ากันหรือไม่ อย่างไร - มีการให้ความร้อนและหยุดให้ความร้อนแก่ทรายและน้ำเป็นเวลาที่เท่ากัน 30 นาที
เมื่อให้ความร้อนและหยุดให้ความร้อนในเวลาที่เท่ากัน มีสิ่งใดเกิดการเปลี่ยนแปลงบ้าง - มีสิ่งที่เกิดการเปลี่ยนแปลง คืออุณหภูมิของอากาศเหนือทรายและอุณหภูมิของอากาศเหนือน้ำ
จากสถานการณ์การทดลองนี้ ตัวแปรต้น ตัวแปรตาม และตัวแปรควบคุม คืออะไร - ตัวแปรต้น ได้แก่ วัสดุทรายและน้ำ ตัวแปรตาม ได้แก่ อุณหภูมิของอากาศเหนือวัสดุ ตัวแปรควบคุม ได้แก่ ระยะเวลาที่ให้และหยุดให้ความร้อน มวลของทรายและน้ำ ขนาดบีกเกอร์ การจัดวางเทอร์มอมิเตอร์ในชุดทดลอง ชนิดและขนาดของหลอดไฟ ลักษณะโคมไฟ การจัดวางตำแหน่งโคมไฟ สถานที่ที่ทำการทดลอง
การเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิของอากาศเหนือทรายและเหนือน้ำ เมื่อให้ความร้อนในเวลาที่เท่ากัน เป็นอย่างไร - เมื่อให้ความร้อน อุณหภูมิของอากาศเหนือทรายมีการเปลี่ยนแปลงจากอุณหภูมิเริ่มต้นที่ 0 นาที เร็วกว่า และในช่วง 30 นาที ที่ให้ความร้อน อุณหภูมิของอากาศเหนือทรายจะมากกว่าอุณหภูมิของอากาศเหนือน้ำ
การเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิของอากาศเหนือทรายและเหนือน้ำ เมื่อหยุดให้ความร้อนในเวลาที่เท่ากัน เป็นอย่างไร - เมื่อหยุดให้ความร้อน อุณหภูมิของอากาศเหนือทรายมีการเปลี่ยนแปลงจากอุณหภูมิเริ่มต้นที่ 30 นาที เร็วกว่า และในช่วง 8 นาทีแรกที่หยุดให้ความร้อน อุณหภูมิของอากาศเหนือทรายจะมากกว่าอุณหภูมิของอากาศเหนือน้ำและในช่วง 22 นาทีถัดไปที่หยุดให้ความร้อน อุณหภูมิของอากาศเหนือทรายจะลดลงมากกว่าอุณหภูมิของอากาศเหนือน้ำ
การเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิของอากาศเหนือทรายและเหนือน้ำ เมื่อให้ความร้อนและหยุดให้ความร้อนในเวลาที่เท่ากัน มีการเปลี่ยนแปลงแตกต่างกันหรือไม่ อย่างไร
เมื่อให้ความร้อนในเวลาที่เท่ากัน อุณหภูมิของอากาศเหนือทรายและเหนือน้ำมีการเปลี่ยนแปลงแตกต่างกัน คือ อุณหภูมิของอากาศเหนือทรายจะเพิ่มขึ้นรวดเร็วและเพิ่มขึ้นมากกว่าอุณหภูมิของอากาศเหนือน้ำ
เมื่อหยุดให้ความร้อนในเวลาที่เท่ากัน อุณหภูมิของอากาศเหนือทรายและเหนือน้ำมีการเปลี่ยนแปลงแตกต่างกัน คืออุณหภูมิของอากาศเหนือทรายจะลดลงรวดเร็วและลดลงมากกว่าอุณหภูมิของอากาศเหนือน้ำ
ถ้าให้โคมไฟที่เปิดแทนดวงอาทิตย์ที่ให้ความร้อน ทรายแทนพื้นดิน และน้ำแทนแหล่งน้ำในธรรมชาติ การเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิของอากาศเหนือพื้นดินและเหนือพื้นน้ำ ในช่วงเวลากลางวันเป็นอย่างไร - ในช่วงเวลากลางวัน อุณหภูมิของอากาศเหนือพื้นดินจะเพิ่มขึ้นรวดเร็วและเพิ่มขึ้นมากกว่าอุณหภูมิของอากาศเหนือแหล่งน้ำ
ถ้าให้โคมไฟที่เปิดดวงอาทิตย์ที่ให้ความร้อน ทรายแทนพื้นดิน และน้ำแทนแหล่งน้ำในธรรมชาติ การเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิของอากาศเหนือพื้นดินและเหนือพื้นน้ำ ในช่วงเวลากลางคืนเป็นอย่างไร - ในช่วงเวลากลางคืน อุณหภูมิของอากาศเหนือพื้นดินจะลดลงรวดเร็วและลดลงมากกว่าอุณหภูมิของอากาศเหนือแหล่งน้ำ
การเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิของอากาศเหนือพื้นดินและเหนือแหล่งน้ำ ในช่วงเวลากลางวันและกลางคืน มีการเปลี่ยนแปลงแตกต่างกันหรือไม่ อย่างไร - การเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิของอากาศเหนือพื้นดินและเหนือแหล่งน้ำ ในช่วงเวลากลางวันและกลางคืน มีการเปลี่ยนแปลงแตกต่างกัน ในช่วงเวลากลางวันอุณหภูมิของอากาศเหนือพื้นดินจะเพิ่มขึ้นรวดเร็วและเพิ่มขึ้นมากกว่าอุณหภูมิของอากาศเหนือแหล่งน้ำ และในช่วงเวลากลางคืน อุณหภูมิของอากาศเหนือพื้นดินจะลดลงรวดเร็วและลดลงมากกว่าอุณหภูมิของอากาศเหนือแหล่งน้ำ
คำถามหลังทำกิจกรรม ตอนที่ 2
สาเหตุที่ทำให้เกิดลมบก ลมทะเล คืออะไร - ลมบก ลมทะเล เกิดขึ้นเนื่องจากความแตกต่างระหว่างอุณหภูมิของอากาศเหนือพื้นดินบริเวณชายฝั่งและอุณหภูมิของอากาศเหนือพื้นทะเลในแต่ละช่วงเวลา จึงเกิดการเคลื่อนที่ของอากาศจากบริเวณที่มีอุณหภูมิต่ำไปยังบริเวณที่มีอุณหภูมิสูง
ลมบก ลมทะเล มีหลักการเกิดเหมือนกันหรือไม่ อย่างไร - ลมบก ลมทะเล มีหลักการเกิดเหมือนกัน คือเกิดจากความแตกต่างระหว่างอุณหภูมิของอากาศเหนือพื้นดินบริเวณชายฝั่งและอุณหภูมิของอากาศเหนือพื้นทะเล
ลมบก มีการเคลื่อนที่ของอากาศเป็นอย่างไร และเกิดในช่วงเวลาใด - การเกิดลมบก อากาศจะเคลื่อนที่จากชายฝั่งออกสู่ทะเล ซึ่งจะเกิดขึ้นในช่วงเวลากลางคืน
ลมทะเล มีการเคลื่อนที่ของอากาศเป็นอย่างไร และเกิดในช่วงเวลาใด - การเกิดลมทะเล อากาศจะเคลื่อนที่จากทะเลเข้าสู่ชายฝั่ง ซึ่งจะเกิดขึ้นในช่วงเวลากลางวัน
การเกิดลมบก ลมทะเล มีสิ่งใดที่แตกต่างกันบ้าง - สิ่งที่แตกต่างกัน คือ ช่วงเวลาที่เกิด และทิศทางการเคลื่อนที่ของอากาศ กล่าวคือ ลมบกเกิดในช่วงเวลากลางคืน ลมจะพัดจากชายฝั่งออกสู่ทะเล และลมทะเลเกิดในช่วงเวลากลางวัน ลมจะพัดจากทะเลเข้าสู่ชายฝั่ง
ชาวประมงได้รับประโยชน์จากลมบก ลมทะเลอย่างไร - ชาวประมงอาศัยลมบกที่พัดในเวลากลางคืนช่วยในการพัดเรือจากฝั่งออกสู่ทะเล และอาศัยลมทะเลที่พัดในเวลากลางวันช่วยพัดเรือจากทะเลกลับเข้าสู่ชายฝั่ง
สรุป
ลมบกและลมทะเล มีหลักการเกิดเหมือนกัน คือเกิดจากความแตกต่างระหว่างอุณหภูมิของอากาศเหนือพื้นดินบริเวณชายฝั่งและเหนือพื้นทะเล แต่มีช่วงเวลาที่เกิดและทิศทางการเคลื่นที่ของอากาศที่แตกต่างกัน
ลมบกเกิดเนื่องจากพื้นดินบริเวณชายฝั่งเย็นเร็ว ในขณะที่พื้นทะเลยังคงมีอุณหภูมิสูงอยู่ น้ำทะเลจึงคายความร้อนไปสู่อากาศทำให้อากาศเหนือพื้นทะเลมีอุณหภูมิสูงและเคลื่อนที่สูงขึ้น อากาศเหนือพื้นดินซึ่งมีอุณหภูมิต่ำกว่าจึงเคลื่อนที่เข้ามาแทนที่ เกิดเป็นลมบก
ลมทะเลเกิดเนื่องจากพื้นดินบริเวณชายฝั่งและพื้นทะเลเมื่อได้รับความร้อนจากดวงอาทิตย์ พื้นดินจะร้อนเร็วกว่าพื้นทะเลและคายความร้อนให้กับอากาศได้เร็วกว่า อุณหภูมิของอากาศเหนือพื้นดินจึงสูงและเคลื่อนที่สูงขึ้น อากาศเหนือพื้นทะเลซึ่งมีอุณหภูมิต่ำกว่าจึงเคลื่อนเข้ามาแทนที่ เกิดเป็นลมทะเล
ลมบก ลมทะเล มีผลทำให้บริเวณชายฝั่งมีลมพัดเกือบตลอดเวลา มีผลต่อการเดินเรือของชาวประมง มีผลต่อปริมาณความชื้นในอากาศและอุณหภูมิของอากาศตรงบริเวณชายฝั่ง มีผลต่อการกัดเซาะชายฝั่ง นอกจากนั้นยังมีประโยชน์ในการใช้ลมบก ลมทะเล ในการผลิตไฟฟ้าโดยการติดตั้งกังหันลมบริเวณชายฝั่ง
ฉันรู้อะไร ตอนที่ 1
1.เมื่อให้ความร้อนและหยุดให้ความร้อนแก่ทรายและน้ำในเวลาที่เท่ากัน อุณหภูมิของอากาศเหนือบริเวณใดมีการเปลี่ยนแปลงได้รวดเร็วกว่ากัน รู้ได้อย่างไร
เมื่อให้ความร้อนแก่ทรายและน้ำในเวลาที่เท่ากัน อุณหภูมิของอากาศเหนือทรายมีการเปลี่ยนแปลงรวดเร็วกว่า สังเกตได้จากกราฟที่เปลี่ยนแปลงจากนาทีที่ 0 อุณหภูมิของอากาศเหนือทรายเพิ่มขึ้นจากนาที่ 0 รวดเร็วกว่า
เมื่อหยุดให้ความร้อนแก่ทรายและน้ำในเวลาที่เท่ากัน อุณหภูมิของอากาศเหนือทรายมีการเปลี่ยนแปลงได้รวดเร็วกว่า สังเกตได้จากกราฟที่เปลี่ยนแปลงจากนาทีที่ 30 อุณหภูมิของอากาศเหนือทรายลดลงจากนาทที่ 30 รวดเร็วกว่า
2.ถ้าเปรียบการให้ความร้อนแทนการได้รับความร้อนจากดวงอาทิตย์ ทรายแทนพื้นดิน น้ำแทนน้ำทะเล อุณหภูมิของอากาศเหนือพื้นดินและเหนือพื้นทะเลใน 1 วัน จะเป็นอย่างไร - ใน 1 วัน โดยในช่วงเวลากลางวัน อุณหภูมิของอากาศเหนือพื้นดินจะเพิ่มขึ้นรวดเร็วกว่าอุณหภูมิของอากาศเหนือน้ำทะเล และเพิ่มขึ้นมากกว่าอุณหภูมิของอากาศเหนือน้ำทะเล ในช่วงเวลากลางคืนอุณหภูมิของอากาศเหนือพื้นดินจะลดลงรวดเร็วกว่าอุณหภูมิของอากาศเหนือน้ำทะเล และลดลงมากกว่าอุณหภูมิของอากาศเหนือน้ำ
3.จากกิจกรรมนี้ ค้นพบอะไรบ้างเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิของอากาศเหนือทรายและเหนือน้ำ - เมื่อให้ความร้อนในเวลาที่เท่ากัน อุณหภูมิของอากาศเหนือทรายและเหนือน้ำมีการเปลี่ยนแปลงแตกต่างกัน ดังนี้ อุณหภูมิของอากาศเหนือทรายจะเพิ่มขึ้นรวดเร็วและเพิ่มขึ้นมากกว่าอุณหภูมิของอากาศเหนือน้ำ เมื่อหยุดให้ความร้อนในเวลาที่เท่ากัน อุณหภูมิของอากาศเหนือทรายและเหนือน้ำมีการเปลี่ยนแปลงแตกต่างกัน ดังนี้ อุณหภูมิของอากาศเหนือทรายจะลดลงรวดเร็วและจะลดลงมากกว่าอุณหภูมิของอากาศเหนือน้ำ
ฉันรู้อะไร ตอนที่ 2
1.การเกิดลมบก ลมทะเล แตกต่างกันอย่างไร - ลมบก ลมทะเล มีหลักการเกิดเหมือนกัน คือเกิดจากความแตกต่างระหว่างอุณหภูมิของอากาศเหนือพื้นดินบริเวณชายฝั่งและอุณหภูมิของอากาศเหนือพื้นทะเล ส่วนสิ่งที่แตกต่างกันคือช่วงเวลาที่เกิด และทิศทางการเคลื่อนที่ของอากาศระหว่างพื้นดินบริเวณชายฝั่งและพื้น
2.ลมบก ลมทะเล มีผลต่อสิ่งมีชีวิตและสิ่งแวดล้อมอย่างไรบ้าง - ลมบก ลมทะเล มีผลทำให้บริเวณชายฝั่งมีลมพัดเกือบตลอดเวลา มีผลต่อการเดินเรือของชาวประมง มีผลต่อปริมาณความชื้นในอากาศและอุณหภูมิของอากาศตรงบริเวณชายฝั่ง และมีผลต่อการกัดเซาะชายฝั่ง
3.จากกิจกรรมนี้ ค้นพบอะไรบ้างเกี่ยวกับลมบก ลมทะเล - ลมบก ลมทะเล มีหลักการเกิดเหมือนกัน ส่วนสิ่งที่แตกต่างกันคือช่วงเวลาที่เกิด และทิศทางการเคลื่อนที่ของอากาศ และมีผลทำให้บริเวณชายฝั่งมีลมพัดเกือบตลอดเวลา และมีผลต่อสิ่งมีชีวิตและสิ่งแวดล้อมตรงบริเวณชายฝั่ง
4.จากสิ่งที่ค้นพบทั้งสองตอน สรุปได้ว่าอย่างไร - ลมบก ลมทะเล มีหลักการเกิดเหมือนกัน แต่เกิดในช่วงเวลาที่แตกต่างกันและมีทิศทางการเคลื่อนที่ของอากาศแตกต่างกัน ลมบก ลมทะเล มีผลทำให้บริเวณชายฝั่งมีลมพัดเกือบตลอดเวลา มีผลต่อการเดินเรือของชาวประมง มีผลต่อปริมาณความชื้นในอากาศและอุณหภูมิของอากาศบริเวณชายฝั่ง
กิจกรรมที่ 1.2 การเกิดมรสุมเกี่ยวข้องกับฤดูของประเทศไทยอย่างไร
ตรวจสอบความรู้เดิม
มรสุมคืออะไร เกิดขึ้นได้อย่างไร - มรสุมเกิดขึ้นจากความแตกต่างระหว่างอุณหภูมิของอากาศเหนือพื้นทวีปและอุณหภูมิของอากาศเหนือพื้นมหาสมุทร จึงมีการเคลื่อนที่ของอากาศจากบริเวณที่มีอุณหภูมิต่ำไปยังบริเวณที่มีอุณหภูมิสูงเกิดเป็นมรสุม
มรสุมมีผลต่อการเกิดฤดูของประเทศไทยและมีผลต่อสิ่งมีชีวิตและสิ่งแวดล้อมอย่างไร - มรสุมมีผลต่อการเกิดฤดูของประเทศไทย โดยประเทศไทยได้รับผลจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ทำให้เกิดฤดูฝน และได้รับผลจากมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือทำให้เกิดฤดูหนาวและส่งผลต่อปริมาณฝนและอุณหภูมิของอากาศของประเทศไทย มีผลต่อการออกดอกและติดผลของพืชบางชนิด มีผลทำให้ในบางพื้นที่มีอากาศหนาวเย็นหรือมีฝนตกหนักอย่างต่อเนื่อง และมีผลทำให้เกิดการกัดเซาะชายฝั่ง
มรสุมเหมือนและแตกต่างจากลมบก ลมทะเล อย่างไร - มรสุม และลมบก ลมทะเล มีหลักการเกิดเหมือนกัน แต่มีสิ่งที่แตกต่างกัน คือขนาดของบริเวณที่เกิด และช่วงระยะเวลาการเกิด
คำถามหลังทำกิจกรรม
จากการสังเกตลูกโลก ประเทศไทยอยู่ในบริเวณเขตร้อนของโลกหรือไม่ เพราะเหตุใด - ประเทศไทยอยู่ในบริเวณเขตร้อนของโลก เพราะอยู่ระหว่างละติจูด 23.5 องศาเหนือ และละติจูด 23.5 องศาใต้ของลูกโลก และอยู่เหนือเส้นศูนย์สูตรเล็กน้อย
มรสุมเกิดขึ้นได้อย่างไร - มรสุมเกิดจากความแตกต่างระหว่างอุณหภูมิของอากาศเหนือพื้นทวีปและอุณหภูมิอากาศเหนือพื้นมหาสมุทร ซึ่งจะเกิดบริเวณเขตร้อนของโลก
มรสุมที่พัดผ่านประเทศไทยมีมรสุมอะไรบ้าง และเกิดขึ้นได้อย่างไร - มรสุมที่พัดผ่านประเทศไทย ได้แก่ มรสุมตะวันตกเฉียงใต้และมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ เกิดขึ้นเนื่องจากความแตกต่างระหว่างอุณหภูมิของอากาศเหนือพื้นทวีปและอุณหภูมิของอากาศเหนือพื้นมหาสมุทร
การพัดผ่านของมรสุมส่งผลต่อประเทศไทยอย่างไร - ทำให้เกิดฤดูฝน และฤดูหนาว ซึ่งมีผลต่อสิ่งมีชีวิตและสิ่งแวดล้อมในด้านต่างๆ
ประเทศไทยมีฤดูอะไรบ้าง - ประเทศไทยมีทั้งหมด 3 ฤดู ได้แก่ ฤดูหนาว ฤดูร้อน และฤดูฝน
ฤดูหนาวของประเทศไทยเกิดขึ้นได้อย่างไร - ฤดูหนาวของประเทศไทยเกิดขึ้นเพราะได้รับผลจากมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือในช่วงกลางเดือนตุลาคมจนถึงเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งเป็นช่วงที่โลกเอียงขั้วโลกเหนือออกจากดวงอาทิตย์ ทำให้อากาศทางซีกโลกเหนือมีอุณหภูมิต่ำกว่าอากาศทางซีกโลกใต้ อากาศทางซีกโลกใต้จึงเคลื่อนที่สูงขึ้นและอากาศทางซีกโลกเหนือจะเคลื่อนที่เข้ามาแทนที่ ซึ่งจะพัดพาอากาศที่มีอุณหภูมิต่ำและมีความชื้นน้อยไปยังประเทศที่พัดผ่าน ประเทศไทยได้รับผลจากมรสุมดังกล่าว ทำให้ช่วงเวลานี้ของประเทศไทยเป็นฤดูหนาว
ฤดูร้อนของประเทศไทยเกิดขึ้นได้อย่างไร - ฤดูร้อนของประเทศไทยเกิดอยู่ในช่วงประมาณกลางเดือนกุมภาพันธ์จนถึงกลางเดือนพฤษภาคม ซึ่งในช่วงเวลาดังกล่าวอุณหภูมิของอากาศทางซีกโลกเหนือและอุณหภูมิของอากาศทางซีกโลกใต้แตกต่างกันเล็กน้อย จึงเป็นช่วงเปลี่ยนมรสุมหรือได้ร้ับผลจากมรสุมลดลง ดังนั้นอุณหภูมิของอากาศของประเทศไทยในช่วงเวลาดังกล่าวจึงเป็นผลมาจากพลังงานความร้อนจากดวงอาทิตย์เป็นส่วนใหญ่
ฤดูฝนของประเทศไทยเกิดขึ้นได้อย่างไร - ฤดูฝนของประเทศไทยเกิดขึ้นเพราะได้รับผลจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ในช่วงกลางเดือนพฤษภาคมจนถึงกลางเดือนตุลาคม ซึ่งเป็นช่วงที่โลกเอียงขั้วโลกเหนือเข้าหาดวงอาทิตย์ ทำให้อากาศทางซีกโลกเหนือมีอุณหภูมิสูงกว่าอากาศทางซีกโลกใต้ อากาศทางซีกโลกเหนือเคลื่อนที่สูงขึ้นและอากาศทางซีกโลกใต้จะเคลื่อนเข้ามาแทนที่ ซี่งเมื่อพัดผ่านมหาสมุทรก็จะนำความชื้นไปยังประเทศที่พัดผ่าน ประเทศไทยได้รับผลจากมรสุมดังกล่าว ซึ่งจะพัดผ่าประเทศไทยไปยังพื้นทวีปทางซีกโลกเหนือ ทำให้ช่วงเดือนนี้ของประเทศไทยเป็นฤดูฝน
มรสุมมีผลอย่างไรต่อสิ่งมีชีวิตและสิ่งแวดล้อมบ้าง - มรสุมมีผลต่อปริมาณฝนและอุณหภูมิของอากาศของประเทศไทย มีผลต่อการออกดอกและติดผลของพืชบางชนิด มีผลทำให้ในบางพื้นที่มีอากาศหนาวเย็น หรือมีฝนตกหนักอย่างต่อเนื่อง และมีผลทำให้เกิดการกัดเซาะชายฝั่ง
การเกิดมรสุม ลมบก และลมทะเล มีสิ่งใดที่เหมือนและแตกต่างกัน
สิ่งที่เหมือนกัน คือ มีหลักการเกิดเหมือนกัน โดยเกิดจากความแตกต่างระหว่างอุณหภูมิของอากาศเหนือพื้นดินและพื้นน้ำ จึงเกิดการเคลื่อนที่ของอากาศจากบริเวณที่มีอุณหภูมิต่ำไปยังบริเวณที่มีอุณหภูมิสูง
สิ่งที่แตกต่างกัน คือขนาดของบริเวณที่เกิด และช่วงระยะเวลาการเกิด กล่าวคือลมบก ลมทะเลเกิดบริเวณชายฝั่ง ส่วนมรสุมเกิดขึ้นในบริเวณที่มีขนาดใหญ่กว่าโดยเกิดตรงบริเวณเขตร้อนของโลก (บริเวณระหว่างละติจูด 23.5 องศาเหนือและละติจูด 23.5 องศาใต้) เช่น บริเวณภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ลมบก ลมทะเล เกิดในช่วงเวลา 1 วัน คือช่วงเวลากลางวันและกลางคืน ส่วนมรสุมมีระยะเวลาในการเกิดต่อเนื่องยาวนานประมาณ 3-5 เดือน
สรุป
มรสุม และลมบก ลมทะเล มีหลักกการเกิดเหมือนกัน คือ เกิดจากความแตกต่างระหว่างอุณหภูมิของอากาศเหนือพื้นดินและอุณหภูมิของอากาศเหนือพื้นน้ำ แต่มีขนาดของบริเวณที่เกิด และช่วงระยะเวลาการเกิดแตกต่างกัน
มรสุมที่พัดผ่านประเทศไทย ได้แก่ มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ ทำให้เกิดฤดูหนาว และมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ทำให้เกิดฤดูฝน
ช่วงประมาณกลางเดือนกุมภาพันธ์จนถึงปลายเดือนพฤษภาคมของประเทศไทย เป็นช่วงเปลี่ยนมรสุมหรือได้รับผลจากมรสุมลดลง ทำให้ช่วงเวลานี้ของประเทศไทยเป็นฤดูร้อน
มรสุมมีผลต่อการเกิดฤดูของประเทศไทยซึ่งจะส่งผลต่อปริมาณฝนและอุณหภูมิของอากาศของประเทศไทย นอกจากนั้นยังมีผลต่อการออกดอกและติดผลของพืชบางชนิด มีผลทำให้ในบางพื้นที่มีอากาศหนาวเย็น หรือมีฝนตกหนักอย่างต่อเนื่องและมีผลทำให้เกิดการกัดเซาะชายฝั่ง
ฉันรู้อะไร
1.ถ้าไม่มีมรสุมจะมีผลต่อการเกิดฤดูกาลของประเทศไทยอย่างไร - ถ้าไม่มีมรสุม ประเทศไทยซี่งอยู่เขตร้อนของโลกจะได้รับพลังงานความร้อนจากดวงอาทิตย์มากตลอดทั้งปี ส่งผลให้ประเทศไทยร้อนตลอดปีจึงอาจมีเพียงฤดูร้อน
2.มรสุมมีผลต่อสิ่งมีชีวิตและสิ่งแวดล้อมอย่างไรบ้าง - มรสุมมีผลต่อการเกิดฤดูของประเทศไทย มีผลต่อปริมาณฝนและอุณหภูมิของอากาศของประเทศไทย มีผลต่อการออกดอกและติดผลของพืชบางชนิด มีผลทำให้ในบางพื้นที่มีอากาศหนาวเย็น หรือมีฝนตกหนักอย่างต่อเนื่องจนอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลากและมีผลต่อการกัดเซาะชายฝั่ง
3.มรสุมเหมือนและแตกต่างจากลมบก ลมทะเล อย่างไร
สิ่งที่เหมือนกัน คือหลักการเกิด โดยเกิดจากความแตกต่างระหว่างอุณหภูมิของอากาศเหนือพื้นดินและอุณหภูมิของอากาศเหนือพื้นน้ำ
สิ่งแตกต่างกัน คือขนาดของบริเวณที่เกิดและช่วงระยะเวลาการเกิด โดยลมบก ลมทะเลเกิดบริเวณชายฝั่ง ส่วนมรสุมเกิดขึ้นในบริเวณที่มีขนาดใหญ่กว่า ซึ่งจะเกิดบริเวณเขตร้อนของโลก ลมบก ลมทะเล เกิดในช่วงเวลา 1 วัน คือช่วงเวลากลางวันและกลางคืน ส่วนการเกิดมรสุมในแต่ละครั้ง เกิดในช่วงระยะเวลานานต่อเนื่องหลายเดือน
4.จากกิจกรรมนี้ ค้นพบอะไรบ้างเกี่ยวกับการเกิดมรสุมกับฤดูของประเทศไทย - มรสุมเกิดจากความแตกต่างระหว่างอุณหภูมิของอากาศเหนือพื้นทวีปและอุณหภูมิของอากาศเหนือพื้นมหาสมุทร มรสุมมีผลต่อการเกิดฤดูของประเทศไทย โดยมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดผ่านประเทศไทย มีผลทำให้ประเทศไทยเป็นฤดูหนาว และมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดผ่นประเทศไทย มีผลทำให้ประเทศไทยเป็นฤดูฝน และในช่วงเปลี่ยนมรสุม อุณหภูมิของอากาศของประเทศไทยจะเป็นผลมาจากพลังงานความร้อนจากดวงอาทิตย์เป็นส่วนใหญ่ ทำให้ช่วงเวลานี้ของประเทศไทยเป็นฤดูร้อน
5.จากสิ่งที่ค้นพบ สรุปได้ว่าอย่างไร มรสุม และลมบก ลมทะเล มีหลักกการเกิดเหมือนกัน แต่มีขนาดของบริเวณที่เกิด และช่วงระยะเวลาการเกิดแตกต่างกัน ทั้งมรสุม และลมบก ลมทะเล มีผลต่อสิ่งมีชีวิตและสิ่งแวดล้อม นอกจากนั้นมรสุมยังมีผลต่อการเกิดฤดูของประเทศไทย